บทที่ 8:ตามหาความหมายที่แท้
คาเลนยังยืนนิ่งอยู่ภายในถ้ำเล็กๆของตนเหมือนถูกสาป จิตใจระอุอ้าวไปด้วยเพลิงความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดบาปอย่างมหันต์
ถ้อยคำลึกซึ้งของมีนาเกี่ยวกับนิยามความรักและการให้อภัยยังดังกึกก้องอยู่ในใจของเขา ความรู้สึกดีๆที่เขามีต่อเธอไม่เคยลดน้อยลง แต่เขากลับรู้สึกว่าตนเองไม่มีค่าอีกต่อไป เมื่อเธอตัดสินใจเด็ดขาดได้เลือกอาร์น
“แต่ข้าไม่สามารถทนอยู่ในเงาของคนอื่นได้” คาเลนพูดกับตัวเองด้วยสำเหนียกหนักแน่น
เขาหยิบหอกประจำตัวขึ้นมาจากมุมหนึ่งของถ้ำและสัมผัสถึงความเย็นของเหล็กที่ทอดยาวในมือ
“ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเราไม่ใช่คนไร้ค่า”
เขารู้สึกพึงพอใจน้ำหนักของหอกที่คลึงเคล้าอยู่ในมือไปมา พร้อมกับก้าวพรวดออกจากโถงถ้ำอย่างรวดเร็ว ความคิดแรงกล้าที่จะออกล่าสัตว์ได้ผุดขึ้นในใจของเขา แม้ว่าในความลึกของจิตใจจะมีความเศร้าระทมอยู่ แต่เขาจะไม่ยอมให้มันทำลายตัวตนของเขาลงได้ง่ายๆ
ในป่าที่รกครึ้ม คาเลนเคลื่อนที่ไปอย่างระมัดระวัง เขาสังเกตเห็นร่องรอยของสัตว์ป่าที่เดินผ่านมา จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกคนในเผ่าเห็นว่าเขายังมีความสามารถไม่แตกต่างไปจากคนอื่นๆ เขาไม่ใช่เพียงแค่คนที่ต้องพึ่งพาผู้อื่นร่ำไป
“หากข้าสามารถล้มสัตว์ใหญ่ได้ สักตัวข้าจะได้มีชื่อเสียงขึ้นอีกครั้ง” คาเลนคิดพลางเร่งรุดไปข้างหน้า ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ส่วนลึกภายในใจเขายังมีภาพของมีนาตรึงตรา ซึ่งเป็นแรงดึงดูดที่ยากจะลืมเลือน
ในที่สุด คาเลนเริ่มสังเกตเห็นฝูงสัตว์อยู่ไม่ไกล เขาตั้งใจดึงหอกขึ้นมาอย่างมั่นใจ แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกของเขาก็เริ่มแปรเปลี่ยน เขานึกถึงวันเวลาเมื่อมีนานั่งอยู่ข้าง ๆ และยิ้มน้อยๆที่มุมปากให้เขา ความรักที่เขาเคยมีต่อเธอทำให้เขารู้สึกอ่อนแอขึ้นมาฉับพลัน
“ทำไมเจ้าถึงต้องไปจากข้า?” คาเลนตั้งคำถามกับตัวเอง ขณะที่เขาเตรียมตัวที่จะล่าสัตว์ “ทำไมข้าถึงไม่มีความสามารถทำให้เจ้าเห็นว่าข้าคือคนที่มีคุณค่าเพียงใด คู่ควรกับเจ้ามากล้นเพียงใด?”
เมื่อเขาพยายามมุ่งเน้นไปที่การล่าสัตว์ เสียงกิ่งไม้ที่เสียดสีกันและลมที่พัดผ่านทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ แต่เขาก็ยังคงเพ่งมองไปที่สัตว์โชคร้ายตัวนั้น หัวใจของเขาเต้นแรงขณะยกหอกขึ้นด้วยมัดกล้ามเนื้อหัวไหล่ปูดโปนหมายปลิดชีพมันให้ดิ้นดับ
“นี่คือโอกาสวิเศษสุดของข้า” คาเลนกล่าวในใจ ขณะที่เขาเตรียมจะขว้างหอกออกไป แต่ในจังหวะนั้นเอง ภาพรอยยิ้มของมีนาลอยวูบเข้ามาในห้วงความคิดของเขาอีกครั้ง
“มีนาถ้าข้าล้มสัตว์ตัวนี้ได้จะนำไปสู่ความภูมิใจในตัวข้าได้มั๊ย” ความคิดนี้กลายเป็นเสียงกระซิบในใจของเขา แต่เมื่อมองไปยังสัตว์ที่อยู่ตรงหน้า เขากลับรู้สึกถึงความลังเลใจกลายขึ้นเป็นความวิตก
“ข้าจะฆ่าสัตว์นี้เพื่อให้ใคร ๆ เห็นว่าข้าสามารถทำได้อย่างนั้นหรือ” คาเลนพูดกับตัวเอง แต่ในใจลึกๆ เขากลับไม่อยากทำให้มีชีวิตใดต้องดับสูญ เขารู้ว่าความรักที่มีนามีให้เขาไม่ควรจะถูกแทนที่ด้วยการกระทำที่โหดร้ายแม้เท่าเม็ดทราย
สุดท้าย คาเลนลดหอกลง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกสลับซับซ้อน เขาได้เข้าใจบัดเดี๋ยวนั้นว่าการพยายามพิสูจน์ตนเองโดยการฆ่าสิ่งที่มีชีวิตที่มันไม่รู้อิโหน่อิเหน่นั้นไม่ใช่ทางออกที่เขาต้องการ
“ข้าจะต้องหาวิธีอื่นในการพิสูจน์ความมีค่าของตน” คาเลนตัดสินใจ ก่อนจะหันหลังกลับไปยังเส้นทางเดิม
เขาไม่สามารถมองหาความหมายในตัวเองได้จากการทำร้ายชีวิตอื่น แต่เขายังต้องค้นหาความหมายที่แท้จริงของความรักที่มีนาเคยมีให้
ขณะที่เขาเดินวนกลับไปมาในป่าทึบ เขารู้ว่าความเจ็บปวดจะยังคงอยู่ดำรงอยู่ แต่เขาก็ไม่ต้องการให้มันเป็นอุปสรรคในการค้นหาตัวตนของเขาใหม่ เขาจะต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับความรักของมีนา แม้ว่าจะไม่สามารถเป็นไปตามที่เขาหวังไว้ก็ตาม
“ข้าจะต้องเสาะหาวิธีอื่นในการทำให้เจ้าภูมิใจ” คาเลนพูดกับตัวเองก่อนที่จะกลับมาถึงถ้ำ โดยที่ในใจมีพลังความหวังขึ้นเต็มเปี่ยม
สักวันหนึ่งเขาจะสามารถทำให้มีนาเห็นคุณค่าของตนให้จงได้
“คอยดูเถอะ….ความรักของข้าจะเป็นสีดำหรือไม่….”
*****