6

1402 คำ
นาราเดินมาที่รถคันเล็กซึ่งจอดอยู่ที่หน้าร้าน ด้านขวาของเธอมีซูเปอร์สปอร์ตคาร์แบบเปิดประทุนสีน้ำเงินเงาวับ หญิงสาวได้แต่มองตาปริบๆ พอรถของเธอมาจอดเทียบกับรถคันนี้ ทำเอารถคันน้อยของตัวเองเหมือนรถของเล่นเด็กไปเลย สนนราคาลัมโบร์กินี ฮูราแคน อีโว เรียวีลไดรฟ์ สไปเดอร์ ที่เขาขับอยู่ ประมาณยี่สิบล้านต้นๆ เท่านั้นเอง ส่วนเจ้าของที่ขับมันผ่านหน้าเธอไปก็คือคนที่ให้เฟซและไลน์เธอไปหมาดๆ กระจกรถยนต์ไฟฟ้าถูกลดลง แล้วคนหล่อ เท่ สมกับรถก็ส่งยิ้มให้เธอ “แล้วเจอกัน” “ค่ะ” นารายิ้มให้เขาแบบงงๆ พอรถเขาผ่านไปแล้ว สายตาที่มองท้ายรถหรูไปก็กลั้นขำแทบไม่อยู่ เมื่อด้านหลังของรถราคายี่สิบกว่าล้านบาท มีร่องรอยข่วนของแมวเต็มไปหมด เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าตัวแสบของเขายังฝากรอยเท้าที่เหมือนมันจะไปเหยียบกระป๋องสีก่อนที่จะมาปีนรถของเขา แล้วแมวที่ทำแบบนั้นกับรถเขาได้จะเป็นของใครล่ะ ก็คงจะเป็นแมวของเขาเอง “เลี้ยงแมวยังไง” ถ้าเธอเจอเขาอีกครั้งก็อยากจะถามดู แต่ว่า... “จะไปเจอกันตอนไหนอีก โลกมันคงไม่กลมขนาดนั้น” คิดอย่างนั้นแล้วก็ขึ้นรถตัวเอง ขับออกจากหน้าร้านสะดวกซื้อ หมุนพวงมาลัยไปยังทิศทางสู่หมู่บ้าน ในขณะที่รถซูเปอร์สปอร์ตคาร์คันหรูขับไปคนละทาง นาราขับรถเข้าหมู่บ้านแล้วมองไปที่สวนสาธารณะ เห็นร่างสวยคุ้นตาของญาติผู้พี่ที่มีบ้านอยู่ห่างจากเธอไปไม่มากนัก แล้วนึกแปลกใจที่เห็นมิสเตอร์ออสติน นักธุรกิจที่คนเขาลือกันหนาหูว่าเป็นพวกมาเฟีย กำลังยืนคุยกับ ‘หมอบัว’ “ฮันแน่! คู่นี้ชักจะยังไง เขาจีบกันแหละดูออก” นาราขับรถไปใกล้คนทั้งคู่ จอดรถข้างฟุตปาธแล้วลงไปทักทายคนทั้งคู่ “พี่หมอบัว” คุณหมอสาวหันมาฉีกยิ้มด้วยความดีใจเมื่อเห็นญาติผู้น้องที่เมื่อครู่พยายามโทร.ติดต่อ เพราะคุณป้าทองอยู่รีบร้อนออกไปจากบ้าน แล้วฝากกุญแจบ้านให้ลูกสาวไว้กับเธอ “นารา มาพอดีเลย” นาราส่งยิ้มให้บัวบุษยาก่อนที่จะหันไปส่งยิ้มกว้างให้ใครอีกคน “มิสเตอร์ออสตินมาทำอะไรที่นี่คะ แล้วนี่พี่หมอรู้จักกับมิสเตอร์ออสตินด้วยเหรอ” “เอ่อ” บัวบุษยาอ้ำอึ้งไป จะปฏิเสธก็ไม่ได้ เพราะเมื่อครู่ยืนคุยกับเขา และอีกอย่าง เขาก็เป็นคนไข้ของเธอด้วย ท่าทางอึกอักเลยทำให้จาคอบเอ่ยแทน “ผมเป็นคนไข้ของคุณหมอน่ะครับ” นาราจึงพยักหน้า จากนั้นก็เอ่ยต่ออย่างรวดเร็ว “มิสเตอร์ออสตินคะ นาราขอไปดูตู้ไปรษณีย์หน่อยนะคะ เพื่อนสมัยเรียนมัธยมของนารา เขาส่งพัสดุมาที่บ้านหลังเดิมเลยต้องขับรถมาดูเอง” “ได้สิครับ เชิญเลย” “ตกลง เขาคือคนเช่าบ้านของคุณป้าทองอยู่เหรอนารา” บัวบุษยารีบเข้ามากระซิบถามญาติผู้น้อง “ใช่ค่ะ มิสเตอร์ออสตินคือคนเช่าบ้านของนาราที่นาราบอกพี่หมอไปไงคะ มีอะไรก็ช่วยแนะนำเขาด้วยนะคะ เพื่อนบ้านกัน” บัวบุษยามองไปทางคนตัวโตที่ถูกฝากให้เธอดูแล ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาขณะที่จาคอบเลิกคิ้วกวนๆ “พี่ว่าเขาคงดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ลูกน้องเขาก็ออกจะเยอะแยะ กลัวแต่ว่าจะไปทำความวุ่นวายให้คนอื่นมากกว่า” “อะไรนะคะพี่หมอ” “ไม่มีอะไรจ้ะ ว่าแต่นัดกินข้าวพรุ่งนี้ นาราอยากกินอะไรดี พี่จะได้เตรียมของสดไว้รอ” บัวบุษยาเสนอจะเลี้ยงอาหารอีกฝ่ายเพื่อเป็นการปลอบใจที่เมื่อวันก่อนนาราบอกว่าบริษัททัวร์ของเธอปิดตัวไปแล้ว ทุกวันนี้อยู่ในช่วงตกงาน ต้องกู้เงินคุณนายทองอยู่ เจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ ซึ่งเป็นมารดาแท้ๆ ใช้อยู่ “นาราว่าเราทำปิ้งย่างดีไหม เอาพวกซีฟู้ด เดี๋ยวนาราเตรียมกุ้ง หอย ปู ปลามาเอง” “ได้ งั้นพี่ทำสลัดผัก น้ำจิ้ม และขนมไว้รอนะ” “ดีเลยค่ะ พี่หมอทำน้ำจิ้มแซ่บเว่อร์ ขัดกับหน้ามาก” นาราตอบพลางสูดปาก นึกอยากกินขึ้นมาเลยทีเดียว แล้วรีบหันไปหาใครอีกคน “มิสเตอร์ออสตินคะ มาทานอาหารด้วยกันไหมคะ บ้านของพี่หมอบัวอยู่ติดกับบ้านที่คุณเช่าจากนารานั่นละค่ะ ไปนะคะ นะคะ” มิสเตอร์ออสตินได้โอกาสที่นาราหยิบยื่นมาให้จึงตอบอย่างไม่คิด “ได้สิครับ ผมจะเตรียมแชมเปญมาเอง” เพราะสนใจหมอบัวญาติผู้พี่ของนาราเป็นทุนอยู่แล้วนี่ โดยที่คนทั้งคู่ไม่เห็นว่ามีรถหรูคันหนึ่งขับผ่านไป แต่ภายในรถยนต์ คนขับรถมองมายังจุดที่นารากับจาคอบยืนคุยกันด้วยสายตาไม่พอใจ แต่บัวบุษยาทันเห็นเข้าพอดี “รถหรูมากเลยนารา รถใครกัน ไม่เคยเห็นในหมู่บ้านเรามาก่อน” นาราได้ยินเสียงญาติผู้พี่ แต่พอหันไปมอง รถคันหรูที่ว่าก็เลี้ยวผ่านทางคดโค้งจนหายไปแล้ว “คงเป็นรถของคนนอกหมู่บ้านมาหาใครในนี้มั้งคะ” จากนั้น บัวบุษยาก็รีบหยิบกุญแจบ้านที่ป้าทองอยู่เอามาฝากไว้ให้ “นาราจ๊ะ ป้าทองอยู่ฝากกุญแจเอาไว้ บอกว่าต้องรีบออกไปข้างนอก เห็นนาราไม่ได้พกกุญแจบ้านไป กลัวจะเข้าบ้านไม่ได้” มือเรียวรับพวงกุญแจกว่าสิบดอกมาถือไว้ “ขอบคุณค่ะพี่หมอ เดี๋ยวนาราไปก่อนนะคะ รีบเอาอาหารไปให้ลูกสาวคนโปรดของแม่ก่อน” ไม่วายหันกลับไปยิ้มให้มิสเตอร์ออสตินที่แอบเชียร์เขาให้เดินหน้าจีบพี่หมอบัว อุตส่าห์ทำตัวเป็นกามเทพ ชวนเขาไปร่วมงานปิ้งย่างคืนนี้ หวังว่าผลของการพยายามทำให้คนรักกัน ‘คงทำให้เธอเจอผู้ชายแท้ ไม่ใช่แค่เก้งกวาง อำพรางมาจีบ’ นารากำลังจะเลี้ยวรถยนต์เข้าบ้าน แต่สายตาที่เผลอมองลอดรั้วเข้าไปในบ้านหลังใหญ่อลังการสไตล์ Spainsh Colonail ทั้งรูปทรงหลังคาและทรงอาคาร ที่ดูโดดเด่นแต่สวยหรูหรา ต้องมีเงินมากกว่าสามสิบล้านบาทถึงจะเป็นเจ้าของบ้านหลังงามที่ใหญ่โตกว่าบ้านของเธอหลายเท่าเช่นนี้ “มีคนมาอยู่แล้วจริงๆ ด้วย” เธอเห็นพ่อบ้านวัยหกสิบเศษกำลังตัดกิ่งไม้ แต่ที่นาราให้ความสนใจจนต้องจอดรถลงไปดูก็เพราะแมวสีขาวขนฟูสะอาดสะอ้าน ตัวที่วิ่งเล่นกับแมวสีเทาพันธุ์เปอร์เซีย ดูแล้วน่าจะเป็นเพศผู้ นาราขมวดคิ้ว “หน็อย ลูกสาวคนโปรดของแม่ พอแม่ไม่อยู่ก็หนีมาหาผู้ถึงบ้าน เดี๋ยวคุณนายทองอยู่จะได้เป็นคุณยายโดยไม่รู้ตัว” นาราเดินเข้าไปเกาะที่ประตูรั้ว จะเรียกพ่อบ้านที่ตัดกิ่งไม้ แต่แกก็เดินกลับไปในบ้านแล้ว จึงส่งเสียงเรียกแมวตัวเองกลับบ้าน “ถ้วยฟู ถ้วยฟู กลับบ้านเร็วเข้า” แมวเหมียวสีขาวที่วิ่งเล่นกับแมวตัวผู้สีเทาได้ยินเสียงคุ้นๆ ก็วิ่งมามองหน้ารั้วเพื่อทักทายนางทาส “เหมียว เหมียว” นาราเกรงว่าแมวของเธอจะมารบกวนเพื่อนบ้าน เพราะเรื่องสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องเซนซิทีฟทำให้คนทะเลาะกันมามากแล้ว แม้น้องถ้วยฟูจะขับถ่ายเป็นที่ก็ตาม แต่ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนบ้านจะไม่พอใจหรือเปล่าที่จู่ๆ แมวบ้านเธอก็เข้าไปวิ่งเล่นในบ้านของเขา พวกคนรวยๆ ยิ่งเดานิสัยยาก หญิงสาวจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปในบ้านเขาเพื่อเรียกแมวตัวเองกลับบ้าน “กลับบ้านเราเถอะถ้วยฟู ฉันซื้ออาหารมาให้แล้ว รสแซลมอนของโปรดด้วยนะ” นาราพยายามเอาอาหารมาล่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม