สามเดือนผ่านไป เปรมกิจพยายามฝึกเดินและพยายามฟื้นฟูร่างกายฝึกพูดจนคล่องเกือบจะเป็นปกติ ส่วนเปรมชัยเองก็ดูจะยิ้มแย้มมากขึ้นเพราะเห็นลูกชายฮึดสู้อีกครั้ง
สำหรับวันนี้นอกเหนือจากพยาบาลพิเศษจะเป็นวันที่แพทย์ และนักกายภาพ มารวมตัวกันเพื่อรายงานผลการกายภาพบำบัดของคนป่วย
"จากสถิติการกายภาพบำบัด เปรียบเทียบจากครั้งก่อนการเดิน ในระยะ 2 เมตรต้องหยุดพัก การยืนทรงตัวได้ 5-10 นาที ปัจจุบันการเดิน ในระยะ 5 เมตรโดยไม่ต้องหยุดพัก การยืนทรงตัวได้ 10-15 นาทีครับ" นักกายภาพบำบัดรายงานต่อแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
"ส่วนการพูด พูดได้ชัดและเร็วขึ้น ไม่ตะกุกตะกักค่ะ คุณหมอ การทำกิจวัตรส่วนตัว กินข้าวเองได้ หกบ้้างแต่สวนใหญ่กินเองได้ กินอาหารปกติแล้วย่อยได้ ไม่มีท้องผูก หวีผมเองได้ แต่งตัวเองได้ค่ะแต่ยังมีช้าอยู่บ้าง" พยาบาลพิเศษรายงานบ้าง (พยาบาลพิเศษมีทั้งหญิงชายสลับกันมา)
"อืมในระยะยเวลาหนึ่งปีที่ฮึดสู้นี่ผมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมนะครับ มีกำลังใจดีหรือเปล่า สู้ต่อไปนะครับ แต่อย่างหักโหม ระวังอย่าให้ล้ม และยังคงต้องกินยาต่อเนื่องนะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว หมอขอตัวกลับก่อนนะครับ"
"ขอบคุณครับคุณหมอ"
___________________________
ตัดมาที่อัญญารินทร์ที่ตอนนี้กำลังเตรียมตัวสอบปลายภาคและเป็นการสอบเพื่อจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย และสอบโควต้าเพื่อการเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา ครั้งนี้จึงมีเป็นเตรียมตัวอ่านหนังสือที่หนักหนาอยู่พอประมาณ อรัญญาและมาริกาจึงให้เธออ่านหนังสืออยู่ที่บ้านไม่ต้องไปช่วยที่ร้าน เช่นวันนี้มารดาของเธอออกไปทำงานแล้ว มีเพียงเธอและเจ้าบุญเก็บเพียงเท่านั้น แต่
โฮ่ง..แฮร่...โฮ่ง..ๆ..เสียงเจ้าบุญเก็บเห่ากรรโชกอยู่ที่หน้าบ้านอย่างไม่ไว้ใจเพราะมีกลิ่นแปลกที่ไม่คุ้นชินเข้ามาในเขตบริเวณบ้าน
...เอ๊ะ..ใครมานะ...-อัญญารินทร์จึงออกไปดู ...บุญเก็บเห่าอะไร..มานี่มะ...
"เอ่อ..คุณลุงมาหาใครคะ"
"เอ่อ..ลุงมาหาแม่หนูน่ะ อยู่มั๊ย..." ชายแปลกหน้าพูดช้ากว่าคนปกติเล็กน้อย
"อ๋อ คุณแม่ไปทำงานค่ะ วันนี้เย็น ๆ น่าจะกลับค่ะ"
"เหรอ หนูอยู่บ้านคนเดียวเหรอลุก พ่อหนูล่ะทำงานเหมือนกันเหรอ"
"เปล่าค่ะ พ่อหนูเสียไปตั้งแต่หนูยังไม่เกิดแล้วค่ะ"
"เจ้าหมานี่ตัวอ้วนเชียว ชื่ออะไรเหรอครับ"
"อ๋อ ชื่อบุญเก็บค่ะ เป็นหมาจร ถูกกัดเป็นแผลนอนป่วยอยู่เลยเอาไปรักษาก็เลยอยู่ด้วยกันจนทุกวันนี้ค่ะ อยู่กันมาหกปีกว่าแล้วค่ะ หึหึ"
"ไหน ลุงขอเป็นเพื่อนเล่นกับบุญเก็บหน่อยได้มั๊ยครับ ลุงมาดี ลุงป่วยก็เลยว่าง ทำงานไม่ได้ เค้าไม่ให้ทำ หึหึ" ชายแปลกหน้าพูดยิ้ม พร้อมกับยื่นมือให้สุนัขตัวกลมดม ส่วนเจ้าตูบก็ดมแล้วทำจมูก..ฟุดฟิด ๆ..แล้วหันมามองที่อัญญารินทร์ที ชายแปลกหน้าผู้มาเยือนที สลับกันไป ..แฮ่ะ แฮ่ะ ๆ..หงิ๋ง ๆ.....สุนัขตัวอ้วนกลมครางอย่างนึกสงสัย
"บุญเก็บเป็นอะไรเหรอ สงสัยอะไรเหรอ ให้คุณลุงคนนี้เล่นด้วยมั๊ย ฮ่า ๆ" .....ฮู่ ฮ่า แฮ่ะ ๆ..... เจ้าสุนัขตัวกลมหันไปทำเสียงเหมือนคุยด้วยกับเจ้านายตัวบาง แล้วเดินนำหน้าคนทั้งสองเข้าบ้านไป
อีกด้านของคนไกล--ที่นั่งมองโทรศัพท์มือถือแล้ว พึมพำคนเดียว...ขอให้สำเร็จนะครับเฮียกิจ ขอให้ได้ครอบครัวคืนมานะครับ อย่างน้อยลูกสาวเฮียกับเจ้าหมานั่นเป็นแนวร่วมให้ได้มั้งครับ อีกไม่นานผมจะกลับไปขอความช่วยเหลือเฮียนะครับ รีบหายเร็ว ๆ ล่ะ .. เขานั่งคิดอะไรไปเพลิน ๆ เงียบ ๆ คนเดียว สักพักก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์หรูปรากฎว่าเป็นลูกน้องตัวดีของเขานั่นเอง จึงกดรีบสาย
ปลายสาย: เจ้านายครับ สายรายงานมาว่า เจ้าของคลินิกรักษาสัตว์ที่น้องหนู เอ๊ย คุณอัญญารินทร์เอาหมาไปรักษาเมื่อหลายปีก่อนตั้งแต่คุณหนูยังเรียนอยู่ประถมคือคุณต้นข้าว เป็นน้องเขยของคุณแดนไตรครับที่เพิ่งแต่งงานไปได้ไม่นานนี้เองครับ
ปกรณ์: ออ..เหรอ..จุดใต้ตำตอ..คนกันเองแท้ ๆ ขอบใจมาก ฝากบอกเจ้าสองคนนั้นคอยดูแลน้องหนูของพวกนายให้ดีล่ะ อีกหน่อยน้องหนูจะกลายเป็นนายหญิงของพวกนายนะ ห้ามมีแม้แต่รอยเล็บแมวข่วนล่ะ
ปลายสาย: คร้าบ ทราบคร้าบ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับนาย
ปกรณ์: อืม สัญญาณถูกตัดไป
หลังจากวางสายจากลูกน้องแล้ว ปกรณ์คิดว่าต้องโทรไปหาเพื่อนรักเสียหน่อยแล้วจึงหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกหาเพื่อนรัก สักพักจึงมีเสียงตอบรับออกมา
ดาม: ไงไอ้หมอกี โทรมาเพื่อ
กร: คิดถึง
ดาม: ถุย อย่ามาลวงโลก ว่าธุระของแกมา
กร: หึหึ..ได้ข่าวว่าน้องสาวคนละแม่ของแกแต่งงานแล้ว น้องเขยแกชื่อไรนะ
ดาม: ต้นข้าว ไม่ใช่แค่น้องเขยแต่เป็นน้องรัก เป็นลูกของน้าสาวแท้ ๆ ของฉั๊นด้วย
กร: ฮ๊า...ยังไงว๊ะ
ดาม: เรื่องมันยาว กลับไทยเดี๋ยวเล่า มีเรื่องเยอะแยะเลย เออ แล้วต้นข้าวทำไม สงสัยอะไรน้องชายฉั๊น น้องชายฉั๊นเป็นคนดีไม่มีนอกลู่นอกทางนะเว่ยจะบอกให้
กร: ไม่ใช่อยางงั้น คือน้องเขยแกเคยทำคลินิกรักษาสัตว์ที่กรุงเทพฯ ใช่มั๊ยว๊ะ
ดาม: ใช่ คลินิกรักษาสัตว์เป็นมิตร แต่ตอนนี้พ่อเลี้ยงดูแลแทน ส่วนน้องเขยมาเป็นสัตวแพทย์ดูแลสัตว์ที่ฟาร์มดวงเดือน แล้วก็ต้องขยับมาดูแลธุรกิจครอบครัว เลยยุให้เรียนบริหาร น้องจบตรีเศรษฐศาสตร์กำลังต่อโทจะยุให้ต่อดอกเตอร์อยู่
กร: โอ้ ไม่ธรรมดา คงเหนื่อยน่าดูเลย
ดาม: น้องผมอึดครับคุณหมอกี ดีที่หนึ่งเลย อยู่ในโอวาทยัยหมวยโย่งจนน่าหมั่นไส้ อะไรก็แล้วแต่น้องนุช น้องนุชว่าดีผมก็ว่าตาม
กร: ออ..เหรอ งั้นแค่นี้แหละ สบายใจล๊ะ
ดาม: ไรของมึงว๊ะ
กร: เออ เดี๋ยวกลับไทยค่อยคุยกัน บาย....พร้อมกับกดวางสาย