บทที่ 3

1162 คำ
แผนการที่วางไว้กับมารดากำลังจะสัมฤทธิ์ผล เมื่อได้ยินเสียงจอดรถอยู่หน้าบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนาราภัทร! “คุณแม่คะ นารามาถึงแล้วค่ะ” นิลนาราเอ่ยบอกมารดาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก่อนจะวิ่งมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาหลังจากแอบดูน้องสาวผ่านหน้าต่าง “อย่าลืมทำตามแผนนะลูก” กุลธราเอ่ยย้ำ และนิลนาราก็รีบทำตามทันทีด้วยการนั่งตีหน้าเศร้าสร้อยเล่นละครตบตาน้องสาวซึ่งกำลังเดินเข้ามาในบ้าน ทางด้านของนาราภัทร ซึ่งถูกตามตัวให้กลับบ้านเป็นการเร่งด่วนด้วยความสั้นๆ เพียงแค่ไม่กี่คำ รีบเดินเข้ามาในบ้านด้วยความใจร้อนระคนเป็นห่วงมารดาและพี่สาว พอเห็นพี่สาวกับมารดานั่งรออยู่บนเก้าอี้โซฟาภายในห้องโถง ก็รีบยกมือไหว้มารดาทันที “คุณแม่ สวัสดีค่ะ” “สวัสดีจ้ะลูก” กุลธราทักทายลูกสาวคนเล็ก พร้อมกับอ้าแขนรับร่างบางระหงที่โผเข้ามาสวม กอดนางไว้แนบแน่น พอรับไออุ่นจากอ้อมกอดของมารดาอยู่พักใหญ่จนเป็นที่พอใจแล้ว นาราภัทรก็ผละออก แล้วหันไปทักทายพี่สาวซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมารดา “สวัสดีค่ะพี่เพิร์ล” นิลนาราฝืนยิ้มบางๆ ให้น้องสาวพร้อมกับพยักหน้ารับ โดยไม่ได้กล่าวคำทัก ทายใดๆ กลับคืน และรอยยิ้มที่มองออกว่าเจ้าตัวกำลังฝืนยิ้ม ส่งให้นาราภัทรต้องขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่งราวกับโบว์ผูกผม อีกทั้งใจไม่ดีกับอาการแปลกๆ ของพี่สาว “พี่เพิร์ล ไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมสีหน้าไม่สู้ดีนัก” คราวนี้นาราภัทรเดินมาทรุดกายลงนั่งข้างๆ พี่สาว มือเล็กเอื้อมไปจับมือทั้งสองของคนเป็นพี่มากุมไว้มั่น ตอนที่เอ่ยถามออกไป นิลนาราขอบตาร้อนผ่าว หลุบดวงตาลงแล้วปล่อยให้หยาดน้ำใสหยดแหมะลงไปโดนมือเล็กของน้องสาว ทำให้นาราภัทรรีบเอ่ยถามซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงตกใจ “พี่เพิร์ล ร้องไห้ทำไมคะ เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่นาราไม่อยู่บ้านคะ” คนเป็นน้องใจร้อนอยากได้คำตอบเร็วๆ ทว่าผู้เป็นพี่สาวเอาแต่สะอื้นร้องไห้ ปล่อยให้หยาดน้ำตาอุ่นไหลเป็นทางท่วมพวงแก้มขาวซีด “พี่เพิร์ลบอกนารามาเดี๋ยวนี้ อย่าเอาแต่ร้องสิคะ นาราใจไม่ดีเลย” เมื่อพี่สาวไม่ยอมบอก นาราภัทรก็ถามย้ำอีกครั้ง มือเล็กจับต้นแขนพี่สาวเขย่าเบาๆ ให้อีกฝ่ายยอมทำตามที่เธอขอร้อง ทว่านิลนารายังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น แถมยังร้องหนักกว่าครั้งแรก ทำเอานาราภัทรหน้าซีดเผือดไปหมด พอหันไปมองมารดาก็ยิ่งใจหายมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้ ดวงตาของมารดามีน้ำปริ่มๆ และทำท่าจะหยดแหมะไม่แพ้กัน “คุณแม่ พี่เพิร์ล มันเรื่องอะไรกันคะ ทำไมไม่พูด ไม่บอกนารา เอาแต่ร้องไห้แบบนี้ ทำให้นาราเครียดนะคะ” นาราภัทรหันไปตัดพ้อกับมารดาที พี่สาวที และเมื่อทนไม่ไหว ก็จับตัวพี่สาวเขย่าเบาๆ ก่อนจะออกคำสั่งเสียงห้วนเล็กน้อย “พี่เพิร์ล หยุดร้องไห้ก่อน แล้วบอกกับนาราว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น นาราสัญญาว่าจะช่วยพี่เพิร์ลแก้ไขสถานการณ์พวกนี้เองค่ะ” นาราภัทรไม่รู้เลยว่าวาจาที่ลั่นออกมาอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ กำลังจะเป็นบ่วงแร้วที่รัดตัวเธอไม่ให้ดิ้นหลุดจากเหตุการณ์ซึ่งกำลังรออยู่ข้างหน้า ทางด้านนิลนารา ได้ยินน้องสาวให้คำสัญญาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก็ยกมือปาดน้ำตา สูดสะอื้นเข้าปอดลึกๆ พลางเอ่ยถามเสียงขาดห้วนปนสะอื้นกระซิก “นารา...รับปากแล้วนะ...ว่าจะช่วยพี่...” นาราภัทรลอบถอนหายใจยาว มีลางสังหรณ์ว่าตนเองกำลังก้าวขาข้างหนึ่งไปแย่เรื่องวุ่นวายในบางสิ่งบางอย่างเข้าแล้ว แต่จะกลับคำพูดก็ไม่ได้ จึงจำต้องพยักหน้าและตอบรับแบบแบ่งรับแบ่งสู้ไม่เต็มปากนัก “ค่ะพี่เพิร์ล นารารับปากว่าจะช่วยพี่เพิร์ล ถ้าเรื่องเหล่านั้นไม่เหลือบ่ากว่าแรงของนารา” “นาราช่วยพี่ได้แน่นอนจ้ะ” นิลนาราเอ่ยบอกด้วยความดีใจ คราวนี้รีบเช็ดน้ำตาให้เหือดแห้ง หันมาจ้องมองน้องสาวเขม็ง ก่อนจะขอคำมั่นจากน้องสาวอีกครั้ง “นารารับปากพี่นะว่าจะช่วยพี่” “เอ่อ...นาราขอทราบก่อนได้ไหมคะว่าพี่เพิร์ลจะให้นาราช่วยยังไง” “ถ้านาราไม่รับปาก พี่ก็จะไม่บอกนารา...” นิลนาราเอ่ยบอกเสียงสั่น หยาดน้ำตาไหลเป็นทางยาวลงมาบนพวงแก้ม ไม่ต่างจากสั่งได้ “นารากลับไปอยุธยาฯ ได้แล้ว ไม่ต้องมาสนใจปัญหาของพี่หรอก พี่จะแก้ไขปัญหาของพี่เอง บางที...บางที...พี่อาจจะทำแท้ง...” นาราภัทรรู้สึกราวกับถูกทุบหัวด้วยค้อนอันใหญ่โตกับคำพูดในประโยคท้ายของพี่สาว หญิงสาวเบิกตาโตจนแทบจะถลนออกมาจากเบ้า ทวนคำพูดเสียงดังลั่นห้อง “ทำแท้ง!” นิลนาราสะอื้นฮักจนตัวสั่นโยน พยักหน้ารับคำ แล้วจึงเอ่ยตอบเสียงแผ่วเบา “ใช่...นาราเป็นคนสุดท้ายที่จะช่วยพี่ได้ แต่ถ้านาราใจจืดใจดำ ไม่ยอมช่วยพี่...พี่ก็คงต้องทำแท้ง” “อะไรกันคะ นารางงไปหมดแล้ว” นาราภัทรผุดลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปเดินมาอยู่หน้ามารดากับพี่สาว ก่อนจะออกคำสั่งกับพี่สาวผู้อ่อนแอต่อ “พี่เพิร์ล! เล่ามาให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมๆ พี่ถึงท้อง” คนเป็นน้องมึนงงอย่างหนัก จนตั้งคำถามโง่ๆ กับพี่สาว นิลนาราลอบมองมารดาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยใบหน้าที่นองไปด้วยหยาดน้ำตามองน้องสาว แล้วขอคำสัญญาจากอีกฝ่าย “รับปากกับพี่ก่อน ว่าจะช่วยพี่ แล้วพี่จะเล่าความจริงให้นาราฟังทั้งหมด” “ก็ได้ค่ะ นารารับปากว่าจะช่วยพี่เพิร์ล คราวนี้พี่เพิร์ลจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้นาราฟังได้หรือยังคะ” นาราภัทรจำต้องรับปากกับพี่สาวในที่สุด ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าตนเองจะสามารถช่วยพี่สาวได้หรือเปล่า ขณะเดียวกันก็รู้สึกเป็นกังวลอยู่ลึกๆ เพราะกลัวว่าเรื่องที่พี่สาวกำลังจะเอ่ยปากขอร้องนั้น จะเหลือบ่ากว่าแรงที่เธอจะช่วยได้ ถ้าหากนาราภัทรละทิ้งความกังวลใจไปชั่วครู่ อีกทั้งยังสังเกตและคอยจับจ้องใบหน้าของคนเป็นพี่ดีๆ หญิงสาวจะเห็นว่ามีรอยยิ้มผุดขึ้นตรงมุมปาก ตอนเธอได้ตกปากรับคำว่าจะช่วยเหลือ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม