ผอ.พาร์ท
สายโทรออก
ปลายสาย: ครับ ท่าน ผอ. มีอะไรหรือเปล่าครับ
ผอ: เสี่ยครับ คือผมมีเรื่องปรึกษาครับ ตอนนี้ผู้ปกครองเด็กหญิงอัญญารินทร์มมาขอคืนทุนการศึกษาครับ จะทำไงดีครับ
ปลายสาย: บอกปัดยังไงก็ได้ ถ้ายังยืนยันหนักข้อให้มาที่มูลนิธิ ให้มาพบคนของผม นอกนั้นเดี๋ยวผมจัดการเอง
ผอ: ครับ ครับ ครับ ได้ครับ
______________________
ตัดมาที่นายแพทย์ปกรณ์
เขาที่รู้สึกเป็นห่วงเด็กน้อยเจ้าของสุนัขโชคร้าย ทั้ง ๆ ที่มีคนของตนเองดูแลแทนให้อยู่แล้ว แต่ยังรู้สึกห่วงความรู้สึกของเด็กน้อยอยู่ดีจึงตัดสินใจโทรหาตัวช่วยทันที
สายโทรออก
ปลายสาย: คร๊าบ....มีอะไรจะเรียกใช้ผมเหรอคร๊าบ
ปกรณ์: แน่ะ รู้อิก
ป๊า: หรือไม่จริง
ปกรณ์: ก็มี คือหมาของน้องถูกรถชนขาหัก รอผ่าตัด รักษาที่คลินิก
ป๊า: แล้ว......
ปกรณ์: มันมีขีดจำกัดของคลินิกหมาก็ต้องผ่าและต้องการเลือดสำรอง แต่น้องต้องการให้หมารักษาที่นั่น เจ้าของคลินิกก็ใจดีประสานเลือดให้
ป๊า: แล้ว...…….. (ลากเสียงยาวกว่าเดิม)
ปกรณ์: ค่าใช้จ่ายท่าทางจะหลายอยู่ ทางคลินิกก็ไม่เรียกค่าใช้จ่าย คนของผมจะจ่ายให้ก็อิดออด รอเจ้าของหมาอย่างเดียว ถ้าเจ้าของไม่มีเงินจ่ายก็จะเก็บค่าใช้จ่ายส่งมูลนิธิ มูลนิธิอะไรก็ไม่รู้
ป๊า: น่าจะเจอคนใจดีแล้วหละ ชื่อคลินิกอะไรล่ะ
ปกรณ์: คลินิกรักษาสัตว์เป็นมิตร ครับ
ป๊า: อืม...เดี๋ยวป๊าจะถามพรรคพวกให้ว่าเป็นคลินิกของลูกเต้าเหล่าใคร
ปกรณ์: แต่ที่ผมเป็นห่วงคือความปลอดภัยของน้องน่ะป๊า น้องต้องไป ๆ มา ๆ ระหว่างบ้าน โรงเรียน คลินิกรักษาสัตว์น่ะ ซอยก็ลึกอยู่นา
ป๊า: แล้วจะให้ป๊าทำไงล่ะ ในเมื่อเด็กนั่นเป็นแค่ลูกชาวบ้าน ป๊าจะไปมีสิทธิ์อะไร
ปกรณ์: ป๊า ผมซีเรียสน๊า ก็ผมห่วงของผมนิ่
ป๊า: แค่ห่วงเหรอ ห่วงในฐานะอะไรล่ะ
ปกรณ์: ป๊า ไม่คุยกับป๊าแล่ว ผมวางนะ สัญญาณสายถูกตัดไป
..หึหึ ไอ้คนหลงเด็ก มีเรื่องอะไรให้เซอร์ไพรส์กว่านี้อีกไอ้กรเอ้ย เตรียมใจไว้เลย..
ด้านคุณนายปาริดาที่เดินถือของว่างกับน้ำชามาพอดี
"บ่นอะไรเหรอป๊า.. น้ำชากับขนมค่า"
"ขอบคุณครับม๊า ขนมน่ากินจัง ป๊ากินหมดนี่ได้มั๊ย" กรพัฒน์หยั่งเชิงภรรยา
"ได้ค่ะแต่มื้อเย็นนี้ป๊าห้ามกินข้าวขนมหรือน้ำหวานกินได้แต่อาหารโปรตีนและผักค่าจะเอาแบบไหนละค๊า" ปาริดาพูดอย่างตรงประเด็นและฉะฉานเพราะหมอบอกให้ควบคุมเรื่องแป้งและน้ำตาล
"ก็ต้องเอาแบบกินข้าวละครับ งั้นป๊าขอกินขนมนี่ 2 ชิ้นพอ แล้วก็จิบชาไปแล้วกันโน๊ะ"
"ดีมากค่า งั้นม๊าไปดูในครัวหน่อยนะค๊า ไปละ" คนบอกไปไม่ไปเปล่า แต่แย่งกินขนมไปหนึ่งชิ้นพร้อมกับแย่งจิบน้ำชาในแก้วไปหนึ่งอึก
"คร้าบ" กรพัฒน์ได้แต่มองทำตาปริบ ๆ
………………………………………………………
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
@บ้านสหศิลป์ปรีชา
กรพัฒน์และเปรมชัยที่รอลุ้นผลการตรวจ ดี. เอ็น. เอ. อย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะเปรมกิจ สักพัก ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมซองสีน้ำตาล
"ท่านครับ เอกสารสำคัญครับ" ชายรูปร่างสันทัดกล่าวพร้อมกับยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้ประมุขของบ้าน
"อืม..ขอบคุณมากนี่ส่วนของนาย"
"ขอบคุณครับ" หลังจากชายรูปร่างสันทัดออกไปแล้ว กรพัฒน์จึงค่อย ๆ เปิดซองเอกสารนั้นทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองเปรมชัยอย่างชั่งใจก่อนจะพูดออกมา
"เฮียครับ....ผม....ขอแสดงความดีใจด้วยนะครับ เฮียหาหลานเจอแล้วอย่าปล่อยให้หลุดมือไปได้ล่ะ" กรพัฒน์แกล้งถ่วงเวลาไม่ยอมพูดมันออกมาเพราะหมั่นไส้เพื่อนรุ่นพี่ที่ทำให้เรื่องมันยากตั้งแต่แรกก็เลยขอสักหน่อย
"โอ้ มังกร เฮียลุ้นแทบตาย งั้นเฮียขอเอกสารนี่หนึ่งชุดเพื่อไปให้เจ้ากิจดูหน่อยนะ" เปรมชัยกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"ได้เลยครับเฮีย แต่ปัญหาคือ เราจะทำให้แม่ของเด็กยอมรับได้ยังไง ผมไม่อยากให้เข้าสู่กระบวนการฟ้องศาลเพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นพ่อนะเฮีย" กรพัฒน์กล่าวอย่างมองเห็นปัญหาอย่างทะละปรุโปร่ง
"นั่นซิมังกร เฮียลืมข้อนี้เสียสนิทเลย เฮียผิดเองตั้งแต่แรก เฮียไม่น่าทำอย่างนั้นเลย ถ้าย้อนเวลาได้เฮียจะไม่ขัดขวางพวกเค้าทั้งสองคนเลย ป่านนี้เฮียคงมีหลานสาวนั่งประจ๋อประแจ๋คุยด้วยทั้งวันไปแล้ว" ชายสูงวัยกล่าวอย่างทอดอาลัย
"อย่าท้อซิเฮีย มาถึงขนาดนี้แล้ว ต้องเดินหน้าเอาทั้งหลาน ทั้งลูกสะใภ้กลับคืนมาให้ได้ซิ" กรพัฒน์กล่าว
"มังกร นายพูดอะไรออกมา ก็ผู้หญิงคนนั้นมีคนใหม่ไปแล้วไม่ใช่เหรอ?" เปรมชัยค้าน
"ประชดครับ เธอประชด เพราะเท่าที่คนของนายกรเฝ้าสังเกตไม่เห็นมีผู้ชายในบ้าน หรือแม้แต่แวะเวียนมาเยี่ยมมาเยียนก็ไม่มีเลย มีแค่ผู้หญิงสองคน แล้วก็มีหมาอีกหนึ่งตัวครับ" กรพัฒน์กล่าวตามที่คนของลูกชายรายงาน เพราะเขาแอบบังคับเจ้าลูกน้องของลูกชายให้มารายงานเขาด้วยนั่นเอง
"งั้นเฮียขอกลับบ้านไปบอกนายกิจก่อนน๊า ขอบใจมากมังกร"
"ครับเฮีย ทำใจดี ๆ เดินทางปลอดภัยครับ"
………………………………………………….
เปรมชัยหลังจากกลับออกมาจากบ้านกรพัฒน์เมื่อมาถึงบ้าน ก็รีบลงจากรถตรงดิ่งขึ้นไปยังชั้นสองที่ห้องของเปรมกิจทันที เขาหยุดอยู่หน้าประตูสักพักเพื่อตั้งสติและเปิดประตูเข้าไป
"กิจ กิจ พ่อมีข่าวดีมาบอก นี่คือผลการตรวจ ดี. เอ็น. เอ. ของลูกกับเด็กอัญญารินทร์ เห็นมั๊ยความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรม 99.99% เชียวนะ เค้าคือหลานของพ่อ ลูกสาวของเรากับผู้หญิงคนนั้น สะใภ้ของพ่อ คนที่กิจรักอย่างสุดหัวใจใช่มั๊ย" ชายสูงวัยพูดไปด้วยน้ำเสียงแหบพร่าดวงตาที่พร่ามัวมองไม่ชัดเพราะมีน้ำมาหล่อเลี้ยงเต็มไปหมด
อีกด้านคนที่นอนฟังอยู่อย่างใจจดใจจ่อรู้สึกอึดอัด ตื่นเต้นจนมือไม้เกร็งไปทั้งตัว
"อืม อา..อา..ลู..ลูก.." เปรมกิจพยายามพูดมันออกมา
"กิจว่าไงนะลูก ฮึ่ก..กิจลองพูดมันอีกสักครั้งซิ๊" เปรมชัยกระตุ้นลูกชายอีกครั้ง
"อา...รัน..ยา" (อรัญญา) คงเป็นชื่อของลูกสะใภ้พ่อ แม่ของหลานพ่อใช่มั๊ยลุก
"…..…" เปรมกิจเงียบแต่พยักหน้าแทนเป็นการให้ความร่วมมือแทนคำตอบแบบสุด ๆ