บทที่6 การเริ่มต้นใหม่ที่แท้จริง

1894 คำ
คริษฐาลากคนที่ยังมึนจนเกือบจะน็อกกลางอากาศออกมาจากตึกก่อนจะปล่อยมือเมื่อพาชายหนุ่มมาถึงจุดที่ไร้ผู้คน “ไง หายงงยัง” “คะ...เคท เคทต่อยเฮียเหรอ” เอาตรงๆ มั้ยล่ะ เขาไม่เคยโดนผู้หญิงที่ไหนต่อยมาก่อนเลยโดยเฉพาะคนตรงหน้า ร้อยวันพันปีคริษฐาไม่เคยจะสาวหมัดใส่เขาแม้แต่จะตบกันอย่างหยอกล้อ เธอยังไม่สามารถทำได้เลยสักครั้ง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ “ก็ต่อยน่ะสิ คิดว่าจูบหรือไง” “แล้วมันเรื่องอะไรฮะ ถึงมาต่อยกันแบบนี้” “ก็อยากต่อย ทำไมต่อยไม่ได้เหรอ ก็สอนให้ต่อยเองนี่ เรียนมาก็ต้องใช้...ไม่ถูกเหรอ” หญิงสาวลอยหน้าลอยตาตอบกลับ เล่นเอาคนที่สอนให้ต่อยถึงกับสะอึก...ใช่ เขาเป็นคนสอนศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวให้เธอเองและก็เคยบอกเธอด้วยว่าเรียนมาแล้วก็ต้องใช้จะได้ไม่เสียแรงฟรี เล่นย้อนกันแบบนี้ไปไม่ถูกเลยทีเดียว คริษฐาร้องหึในลำคอเมื่อเห็นใบหน้าไปไม่ถูกของชายหนุ่ม หญิงสาวหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมากดเปิดคลิปเสียงที่เธอวานให้จีรชาส่งมาให้ทางไลน์ พร้อมกับมองคนที่ยังตกอยู่ในอาการมึนงง พูดอะไรไม่ถูกหลังจากได้ฟัง “ยังไง” “เฮียมีเหตุผลนะ” คนความลับแตกเอ่ยเสียงหวั่นๆ เขาไม่ได้กลัวคริษฐา เพียงแค่เกรงว่าเธอจะเข้าใจเจตนาของเขาผิดไป “เฮียไม่ได้ตั้งใจโกหกหลอกลวงเคทนะ” “ไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็หลอกมั้ย หลอกก็คือหลอก มันเปลี่ยนความจริงไม่ได้หรอก” “แต่เฮียมีเหตุผล” “เหตุผลทางราชการหรืออะไรฉันไม่สนค่ะผู้กอง ฉันสนแค่ที่คุณทำเหมือนฉันเป็นตุ๊กตา เป็นของตายเท่านั้น” หญิงสาวสวนกลับคำว่ามีเหตุผลของชายหนุ่มพร้อมกับเงยหน้ามองสบตาคนตัวสูงกว่าอย่างไม่หลบสายตา “คุณทำอะไรไม่เคยปรึกษาฉันเลย ไม่เคยเล่า ไม่เคยอธิบาย นึกอยากจะตัดสินใจยังไงก็ทำ นึกอยากจะทิ้งก็ทิ้ง นึกอยากจะให้รอก็ให้รอ คุณเห็นฉันเป็นอะไรเหรอผู้กองคีรินทร์” คำพูดที่ชวนให้คนทำอะไรไม่เคยให้หญิงสาวมีส่วนในการตัดสินใจสะอึก รู้สึกจุกในลำคอจนพูดไม่ออก “เฮียแค่อยากให้เคทใช้ชีวิตอย่างที่เคทเคยอยากทำสักพักจนกว่าเฮียจะจัดการปิดคดีบ้าๆ นี้ได้และค่อยเริ่มต้นกับเคทโดยไม่มีใครบังคับก็เท่านั้นเอง” “เริ่มต้นใหม่? มันไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ใช้ใบหย่าปลอมแล้ว” หญิงสาวค้านก่อนจะกระชากคอเสื้อคนคิดอะไรไร้สาระโดยไม่จำเป็น ก่อนจะเอ่ยต่อ “ถ้าอยากทำอะไรบ้าๆ อย่างเช่นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ให้เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาก็อย่าขี้โกงสิ การใช้ใบหย่าปลอมมันเป็นการโกงชัดๆ ควรจะแฟร์ทั้งสองฝ่ายสิ” “แฟร์?” “ก็หย่ากันจริงๆ แล้วก็จีบเหมือนคนเพิ่งทำความรู้จักกัน ให้โอกาสทั้งฉันและตัวผู้กองเองได้เลือก ไม่ใช่ขี้โกงหลอกให้เซ็นใบหย่าปลอมแบบนี้ อีแบบนี้น่ะถ้าเกิดฉันไม่อยากเริ่มต้นใหม่กับผู้กองแล้ว ก็คิดจะมัดมือชกกันเลยสิ” คีรินทร์รู้สึกจุกไปหมด คริษฐารู้ทันเกมเขาแล้วทุกอย่าง... ใช่ เขากะจะมัดมือชกจริงๆ ถ้าเธอไม่โอเค ก็เมียทั้งคนใครจะยอมเสียไปง่ายๆ เล่า “ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อต่อว่า ฉันมาที่นี่เพราะฉันมีสามทางเลือกให้ผู้กอง และผู้กองก็ต้องเลือกด้วย” หญิงสาวผู้ตัดสินใจแน่วแน่มาจากบ้านแล้วไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มได้ตอบโต้อะไร เธอชี้แจงจุดประสงค์ก่อนจะอธิบายถึงทางเลือกที่เธอคิดไว้ในทันที “ทางเลือกที่หนึ่ง ไม่หย่า ทำเหมือนกับว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น กลับไปอยู่ด้วยกัน ใช้เวลาเรียนรู้กันแทนการเริ่มต้นใหม่” “ทางเลือกที่สอง หย่าจริงๆ แล้วก็มาจีบ ไม่เล่นตุกติก และทางเลือกที่สาม...” หญิงสาวเว้นคำพูดก่อนจะปล่อยมือที่จับคอเสื้อชายหนุ่มอยู่ออกและยกมือขึ้นกอดอก ยักไหล่ “ถ้าไม่อยากเลือกหนึ่งในสองข้อแรกก็หย่าขาดไปเลย” “ฮะ!?” “ได้ยินไม่ผิด หย่าขาดไปเลย” หญิงสาวย้ำชัดก่อนจะหันหน้าหนี “ทางเลือกที่สามเนี่ยไม่เหมือนทางเลือกที่สอง เพราะหย่าแล้วฉันจะหนีไปให้ไกลสุดขอบฟ้าเลย” จริงๆ แล้วทางเลือกมันก็ไม่ได้ยาก คีรินทร์สามารถเลือกทางเลือกที่หนึ่งได้เลยเพราะเขาก็ให้อิสระเธอมาพอสมควรแล้ว แต่เขาเลือกทางนั้นไม่ได้ เพราะเหตุผลที่เขาต้องทำให้ทุกคนคิดว่าเขาหย่ากับเธอแล้วมันยังต้องดำเนินต่อไป เขาไม่สามารถกลับไปรักกันหวานชื่น หรือแสดงตัวเป็นสามีเธอได้ในตอนนี้ แต่จะให้เขาเลือกทางที่สอง เขารู้สึกหวั่นอยู่ลึกๆ เขาจะได้เมียคนเดิมกลับมามั้ย “ตกลงจะเลือกทางไหน...สาม?” “ไม่! ตัดข้อสามไปเลย” “แล้วจะเอายังไง” คริษฐาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ลึกๆ แล้วเธอกำลังสะใจไม่น้อย...เธอเคยต้อนให้ตาคนนี้นิ่งคิดไปแบบนี้ได้ที่ไหนกันล่ะ “ยังไง ตอบสิ ฉันยังมีงานนะ” “ข้อ...ข้อสองก็ได้ ได้เลย” คนถูกต้อนจนต้องเลือกบอกด้วยน้ำเสียงติดจะขุ่นเคือง เขารู้สึกเคืองไม่น้อยที่คนตรงหน้าไม่เข้าใจเขา และสงบเสงี่ยมรอเขาที่บ้าน ถ้าไม่ใช่ว่าอยากให้เป็นเมียไปตลอดชีวิตละก็ เขาไม่ยอมตามใจแบบนี้หรอก งอนซะดีมั้ย...แล้วอย่ามาร้องไห้ล่ะ “ไปวันนี้เลยมั้ยล่ะ อยากเป็นม่ายผัวหย่านักนิ” “เป็นความคิดที่ดีนะ ไปเลยละกัน เจอกันที่เขต” คริษฐาบอกก่อนจะหันหลังเดินหนีไปที่รถของตน... ดูเอาเถอะ ยังไม่สำนึก มีหน้ามาเคืองมางอนเธอเสียอีก ไอ้ผู้ชายแบบนี้เธอจะต้องทำให้มาหมอบราบคาบแก้วให้ได้ เดี๋ยวได้รู้ว่าเลือดตาแทบกระเด็นจริงๆ มันเป็นยังไง เขาและเธอต่างก็มีความคิดและความรู้สึกของตัวเองเมื่อต้องมานั่งตรงหน้าเจ้าหน้าที่เขตอีกครั้งจึงดูบึ้งตึงเสียยิ่งกว่ารอบที่แล้ว และแล้วใบสำคัญการหย่าใบจริงก็ถูกมอบให้คนทั้งคู่ในเวลาต่อมา หญิงสาวมองพิจารณาจนแน่ใจว่าไม่ใช่ของปลอมแล้วจึงยอมเดินออกมาจากสำนักงานเขตด้วยใบหน้ายิ้มร้าย คีรินทร์ก้าวฉับๆ ตามมา ก่อนจะก้าวนำมาหยุดตรงหน้าด้วยใบหน้ามุ่งมั่น “รอดูนะยายเด็กดื้อ เฮียจะทำให้เธอหลงรักเฮียและทำให้เธอกลับมาเป็นเมียเฮียให้ได้ เตรียมตัวไว้เลย เจอดีแน่” “โม้หรือเปล่า ถ้าแน่จริง เอาการกระทำมาแสดง อย่าเก่งแต่ปาก” หญิงสาวตอบกลับพร้อมกับยักไหล่ให้หนึ่งครั้งและเดินจากชายหนุ่มมา แต่ก่อนจะเดินห่างไปไกลก็ไม่วายทิ้งท้ายให้ชายหนุ่มได้โมโหด้วยคำว่า... “แล้วจะเตรียมตัวรอนะคะคุณอดีตสามี บาย” แต่ละคำที่หญิงสาวพูดคล้ายกับไปสะกิดต่อมเอาชนะของคีรินทร์เข้าอย่างจัง ยายตัวแสบกล้าท้าทายเขา...เขาจะต้องเอาคืน “แล้วอย่าให้เห็นว่าง้อกันก่อนละยายเด็กดื้อ” “หงุดหงิดโว้ย” เจ้าของเสียงตะโกนกำลังยืนค้อนลมค้อนแล้งอยู่ริมระเบียงอย่างหัวเสีย “หงุดหงิดอะไรนักหนาวะ ขัดจังหวะคนเขาจะคุยกับเมียไม่รู้รึไง” เสียงคุ้นเคยของคนที่ชอบมาคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงจนโดนแซวว่ามาสิงสถิตที่ระเบียงดังขึ้น เรียกให้คีรินทร์รู้ว่าตรงนี้ไม่ได้มีแค่เขาที่ยืนอยู่ แต่ยังมีสารวัตรศารทูลเจ้าเก่าอยู่ด้วย... ที่ผ่านมาเขาไม่เคยหมั่นไส้อะไรเลยนะ แต่วันนี้รู้สึกหมั่นไส้คนชอบแอบออกมาโทร. หาเมียขึ้นมาเสียแล้ว “ไปคุยกับเมียไกลๆ เลยเฮีย คนกำลังหงุดหงิด อย่าเพิ่งมาใกล้” “พาลกูซะงั้น” คนที่ยืนอยู่ก่อนพูดสั้นๆ แล้วก็ยิ้มขำ “อาการนี้ ทะเลาะกับเมียละสิ ได้ข่าวว่าเมียบุกมาต่อย ตกลงเรื่องจริงเหรอวะ” “เออ จริง เมียต่อย เมียมา แต่ตอนนี้ไม่มีเมียแล้ว” “เฮ้ย พูดจริง?” “เออ ไปหย่ามาแล้ว หย่าจริงๆ ด้วย ไม่ได้หย่าปลอมๆ” คนอายุน้อยกว่าบอกแล้วก็ใช้มือตีขอบระเบียงอย่างโมโห “หงุดหงิดชะมัด” สารวัตรมือปราบมองหนุ่มรุ่นน้องก่อนจะเลิกคิ้วสูง ไอ้คนสุขุมที่เขาเคยรู้จักหายไปไหนเสียแล้ว ทำไมคนตรงหน้าดูไม่เหมือนเดิมขนาดนี้ แล้วดูสิ ฟาดมือไปแบบนั้นไม่เจ็บรึไง...มันโมโหจนลืมเจ็บไปแล้วหรือ “เฮีย เวลาที่เฮียทำอะไรสักอย่างเพราะเฮียมีเหตุผลที่บอกใครไม่ได้ แต่เมียเฮียไม่เข้าใจจนทะเลาะกัน เฮียทำไง” “ก็ง้อดิวะ” “แต่เฮียไม่ผิดนะ เฮียมีเหตุผล” “มีเหตุผลก็ต้องง้อ ฟังนะ เมียน่ะถูกเสมอ ต่อให้ไม่ได้ทำอะไรผิดก็ต้องง้อ เกิดเป็นผู้ชายอย่าเยอะ อะไรยอมได้ก็ยอม” ศารทูลสอนอย่างคนอาบน้ำร้อนมาก่อน ก่อนจะตบไหล่ให้กำลังใจ “ถ้ามันอึดอัด หงุดหงิดมากก็ไปที่ค่ายได้ เตะๆ ต่อยๆ สักหน่อยเดี๋ยวก็อารมณ์ดีขึ้น เฮียไปทำงานต่อละ เดี๋ยวแม่หนูแฝดจะเอาขนมมาให้กิน” “รีบไปเลย ชักจะหมั่นไส้แล้ว” “ฮ่าๆ” แทนที่ศารทูลจะโกรธหรือกลัวกลับหัวเราะออกมาอย่างขบขันขณะที่เดินจากไป คนที่หงุดหงิดอยู่ก่อนแล้วยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะยิ่งเคืองหู แต่ก็ทำได้แค่ค้อนลมค้อนแล้งเพราะอีกฝ่ายยศใหญ่กว่า ซ้ำยังเป็นถึงลูกเขยผบ.ปส.ที่ทั้งดุทั้งโหด ซ้ำยังขึ้นชื่อว่าโหดและดุจนหลายคนไม่กล้ายุ่ง เขาเองก็ไม่อยากจะมีเรื่องกับรุ่นพี่คนนี้หรอก ศารทูลได้ตักเตือนรุ่นน้องไว้ในบทสนทนา แต่คนกำลังหัวเสียเพราะโดนท้าทายก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปเสียแล้วเพราะยังคงมีอารมณ์โมโหอยู่ คนอายุมากกว่าก็ได้แต่หวังว่าเจ้ารุ่นน้องที่วันนี้แปลกไปจะคิดได้ในเร็ววันก่อนที่จะมีแมวขโมยมาแย่งของรักไป คีรินทร์ไม่ได้สังเกตตัวเอง แต่คนรอบข้างที่สนิทต่างก็รู้สึกได้ถึงความหงุดหงิดงุ่นง่านและอารมณ์ที่แปรปรวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของชายหนุ่ม จนกระทั่งเกิดการซุบซิบกันว่าผู้กองหนุ่มเสียศูนย์จากการโดนเมียขอหย่าไปเสียแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม