“ แม่นาย แม่นายทำไมยังไม่นอนละเจ้าคะ” จำปา และแม้นที่กำลังจะลงจากเรือนแต่สายตาของนางก็หันมาเจอเข้ากับพิกุลที่เอาแต่เดินไปเดินมาตั้งนานสองนานแล้ว ยังไม่เข้าหอนอน จำปากับแม้นเลยสงสัยก็เลยเดินมาถาม พิกุลที่เห็นพี่เลี้ยงยังไม่นอนนางก็เลยเรียกมาเพื่อคุยกับแผนการในวันพรุ่งนี้ เพราะเธอมีแผนการเกี่ยวกับการหารายได้อยู่เต็มหัวไปหมด
“ พี่สองคนมานี่ก็ดีแล้ว ข้ามีเรื่องอยากคุยด้วยอยู่พอดี” พิกุลเรียกทั้งสองให้เข้ามาคุยด้วย เพราะวันพรุ่งนี้เธออยากทำเหล้าที่ทำจากผลไม้ที่อยู่ในสวน เพราะเธอไม่เห้นว่าใครเอามทำอะไรกินด้วยความที่เธอเกิดมาับครอบครัวที่ยากจนก่อนที่เธอจะมาเป็นนางแบบ เลยทำให้ผีขี้งกเข้าสิงเธอ
“ มีกะไรให้บ่าวรับใช้หรือเจ้าคะแม่นาย “ จำปาและแม้นทำท่าเดินก้มโค้งเข้ามาหานาง พิกุลที่บอกบ่าวเป็น100ครั้งแล้วห้ามเรียกขานตัวเองว่าบ่าวเพราะเธอไม่ชอบให้คนที่อยู่ด้วยด้อยค่าของตัวเองยิ่งเป็นคนที่ยอมตายแทนเธอได้พิกุลยิ่งต้องดูแลและเอาใจใส่อย่างกับเป็นพี่น้อง ญาติผู้ใหญ่ของเธอเองเลย
“ พี่….จำปา….ข้าบอกพี่กี่ครั้งแล้วห่ะ “ พิกุลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ลากยาวบ่งบอกว่านางไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ทั้งคู่ขัดคำสั่งของตัวเอง เมื่อจำปากับแม้นเห็นท่าทางของแม่นายทั้งคู่ก็อดขำหัวเราะท่าทางน่ารักของเจ้านายที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบอะไม่ได้
“ เจ้าคะ แม่นาย ว่าแต่แม่นายมีเรื่องอันใดจักคุยกับพวกเราละเจ้าคะ” แม้นยิ้มแหยๆเข้ามาหาแม่นายพร้อมกับถามเรื่องที่นางจะคุยด้วย เพื่อเป็นการตัดปัญหาเรื่องมันจะยืดยาวกลัวว่าแม่นายจะถามจนทั้งคู่ไม่ได้นอนกันพอดี เมื่อทั้งคู่เบื้องเบนความสนใจมาที่เรื่องสำคัญที่พิกุลกำังสนใจอยู่ นางก็เลยลืมเรื่องที่จะเอ็ดบ่าวทั้งสองไปแล้วก็ทำท่าตื่นเต้นอย่างกับเด็กน้อยที่กำลังจะได้เล่าเรื่องที่ตัวเองกำลังได้เจอมา
“ พี่ พรุ่งนี้เราชวนพี่ๆเข้าสวนกัน ข้าเห็นผลไม้ล้วเต้มพื้นเลย ข้าเห็นว่าไม่มีใครสนใจเก็บมันขึ้นมากินข้าเห็นแต่ กระลอกและก็มดที่แทะเล็มกัดกินอยู่นั้นเอง “ พิกุลรีบพูดเรื่องที่ตัวเองต้องการให้แม้นกับจำปาฟังทันที โดยมีขุนไกร กับสองทหารเสือที่แอบฟังอยู่ไม่ไกลมากนัก แม้น และจำปาเมื่อได้ยินที่แม่นายของตัวเองพูดทั้งคู่ก็ทำท่าเกาหัวอย้่างไม่เข้าใจเพราะสวนนั้นมีแต่ผลไม้ที่ไม่มีผู้ใดสนใจจะกิน เพราะผลไม้ที่นั้น มีแต่ มะเฟือง มะละกอ ขนุน มะม่วง แล้วก็ฝรั่ง พุทรา มีแต่ผลไม้ที่ทั้งบ้านก็มีกันไม่ใช่ว่าไม่มีคนกินแต่ ว่ากินไม่ทันเลยปล่อยให้กระลอก นก หนู มาเอาไปกิน คั้นจะเอาไปขายก็ไม่มีคนซื้อเพราะทุกบ้านก็มีกัน ก็เลยปล่อยให้ล้วงเต็มพื้นแบบนั้น
“ แม่นายจะเอาผลไม้พวกนั้นไปทำอันใดกันว่ะ” ไอ้มิ่ง กระซิบถามจ๋อยด้วยความสงสัยเพราะท่าทางของนางดูตื่นเต้นอย่างกับว่าของพวกนั้นมีค่ามาก จ๋อยและขุนไกรหันมองหน้ากันก่อนจะหันมองหน้าคนถาม มิ่งเมื่อเห็นสายตาดุเป็นในๆของขุนไกรมันก็ยิ้มแหย่ๆทันทีเพื่อไม่ให้เจ้านายลงโทษโทษฐานอยากเสือกเรื่องของเจ้านาย
“ แม่นายจะเอาผลไม้พวกนั้นไปทำอันใดกันเจ้าคะ “ แม้นตัดสินใจถามแม่นายออกไปอย่างสงสัย เพราะนางก็งงเหมือนกันว่าแม่นายจะเอาผลไม้นั้นไปทำอันใด พิกุลเมื่อคนถามต้องการคำตอบนางก็รีบตอบให้เป็นข้อกระจ่างทันที
“ ข้าจะเอาผลไม้พวกนั้นมาทำแยม ทำเหล้าขาย คุณพี่ขุนต่อให้มีเงินเดือนกินแต่ว่าคุณพี่ขุนก็ต้องการเงินเก็บเพื่อที่จะมีไว้เลี้ยง พวกพี่ๆไงดังนั้นข้าที่มีหัวการค้าและก็ขี้งกเป็นอันดับต้นๆของโลก ข้าจะทำให้พวกพี่ๆมีรายได้ ฮ่าๆฮ่าๆฮ่าๆ “ พิกุลเงยหน้ามองท้องฟ้าพร้อมกับพูดออกมาที่เป้นคำพูดภาษาที่เข้าใจเพียงแค่เธอส่วน บ่าวและคนที่แอบฟังต่างก็ไม่เข้าใจ แต่ก็อดขำในท่าทางน่ารักของนางไม่ได้โดยเฉพาะขุนไกรถึงแม้จะไม่เข้าใจอะไรที่นางพูดเลยแต่ถ้ามีชื่อเขาอยู่ในนั้น นั่นหมายความว่าเรื่องที่เธอจะทำต้องมีเขาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน เมื่อพิกุลสนทนากับบ่าวเพื่อให้ทั้งสองเข้าใจแล้วนางก็เดินเข้าหอนอนด้วยความลืมตัวไปว่าห้องนี้เป้นห้องที่เธอต้องนอนกับขุนไกร ชายจอมหื่น
“ อะแฮ้ม “ เสียงกระแอมกระไอของขุนไกรดังขึ้นมาขัดจังหวะการหลับตาของนางที่เพิ่งจะหลับลงไปได้ 5วินาทีเท่านั้น เมื่อพิกุลได้ยินเสียงของคนที่เธอไม่ได้คิดถึงเขาเลยทั้งวัน นางก็สะดุงดีดตัวลุกขึ้นมานั่งทันที อย่างกับว่าตัวของเธอติดสปิง
“ คุณพี่เข้ามาที่นี้ทำไมกันเจ้าคะ” พิกุลถามชายหนุ่มออกมาด้วยความตกใจเพราะเธอไม่คิดว่า ชายหนุ่มจะเข้ามาหาเธอที่หอนอน เมื่อขุนไกรได้ยินเสียงหวานถามเขาแบบนั้น ขุนไกรก็ทำหน้านิ้วคิ้วขมวดเพราะห้องนี้เป็นห้องของเขาซึ่งเธอเองที่เป็นคนลืม
“ ห้องนี้เป็นห้องของข้าแล้วเหตุใดข้าถึงจักเข้าไม่ได้ “ ขุนเดชที่เพิ่งอาบน้ำหลังจากแอบฟังนางคุยกับพวกบ่าวเสร็จ ขุนเดชก็เลยไปอาบน้ำเพื่อที่จะได้มานอน เพราะตลอดทั้งวันที่เข้าไปทำงานเขาก็เอาแต่คิดเรื่องของนางจนตัดสินใจได้แล้วว่าจะเอายังไงกับนางดี พิกุลพอได้ยินว่าห้องนี้เป็นห้องของใครนางถึงกับหน้าเหวอเลยทีเดียว ด้วยความที่นางลืมตัวว่าอยู่ที่ไหนเพราะตลอดทั้งวันนางเอาแต่เก็บนุ่นนี้นั้นและก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเผลอเดินเข้าสวนไป อย่างฟลุกๆเลยไปเจอกับผลไม้แล้วก็เกิดไอเดียขึ้นมาเลยทำให้นางลืมไปเลยว่้านางอยู่ที่ไหน และห้องที่นางอยู่เป็นห้องของใคร เมื่อขุนไกรเห็นท่าทางเลอหลาของหญิงสาวแบบนั้น เขาก็ยกยิ้มมุมปากก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหาเธอพิกุลเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของชายหนุ่มเธอก็ตกใจถึงกับรีบถอยหลังหนีเขาจนแผ่นหลังบางของเธอชนเข้ากับเตียง
“ นี้เจ้าจะกลัวอะไรข้านักหนา ข้าหน้าตาน่ากลัวอย่างนั้นรึ หรือว่าเจ้ามีคนอื่นที่ดีกว่าข้า” ขุนไกรเห็นท่าทางกลัวของหญิงสาวเขาก็อดที่จะพูดกระแทกกระทั้นนางไม่ได้ แต่คำพูดที่บอกว่านางมีชายอื่นเขาก็อดคิดไม่ได้นับตั้งแต่ที่นางฟื้นขึ้นมานางก็ไม่สนใจใยดีเขาเลย เลยทำให้ขุนไกรอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่านางมีคนอื่น เมื่อพิกุลได้ยินแบบนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองโดนตบหน้าดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงของเธอ ในเมื่อคนพูดรู้ดีว่าเธอเขาเป็นนคนแรกและก็เป็นคนแรกที่ข่มขื่นเธอโดยที่เธอไม่ยอมอีกด้วย ด้วยความโกรธจนเลือดร้อนพิกุลถึงกับถลึงตาใส่คนพูดพร้อมกับทำท่าเหมือนจะเอาเรื่องคนตรงหน้าให้ได้เลย ขุนไกรที่ตอนแรกรู้สึกหงุดหงิดพอเห็นท่าทางเอาเรื่องของเธอเขาถึงกับอดยิ้มบางๆอย่างพอใจไม่ได้เมื่อคนดื้อยังไงก็ต้องสู้เพื่อให้เอาคืนคนที่ดูถูกตัวเองให้ได้