"นี่คุณ ปล่อยฉันนะ" ฮันนี่เงยหน้ามองคนที่ตัวสูงกว่า พยายามที่จะใช้มืออีกข้างแกะมือหนา แต่เจ้าของมือกลับเลือกที่จะยึดแน่นไม่ปล่อยพร้อมกับไหวไหล่ไปมา
"คุณ"
"เธอมีคนอื่นเหรอฮันนี่ ไหนบอกว่าตัวเองดีนักหนาไง" อาร์ตจ้องหน้าแฟนสาวเขม็ง กรามบดเข้าหากันแน่นในตอนที่มองเห็นแขนเรียวถูกกุมไว้ด้วยมือของผู้ชายอีกคน
"ฉันไม่เคยบอกว่าตัวเองดี แต่ที่แน่ๆ ฉันไม่เอากับคนอื่นทั้งที่มีแฟนอยู่แล้วแน่นอน"
"ฮันนี่!"
"ไสหัวไป อย่ามายุ่งกับฉัน เราเลิกกัน"
"มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกฮันนี่ คิดว่าสถานะอย่างเธอไปจากคนอย่างพี่ได้หรือไง"
"ให้กระทืบให้ไหม" ออสตินเอ่ยถามพลางแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยัน
ผลประโยชน์อยู่ข้างหน้า คนโง่เท่านั้นแหละที่จะไม่คว้าเอาไว้
"จัดไปดิ เอาให้จมตีน" ริมฝีปากเอิบอิ่มเอ่ยออกมาอย่างเลือดเย็น ขณะที่ลูกน้องคนสนิทของออสตินเริ่มงานทันที
"ลูกน้องของฉันชื่ออาชา งานดีฝีมือใช้ได้ รู้ใช่ไหมว่าทุกอย่างมันมีราคาที่ต้องจ่าย"
"หยุดโม้ก่อนได้ไหม สั่งสอนไอ้ผู้ชายเฮงซวยนี่ให้มันเลิกยุ่งกับฉัน แล้วเราค่อยมาตกลงกัน"
"กระทืบมัน" สิ้นคำสั่ง อาร์ตถอยห่างด้วยความตกใจ ขณะที่อาชาตวัดขายาวถีบเข้าที่กลางกายของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
พลั่ก!
"อ๊ากก แม่งเอ้ย!" นักธุรกิจหนุ่มล้มลงไม่เป็นท่า กลางลำกายไม่ใช่ที่ที่ควรแตะต้องกันง่ายๆ อาร์ตทิ้งตัวกุมกลางกายพลางหลุดใบหน้าเหยเก
"สภาพนี้ ครั้งเดียวก็น่าจะพอนะครับ" อาชาหันมองหญิงสาวที่ยืนเคียงข้างผู้เป็นนาย
น่าแปลกที่เธอกลับเลือกที่จะออกคำสั่งให้เขาบริหารขาและหน้าแข้งต่อไป
"เอาอีก แค่นี้มันยังน้อยไปกับสิ่งที่มันทำกับฉัน คิดว่ารวย คิดว่ามีเงินแล้วจะกลายเป็นคนที่วิเศษที่คิดอยากทำอะไรก็ทำได้แบบนั้นหรือไง ถ้ายังอยากสืบพันธุ์กับใครก็ได้ก็บอกเลิกฉันสิวะ อย่างน้อยๆ มันก็ไม่ได้เสียใจหรือน่าเจ็บใจเท่ากับการถูกนอกกายนอกใจแบบที่ผู้ชายเฮงซวยอย่างแกทำ!"
"ฮะ ฮันนี่"
พลั่ก! พลั่ก!
"โอ๊ย" ภาพที่นักธุรกิจหนุ่มซึ่งใครต่อใครต่างรู้จักเขาในฐานะแฟนของเธอที่ยกแขนขึ้นมาตั้งการ์ด บดบังใบหน้าจากฝ่าเท้าที่กระแทกเข้าใส่ซ้ำๆ
ฮันนี่ยกมือขึ้นตบแก้มของตัวเองเบาๆ เป็นเชิงเรียกสติพลางแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ
ไอ้ผู้ชายเฮงซวยมันทำให้เธอเจ็บก่อน มันก็สมควรแล้วที่จะได้รับความเจ็บปวดในรูปแบบเดียวกันกลับไป
เวลาต่อมา
"ขอบใจนะที่คุณอุตส่าห์ให้คนของคุณกระทืบคนให้ฉัน" ออสตินรับเครื่องดื่มจากมือลูกน้องคนสนิท มาเฟียหนุ่มพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าระหว่างหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าและผู้ชายที่ลูกน้องของเขาเพิ่งกระทืบมาอะไรเป็นอะไร แต่เรื่องนั้นมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสนใจสักเท่าไหร่
"พึ่งรู้ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะใจเด็ดมากขนาดนี้"
"เอ่อ...ก็เขาทำฉันก่อน แต่รับรองนะ ฉันไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นอยู่แล้ว" ที่ต้องพูดเพราะเธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าก่อนจะเจอหน้าแฟนเก่าอย่างอาร์ต เธอกำลังเดินหนีเพื่อที่จะเอาตัวรอดจากผู้ชายคนนี้ เหตุผลเพราะดันไปได้ยินบางสิ่งบางอย่างที่เป็นความลับหรือสิ่งที่ไม่ควรมีคนนอกรับรู้
"อ้อ คุณบอกว่าทุกอย่างมันมีราคาที่ต้องจ่าย วันนี้ที่ฉันรับงาน พี่ไมค์ต้องจ่ายฉันสองหมื่น เอาเป็นว่าฉันแบ่งให้คุณครึ่งหนึ่ง ตอบแทนที่คุณช่วยฉันก็แล้วกัน"
"เธอจะตอบแทนฉันด้วยเศษเงินแค่นั้นน่ะเหรอ"
"เศษเงิน? อ้อ ลืมไป" ฮันนี่หัวเราะออกมาเบาๆ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทุกการกระทำของเธอ อยู่ในสายตาของคนสองคนตลอดเวลา
"คุณรวยนี่นา เงินแค่นี้มันอาจจะไร้ค่าสำหรับคุณ ถ้าฉันจะขอให้คุณถือซะว่าช่วยผู้หญิงที่กำลังจนตรอก แบบนั้นพอได้ไหมคะ" คำขอที่ค่อนข้างตรงไปตรงมาสร้างความแปลกใจให้กับออสตินอยู่ไม่น้อย
มาเฟียหนุ่มกดปลายลิ้นที่มุมปากพลางตวัดสายตาไปยังลูกน้องคนสนิท
อาชาส่ายหน้าเบาๆ ประวัติของฮันนี่ที่ถูกตรวจสอบโดยเร่งด่วน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนคนหนึ่งที่เคยหายไป
น่าแปลกที่ใบหน้ามีส่วนที่คล้ายกัน
"ฉันไม่ชอบถูกหลอกใช้" คนฟังเสียวสันหลังวาบ หญิงสาวเลือกที่จะคว้าแก้วเครื่องดื่มมาจรดที่ริมฝีปากตามด้วยการกระดกหนักๆ เพื่อดับกระหาย
แอบยอมรับว่าคำพูดของเขามันทำให้เธอรู้สึกหวั่นใจ
"คะ คุณต้องการอะไร"
"จำฉันให้ได้ แล้วฉันจะปล่อยเธอไป" มาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ดวงตาคมกริบจ้องเขม็งที่ใบหน้าสะสวย แววตาของเธอมันช่างใสซื่อ แต่มันอาจจะเต็มไปด้วยมารยาหลายร้อยเล่มเกวียน
"ห๊ะ..." เสียงตอบรับสั้นๆ ดับความมั่นใจของมาเฟียหนุ่มให้ลดฮวบ
"นึกให้ออก จำฉันให้ได้แล้วยอมรับออกมา แล้วฉันจะปล่อยเธอไป" อาชาเบือนหน้าออกไปอีกทาง
รู้ดีว่าหากผู้หญิงคนนี้จำผู้เป็นนายของเขาได้ เธอไม่มีวันถูกปล่อยตัวไปอย่างแน่นอน
"คุณ คุณดูละครมากเกินไปหรือเปล่า เราไม่รู้จักกัน ฉันไม่รู้จักคุณ ฉันมาทำงานเพื่อหาตังค์ และฉันก็ยืนยันกับพี่ไมค์ชัดเจนแล้วว่าฉันไม่รับงานอื่นนอกเหนือจากการเอ็นเตอร์เทนธรรมดา เอางี้ปะ คุณปล่อยฉันไปซะแล้วฉันจะหายไปพร้อมกับความลับของคุณ"
"เธอมีสิทธิ์ต่อรองกับฉันเมื่อไหร่? เอาตัวไป"
"ดะ เดี๋ยวคุณ เรามาตกลงกันดีๆ ดีกว่าไหม คุณจะพาฉันไปไหน สองหมื่น คุณเอาเงินฉันไปหมดเลยก็ได้"
"เก็บเศษเงินของเธอไว้กินข้าวเถอะ สิ่งที่ฉันต้องการจากเธอมันไม่ใช่เงิน" มาเฟียหนุ่ม กระแทกเครื่องดื่มลงบนเคาน์เตอร์ มือหนาจัดแจงสูทราคาแพงให้เข้าที่เข้าทาง ขณะที่ตัวของเธอถูกล็อคด้วยน้ำมือของชายหนุ่มที่ชื่อว่าอาชา
เป็นอะไรที่บ้าบอชะมัดเมื่อคนที่อยู่ในละแวกข้างเคียงไม่มีใครให้ความสนใจหรือเข้ามายุ่งกับเธอเลย
"คุณ คุณจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น"
มาเฟียหนุ่มเดินออกจากคลับหรู สายตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยวตวัดมองเจ้าของคลับอย่างไมเคิล
เพราะความเสียดายที่มีในตัวฮันนี่ที่สั่งให้ไมเคิลมีความกล้า เลือกที่จะเดินเข้ามาหาแขกคนสำคัญซึ่งทำเงินให้เขาอยู่เสมอๆ อย่างจำใจ
"เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ เด็กของผมทำอะไรให้คุณออสตินไม่พอใจหรือเปล่า"
"พี่ไมค์ ช่วยฮันนี่ด้วย"
"เท่าไหร่" ออสตินปรายตามองหญิงสาวที่อยู่ในการควบคุมของอาชาเพียงนิด ไมเคิลเข้าใจคำถามเป็นอย่างดีในขณะที่ฮันนี่เองก็เดือดดาลเช่นกัน
"เป็นบ้าหรือไงคุณ คุณไม่มีสิทธิ์มาตั้งคำถามแบบนี้นะ พี่ไมค์ เราคุยกันเข้าใจแล้วนะ บอกให้เขาปล่อยฮันนี่สิ"
"ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ ถ้าคุณออสตินอยากได้น้องๆ กลับไปด้วย ผมจะหาคนอื่นที่เต็มจะ..."
"ฉันจะเอาคนนี้ อยากได้ค่าตอบแทนเป็นเงิน อยากได้เป็นสิ่งของ หรืออยากได้เป็นอะไรติดต่อคนของฉันมาภายหลังก็แล้วกัน" ขายาวสาวออกมาจากตรงนั้น ไม่มีใครขวางคนอย่างออสตินได้
เรื่องระหว่างเขา ซานย์ และผู้หญิงของซานย์ เป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขาไม่รู้จักจบไม่รู้จักสิ้น เขาจำเป็นต้องสะสางให้สิ้นซาก เผื่อว่าฝันร้ายบ้าบอนั่น มันจะหายออกไปจากชีวิตของเขาสักที
"...คุณ พวกคุณเป็นใครและคุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่" ไร้เสียงตอบรับจากคนบนรถ อาชายังคงทำหน้าที่เป็นพลขับ ไม่แม้แต่จะเหลือบตามองกระจกมองหลังเพื่อมองภาพสะท้อนของคนที่อยู่บนนั้น
"เอาตรงๆ เลยนะ หน้าตาคุณมันก็ใช้ได้ปะ ถ้าคุณมีอารมณ์และอยากได้ผู้หญิงไปปรนเปรอ คุณก็ควรเลือกผู้หญิงที่เต็มใจไปกับคุณสิ ทำไมคุณต้องมาใช้มุกบ้องตื้นแบบนี้กับฉันด้วย"
"เธอไม่จำเป็นต้องเล่นละครตบตา ที่ตรงนี้มีแค่เธอและฉันเท่านั้น"
"แล้วไงอ่ะ ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าใครหรือมีแค่คุณกับฉันสองคน สุดท้ายฉันก็ไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร เราไม่รู้จักกัน"
"เดี๋ยวก็รู้ ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันเธอทำกับฉันแบบไหน ถึงเวลารื้อฟื้นความทรงจำเมื่อไหร่อย่ากลืนน้ำลายตัวเองก็แล้วกัน" มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มที่มุมปาก
ฮันนี่แทบกลั้นลมหายใจ เมื่อดวงตากลมประสานเข้ากับสายตาที่ยากเกินกว่าจะคาดเดา