บทที่3 เริ่มต้นใหม่ 2

1266 คำ
ขณะที่สถาปนิกทั้งสองคนของ NTK กำลังเดินตามกันไปอยู่นั้น ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าตลอดทางมีคนที่เดินตามมาและได้ยินสิ่งที่ทั้งคู่คุยกันตั้งแต่ต้น ร่างสูงหยุดเดินทว่าสายตายังคงจับจ้องไปยังคู่หนุ่มสาวที่เขารู้จักแค่ฝ่ายชาย ก่อนจะเอ่ยถามคนที่เดินตามมา “ผู้หญิงที่คุยกับคุณปรานเป็นใคร” “สถาปนิกที่คุณนิคเพิ่งรับเข้ามาทำงานน่ะค่ะคุณนนท์ ชื่อคริษฐา” เลขานุการส่วนตัวที่เคยทำงานกับนริศมาก่อนตอบตามความเข้าใจของตน “ได้ยินว่าวันนี้เริ่มงานวันแรกด้วยนะคะ ไล่ออกเลยดีมั้ยคะ” “ทำไมต้องไล่ออก” “ก็หล่อนนินทาคุณนะ...” “ผมไม่ได้วัดคนที่ฝีปาก ผมวัดที่ฝีมือ ผมจะไม่ไล่ใครออกถ้าเขามีฝีมือ ต่อให้ฝีปากเขาจะร้ายแค่ไหนก็ตาม คุณเข้าใจที่ผมพูดมั้ย” นนทกรแย้งขึ้นก่อนที่เลขานุการสาวอย่างริสาจะเอ่ยจบ ก่อนจะก้าวเดินต่อ ริสาไม่พอใจกับคำตอบที่ได้ รีบก้าวตามไปก่อนจะเอ่ยตามความเข้าใจของตน “แต่ยัยคนนี้ไม่ได้เข้ามาด้วยฝีมือนะคะ นางเข้ามาเพราะเส้น” “เพราะเส้น?” “ค่ะ คุณปรานเป็นคนพาเข้ามา คุณนิคน่ะรักภรรยาจะตายจะขัดใจน้องเมียได้ยังไง ฝีมือก็ไม่รู้ว่ามีมั้ย เด็กฝากเด็กเส้นแบบนั้นจะได้สักกี่น้ำกันคะ” นนทกรคิดตามคำบอกเล่าแต่ยังไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียว เพียงครู่เดียวก็เอ่ยถามออกไป “คุณคิดว่าสองคนนั้นจะไปไหนกัน” “คุณปรานคงไปดูงานที่โครงการสร้างคอนโดแถวรัชดาค่ะ เธอคนนั้นก็คงตามไปเพราะคุณปรานขอคุณนิคไว้ให้มาช่วยงานจนกว่าจะมีโครงการใหม่เข้ามา” “ผมจะไปที่นั่น ไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า” “ค่ะ” ริสาตอบรับก่อนจะลอบยิ้ม นนทกรไปดูงาน ถ้าเห็นแม่นั่นอู้งานหรือทำงานไม่เป็น คราวนี้ละแม่นั่นจะต้องถูกไล่ออกแน่นอน ริสาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับคริษฐา แต่เธอหลงรักปวินมานาน อยู่ดีๆ ก็มีคริษฐาเข้ามาแบบนี้ มีหรือเธอจะยอม...เธอจะทำให้ยายนั่นโดนไล่ออกให้ได้ หลายนาทีต่อมา ดวงตาคู่คมจ้องมองร่างบางสูงโปร่งที่ยืนพูดคุยอยู่กับวิศวกรที่ควบคุมการก่อสร้างอย่างพิจารณาก่อนจะขมวดคิ้ว...นี่น่ะหรือเด็กเส้น เด็กเส้นที่ทำงานวันแรกก็พูดคุยกับวิศวกรราวกับเป็นสถาปนิกเจ้าของแบบแปลนเอง แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ “เคทมีความสามารถมากพอที่จะเป็นสถาปนิกของ NTK คุณนนท์ไม่ต้องกังวลไปหรอก ผมไม่ได้เอาคนไม่เป็นโล้เป็นพายเข้ามาหรอกนะ” ปวินที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยเมื่อเห็นว่าสายตาของคนที่อยู่ๆ ก็มาดูความเรียบร้อยที่โครงการจับไปที่เพื่อนสาวของเขา... เดาได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายมาที่นี่เพราะมีใครเป่าหูเรื่องเคทอย่างแน่นอน “ถ้าคุณมั่นใจ ผมก็คงทำได้แค่รอดู” นนทกรตอบกลับ ทว่าสายตายังคงไม่ละไปจากร่างบางที่ยังคงพูดคุยอยู่กับวิศวกรอย่างจริงจัง คริษฐาไม่เหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คนที่เขาเคยพบเจอ หญิงสาวไม่ถึงกับห้าว แต่ก็ไม่ได้อ่อนหวานเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ คนงานที่เดินผ่านไปผ่านมานอกจากแอบมองเธออย่างหลงใหลแล้วยังมีความเคารพอยู่ในที บ่งบอกว่าก่อนหน้านี้เธอทำให้เขาเหล่านั้นได้เห็นแล้วว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่รังแกได้ง่าย... ยิ่งมอง ก็ยิ่งรู้สึกว่าน่าสนใจ “รอดูได้ แต่อย่าดูนาน เดี๋ยวตำรวจจับ” ปวินบอกกับคนที่ยังคงมองเพื่อนของเขาอย่างสนใจ ก่อนจะเดินผละออกไปโดยไม่อธิบายในประโยคท้าย ปวินก้าวไปหาเพื่อนสาวก่อนจะแบมือให้ “กุญแจรถหน่อย จะกลับไปเอาของที่บริษัท” มือบางหยิบกุญแจรถยื่นให้ แต่ก็ชักกลับเมื่อนึกขึ้นได้ “ขากลับเอาโกโก้ปั่นมาฝากด้วย รับปากก่อนแล้วจะให้” “เออ เดี๋ยวจัดแก้วใหญ่ๆ ให้เลย” ปวินรับคำด้วยใบหน้าที่บ่งบอกถึงการประท้วง เพราะไม่อยากเปลืองน้ำมันเขาเลยติดรถคริษฐามาที่ไซต์งาน แต่ดูแล้วการติดรถยัยคนนี้มาก็ไม่ได้ทำให้เขาประหยัดเท่าที่ควรจะเป็น ปวินเดินจากไปแล้ว คริษฐาก็เดินดูสิ่งก่อสร้างต่อโดยไม่ได้สนใจว่าใครจะมองมา ขณะที่คริษฐากำลังสนใจงาน นนทกรที่คิดว่าตัวเองควรเลิกมองสถาปนิกสาวได้แล้วก็ถอนสายตาจากร่างบางและก้าวเดินไปอีกทาง เพราะเขาบอกปวินว่าจะมาดูความคืบหน้าของโครงการก็ต้องดูจริงๆ จะมามองแต่เด็กเส้นที่ดูจะมีฝีมือไม่ได้ ร่างสูงก้าวช้าๆ มองความคืบหน้าของสิ่งก่อสร้าง ก่อนจะหยุดฟังเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยของคนงานที่แอบนั่งอู้กันอยู่ “สถาปนิกผู้หญิงนั่นโคตรแจ่มเลยว่ะ หน้าก็สวย อกเป็นอก เอวเป็นเอว ข้างนอกดูเท่ๆ ลุยๆ ไม่รู้ข้างในจะเป็นยังไง” “จะเป็นยังไงล่ะวะ ก็คงจะขาวน่าฟัดน่ะสิ” “พวกเอ็งอย่าทะลึ่งสิวะ จำกันไม่ได้เหรอที่โดนจับทุ่มกันมาหลังแทบหักเมื่อวันก่อนน่ะ” “เหอะ ก็แค่ผู้หญิงที่รู้ศิลปะป้องกันตัวนิดหน่อยจะไปกลัวทำไมวะ ถ้ามีโอกาสนะพ่อจะฟัดให้ร้องขอชีวิตเลย” “อย่าพูดดังไปไอ้ที เดี๋ยวมีใครมาได้ยินเข้ามันจะเป็นเรื่อง” “เหอะ ไอ้ขี้ขลาดเอ๊ย” นนทกรยืนฟังบทสนทนาของชายฉกรรจ์เพียงเท่านั้นก็หันหลังกลับและก้าวไปยังทิศทางที่คริษฐายืนอยู่กับวิศวกรหนุ่ม ก่อนจะหยุดยืนด้านหน้าของทั้งสองคน นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยถาม “พวกคุณสองคนเห็นคุณปรานรึเปล่า” “ปรานไปเอาของที่บริษัทน่ะค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ” “ผมอยากดูความคืบหน้าของโครงการ ในเมื่อคุณปรานไม่อยู่ คุณสองคนก็นำทางแล้วก็อธิบายแทนหน่อยก็แล้วกัน” คำของเขาไม่ใช่คำขอร้อง แต่เป็นคำสั่งที่คริษฐาและวิศวกรหนุ่มไม่สามารถขัดได้ หนึ่งสถาปนิกและหนึ่งวิศวกรจึงต้องนำนนทกรชมความคืบหน้าของการก่อสร้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ วิศวกรหนุ่มแปลกใจไม่น้อยที่คนที่เพิ่งเข้ามาเป็นประธานดูกระตือรือร้นแปลกๆ ขณะที่คริษฐามองผ่านไม่คิดสงสัยอะไร แต่นนทกรรู้ดีว่าตัวเขากำลังทำอะไรอยู่ การที่เขาให้ความสนใจสถาปนิกคนใหม่อาจจะทำให้คนที่คิดร้ายกับหญิงสาวหยุดความคิดเลวๆ ไปได้บ้าง การเดินดูพื้นที่ก่อสร้างดำเนินไปสักพักก็ต้องหยุดลงเมื่อวิศวกรหนุ่มขอตัวไปรับโทรศัพท์ด้วยท่าทีรีบร้อนทิ้งให้สถาปนิกสาวและประธานหนุ่มอยู่กันเพียงลำพัง เมื่อเหลือกันเพียงสองคนคริษฐาที่เห็นสมควรว่าควรจะรอวิศวกรของงานกลับมาก่อนจึงเอ่ยขึ้น “เอ่อ พักตรงนี้ก่อนมั้ยคะ” “ก็ดี” เมื่อไม่มีวิศวกรหนุ่มต่างฝ่ายก็ต่างเงียบราวกับไม่รู้ว่าควรจะคุยอะไร นนทกรไม่รู้จะพูดอะไร ส่วนคริษฐานั้นเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว ระหว่างทั้งคู่จึงไร้บทสนทนาไปโดยปริยาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม