“ ฮือออออออ ฮือออออ อึกอึก อึก อี๊ดดดดดด อี๊ดดดดดด “ พิกุลร้องไห้แทบขาดใจเมื่อเห็นชายคนนั้นเดินออกไปเธอเอาหมอนปิดปากพร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและแค้นชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอ ขุนไกรที่ได้ยินนางกรีดร้องเสียงอู้อี๊ ขุนไกรที่ออกมายืนอยู่ด้านนอกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังรอดออกมาจากภายในห้อง ก่อนที่เขาจะเดินออกไปมาพร้อมกับยิ้มเยาะหยั้นหญิงสาว
“แม่นาย แม่นายเป็นกระไรเจ้าคะแม่นาย “ เสียงของ แม้นและเสียงของจำปาวิ่งเขามาเรียกแม่นายของตัวเองก่อนจะตกใจเมื่อเนื้อตัวของแม่นายตัวเองมีแต่รอยแดงจากการดูดและรอยฟันจากการถูกกัด แม้นและจำปาที่คิดดีใจในตอนแรกแต่เมื่อเห็นสภาพของนายหญิงของตัวเองทั้งสองถึงกับร้องไห้ฟูมฟายออกมา อย่างเวทนาแม่นาย
“ ฮือ….ฮือ….ฮือ…..” เสียงร้องไห้ของทั้งสามดังออกมาจากเรือนหลังเล็ก โดยที่มีขุนไกรมองอยู่ที่เรือนหลังใหญ่เมื่อจันทร์เจ้ารู้ว่าสามีมาเธอก็รีบให้บ่าวคนสนิทอาบน้ำประแป้งแต่งองค์ทรงเครื่องประทินน้ำอบน้ำปรุงทาปากแดงเทือกอย่างกับล้มปากฝาดพื้น
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
ระหว่างที่ขุนไกรยืนมองเรือนหลังเล็กด้วยหัวใจที่หนักหน่วง ภาพต่างๆที่หญิงสาวทำกับเขาเหมือนกับเป็นคนละคนและสายยตาของเธอที่บอกว่าเกลียดเขามันมองมาว่าเป็นความจริง แต่เสียงเคาะประตูที่ดังมาจากทางด้านหลังทำให้ขุนไกรที่ตกอยู่ในภวังค์สะดุ้งก่อนจะเดินมาเปิดประตูห้องโดยที่ท่อนบนไม่มีเสื้อโชว์ซิกแพ๊คกล้ามเป็นมัดๆ ส่วนด้านล่างก็ใส่สโหลง
แอ๊ดดดดดดด
เสียงมือหนาผลักประตูห้องออกมาอย่างไม่ได้คิดอะไรเพราะตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วเขาก็เลยคิดว่าเป็น ไอ้กล้าบ่าวคนสนิทของเขาเอง
“ คุณพี่” เมื่อประตูเปิดออกเสียงหวานของจันทร์เจ้าก็เรียกสามีออกมาด้วยท่าทางที่ยัวยวน เพราะตั้งแต่เธอออกเรือนมาจนถึงวันนี้ขุนไกรไม่เคยคิดที่จะมาหาเธอหรือว่าแตะต้องตัวของเธอเลย ขุนไกรเมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดที่มาเคาะประตูเขาก็มองหาไอ้กล้าว่าเหตุใดถึงให้หญิงสาวขึ้นมาบนเรือนได้
“ คุณพี่ขอน้องเข้าไปข้างในหน่อยได้ไหมเจ้าคะ น้องอยากไปนวดไปปรนนิบัติคุณพี่” จันทร์เจ้าพูดออกมาด้วยเสียงออดออ้นพร้อมกับดึงสไบท์ลงมาอวดผิวขาว แทนที่ขุนไกรจะรู้สึกอะไรแต่อยู่ๆภาพของพิกุลที่อยู่ในร่างกายเปล่าเปื่อยผิวขงนางขาวผุดผ่องอย่างกับพระจัทร์ หุ่นของเธอยั่วยวนใบหน้าสวยหมดจด
“ ไม่ละข้าเหนื่อยมากแล้ว เจ้าก็ควรกลับไปที่เรือนของเจ้าด้วยเช่นเดียวกัน” เมื่อขุนไกรพูดจบเขาก็ปิดประตูลงกลอนใส่หน้าจันทร์เจ้า จัทร์เจ้าที่โดนชายหนุ่มปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีกเธอก็กำมือแน่นด้วยความแค้น เพราะตั้งแต่เธอออกเรือนมาขุนไกรไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวเธอเลยแม้แต่ปลายก้อย เมื่อคิดได้แบบนั้นนางก็เดินกระทืบเท้าออกมาพร้อมกับมาอารวาทให้กับบ่าวของตัวเอง
เพล้ง เพล้ง ปัง ปึง
“ กรี๊สสสสส กรี๊สสสสสส หือๆหือๆ “ จันทร์เจ้าเมื่อกลับมาที่เรือนนางก็อาระวาทฟาดงวงฟาดงาใส่บ่าวของนางจนกระเจิงไปกันคนละทิศคนละทาง มีเพียงแค่มะลิกับชบาเท่านั้นที่ยังอยู่เป็นที่รองรับอารมณ์ของนายหญิงของตน
“ หือๆ…….ข้าจะไปหาท่านพ่อ เอ็งสองคนให้ไอ้อีขี้ครอกส่งข่าวให้ท่านพ่อของกูรู้ “ จันทร์เจ้าหอบหายใจพร้อมกับเอ้ยสั่งให้ บ่าวของนางให้ไปส่งข่าวให้พ่อของนางที่เป็นถึงเจ้าเมืองหัวช้าง มะลิและชบาเมื่อได้รับคำสั่งจากแม่นายของตน
เวลาต่อมา
“ แม่นาย แม่นายลุกมาใยแต่เช้าเจ้าคะ แม่นายไม่สบายอยู่หนา” จำปาที่กำลังพับผ้าอยู่เมื่อเห็นนายหญิง ของตนตื่นมาแต่เช้า เพราะเมื่อคืนแม่นายของตนเป็นไข้สูงจนจำปาและแม้นเอาน้ำพรมเช็ดให้ทั้งคืนกว่าไข้จะลดก็เกือบรุ่งสาง แต่ด้วยความที่เธอต้องรีบทำตัวเองให้แข็งแรง เพื่อที่จะได้หาทางหนีผู้ชายใจร้ายคนนั้น
“ ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะพี่เพียงแค่ข้าอยากทำให้ตัวเองรีบแข็งแรงก็เท่านั้น พี่ข้าจะหนีออกจากที่นี้” พิกุลที่เดินขาถ่างมานั่งที่แคร่หน้าบ้านเธอก็บอกจุดประสงค์ของตน จำปาและแม้นเมื่อได้ยินแบบนั้นทั้งสองก็ตกใจเป็นอย่างมาก
เพราะแม่นายแต่งเข้ามาเป็นเมียของขุนไกร ถ้าแม่นายของตนหนีถ้าถูกจับได้รับรองโทษคือความตายเท่านั้น
“ ไม่ได้นะเจ้าขาแม่นาย แม่นายหนีไม่ได้นะเจ้าคะถ้าถูกจับได้ โทษคือตายเท่านั้นนะเจ้าคะ” จำปาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ แม้นก็เช่นเดียวกันทั้งสองหันมามอหน้าผู้เป็นเจ้านายที่สภาพไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่น้ำผึ้งที่เกลียดผู้ชายใจร้ายคนนี้มากเธอไม่เข้าใจว่าทำไมพิกุลถึงได้รักเขาแบบนั้น
“ แล้วพี่สองคนจะให้ข้าทำเช่นใด พี่จะยอมให้ขุนไกรข่มแฮงข้าแบบนี้อย่างนั้นรึ อึก อึก อึก “ น้ำตาของพิกุลไหลออกมาภาพโหดร้ายที่ขุนไกรข่มแหงรังแกนางก็ฉายเข้ามาในหัวของเธอ เกิดมาเธอไม่เคยเสียความบริสุทธิ์ให้ใครพอมาเสียของรักของตัวเองครั้งแรกให้ไอ้ชั่ว น้ำผึ้งถึงกับแค้นเป็นอย่างมาก ระหว่างที่พิกุลกับบ่าวของนางร้องไห้โอบกอดกันภาพที่ทั้งสามอยู่ในสายตาของขุนไกรตลอด เพราะขุนไกรนอนไม่หลับทั้งคืนเมื่อภาพร่างกาย หน้าตาดุดัน สายตาจริงจัง หรือแม้แต่กล้าต่อยตีเขาอย่างไม่เกรงกลัว ทำให้ขุนไกรไม่สามารถข่มตาหลับได้ เมื่อแสงตะเกียงเรือนของพิกุลสว่างขึ้นขุนไกรที่นั่งอยู่ในเรือนโดยที่ไม่มีแสงอันใด เขาก็นั่งมอหญิงสาวที่เขาขืนใจเธอจนนับครั้งไม่ท้วน
“ ข้าหวังว่า เจ้าไม่คิดที่จะหนีข้านะพิกุลเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นข้าคงไม่ยอมเป็นแน่” ขุนไกรพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับมองไปยังหญิงสาวที่นั่งเอามือเช็ดน้ำตาอยู่บนเรือนเล็กของเธอ