2.ตาสบตา

3062 คำ
ณ ฉลองเปิดตัวหนังสือใหม่ของพาฝัน.... วทนิกาก็แต่งตัวสวยด้วยชุดเดรสสีขาวน่ารักเข้ามาในงานก็เจอกับเหล่านักเขียนและบรรณาธิการของสำนักพิมพ์หลายๆบริษัทมารวมตัวกัน เพราะนักเขียนที่ชื่อพาฝันคนนี้นั้นเป็นไฮโซเซลิบริตี้ชื่อดัง ทำให้คนในแวดวงหนังสือมาร่วมงานกันเยอะตามคำเชิญที่ได้รับ “สวัสดีครับคุณเนย...เจอกันอีกแล้วนะครับ....ไม่คิดเลยว่าคุณเนยก็มางานนี้ด้วย” ปริญเข้ามาทักทายนักเขียนสาวตามประสาคนรู้จักกัน เพราะเคยร่วมงานกับวทนิกามาก่อน “อ่อ...สวัสดีค่ะคุณปริญ...เนยก็มาตามคำเชิญนั่นแหละค่ะ เห็นว่าจัดงานใหญ่ก็เลยลองมาดู เผื่อจะเจอคอนเนคชั่นใหม่ๆให้ตัวเองด้วย...” วทนิกาพูดไปด้วยรอยยิ้ม “นักเขียนชื่อดังอย่างคุณเนยยังต้องหาคอลเนคชั่นใหม่ๆอยู่อีกเหรอครับ มีแต่คนอยากจะขายขนมจีบให้คุณเนยมาทำงานด้วยทั้งนั้น รวมถึงบริษัทของผมด้วยอีกคน...หึๆ...คุณเนยพิจารณาข้อเสนอที่ทางบริษัทผมส่งไปหรือยังครับ” ปริญพูดชมเธอไปแล้วเอ่ยถามทันที เพราะนักเขียนที่มีพรสวรรค์แบบนี้ถ้าไม่ได้มาร่วมงานด้วยก็น่าเสียดายแย่ “ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ เนยกำลังพิจารณาอยู่ค่ะ แต่ตอนนี้เนยยังอยากจะเป็นนักเขียนอิสระมากกว่า ไว้เนยเปลี่ยนใจแล้วจะพิจารณาบริษัทของคุณปริญเป็นคนแรกเลยนะคะ...” วทนิกาพูดตอบไปแบบรักษาน้ำใจเขา เขาจ้องจะจีบเธอแบบนี้ขืนเธอเข้าไปทำงานด้วย ชีวิตเธอคงไม่เจอความสงบสุขแน่ๆ “พวกเรา คุณแดนเทพมา..เร็วเข้า...ไปถ่ายรูปทำข่าวกัน” เสียงของนักข่าวที่เดินเข้ามาหานักข่าวที่อยู่ใกล้ๆพูดออกมา แล้วนักข่าวก็พากันวิ่งออกไป ทำให้วทนิกาหันไปมองอย่างสงสัย “คุณแดนเทพนี่ใครเหรอคะ ทำไมนักข่าวถึงอยากจะไปทำข่าวขนาดนี้ล่ะคะคุณปริญ” วทนิกาถามไป เพราะเขาอยู่ในแวดวงสังคมนี้เขาต้องรู้แน่ๆ “อ่อ คุณแดนเทพ ปดิภัสพงษ์ไงครับ เจ้าของMRBอินเตอร์ไพร์สกรุ๊ป คุณเนยไม่รู้จักหรอกเหรอครับ ผมเห็นคุณเนยเขียนนิยายลงเว็ปของเขามาตั้งหลายปีแล้ว นี่ไม่รู้จักเจ้านายใหญ่ได้ยังไงครับเนี่ย...” ปริญตอบไปแล้วทำหน้าแปลกใจที่วทนิกาไม่รู้จักแดนเทพ เพราะเธอก็ลงนิยายในเว็ปของเขาอยู่ “เนยไม่ค่อยได้เจอพวกผู้บริหารหรอกค่ะ ส่วนใหญ่เนยเจอแต่คุณโรสสลินเขาน่ะค่ะ เนยก็เลยไม่รู้จัก...แล้วเขามามันมีอะไรสำคัญเหรอคะ นักข่าวถึงได้รีบไปทำข่าวเขาขนาดนั้นน่ะ” วทนิกาถามไปแบบไม่เข้าใจ “อาจเพราะเขากำลังมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับคุณพาฝันเจ้าของงานวันนี้ล่ะมั้งครับ อย่างว่าแหละครับ ไฮโซกับไฮโซคบกันนักข่าวก็ให้ความสนใจธรรมดา...มันก็ยิ่งช่วยให้งานหนังสือเป็นกระแสมากขึ้น...” ปริญพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มออกไป “อ่อแบบนี้นี่เอง...งั้นพวกเราก็เป็นตัวประกอบให้งานของคุณพาฝันเขาก็แล้วกันค่ะ...หึๆ...” วทนิกาพูดไปก็ยกแก้วขึ้นมาชนแก้วกับปริญไปด้วยรอยยิ้ม เพราะมันเป็นปกติของงานสังคมแบบนี้แล้วล่ะ ด้านแดนเทพที่เดินเข้างานมาแล้วเขาก็เจอสารินลูกน้องคนสนิทของเขายืนถือช่อดอกไม้ยืนรออยู่ที่หน้าแบล็คดรอปถ่ายรูปเขาก็ถอนหายใจทันทีเลย “คุณแดนครับ..คุณหญิงบอกว่าฝากเอาช่อดอกไม้นี้ให้คุณพาฝันด้วยครับ อ่อ แล้วคุณหญิงก็ย้ำว่าให้คุณแดนเอาให้คุณพาฝันด้วยมือตัวเองนะครับ...นี่ครับ...” สารินพูดบอกไปก็รีบยื่นช่อดอกไม้ให้เจ้านายของเขาทันที เพราะเขารีบมาดักรอเขาช่อดอกไม้ให้เลย ถ้าขืนให้เจ้านายเขาเห็นก่อน เจ้านายของเขาไม่ยอมรับแน่ๆ เขาเลยต้องเอามาให้ตอนนี้ “นายร่วมมือกับแม่ของฉันอีกนะสาริน...นายอยากจะโดนฉันไล่ออกจริงๆใช่ไหมห้ะ...” แดนเทพพูดกัดฟันออกไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เมื่อเขานั้นถูกยัดเหยียดให้รับช่อดอกไม้นี้อย่างปฎิเสธไม่ได้ “อย่าใจร้ายกับผมเลยครับ ผมปฎิเสธคุณหญิงท่านไม่ได้จริงๆ...คุณแดนก็เอาช่อดอกไม้ให้คุณพาฝันตามที่คุณหญิงต้องการไปเถอะครับ คุณพาฝันกับพวกนักข่าวมาแล้ว ยิ้มหน่อยครับคุณแดน....ยิ้ม....” สารินพูดไปแล้วก็ฉีกยิ้มให้เจ้านายของตัวเองไปแบบกวนๆ แต่แดนเทพกลับทำหน้ามึนตึงแบบนิ่งๆออกไป ทำให้สารินนั้นยิ้มแห้งเลยทีเดียว “พี่แดนมาแล้วเหรอคะ พาดีใจจังเลยค่ะที่พี่แดนมางานเปิดตัวหนังสือของพาวันนี้...อุ้ยดอกไม้นี่พี่แดนเอามาให้พาใช่ไหมคะ สวยจังเลยค่ะ....พรึบ....ขอบคุณนะคะพี่แดน พาชอบมากเลยค่ะ...” พาฝันเดินเข้ามาหาแล้วเอ่ยทักทายไปแล้วเธอก็มองช่อดอกไม้ในมือของเขา ก่อนจะหยิบมาดมด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดขอบคุณเขาด้วยความดีใจ เพราะตอนนี้นักข่าวกำลังรายล้อมเธอและเขาอยู่ เธอต้องทำให้นักข่าวและทุกคนเห็นว่าเธอคือคนสำคัญของเขา “...ดอกไม้นี่คุณแม่ผมฝากมาให้น่ะครับ...ผมแค่เป็นตัวแทนท่านเอามาให้น่ะครับ....” แดนเทพตอบไปแล้วก็มองหน้าเธอด้วยรอยยิ้ม เพราะเขาจะไม่ให้เธอได้คิดไปไกลอย่างที่เธอต้องการแน่ “คะ..? อ่อ คุณป้าฝากมาให้หรอกเหรอคะ งั้นพาฝากขอบคุณคุณป้าด้วยนะคะ ท่านน่ารักกับพาตลอดเลย...” พาฝันได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไปทันที เพราะเขาตอบแบบไม่ไว้หน้าเธอเลย ทำให้เธอนั้นกัดฝันฝืนยิ้มสู้ไป “ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ หมดหน้าที่ของผมแล้ว...” แดนเทพพูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไป เพราะเขาไม่อยากจะให้นักข่าวถ่ายภาพของเขาและเธอไปทำข่าวให้เขาเสียหายอีก แค่นี้เขาก็เบื่อจะตายอยู่แล้ว สารินที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ถึงกับทำหน้าตกใจเลยที่เจ้านายของเขาจะกลับแล้ว ขายังไม่ทันเดินเข้างานเลยก็จะกลับแล้วแบบนี้ คุณหญิงด่าเขาหูชาแน่ “พี่แดนจะรีบกลับไปไหนล่ะคะ ไหนๆพี่แดนก็มาแล้วช่วยเข้าไปเป็นแขกในงานของพาหน่อยสิคะ....พี่แดนมาเป็นตัวแทนคุณป้าไม่ใช่เหรอคะ พี่แดนก็ต้องทำหน้าที่ให้เสร็จสิคะ ถ้าพี่แดนยังไม่ได้เข้างานแล้วกลับไปตอนนี้ พาก็ไม่รู้จะตอบคุณป้ายังไงเลยนะคะ...” พาฝันเอามือจับแขนของเขาแบบห้ามๆ แล้วเธอก็รีบพูดไปแล้วแลมองไปทางนักข่าวที่กำลังถ่ายภาพของเขาและเธออยู่ “เฮ้อ....ก็ได้ ผมจะเข้าไปข้างใน แต่คุณกรุณาอย่าเรียกผมว่าพี่ เราสองคนไม่ได้สนิทสนมกันขนาดที่ต้องเรียกขานกันแบบนั้น...ช่วยรักษาระยะห่างกับผมด้วย ผมไม่ต้องการที่จะเป็นข่าวกับใคร...” แดนเทพพูดไปแบบจริงจัง เพราะเขาเบื่อกับท่าทีที่เธอทำสนิทสนมกับเขาเต็มทีแล้ว “คะ...? แต่คุณป้าให้พาเรียกพี่แดน...อ่อ คุณแดนแบบนั้นนะคะ...” พาฝันเจอคำพูดของเขาไปแล้วถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว “อื้อหือ นี่มันไม้กระดานไร้ความรู้สึกชัดๆเลย...” สารินที่ได้ยินก็คิดในใจอย่างอดไม่ได้ เพราะนับวันเจ้านายของเขายิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อยๆแล้ว แม้กระทั่งกับผู้หญิงสวยที่บอบบางแบบนี้ก็ไม่เว้น “แต่ผมไม่ต้องการ ดังนั้นต่อไปช่วยเรีบกผมแบบที่คนอื่นเรียกก็พอ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ผมหวังว่าคุณพาฝันจะเข้าใจนะครับ” แดนเทพพูดบอกไปแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมา ก่อนจะทำท่าเดินเข้าไปด้านใน แต่พวกนักข่าวก็เข้ามาร้องเรียกเขาซะก่อน “คุณแดนเทพคะ เราขอถ่ายภาพคู่ของคุณแดนเทพกับคุณพาฝันหน่อยได้ไหมคะ...” นักข่าวเอ่ยขอร้องไป ทำให้แดนเทพนั้นหยุดเดินแล้วหันไปมอง “ผมไม่สะดวก...ขอโทษด้วยนะครับ...”แดนเทพพูดจบก็เดินเข้าไปในงานทันที ส่วนสารินก็รีบเดินตามเจ้านายเข้าไปในงานอย่างปวดหัวเลยทีเดียว และนั่นก็ทำให้พาฝันและนักข่าวนั้นมองตามไปแบบอึ้งๆเลยกับคำตอบของเขา “อ่อ พอดีพี่แดนเขาไม่สะดวกถ่ายรูปน่ะค่ะ ขอโทษพี่ๆด้วยนะคะ....” พาฝันหันไปขอโทษพวกนักข่าวด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “แล้วสรุปความสัมพันธ์ของคุณแดนเทพกับคุณพาฝันนี่ยังไงกันแน่คะ...” นักข่าวถามไป “ตอนนี้กำลังซุ่มคบกันอยู่ใช่ไหมคะ ได้ข่าวว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่งเห็นดีเห้นงามด้วยใช่ไหมครับ” นักข่าวอีกคน “อ่อ...เรื่องนี้พาขออนุญาติไม่ตอบพี่ๆนักข่าวนะคะ วันนี้ฝากหนังสือของพาด้วยนะคะ พาคงต้องขอตัวไปดูแขกคนอื่นๆต่อก่อน ขอตัวเลยนะคะ...” พาฝันพูดจบก็รีบเดินหนีเข้าไปในงานทันที “จัดการพวกนักนักข่าวพวกนี้ด้วย ยัดเงินทำข่าวของฉันกับพี่แดน ทำยังไงก็ได้ให้พวกเขาเต้าข่าวของฉันกับพี่แดนขึ้นมาดีๆ....” พาฝันเดินไปหาเลขาของเธอแล้วให้เลขาจัดการพวกนักข่าวพวกนี้ไป เพราะตอนนี้เธอถูกแดนเทพเมินใส่ จนเธอไม่มีอารมณ์ที่จะมาตอบพวกนักข่าวแล้ว พอพาฝันเดินไปพวกนักข่าวก็รีบเดินตามแต่ถูกห้ามไม่ให้เข้าไปด้านใน แล้วเลขาของพาฟันก็แอบกระซิบกระซาบนักข่าวไป เพื่อให้นักข่าวเขียนข่าวของพาฝันและแดนเทพไปในทางเหมือนว่าทั้งสองกำลังสุ่มคบกัน เพราะนักข่าวก็ได้ภาพที่แดนเทพส่งมอบช่อดอกไม้ให้พาฝันไปแล้ว ก็น่าจะใช้ได้ “อืดๆ..อืดๆ....อ่อ พอดีมีสายเข้า งั้นเนยขอตัวก่อนนะคะคุณปริญ ไว้คุยกันใหม่นะคะ...” วทนิกามองโทรศัพท์ที่มีสายเรียกเข้าแล้วเธอก็เงยหน้าบอกปริญไป “อ่อครับ...แล้วเจอกันครับคุณเนย...ยังไงผมก็รอร่วมงานกับคุณเนยอีกครั้งนะครับ...” ปริญบอกไปแล้วก็ยิ้มให้เธอไปอย่างอ่อนโยน “ค่ะคุณปริญ แล้วเนยจะติดต่อไปนะคะ ขอบคุณค่ะ...” วทนิกาตอบเขาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน จากนั้นเธอก็รีบกดรับสายของผู้เป็นแม่ที่โทรเข้ามาทันที “ฮัลโหลยัยเนย ฉันโทรหาแกไม่รู้กี่สายแล้วทำไมแกไม่รับห้ะ...” เสียงจี๊ดๆพูดออกมาจนวทนิกาต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูของเธอเลยทีเดียว “เนยมางานเปิดตัวหนังสืออยู่ค่ะ แม่มีอะไรคะ...” วทนิกาถามไปกลับไป ทั้งที่เธอก็พอจะเดาได้ว่าแม่เธอโทรมาเพราะอะไร “เงินฉันหมดแล้วน่ะสิจะมีอะไรล่ะ...แกรีบโอนเงินมาเลยนะยัยเนย...ฉันจะได้ไปต่อทุน...ตอนนี้ยัยคุณนายเฉิดฉายน่ะมันเอาเงินฉันไปหมดแล้ว” อรอุมาพูดไปอย่างหงุดหงิด “เอาอีกแล้วนะแม่ หนูบอกแล้วใช่ไหมว่าให้หยุดเล่นไพ่น่ะ ทำไมแม่ไม่ฟังหนูบ้างเลย...เงินหมดแล้วแม่ก็กลับบ้านสิคะ จะไปเล่นอีกทำไม...หนูไม่มีให้แม่หรอกนะคะ” วทนิกาต่อว่าแม่ของเธอไปอย่างไม่ชอบใจนัก ก่อนจะปฎิเสธไปเพราะเธอไม่สามารถเอาเงินที่หาจากน้ำพักน้ำแรงของเธอไปให้แม่ถลุงเงินในบ่อนได้ “นังลูกเนรคุณ อย่างแกน่ะเหรอจะไม่มีเงิน เงินเดือนเดือนนึงของแกไม่รู้กี่หมื่น เอามาให้แม่แค่หมื่นสองหมื่นมันจะเป็นอะไรห้ะ...” อรอุมาพูดไปอย่างโมโหที่ลูกสาวไม่ให้เงิน “เฮ้อ...ก็ถ้าแม่เอาไปซื้อข้าวกินหนูก็จะโอนให้เดี๋ยวนี้แหละค่ะ แต่ถ้าแม่เอาเงินของหนูไปเล่นไพ่ หนูไม่ให้...ถ้าแม่อยากได้ก็ไปขอที่พี่นัทเขาก็แล้วกันค่ะ” วทนิกาพูดไปเพราะเธอมีพี่ชายอีกคนแต่ว่าอยู่กับพ่อของเธอ ส่วนเธอก็อยุ่กับแม่ตามที่พ่อแม่ของเธอตกลงกันตอนที่หย่า ซึ่งทั้งสองก็แบ่งลูกไปเลี้ยงกันคนล่ะคน “ไปขอตานัท พ่อแกก็มาด่าฉันน่ะสิ เออ...แกไม่ให้ก็ไม่เป็นไร ฉันจะไปไล่ยืมเงินเขาเล่นต่อ แค่นี้แหละนังลูกไม่รักดี...” อรอุมาด่าลูกสาวแล้วก็กดวางสายไปทันที “เฮ้อ....แม่นะแม่...หาเรื่องอีกแล้ว...แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้หนูไม่พออีกหรือไง...” วทนิกาพูดออกไปหลังจากที่วางสายของผู้เป็นแม่ไป เพราะตั้งแต่ที่พ่อแม่เลิกกัน แม่ของเธอก็กลายเป็นคนหงุดหงิด ชอบเล่นไพ่กับพวกเพื่อนจนติดเป็นนิสัย พอเงินหมดก็มักจะโทรมาขอเธอแบบนี้ตลอด เธอก็ให้บ้างไม่ให้บ้างแล้วแต่สถานการณ์ จนตอนนี้เธอเหนื่อยเต็มทีแล้ว เหนื่อยจนอยากจะไปอยู่กับพ่อของเธอให้สิ้นเรื่อง แต่เธอก็ไม่สามารถทำใจทิ้งแม่ของเธอได้ลง เพราะท่านก็ไม่เหลือใครแล้วนอกจากเธอ ดังนั้นเธอจึงต้องคอยดูแลและพยายามห้ามท่านไปแบบนี้ อย่างน้อยก็จนกว่าท่านจะคิดและกลับตัวได้สักวัน “อยู่ที่นี่ไปก็ไม่สนุกแล้ว...กลับดีกว่าเรา....อื้อ..ไม่ได้สิ มาแล้วก็ต้องกินให้อิ่มก่อน อิ่มแล้วก็ค่อยกลับ..” วทนิกาพูดออกไปแบบเซ็งๆ แล้วเธอก็หยิบแก้วไวน์มาหนึ่งแก้วแล้วเธอก็ยกขึ้นมาดื่ม ก่อนจะเดินไปหยิบอาหารมากินอย่างเพลิดเพลิน “อื้ม..อร่อยทุกอย่างเลย...เอานี่ด้วยดีกว่า...อ้ะ เอานี่ด้วย...แล้วก็นี่ด้วย...” วทนิกาพูดไปก็คีบอาหารใส่จานของเธออย่างชอบใจ ก่อนจะพอใจกับอาหารที่เธอได้มาแล้วเธอก็หยิบไวน์แก้วใหม่มา ก่อนจะหันหลังไปด้วยท่าทางร่าเริง “ปึก!....เคร้ง!....” วทนิกาหันไปก็ชนเข้าไปใครคนหนึ่งจนจานและแก้วในมือนั้นล่วงหล่นลงไป พร้อมกับร่างของเธอที่จะล้ม ทำให้เธอนั้นเอื้อมมือไปดึงสายเนคไทของคนที่ชนเธอไว้ จนตัวเขาโน้มลงมา แล้วเธอก็ได้เห็นหน้าหล่อของเขาเข้ามาใกล้เธอจนสุดท้ายแล้วมันก็.... “....จุ๊บ....” แดนเทพที่เดินผ่านมาทางโซนอาหารเขาก็ไม่ทันได้มองจนเผลอชนกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้า แล้วเธอก็เอามือดึงเนคไทของเขาจนเขาเอามือเข้าไปคองเธอไม่ให้ล้ม แล้วเขาก็ก้มลงไปจุ๊บปากของเธออย่างไม่ตั้งใจ “อ่าวเห้ย คุณแดน...” สามรีนเองก็ร้องอุท่านออกมา เมื่อเจ้านายของเขาไปจุ๊บปากกับสาวสวยคนหนึ่งเข้า ทั้งสองก็ตาเบิกกว้างอย่างตกใจเลยกับเหตุการณ์นี้ รวมถึงทุกคนที่อยู่ใกล้ๆนี้ด้วย พอแทนเทพได้ยินเสียงของสารินเขาก็เหมือนได้สติ ทำให้แดนเทพรีบดึงตัวเองขึ้นมาอย่างว่องไว แล้วรีบปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ “ผมขอโทษ ผม ผมไม่ได้ตั้ง....ใจ....” แดนเทพก็รีบพูดไปก็มองหน้าของหญิงสาวแล้วเขาก็อ้ำอึ้งไปทันที เมื่อได้เห็นหน้าสวยแบบเต็มๆตา ผู้หญิงบ้าอะไรวะเนี่ย ทำไมดูสวยดึงดูดใจขนาดนี้วะ แดนเทพมองแล้วก็คิดในใจไปอย่างอดไม่ได้ “ฉันต่างหากค่ะที่ต้องขอโทษ ขอโทษนะคะ ฉันซุ่มซ่ามเองค่ะ....” วทนิการีบเอ่ยขอโทษไปแล้วเธอก็เงยหน้ามองชายตรงหน้าอีกครั้ง แล้วใจเธอมันก็เต้นแรงขึ้นมาทันทีเลย คุณพระ เกิดมาเธอพึ่งจะเคยเห็นผู้ชายหล่อบาดตาบาดใจของเธอนี่แหละ อย่างกับพระเอกเกาหลีเลยแม่ง... “อ่อ ไม่มีอะไรครับทุกคน มันเป็นเหตุสุดวิสัยน่ะครับ...ขอโทษทุกคนด้วยนะครับ...น้องครับ ช่วยเก็บกวาดหน่อยเร็ว เจ้านายไม่เป็นอะไรนะครับ...” สารินก็เอ่ยขอโทษตาม แล้วรีบบอกพนักงานให้มาทำความสะอาดทันที “ฉันไม่เป็นไร...คุณผู้หญิงคนนี้ต่างหาก...ชุดเขาเลอะไวน์หมดแล้ว...” แดนเทพพูดบอกไปแล้วมองชุดเดรสสีขาวของเธอที่เลอะไวน์สีแดงอย่างชัดเจน “ห้ะ อะไรนะคะ....เห้ย....ชุดนี้แพงด้วยอ่ะ...ซวยแล้วไง....อือ....ทำไงดี....” วทนิกาได้ยินแบบนั้นก็ก้มมองชุดของเธอแล้วก็เห็นรอยเปื้อนจากไวน์วงใหญ่เลย เธอก็ทำหน้าเศร้าแล้วบ่นขึ้นมาทันทีเลย เพราะชุดนี้เป็นชุดที่พัชรายืมร้านเช่ามาให้เธอใส่มางานนี้ด้วย แล้วมันเปื้อนแบบนี้ เธอต้องชดใช้ค่าชุดเท่าไหร่เนี่ย คิดได้ดังนั้นวทนิกาก็ทำหน้าบึ้งตึงแล้วเงยหน้ามองชายตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่พอใจทันที เพราะคนหล่อทำให้เธอเดือดร้อนเข้าแล้ว... ส่วนแดนเทพที่ยืนมองเธออยู่พอเห็นหน้าเธอเงยขึ้นมาด้วยสีหน้าดุดันแบบโกรธๆแบบนั้นก็ขมวดคิ้วสงสัยทันที เพราะชุดเลอะแค่นี้เธอต้องโกรธขนาดนี้เลยเหรอ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม