มาคอส อัลซาโค้ร์ เพิ่งกลับมาจากทำธุระสำคัญให้กับธุรกิจในครอบครัว และกำลังเดินไปยังลานจอดรถ ก็เผอิญได้ยินเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งยังคฤหาสน์อัลซาโค้ร์
แน่นอนว่าคฤหาสน์ราคาร้อยล้านหลังนี้เป็นบ้านของเขาและพี่ชาย นั่นก็คือดอนริคคาร์โด้ ทว่าไม่มีแท็กซี่คันไหนกล้ารับผู้โดยสารสาวไปส่งที่คฤหาสน์ของเขา จึงหยุดยืนเฝ้าดูหญิงสาวคนนี้ด้วยความสนใจ และเมื่อได้ยินหญิงสาวเรียกคฤหาสน์ร้อยล้านว่า ‘คฤหาสน์ผีสิง’ ก็อดหัวเราะร่วนออกมาไม่ได้
เสียงหัวเราะที่ดังอยู่ข้างหลัง เรียกให้นาราภัทรหันขวับไปมองในทันที เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายกำลังหัวเราะเยาะหยันเธออย่างแน่นอน จึงตวาดแว้ดใส่อย่างไม่นึกเกรงกลัว
“หัวเราะอะไรไม่ทราบ”
มาคอสยักไหล่ ทำหน้ายียวนใส่หญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะตอบกวนๆ ด้วยน้ำ
เสียงยียวนกลับไปว่า
“ก็หัวเราะคุณที่ไม่มีใครยอมไปส่งยังคฤหาสน์อัลซาโค้ร์”
“มันน่าหัวเราะตรงไหน กับอีแค่ไม่มีใครยอมไปส่งที่คฤหาสน์ผีสิงนั่น”
มาคอสแทบสำลักกับคำพูดในตอนท้ายของหญิงสาว ที่บังอาจเรียกคฤหาสน์ของตระกูลอย่างเสียหาย แต่ถึงแม้หญิงสาวนัยน์ตากลมโตจะเรียกคฤหาสน์ของตระ
กูลอัลซาโค้ร์ว่าอย่างไร เขาก็ไม่นึกโกรธ เพราะกำลังให้ความสนใจและอยากรู้ว่าหญิงสาวคนนี้จะไปที่คฤหาสน์ของพวกเขาทำไม
“จริงๆ ก็ไม่น่าหัวเราะสักเท่าไรหรอก ที่ไม่มีแท็กซี่คันไหนยอมไปส่งคุณ จะว่าไปผมสงสารคุณซะมากกว่า เพราะเท่าที่ผมยืนดูอยู่ รู้สึกว่าคุณจะเรียกแท็กซี่สิบคันได้แล้วมั้ง”
นาราภัทรชักโมโหอีกระลอกเมื่อถูกผู้ชายที่ไม่รู้จักมักจี่มาต่อว่าเอา “ไม่ต้องมายุ่ง ไม่ต้องมาสงสารฉัน ถอยไป ฉันจะไปเรียกรถคันอื่น มันต้องมีสักคันที่ยอมไปส่งฉันที่
คฤหาสน์ผีสิง”
“เอาหัวเป็นประกันไหมล่ะ ต่อให้คุณเรียกวันนี้ทั้งวัน ก็ไม่มีแท็กซี่คันไหนยอมไปส่งคุณ”
แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งว่าไม่มีแท็กซี่คันไหนกล้าไปเหยียบถึงถิ่นของมาเฟียดังแห่งเกาะซิซิลี อย่าว่าแต่เข้าไปเหยียบเลย แค่เข้าไปใกล้ขอบรั้วกำแพงของคฤหาสน์อัลซาโค้ร์ ยังไม่สามารถทำได้เลย
เจอผู้ชายตรงหน้าซึ่งนอกจากจะหล่อเหลาแล้ว ยังแลดูน่าเกรงขาม ท้าทายด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำเอานาราภัทรเริ่มลังเลเหมือนกัน เพราะเห็นอยู่แล้วว่าไม่มีแท็กซี่คันไหนยอมไปส่งเธอเลย
“ดูเหมือนคุณจะรู้เรื่องเกี่ยวกับคฤหาสน์อัลซาโค้ร์เป็นอย่างดี”
“ผมรู้ทุกซอก ทุกมุม ทุกตารางนิ้วของคฤหาสน์หลังนี้” มาคอสตอบรับเสียงหนักแน่น
นาราภัทรหรี่ตามองผู้ชายตรงหน้า อยากรู้ขึ้นมาตะหงิดๆ ว่าผู้ชายคนนี้เกี่ยว
ข้องอะไรกับคฤหาสน์อัลซาโค้ร์ และเขารู้จักผู้ชายที่ชื่อ ‘ริคคาร์โด้’ มากเพียงใด
“คุณรู้จักกับคนที่ชื่อริคคาร์โด้ ที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์อัลซาโค้ร์ด้วยหรือคะ”
“รู้จักสิ” มาคอสตอบสั้นๆ ไม่ยอมขยายความไปมากกว่านี้
“ดูท่าทางคุณจะรู้จักที่นั่นดีเหลือเกิน เคยไปที่นั่นหรือคะ”
“ไม่ใช่แค่เคยไป แต่ผมอยู่ที่นั่น” ตอบไปแล้ว มาคอสก็หัวเราะอยู่ในลำคอ ก่อนจะพูดเสียงกลั้วเสียงหัวเราะต่อ
“ผมเป็นคนสวนที่นั่น ก็เลยรู้จักคฤหาสน์อัลซาโค้ร์เป็นอย่างดี”
“ไปหลอกเด็กอมมือเถอะค่ะ คนสวนบ้าอะไร แต่งตัวยังกับพวกมาเฟีย”
คราวนี้มาคอสหัวเราะดังลั่น เมื่อถูกเหน็บแทงใจดำ กระนั้นก็ยังยืนกรานว่าตนเองเป็นคนสวนอยู่
“อ้าว ไม่เชื่ออีกว่าผมเป็นคนสวน”
นาราภัทรเหนื่อยที่จะตอแยกับผู้ชายคนนี้ อีกทั้งอยากไปส่งพัสดุจากพี่สาวให้ถึงมือผู้ชายที่ชื่อริคคาร์โด้ให้เร็วที่สุด จึงโบกมือว่อน พูดตัดรำคาญในทันที
“ช่างคุณเถอะ คุณจะเป็นใคร ฉันไม่สนใจทั้งนั้น ขอบคุณที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคฤหาสน์ผีสิง”
นาราภัทรเดินหนีทันทีที่พูดจบ แต่ร่างบางระหงเดินได้ไม่กี่ก้าว ก็ถูกมือใหญ่ของมาคอสคว้าต้นแขนเนียนไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวสิคุณ จะรีบไปไหนครับ”
นาราภัทรหันขวับ ถลึงตาเขียวใส่ พร้อมกับตะคอกสั่งเสียงห้วนจัด “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
“โอเค ปล่อยก็ได้”
เจอสายตาที่ถลึงจ้องมองเขม็งไม่ต่างจากนางพญา มาคอสจำต้องปล่อยต้นแขนเล็กในที่สุด
“คุณต้องการไปคฤหาสน์อัลซาโค้ร์ไม่ใช่หรือ ผมจะไปที่นั่นอยู่แล้ว คุณไปพร้อมกับผมเลยก็ได้”
“ไม่ ขอบคุณ”
นาราภัทรปฏิเสธและกล่าวขอบคุณเสียงแข็ง ก่อนจะเดินหนีอีกครั้ง แต่มาคอสก็เดินมาดักหน้าไว้เช่นเคย
“ทำไมคุณไม่ไปที่คฤหาสน์อัลซาโค้ร์กับผม”
มาคอสถามอย่างเอาเรื่อง เพราะไม่มีใครกล้าปฏิเสธคนอย่างเขา แต่พอถูกนาราภัทรสะบัดหน้าหนี ก็ชักจะไม่พอใจ
“ฉันไม่ไว้ใจคุณ ฉันไม่รู้จักคุณ ฉันไม่มีทางไปกับคุณเด็ดขาด และไม่เชื่อด้วยว่าคุณจะเป็นแค่คนสวนที่คฤหาสน์อัลซาโค้ร์เหมือนอย่างที่พูดตะกี้นี้ หน้าตาของคุณมันบ่งบอกว่าเป็นพวกมาเฟียชัดๆ”
นาราภัทรตอกหน้ามาคอสชุดใหญ่ ไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นแค่เพียงคนสวน เธอไม่ใช่คนโง่ที่ดูไม่ออกว่าชุดสูท รวมทั้งเครื่องประดับที่ชายผู้นี้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นแว่นตา นาฬิกา หรือแม้กระทั่งแหวนที่เขาสวมติดนิ้วก้อย ล้วนแต่เป็นของแบรนด์เนมและมีราคาแพงทั้งสิ้น
มาคอสเลิกเล่นละคร ชายหนุ่มถอดแว่นตาออก เผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าคมกริบ ก่อนจะเอ่ยต่อรองกับนาราภัทรเสียงเข้ม
“ถ้าคุณยอมบอกว่ามีธุระอะไรถึงต้องการไปที่คฤหาสน์อัลซาโค้ร์ให้ผมรู้ ผมก็จะยอมบอกเหมือนกันว่าผมเป็นใคร”
“หวังว่าคุณคงไม่ใช่ริคคาร์โด้ อัลซาโค้ร์หรอกนะ”
“ไม่ใช่” มาคอสปฏิเสธทันทีที่นาราภัทรพูดจบ
คำพูดของมาคอส ทำให้นาราภัทรช่างใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบในที่สุด
“ก็ได้ค่ะ ฉันจะยอมบอกคุณ ฉันชื่อนาราภัทร เป็นน้องสาวของพี่เพิร์ล นิลนารา พี่เพิร์ลให้ฉันเอาของสำคัญมาให้กับเอ่อ...อดีตคู่หมั้นที่ชื่อริคคาร์โด้”
ขณะเอ่ยพูดถึงชื่อของพี่สาว นาราภัทรไม่แน่ใจว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า ที่เห็นแววตาของชายผู้นี้คล้ายกับมีความรักที่มาพร้อมกับความเจ็บปวด ซึ่งเจ้าตัวเผยให้เห็นแค่เพียงชั่วขณะวูบเดียวเท่านั้น