มัลลิกากลับมานั่งที่เดิม แต่คนที่นั่งข้างๆ กลับไม่ใช่สัตวแพทย์หนุ่มกลายเป็นเจ้าของฟาร์มแทน เธอนั่งทานไปยิ้มไป เพราะไม่ชอบคนที่นั่งข้างๆ ก็นั่งเบียดแบบนี้ เธอก็อายเป็นนะ แถมไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย และเมื่อเขาบอกว่าจะลุกไปร้องเพลงบนเวทีขนาดเล็กที่เตรียมไว้ เธอก็โล่งอกโล่งใจทันที เพราะตอนที่มีคมธรรมนั่งเบียดข้างๆ นั้นหัวใจหล่อนเต้นแรงตลอดๆ และดิศรณ์เองก็ลุกเดินตามไปด้วยเหมือนกัน เพราะต้องไปตีกลอง ส่วนหมูและเข้มก็เดินขึ้นเวทีไปตามลูกพี่ของตนเองเหมือนกัน
“พี่หอยชอบร้องเพลงดีดกีตาร์น่ะหนูเพื่อน รอฟังนะจ๊ะ พี่เขาจะร้องให้ความบันเทิงตลอดที่มีงานเลี้ยง และมีหมอเปอร์ตีกลอง กับลูกสมุนอย่างเข้มและหมูด้วย” ปรียาวรรณเอ่ยให้มัลลิกาเข้าใจเมื่อเห็นว่าสีหน้าเธอดูงงๆ ตอนที่ลูกชายนางบอกจะไปร้องเพลงและดีดกีตาร์
“ใช่แล้ว นี่เป็นอีกสิ่งที่หอยมันทำได้ดีไม่แพ้เลี้ยงควายเลยล่ะหนูเพื่อน” คมศรเอ่ยเสริมอีก
ทำไมคมธรรมถึงมีเรื่องให้เธอแปลกใจอยู่เรื่อยเลย ที่บอกว่าเรียนไม่เก่ง เธอรู้แล้วว่าเขาไม่เก่งจริงๆ แม้แต่ภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสำคัญสำหรับเจ้าของฟาร์มที่ต้องเก่งเมื่อยามติดต่อสื่อสารกับลูกค้าต่างชาติ แต่คมธรรมไม่ ภาษาอังกฤษเขาสอบตกติดลบเลยก็ว่าได้ แต่ก็แปลก พอเป็นเรื่องของควายในฟาร์ม ไม่ว่าควายตัวไหนจะมีอาการแบบไหน หรือป่วยเป็นอะไร เขาดูออกหมดและรู้หมดว่าควายตัวไหนกำลังอารมณ์ดีหรืออารมณ์เสียห้ามเข้าใกล้ และตอนนี้ยังร้องเพลงเล่นกีตาร์ได้อีก มัลลิกานั่งฟังเพลงและมองชายหนุ่มด้วยความเคลิบเคลิ้มไม่รู้ตัว จนทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนที่นั่งด้วยนั้นพากันแอบส่งยิ้มให้กันเมื่อเห็นสายตาเคลิ้มของหญิงสาวมองจ้องไปยังลูกชายตัวเองที่ตอนนี้ร้องเพลง “ทุกวินาที” ของเจมส์ เรืองศักดิ์พร้อมดีดกีตาร์ไปด้วย
“ผู้จัดการครับๆ สาโทครับ” ระหว่างที่กำลังเคลิ้มอยู่นั้นก็มีเสียงของตัวแทนคนงานเดินมาย่อตัวลงข้างๆ พร้อมในมือมีแก้วสาโทชั้นดีที่คนงานหมักไว้ดื่มกินกันเอง
“คะ...คือเพื่อน...”
“ดื่มเถอะนะครับ เป็นน้ำใจจากพวกเราครับคุณเพื่อน” คนงานคนเดิมพูดขึ้นอีกพร้อมชี้มือไปทางกลุ่มคนงานที่มองมา
มัลลิกามองตามแล้วยิ้มให้ทุกคนก่อนจะรับมาถือไว้ในมือแล้วมองน้ำสาโทที่เต็มแก้ว ก่อนจะมองไปยังผู้ใหญ่ทั้งสองที่ส่งยิ้มให้
“ขอบคุณนะคะ” แล้วมัลลิกาก็กระดกสาโทเข้าปากจนหมดแก้ว รสหวานๆ ของสาโทก็ทำให้สาวที่ไม่เคยดื่มติดใจจนเอ่ยขออีก “อีกแก้วได้ไหมคะ”
“หนูเพื่อนเดี๋ยวเมานะลูก” ปรียาวรรณเอ่ยปราม
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูดื่มได้” ส่งยิ้มหวานให้พร้อมกับส่งแก้วคืนให้คนงานไปรินมาให้อีกแก้ว ตอนนี้ตาหวานนั้นยิ่งหวานแถมเยิ้มเหมือนจะเมา คนที่ไม่เคยดื่มเหล้าสาโทพอได้ดื่มแล้วติดใจ แม้ว่าตอนอยู่กรุงเทพฯ นั้นจะเที่ยวดื่มแต่ก็ไม่ได้บ่อย ไปเที่ยวหล่อนเน้นเต้นปลดปล่อยความเครียดมากกว่าดื่ม
เวลาผ่านไปจนดึกงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา ตอนนี้คนงานบางคนก็ง่วงมาขอตัวกลับไปนอนพักผ่อนกันแล้ว บางคนก็นอนเมาคอพับอยู่ที่เสื่อเลย บางกลุ่มก็ยังนั่งดื่มสาโทกันอยู่ ส่วนคมธรรมและพรรคพวกก็พากันลงมาจากเวที พอมาถึงก็เห็นมัลลิกานั่งกระดกดื่มสาโทอยู่ และมืออีกข้างก็กำไหสาโทไว้แน่น
“เกิดอะไรขึ้นครับแม่ปลา พ่อคม”
“อย่างที่เห็น คนงานเอามาให้ดื่มแล้วติดใจเลยดื่มหมดไปแล้วสองไหนี่ล่ะ และไหในมือที่กำแน่นน่ะไหที่สาม แล้วบอกไม่เมาด้วยนะหอย” คมศรเอ่ย คือตอนแรกเขากับภรรยาได้ห้ามแล้วว่าให้พอ แต่หญิงสาวบอกไม่เป็นไร หนูไหว จึงปล่อยเลยตามเลย และอยากรู้เหมือนกันว่าเวลามัลลิกาเมาจะเป็นยังไง ก็อย่างที่เห็น ไม่รู้พูดอะไร ไม่รู้เรื่องเลย
“ให้พวกเราพาคุณเพื่อนไปส่งที่บ้านไหมลูกพี่” เข้มเอ่ยออกความเห็น
“นั่นดิลูกพี่” หมูเห็นด้วย
“ไม่ต้อง กูจัดการเอง พวกมึงจัดการพื้นที่เถอะ มึงก็กลับไปได้แล้วไอ้หมอเปอร์ กูจัดการเอง คนนี้ของกู ส่วนพ่อคม แม่ปลาก็กลับเถอะครับ ดึกมากแล้ว ส่วนน้องเพื่อน ผมจัดการเอง” จัดแจงให้ทุกคนแล้วเดินไปย่อตัวนั่งข้างๆ คนเมาที่ชี้มือปัดป่ายไปทั่วไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
“อย่าทำอะไรน้องนะหอย ถ้าทำนะ แม่เอาตายแน่ น้องเมาด้วย แม่ว่าพาไปค้างที่บ้านเราดีกว่า” ปรียาวรรณเอ่ย
“เดี๋ยวผมพาเธอไปบ้านพักของเธอครับ แน่นอน...ผมจะดูแลอย่างดี ไม่ทำอะไรถ้าเธอไม่เมาแล้วทนความหล่อผมไม่ไหวจนปลุกปล้ำผม ไอ้ผมก็คนตัวเล็กเรี่ยวแรงไม่มีจำใจต้องสมยอม” พูดติดตลกแล้วช้อนอุ้มคนตัวเล็กเดินจากไปทันที โดยไม่สนใจอาการดิ้นรนของคนในอ้อมกอดและเสียงโวยวาย
“ปะ...ปล่อย...ไอ้คนเฮงซวย อึก!”
“ปลาว่าใครจะปล้ำใครกันแน่” คมศรมองตามหลังลูกชายที่เดินจากไป
“แล้วพี่คมคิดว่าไงล่ะจ๊ะ หมอเปอร์กลับเถอะลูก ส่วนพวกนายหมู เข้มจัดการที่นี่ด้วย วันนี้ฉันสองคนไปนอนก่อน” ปรียาวรรณเอ่ย
“ครับผม” หมูและเข้มเอ่ยรับคำพร้อมกันก่อนจะเดินแยกออกไป
“ผมกลับก่อนนะครับพ่อคม แม่ปลา” ดิศรณ์ยกมือไหว้ท่านทั้งสองแล้วเดินกลับไปทางบ้านพักของตัวเอง ที่อยู่ทางเดียวกับทางที่คมธรรมอุ้มมัลลิกาไป
“เอ๊ะ! พี่คม นั่นมือถือใคร” เมื่อจะลุกขึ้นก็มองเห็นว่ามีโทรศัพท์วางทิ้งอยู่ ซึ่งวางอยู่ที่ของมัลลิกานั่งด้วย
“คงของหนูเพื่อนมั้ง” ว่าแล้วก็เก็บไปด้วยเพื่อที่จะได้ให้ลูกชายนำมาให้เจ้าของ แต่พอจับไม่ทันใส่กางเกงก็มีเสียงสั่นเตือนขึ้น และหน้าจอก็โชว์เป็นชื่อของป้าเธอ คมศรจึงส่งให้ภรรยากดรับและพูดสาย
“หนูเพื่อนจะกลับตอนไหนลูก” ชบาส่งเสียงกรอกมาทันทีที่ปลายสายกดรับสาย
“ป้าชบาเหรอ พอดีว่าหนูเพื่อนเมานอนค้างที่บ้านพักของฟาร์มนะคะ”
“อ้อ...ค่ะ แล้วทำไมมือถือของหนูเพื่อนถึงมาอยู่...”
“ฉันปรียาวรรณ แม่ของเจ้าของฟาร์มค่ะ พอดีหนูเพื่อนเมาทำมือถือหล่นไว้ ฉันเลยเก็บไว้ให้”
“งั้นฉันไม่รบกวนแล้วนะจ๊ะ” แล้วปลายสายก็กดตัดสายไป ปรียาวรรณก็ลดโทรศัพท์ลงแล้วลุกขึ้นยืนโดยมีสามีประคองลุกและเดินกลับบ้านตัวเอง ที่อยู่ห่างจากนี้ไม่ไกลเท่าไหร่ ถือว่าเดินเล่นชมดาวกลับบ้านก็แล้วกันวันนี้
“อือ...คนอย่างเพื่อนไม่มาว...” มัลลิกาพึมพำและคมธรรมก็วางร่างเล็กที่อุ้มมานอนราบไปบนเตียงนุ่ม ยิ่งมองคนเมาไม่ได้สติก็ยิ่งมันเขี้ยวอยากกัดเม้มสองแก้มแดงๆ เพราะสาโทจริงๆ แล้วยังมาพูดอีกว่าไม่เมา เท้าทั้งสองข้างก็เตะป่ายไปกับอากาศ สองมือก็ปัดป่ายไปมาด้วย เนี่ยแหละ เมาสาโทของแท้
“ดูสิ เมาเหมือนหมาขนาดนี้ยังบอกไม่เมา แต่น่ารักกว่าหมาหลายขุม” เท้าสะเอวจ้องมองคนเมาที่ตอนนี้ดิ้นกลิ้งไปมาบนเตียงขนาดเล็กและเมื่อเห็นว่าเธอกลิ้งจะตกก็รีบคว้าดึงไว้
“อือ...คนอย่างเพื่อนไม่เมาแน่นอน เพื่อนซะอย่าง อึก! อ้วก...”
อาหารและสาโทที่กินและดื่มไปก็ย้อนออกมาทางเดิมเปรอะเปื้อนปากและคอ รวมถึงที่นอนไปหมด
อ้วก!
คมธรรมแหงนหน้าขึ้นมองเพดานของห้องนอนแล้วก็มองไปยังคนที่อาเจียนเลอะตัวเอง ตอนนี้มีสภาพเหมือนหมาจริงๆ นั่นแหละ แถมข้างถนนด้วย
“พี่ไม่ได้อยากทำนะ แต่พี่ต้องทำ เพราะเพื่อนอ้วกเปื้อนไปทั้งตัวแบบนี้ นอนไม่ได้แน่” เขาขยับตัวไปนั่งบนเตียงข้างๆ เธอแล้วถลกดึงเสื้อเอวลอยเปิดไหล่ของเธอออกก็เห็นบราไร้สายของเธอที่กำลังซุกซ่อนความอวบอูมใหญ่โตอยู่ และแน่นอนว่าเขากลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอด้วยความยากลำบาก ก็หน้าอกของมัลลิกาทั้งใหญ่และเหมือนจะแน่นด้วย และไม่ให้ความสงสัยนั้นเกิดขึ้นนาน เขาจึงใช้มือทั้งสองข้างวางทาบกับอกที่ยังมีบรากั้นอยู่แล้วนวดคลึงเบาๆ
“อือ...รำคาญ...” คนเมายกมือปัดสิ่งที่รบกวนหน้าอกตัวเองออกแล้วขยับพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้ามาทางคมธรรมจนหน้าอกนั้นดุนดันกับหัวเข่าของเขา และสองมือน้อยก็คว้ากอดเอวหนาไว้
“อือ...เพื่อนจะกอดจีซบ จีซบนอนกับเพื่อนนะวันนี้ อึก! จีซบของเพื่อน อึก! หล่อ...” ทั้งพึมพำและกระแซะกอดคนตัวโต จากที่นอนที่เตียงก็เคลื่อนมานอนหนุนตักหนาของคมธรรม
“มันเป็นใคร จีซงจีซบไหนวะ อย่าให้กูเจอนะ กูกระทืบมึงหน้าเละแน่ มึงจะหล่อมาแต่ไหนกูไม่รู้ แต่ที่นี่กูคือที่หนึ่ง” กัดกรามแน่นพร้อมกับผลักร่างเล็กที่นอนหนุนตักตัวเองออกห่าง แต่มือเล็กก็คว้ามือของเขาไปกอดแนบแก้มพร้อมพึมพำถึงผู้ชายที่ชื่อจีซบอีกครั้ง และเหมือนจะเพ้อเรียกบ่อยด้วยทั้งๆ ที่เมา
“อุวะ! มันเป็นใคร ไอ้จีซบเนี่ย”
“จีซบจ๋า...จีซบของเพื่อน ร๊าก...”
และที่ทำให้คมธรรมแทบสติแตกก็ตอนที่มัลลิกาบอกรักด้วยเนี่ยแหละ
“จะรักมันยังไงพี่ไม่สน ตอนนี้เพื่อนอยู่กับพี่ นมนี้ของพี่” เขาไม่สนใจและรังเกียจอ้วกที่เลอะเปื้อนตามคอของเธอ เขากระตุกดึงบราที่ปกปิดสองเต้าออกอย่างรวดเร็วจนสองเต้าอวบอูมเด้งออกมาให้เห็น และใบหน้าหล่อคมก็ซุกซบตะกละตะกลามลงหาสองเต้าทันที ส่วนมือที่ถูกดึงกอดไว้ก็ดึงออกมากอบกุมสองเต้าล้นมือพร้อมคลึงเฟ้นหนักหน่วง
“อ่ะ...อื้อ...จักจี้นะจีซบ เพื่อนจักจี้ อ่ะ...อื้อ...” มัลลิกาส่งเสียงบอกคนที่กำลังทำให้เธอรู้สึกจักจี้ตรงอกพร้อมปัดมือผลักออก ส่วนดวงตาสวยนั่นพร่าเลือนรางมองอะไรไม่ชัดเพราะฤทธิ์ของสาโท
“อุวะ! มันเป็นใครวะไอ้จีซบ อย่าให้เจอนะ มึงกินยำตีนกูแน่ แต่ตอนนี้ขอหน่อยเถอะ ขอสั่งสอนหน่อยเถอะ จะกัดให้หัวนมขาดไปเลย จะดูดให้ช้ำทั้งอกเลย” แล้วคมธรรมก็จัดการฝากฝังรอยราคีของตัวเองไว้ตามสองเต้าที่บีบเคล้นล้นมือ พร้อมปากหนาตวัดกัดดึงรั้งเม้มยอดอกสีชมพูระเรื่อด้วยความมันเขี้ยวและโกรธ
“อ่ะ...เจ็บ จีซบ...เพื่อนเจ็บ อื้อ...” แม้จะเมาแค่ไหน แต่ก็รับรู้ถึงความเจ็บปวดมากกว่าความเสียว หล่อนพยายามบดกายถอยหนีพร้อมดันหัวของคมธรรมออกจากอก ส่วนคมธรรมยิ่งมัลลิการ้องครางถึงแต่ผู้ชายแปลกหน้าที่ไม่รู้จักก็ผละออกห่างแล้วดึงรั้งผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เธอ ก่อนจะเดินไปยังประตูแล้วกระชากเปิดออกด้วยความโมโหแล้วกระแทกปิดด้วยอารมณ์เช่นกัน
ปัง!
“อือ...จีซบจ๋า...จีซบของเพื่อนหล่อที่สุด สามี...สามีที่รัก อ่า...คิกๆๆ”
คนเมาที่ถูกทิ้งคนเดียวในห้องยังคงเมาละเมอถึงนักแสดงเกาหลีในดวงใจตัวเองไม่หยุด ก็นะ ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วมีแฟนคนเดียวตลอดมาคือโซจีซบคนนี้นี่แหละ ที่ห้องนอนที่บ้านก็เต็มไปด้วยรูปของดาราที่รักมาก และแน่นอนว่ารักโซจีซบมากจนไม่สามารถมองผู้ชายคนไหนได้เลย และผู้ชายทุกคนก็ไม่มีเสน่ห์ต่อเธอ แต่ตอนนี้มันกลับไม่ใช่แล้ว คมธรรมทำให้เธอรู้สึกเปลี่ยนไป ใจเต้นแรงทุกครั้งเมื่อได้อยู่ใกล้ ได้พูดคุย ได้สบตา ทุกๆ อย่าง...
“ม่าย...ม่าว...” เป็นแบบนี้อยู่นานจนเผลอหลับไปเอง ส่วนคนที่ออกไปนั้นก็เตะฝุ่นตลอดทางกลับไปกระท่อมส่วนตัวทั้งๆ ที่วันนี้ตั้งใจจะกลับไปนอนบ้านอีกคืน แต่ตอนนี้หมดอารมณ์แล้ว และยังเอ่ยมาดร้ายผู้ชายที่มัลลิการักไปด้วย จากตอนแรกจะเช็ดตัวให้เธอได้นอนสบาย แต่เธอก็ทำให้โกรธเสียก่อน
“นอนทั้งแบบนั้นแหละ อยากรักมันมากนักไอ้จีซบ ก็ให้มันมาเช็ดตัวให้สิ” พึมพำน้อยใจไปตลอดทางเดิน