ณ คอนโดหรูใจกลางเมือง
สารินก็พาวทนิกามาที่คอนโดใหม่ที่เขาพึ่งจัดหาให้เมื่อวานนี้ตามคำสั่งของเจ้านาย จนเขาได้ห้องที่ถูกใจและถูกสไตล์ที่แดนเทพชอบ เพราะแดนเทพชอบห้องที่มีวิวทิวทัศน์มีระเบียงกว้างไม่อึดอัด ซึ่งคอนนี้ก็ปาเข้าไปเกือบสามสิบล้านเลย แต่เจ้านายของเขาถูกใจซะอย่างมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย
“พอดีผมพึ่งติดต่อซื้อคอนโดนี้มาให้กับเจ้านายเมื่อวาน ของในห้องส่วนใหญ่จะยังเป็นแบบจากทางโครงการนะครับ ทางนั้นเป็นห้องนอนใหญ่ที่คุณจะพักนะครับ ส่วนตรงนั้นเป็นห้องนอนเล็ก แล้วก็ห้องรับแขก ส่วนห้องครัวไทยอยู่ทางด้านหลังครัวฝรั่งนะครับ แล้วก็ห้องทำงานของคุณเนยอยู่ทางนี้ครับ ห้องนี้คุณแดนเทพให้ผมเตรียมไว้ต้อนรับคุณเนยโดยเฉพาะเลยนะครับ ส่วนนี่เป็นคีย์การ์ดแล้วก็รหัสห้องครับ คุณแดนให้ใส่เป็นเลขวันเกิดของคุณเนยครับ” สารินอธิบายบอกไปแล้วชี้ไปตามที่เขาพูดอย่างแนะนำเธอ พร้อมกับยื่นซองรหัสและคีย์การ์ดให้เธอไป
วทนิกาที่เดินเข้ามาในห้องก็พยักหน้าตอบรับไป เพราะมันหรูหราและใหญ่มาก ไม่รู้ว่าเธอทำงานเขียนนิยายไปจนแก่ เธอจะมีโอกาสมีเงินมาซื้อห้องชุดแบบนี้อยู่ไหม แล้วนี่เขาพึ่งจะซื้อห้องนี้ เพื่อเธองั้นเหรอ วทนิกาคิดในใจไปแบบสงสัย
“พึ่งซื้อห้องนี้เพื่อต้อนรับฉันงั้นเหรอคะ คุณสารินอย่ามาหลอกเนยเลยค่ะ รอบนี้ไม่สำเร็จหรอกนะคะ เขาจะมาลงทุนซื้อห้องใหม่ให้เนยอยู่ทำไมกันคะ...อย่าทำเหมือนเขาเป็นคนดีเลยค่ะ...” วทนิกาพูดไปแบบไม่เชื่อคำพูดของสารินที่เหมือนจะให้แดนเทพนั้นดูดีในสายตาเธอ แต่ไม่มีวันหรอก เขาหลอกเธอเซ็นสัญญามาเป็นนางบำเรอให้เขาแบบนี้ เธอมองเขาว่าเป็นคนดีไม่ได้หรอก
“ผมไม่ได้โกหกคุณเนยเลยนะครับ คุณแดนเขาตั้งใจให้ผมซื้อห้องนี้เพื่อคุณเนยจริงๆนะครับ คุณแดนเขาก็มีด้านดีๆเหมือนกันนะครับ ถ้าคุณเนยลองเปิดใจ...” สารินพูดไปด้วยรอยยิ้มแบบเข้าใจเธอ
“หึ เปิดใจให้คนเจ้าเล่ห์แบบเขาเหรอคะ ฝันไปเถอะค่ะ เขาหลอกฉันได้แค่ครั้งนี้เท่านั้นแหละค่ะ ต่อไปเขาจะหลอกฉันแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว..” วทนิกาพูดไปแบบมาดมั่น
“โอเคครับ เดี๋ยวคุณเนยอยู่กับคุณแดนไปก็คงจะรู้จักนิสัยใจคอของคุณแดนเขาแล้วล่ะครับ...พูดไปตอนนี้คุณเนยก็คงไม่เชื่อ...อ่อ...คุณแดนฝากมาบอกว่าถ้าคุณเนยไม่ชอบห้องนี้ตรงไหนบอกมาได้เลยนะครับ ผมจะค่อยๆให้คนเข้ามาปรับเปลี่ยนให้ตามที่คุณเนยต้องการเลย” สารินอธิบายบอกไปแล้วเขาก็ลากกระเป๋าของวทนิกามาที่กลางห้องโถงกว้างๆนี้
“..ไม่เป็นไรค่ะ แบบนี้ก็โอเคอยู่แล้วค่ะ...ฉันไม่ต้องการจะปรับเปลี่ยนอะไรแล้ว เพราะยังไงฉันก็คงอยู่ที่นี่ไม่นานหรอกค่ะ...” วทนิกาพูดไปแล้วมองไปรอบๆด้วยแววตาเศร้า เพราะเธอต้องใช้เวลาห้าปีกับการอยู่ที่นี่
“อ่อครับ...ถ้าคุณเนยมีปัญหาอะไรก็โทรหาผมได้เลยนะครับ...ผมคงต้องขอตัวก่อน...” สารินบอกไปหลังจากที่หมดหน้าที่ของเขาแล้ว
“เดี๋ยวค่ะ...แล้วคุณแดนเทพล่ะคะ เขาอยู่ไหนคะ” วทนิกาถามไปแบบอยากรู้ เธอจะได้เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับเขา
“คุณแดนทำงานอยู่ที่บริษัทครับ ท่านคงจะเข้ามาหาคุณเนยตอนเย็นๆ ล่ะมั้งครับ คุณเนยก็จัดเสื้อผ้าแล้วก็ของใช้ตามสบายเลยนะครับ...” สารินพูดไปแบบนั้น เพราะเขาก็ไม่แน่ใจว่าเจ้านายของเขาจะมาเมื่อไหร่เหมือนกัน
“ค่ะ...ขอบคุณนะคะ...” วทนิกาพยักหน้าใส่เขาแล้วตอบไป เพราะอย่างน้อยตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้โดนเขาเชือดตั้งแต่เช้าแบบนี้ เธอก็โล่งใจไป
“งั้นผมไปแล้วนะครับ...สวัสดีครับ” สารินพูดจบก็ยิ้มให้แล้วเขาก็เดินออกไปจากห้องทันที
“โล่งอกไปที อย่างน้อยเขาก็ยังไม่ได้มาตอนนี้ ก็ถือว่าเรายังพอมีเวลาอยู่...เฮ้อ...นี่เราต้องเป็นนางบำเรอให้อีตานี่จริงๆเหรอเนี่ย...” วทนิกาบ่นออกมาด้วยสีหน้าโอดครวญ
“แล้วอีตานี่จะลงทุนซื้อห้องใหม่ให้เราอยู่เนี่ยนะ หึ ไปหลอกเด็กอมมือเถอะ ที่นี่คงผ่านผู้หญิงของนายมาหลายคนแล้วน่ะสิ...ชิ...” วทนิกาพูดไปแบบไม่เชื่อ ก่อนจะเดินลากกระเป๋าเข้าไปที่ห้องนอนใหญ่ทันที
วทนิกาก็ถึงกับมองแบบอึ้งๆเลยเพราะห้องสวยมากและก็ใหญ่มากด้วยแถมยังดูสะอาดสะอ้านมาก วทนิกาก็เอากระเป๋าทิ้งไว้ตรงนั้นแล้วเธอก็เดินไปสำรวจห้องน้ำที่มีส่วนแยกชัดเจน แถมยังมีอ่างจากุซซี่แล้วก็ห้องแต่งตัวอีก
“มีเสื้อผ้าของเขาด้วยนิ ยังกล้ามาหลอกว่าพึ่งซื้อมาเมื่อวานอีก ชิ...ใครจะโง่เชื่อ...” วทนิกาเดินดูก็เห็นเสื้อผ้าของเขาถูกจัดเรียงไว้อย่างเรียบร้อยเลย จนเธอเห็นตู้ที่เป็นรูปผู้หญิงที่บานประตู เธอก็รู้เลยว่าเป็นตู้ของเธอแน่ๆ เธอก็เลื่อนประตูไปแล้วก็มองแบบอึ้งๆเลย
“คุณพระ...นี่เขาถึงขั้นมีชุดเซ็กซี่ไว้ในนี้เลยเหรอ คงพาสาวๆมานอนที่นี่บ่อยล่ะสิ...พรึบ...อื้อหือ...ใส่ขนาดนี้ทำไมไม่ให้แก้ผ้าเดินให้ดูเลยล่ะ” วทนิกาพูดไปขณะที่เอาชุดนั้นดึงออกมาดู ซึ่งมันโป๊มาก เธอเลยคิดว่าเขาคงเตรียมชุดพวกนี้ไว้ให้ผู้หญิงที่มานอนที่นี่กับเขาแน่ๆ
“กริ้งๆ...กริ้งๆ...โอ้ย ตกใจหมดเลย ใครโทรมาอีกล่ะเนี่ย เบอร์ไม่คุ้นเลย..” วทนิกาทำท่าทางตกใจแล้วเธอก็หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่เธอใส่มาขึ้นมาดู ก็เห็นว่าเป็นเบอร์แปลกเธอก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย ก่อนจะกดรับสายไป
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ วทนิกาพูดสายค่ะ...” วทนิการับสายแล้วเอ่ยพูดไปแบบแนะนำตัว เพราะอาจมีคนโทรมาติดต่องานเธอก็ได้ ดังนั้นการแสดงความสุภาพต้องมาอันดับแรกสำหรับเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา
“ผมเองนะ...แดนเทพ...ตอนนี้คุณอยู่ที่ห้องแล้วใช่ไหม...” แดนเทพเอ่ยถามไปด้วยเสียงอ่อน เพราะนี่ก็สิบโมงกว่าแล้ว สารินน่าจะพาเธอไปถึงคอนโดแล้ว
“ค่ะ คุณสารินพึ่งพาฉันมาส่งเมื่อกี้ค่ะ...คุณโทรมาทำไมคะ” พอวทนิการู้ว่าเป็นแดนเทพเธอก็ทำหน้าเซ็งทันที ก่อนจะตอบไปแบบส่งๆ
“ผมก็แค่โทรมาเช็คว่าของเล่นชิ้นใหม่ของผมอยู่ที่บ้านของผมหรือยังเท่านั้นเอง...ทำไมหึ ผมโทรหาคุณไม่ได้หรือไง...” แดนเทพตอบไปแบบกวนๆ
“ไอ้คนบ้า กล้าพูดออกมาได้ไม่อายปาก ใครเป็นของเล่นของคุณกัน เดี๋ยวเถอะ ของเล่นชิ้นนี้จะทำให้คุณหัวปั่นเลย...” วทนิกาพูดด่าทอเขาในใจอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะกัดฟันแน่นแล้วพูดตอบเขาไป
“โทรมาได้ค่ะ ทุกเวลาที่คุณต้องการเลยค่ะ...” วทนิกาพูดไปก็เอาโทรศัพท์ที่แนบหูออกมาแล้วทำท่ากำหมัดเหมือนจะตีเขาแบบโมโห
ทำให้แดนเทพที่มองเธอผ่านกล้องวงจรปิดนั้นยิ้มมุมปากออกมากับท่าทางที่เธอทำใส่เขาลับหลังแบบนี้ ดูท่าว่าคืนนี้เขาจะต้องต้อนรับเธอหนักๆหน่อยแล้ว
“พูดเสียงหวานหูแต่ผมเห็นคุณกำลังกำหมัดเหมือนจะตีผมเลยนะ...ทำไมเหรอ ผมมันน่ามั่นเขี้ยวเขี้ยวมากขนาดนั้นเลยเหรอคุณ” แดนเทพถามไปแล้วยิ้มออกมา เมื่อเห็นสีหน้าของเธอกำลังอึ้ง
“คะ..? คุณเห็นเหรอคะว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ นี่คุณติดกล้องไว้งั้นเหรอคะ..” วทนิกาพูดไปก็เงยหน้ามองหากล้องวงจรปิดทันที แล้วเธอก็เห็นมันอยู่ที่หัวมุมประตูพอดี นี่ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ว่ามันคือกล้องแน่ๆ เพราะมันเหมือนตัวเซนเซอร์ประตูมาก
“ใช่...ผมต้องติดเอาไว้สิ เผื่อวันไหนที่ผมไม่ได้อยู่กับคุณแล้วคุณเอาผู้ชายคนอื่นเข้ามาทับรอบผมจะทำยังไงล่ะ...ดังนั้นคุณจะทำอะไรก็อยู่ในสายตาของผมทั้งนั้น...เพราะฉะนั้นก็ทำตัวดีๆ อย่านอกลู่นอกทาง...” แดนเทพพูดบอกไปแล้วเขาก็มองเธอผ่านกล้องวงจรปิดนั้นด้วยรอยยิ้มชอบใจ
“ถ้าฉันจะเอากับผู้ชายคนอื่น ฉันก็คงไม่โง่พามาเอาที่นี่หรอกค่ะ โรงแรมข้างนอกก็มีเยอะแยะไปค่ะ...คุณไม่จำเป็นต้องมาติดทั่วบ้านแบบนี้...ถ้าเกิดว่าเรามี..อ่อ...มีอะไรกัน มันก็ถูกบันทึกไว้หมดน่ะสิ” วทนิกาพูดไปแล้วเธอก็เงยหน้ามองกล้องเพราะรู้ว่าเขากำลังมองเธออยู่
“หึๆ ทำไม คุณกลัวว่าคุณจะกลายเป็นนางเอกหนังเอวีหรือไง...อย่างคุณก็สวยเอ๊กซ์ใช้ได้เลยนะ...” แดนเทพพูดไปแบบแกล้งๆเธอ
“ฉันไม่ตลกนะคุณแดนเทพ..คุณจะติดกล้องไปทั่วห้องแบบนี้ไม่ได้ ฉันไม่โอเคค่ะ” วทนิกาพูดกับเขาเสียงเข้มเลย
“ขึ้นเสียงกับเจ้านายแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคุณ...คุณจะโอเคหรือไม่โอเค มันก็เรื่องของคุณ ตราบใดที่คุณอยู่กับผม ผมก็ต้องได้เห็นพฤติกรรมของคุณในตอนที่ผมไม่อยู่” แดนเทพพูดแกล้งเธอไปอีก เพราะเขาติดไว้แค่ห้องนี้แล้วก็โซนประตูที่มองเห็นห้องนั่งเล่นเท่านั้น
“ค่ะ....เอาที่คุณสบายใจเลยค่ะ อยากจะทำอะไรก็ทำ ฉันไม่มีสิทธิ์โต้แย้งอะไรคุณอยู่แล้วนิคะ” วทนิกาพูดประชดเขาไปแล้วทำหน้ามองบนใส่เขา
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ถ้าผมกับคุณมีอะไรกันในห้องนี้ ผมไม่ปล่อยให้มีภาพหลุดไปหรอก ภาพพวกนี้มีแค่ผมคนเดียวที่เข้าดูได้...เพราะฉะนั้นถ้าเรามีอะไรกันแล้วถูกกล้องบันทึกไว้ มันก็จะมีแค่ผมเท่านั้นแหละที่เห็นมันน่ะ..” แดนเทพพูดไปก็รู้สึกถึงความต้องการที่มันเริ่มประทุขึ้นมา เมื่อเขาเริ่มจินตนาการไปตามที่เขาคิด เขาก็เอามือลูบไล้เป้ากางเกงของเขาไว้ทันที
“ใจเย็นไว้ลูกพ่อ เย็นนี้ก็ได้ปลดปล่อยแล้ว ใจเย็น....” แดนเทพลูบไปแบบปลอบใจแล้วเขาก็พูดบอกตัวเองในใจไปแบบอดทน
“ลามกจริงๆเลยผู้ชายบ้าอะไรเนี่ย นี่เธอต้องทนกับคนอย่างเขายังไงตั้งห้าปีเนี่ย แค่วันแรกเขาก็เอาเรื่องแล้ว...” วทนิกาก็คิดในใจไป
“เอาที่สบายใจเลยค่ะ สรุปแล้วคุณโทรมากวนกันแค่นี้ใช่ไหมคะ เดี๋ยวฉันจะจัดของแล้ว...ต้องวางสายแล้วค่ะ” วทนิกาพูดไปเพราะเธอไม่อยากจะคุยกับเขาแล้ว มันปวดหัว
“เดี๋ยวอย่าพึ่งวางสาย และต่อไปมีแค่ผมเท่านั้นที่จะวางสายใส่คุณได้ คุณห้าม...เข้าใจไหม” แดนเทพพูดไปแบบเผด็จการเลย เพราะเขาไม่ชอบท่าทางที่เธอไม่แคร์เขาแบบนี้
“ค่ะ มีอะไรอีกไหมคะที่คุณจะสั่งฉัน” วทนิกาพูดถามเขาไปแบบประชด เพราะเขาสั่งเธอแทบทุกอย่างเลย
“มี...คุณเห็นชุดในตู้แล้วใช่ไหม นั่นคือชุดนอนของคุณที่จะต้องใส่นอนกับผมทุกคืน...เริ่มจากคืนนี้...เลือกมาหนึ่งชุดแล้วใส่ให้ผมดู เลิกงานแล้วผมจะกลับไป ต้องได้เห็นชุดพวกนั้นอยู่บนตัวคุณ” แดนเทพพูดบอกไปแล้วิยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เลย
“ห้ะ คุณจะให้ฉันใส่ชุดพวกนี้เนี่ยนะคะ มันแทบไม่ปกปิดอะไรเลยนะคุณ ถ้าจะให้ใส่แบบนั้นคุณไม่ให้ฉันเดินแก้ผ้ารอคุณเลยล่ะคะ” วทนิกาพูดตอบเขาไปอย่างอดไม่ได้
“คุณจะใส่ไม่ใส่ก็เลือกเอาก็แล้วกัน...เพราะคนที่จะเดือดร้อนคือคุณไม่ใช่ผม ทางที่ดีคุณควรทำให้ผมพอใจจะดีกว่า เพราะมันจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคุณ เพราะผมไม่ใช่คนใจดีหรอก” แดนเทพบอกเตือนเธอไป
“ไม่บอกก็รู้ค่ะ ไม่งั้นคุณคงไม่หลอกฉันให้เซ็นสัญญาเป็นนางบำเรอของคุณหรอก...” วทนิกาพูดว่าเขา
“หึ เรื่องนี้โทษผมคนเดียวไม่ได้นะคุณ เพราะคุณเองก็โลภเงินที่ผมเสนอไปเอง จะทำยังไงได้ล่ะ ก็ต้องใช้เรือนร่างของคุณตอบแทนเงินที่ผมเสียไปสิ..รู้ไหมว่าผมไม่เคยลงทุนกับผู้หญิงคนไหนมากเท่าคุณมาก่อนเลย ดังนั้นคุณเตรียมตัวไว้เลย คืนนี้ผมจะกลับไปถอนทุนที่ผมลงทุนกับคุณไปให้หนักเลย...” แดนเทพพูดไปแล้วกัดริมฝีปากตัวเองอย่างหมั่นเขี้ยว เพราะยิ่งเห็นหน้าสวยๆของเธอผ่านกล้องแล้ว น้องชายของเขามันก็ไม่รักดีเอาซะเลย
“ผมจะทำงานต่อแล้ว คุณเตรียมตัวซะ...แค่นี้แหละ..” แดนเทพพูดเสริมไป แล้วเขาก็กดวางสายของเธอไป ก่อนจะมองเธอผ่านกล้องที่ทำหน้าเศร้าๆออกมา
“ผมไม่เอาคุณมาตกระกรรมลำบกหรอกวทนิกา กลับกัน..ผมจะทำให้คุณอยู่แบบสุขสบายอย่างที่ชีวิตของคุณไม่เคยได้รับ...แล้วคุณจะต้องขอบคุณผม ที่ผมเลือกคุณ....” แดนเทพพูดไป เพราะเขาเองก็ไม่คิดว่าเขาจะคิดวิธีบ้าๆพวกนี้ออกมาใช้กับเธอได้ยังไง แต่เธอก็ดันปลุกด้านมืดของเขาขึ้นมา ดังนั้นเธอก็ควรจะต้องรับมือกับมัน แดนเทพคิดไปก็กดปิดภาพจากกล้องวงจรปิดทันที
ส่วนวทนิกาพอแดนเทพวางสายไปแล้วเธอก็มองที่กล้องนั้นแล้วเดินไปหลบที่ใต้ประตูไม่ให้กล้องเห็นแล้วเธอก็ทำไม้ทำมือเหมือนจะร้องกรี๊ดออกมา แต่ก็ทำไม่ได้เพราะกลัวว่าเขาจะได้ยิน
“ไอ้คนบ้าอำนาจ เอาแต่สั่งอยู่นั่นแหละ...พ้นห้าปีเมื่อไหร่ฉันจะไม่ให้คุณได้เจอหน้าฉันอีกเลย...ไอ้คนเฮงซวย” วนิกาพูดไปแล้วเธอก็ทำหน้าบึ้งตึงออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เลย ก่อนจะเพ่งสายตาไปมองชุดนอนเซ็กซี่ที่อยู่ในตู้แบบเหนื่อยใจ
“เฮ้อ...ถ้าเอาชีวิตตัวเองไปเขียนเป็นนิยาย นิยาของฉันคงจะปังน่าดูอ่ะ...ใครจะไปคิดว่าฉันจะต้องกลายมาเป็นนางบำเรอให้ประธานบริษัทอย่างเขาเนี่ย...แค่คิดไปถึงตอนที่เธอจะต้องเจอเขาตอนเย็น เธอก็ขนลุกแล้วล่ะ” วทนิกาคิดในใจ