ตอนที่1 แม่ทัพหยวนจง1

1863 คำ
ค่ายทหารหน้าด่านทิศอุดรแคว้นต้าโจว ร่างสูงสง่าที่ฉายชัดถึงความรูปงามเป็นเอกบุรุษ ทว่ากร้าวแกร่งยิ่งนักยามอยู่ในชุดแม่ทัพ กำลังยืนนิ่งด้วยท่าทางองอาจผึ่งผายยามมองไปยังผืนหญ้ากว้างขวางเบื้องหน้า สายตาคู่คมสีรัตติกาลมองไปยังกระโจมนับหลายร้อยหลัง อันเป็นที่พักของเหล่าทหารในอาณัติแห่งเขา ภาพที่ชายหนุ่มเห็นเบื้องหน้า คือเหล่าทหารกล้า ที่กำลังพักผ่อนและดื่มฉลองยามเสร็จสิ้นศึกแต่ละครั้ง แต่ทว่าสมองของแม่ทัพหนุ่มกลับคิดไปถึงใครบางคนอย่างไม่อาจควบคุมได้ ภาพนั้นคือภาพใบหน้างดงามนวลกระจ่าง น้ำเสียงคล้ายเกรี้ยวกราดทว่าความหมายกลับนุ่มละมุนน่าฟัง สายตาคู่สวยร้ายกาจมองมาอย่างรู้เท่าทัน ยามเจอกันแต่ละครั้ง ก็มีแต่ทะเลาะกันไม่เคยยอมความ เราเจอกันคราแรกที่ริมธาราไหลเชี่ยว ครั้งนั้นเขาตกหน้าผาโดยไม่ทราบสาเหตุจนลอยน้ำมา เมื่อลืมตาก็เจอกับนางที่พยายามช่วยชีวิตเขาอยู่ นางพยายามจับชีพจรเขา ทั้งยังช่วยยื้อชีวิต ทำให้หัวใจเขาได้กลับมาเต้นปกติอีกครั้ง คราแรกที่ฟื้นขึ้นมา ก็เห็นใบหน้าโดดเด่นสะดุดตาที่แฝงความร้ายกาจไม่อาจปิดบัง นางกำลังแบ่งอากาศหายใจให้เขา ด้วยริมฝีปากสีแดงระเรื่อของนาง กลีบปากของนางนุ่มมาก เรือนร่างของนางก็หอมกรุ่น เนินเนื้อตรงอกหยุ่นนุ่มก็มีขนาดน่าหลงใหล เขาไม่อาจห้ามใจมิให้จุมพิตนาง อันที่จริง เพียงแค่มองตา สตรีงดงามมากมายก็ล้วนต้องการอยู่ใต้ร่างเขาแล้ว แต่ทว่ากับสตรีนางนี้ เขาเพียรพยายามอยู่หลายที แต่ก็ยังไม่เคยได้เชยชมนางอย่างเต็มที่ เขายังไม่เคยได้สมใจสักครา... รอก่อนเถิด...หากสิ้นศึกกับเผ่านี้เมื่อใด เขาจะกลับไปขย้ำนางให้หนำใจเลยเชียว หน้าเรือนพักบนเชิงเขาเหนือกระโจมของพลทหารนับร้อย ชายหนุ่มในชุดแม่ทัพที่ยืนเด่นเป็นสง่าและกำลังคิดฟุ้งซ่านถึงสตรีนางหนึ่งอยู่ตรงนั้น คือ หยวนจง ภายใต้แสงจันทร์นวลผ่อง ยิ่งเสริมให้ร่างแกร่งของเขางามสง่าน่าหลงใหล ค่ำคืนอันสลัวรางไม่อาจต้านทานเสน่ห์แห่งบุรุษเพศเกินห้ามใจ ไม่ว่าชายใดก็ไม่อาจเทียบเทียมกับความหล่อเหลาเปี่ยมเสน่ห์เร้าใจของเขาได้เลย เรือนร่างของเขาทั้งงดงามทั้งสมส่วน แผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามเยี่ยงชายชาตินักรบ ช่วงไหล่กว้าง แผงอกแน่น แม้แต่ชายด้วยกันยังต้องลอบกลืนน้ำลาย มิต้องคาดเดาก็พอจะรู้ได้ว่า หากเป็นสตรีเมื่อเจอเขาจักรู้สึกเยี่ยงไร สตรีหลายนางเมื่อเจอกับเขา ก็ล้วนแล้วแต่อยากเปลือยกายนอนระทวยทอดร่างให้เขาได้เชยชมทั้งนั้น แต่ทว่า เขากลับมีความคิดชั่วร้าย หมายขย้ำใครบางคนอยู่ตลอดเวลา ใครบางคนที่ว่าคือนางมารตนหนึ่ง ซึ่งเป็นถึงอดีตเจ้าสำนักหมื่นดาราแห่งยุทธภพ นามว่า ฟางหลัน เมื่อหนึ่งปีก่อนนั้น หยวนจงได้แต่งงานด้วยสมรสพระราชทานกับองค์หญิงพระองค์หนึ่งนามว่า เหม่ยฮว๋า โชคชะตามักผกผัน ผิดจากที่วาดหวัง บุรุษมากเสน่ห์เช่นหยวนจงถูกบังคับให้แต่งงานกับสตรีร้ายกาจอย่างเหม่ยฮว๋า เพียงเพราะว่านางคิดใช้เขาเป็นหมากตอบสนองความริษยาต่อสตรีด้วยกัน แน่นอนว่าเขาไม่อาจปฏิเสธ จึงแต่งงานกับนางและอยู่เป็นคู่ผัวเมียกลืนกินกันอย่างอิ่มหนำ แต่กระนั้น ในใจเขายังคงมีสตรีนางหนึ่งอยู่จนเต็มพื้นที่ สตรีนางนั้นคือองค์หญิงเหม่ยหลิน ผู้เพียบพร้อมทั้งกริยา วาจา ใจ เขายอมรับว่าตนเองมิใช่บุรุษที่ดี เขามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสตรีไปทั่ว แต่กระนั้นคนที่อยู่ในใจตั้งแต่เยาว์วัย จนกระทั่งเติบใหญ่เป็นชายวัยฉกรรจ์ ก็คือองค์หญิงเหม่ยหลิน หรือก็คือสตรีที่เหม่ยฮว๋านึกเกลียดชังริษยา กระทั่งใช้เขาเป็นเครื่องมือเพื่อหักหน้ากันนั่นเอง ถึงแม้ว่าเขาจะมีภรรยาพระราชทาน เป็นสตรีที่ร้ายเหลือ แต่ทว่าเขากลับได้เจอกับสตรีนางหนึ่งที่ร้ายกาจยิ่งกว่า สตรีนางนั้นเป็นอดีตเจ้าสำนักหมื่นดารา ฉายาจิ้งจอกพันปี ลูกน้องตัวดีขององค์หญิงเหม่ยหลิน นางขัดขวางเขาเรื่ององค์หญิงเหม่ยหลิน ทั้งยังกีดกันเขาทุกทางมิให้ได้ใกล้ชิดกับสตรีในดวงใจ ครั้งนั้นเขาเกลียดนางมาก ประมือกับนางทุกวัน ทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอหน้ากัน แต่ไม่ว่าจะตีกันรุนแรงเพียงใด สุดท้ายนางก็ทำอาหารให้เขากิน หลายวันในป่าใหญ่ที่บังเอิญเดินร่วมทาง เขาได้นางคอยดูแลไม่ห่าง คอยข่มขู่อย่างดุดัน จนเขาเองก็ไม่แน่ใจ ว่าสตรีที่เขารักปักใจ เป็นใครกันแน่ และต่อมา เมื่อเหม่ยฮว๋า ภรรยาพระราชทานของเขาลอบคบชู้อย่างน่าอาย สร้างความอัปยศอดสูให้เขาอย่างที่สุด หากแต่เขาที่ไม่ได้รักจึงไม่คิดอะไร เพียงปล่อยให้เหม่ยฮว๋าได้ใจไป เพื่อรอเวลาลงทัณฑ์อย่างสาสมก็เท่านั้น มิคาดว่า เมื่อนางมารของเขาได้รู้เรื่องนั้นเช่นกัน จะยิ่งใส่ใจเขา ดูแลเขาเป็นอย่างดี ทั้งๆ ที่เราทะเลาะกันทุกวัน ประมือกันทุกครั้งที่เจอหน้า ทว่านางยอมมาอยู่กับเขาในตำแหน่งอนุเพียงนาม คอยปักผ้า ทำอาหาร นั่งรอเขากลับจากทำงาน ไม่กล่าววาจาเหยียดหยันทำร้ายจิตใจเขาในเรื่องภรรยาลอบคบชู้แม้เพียงครึ่งคำ จนสุดท้าย เขาก็ได้รู้ว่า สาเหตุที่นางขัดขวางเขากับองค์หญิงเหม่ยหลิน หาใช่ความเกลียดชัง หากแต่เป็นความหวังดี เพราะคนรักขององค์หญิงเหม่ยหลินมิใช่บุรุษธรรมดา เขาเป็นถึงเจ้ายุทธภพ หนึ่งในใต้หล้า นามว่าหงซือกวน แห่งสำนักหมื่นโลกันต์ หากเขายุ่งกับหญิงคนรักของท่านประมุขหงซือกวนนั้น มิต้องเดาก็รู้ว่า ศพจะอยู่ในสภาพใด! หลังจากเสร็จสิ้นงานแต่งขององค์หญิงเหม่ยหลินกับเจ้าแห่งยุทธภพนามว่าหงซือกวน หยวนจงก็ยังคงเป็นชายหนุ่มที่ว่างงาน และอาศัยอยู่ที่สำนักหมื่นโลกันตร์ เพราะถูกองค์จักรพรรดิโจวเหวินหลงทรงยึดตราประจำตำแหน่งแม่ทัพไป เมื่อครั้งที่ลอบเข้าวังยามวิกาล แต่ทว่าเพียงไม่นาน เขาก็ถูกองค์หญิงเหม่ยหลินที่เป็นนายหญิงของสำนักหมื่นโลกันต์เรียกพบ เพื่อบอกกล่าวถึงเรื่องราวความลับที่ไม่ลับแห่งราชวงศ์โจว ที่มีบางส่วนเกี่ยวข้องกับเขาว่า องค์หญิงเหม่ยฮว๋าที่เป็นภรรยาพระราชทานของเขา ถูกจับได้ว่าลอบคบชู้ สร้างความเสื่อมเสียให้ราชวงศ์ จึงถูกลงทัณฑ์โดยการถอดยศและเนรเทศไปเป็นนางโลมให้ค่ายทหาร เป็นตายมิอาจรู้ได้นับแต่นั้น และไม่นานต่อมา พระสนมเซียงกุ้ยเฟยมารดาของเหม่ยฮว๋า ก็ถูกปลดและถูกกักขังในตำหนักเย็น ทว่าความจริงคือถูกมอบแพรขาวและเหล้าพิษให้สิ้นชีพแบบเงียบๆ ในสถานที่เย็นเยียบแห่งนั้น ไม่มีใครสักคนที่ล่วงรู้ว่าเซียงกุ้ยเฟยทรงทำผิดร้ายแรงเรื่องใด คาดว่าเพื่อมิให้เสื่อมเกียรติแห่งองค์จักรพรรดิ เรื่องนี้จึงถูกเก็บงำไม่เปิดเผย ต่อมาตระกูลหยวนของหยวนจงและตระกูลเซียงของเหม่ยฮว๋า ก็มีปัญหากัน ข้อพิพาทนั้นล้วนเกิดจากเรื่องหลังเรือนของหยวนจง ด้วยหัวข้อที่ว่าสตรีจากสกุลเซียงนำความเสื่อมเสียมาให้คนของสกุลหยวน ทำให้ชายชาตินักรบผู้หยิ่งทระนงอย่างหยวนจง ต้องพบกับความอับอาย หนีหายไปไม่กลับจวน เรื่องนี้ทำให้ตระกูลหยวนทูลขอพระราชทานอภัยโทษให้หยวนจง และเรียกตัวเขากลับมารับตำแหน่งดังเดิม พร้อมคืนตราแม่ทัพให้ในที่สุด หลังจากหยวนจงได้ฟังคำของเหม่ยหลินจนจบ ในใจก็รู้สึกยินดีที่ได้กลับราชสำนัก รับตำแหน่งแม่ทัพอันยิ่งใหญ่ มิใช่ชายไร้ค่าอีกต่อไป แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ลืมใช้ความสัมพันธ์ฉันท์สหายที่เคยมีมาเมื่อเยาว์วัยกับเหม่ยหลิน เอ่ยปากขอตัวฟางหลันให้กลับไปด้วยกัน มิรู้ได้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เขาประสงค์จะแต่งฟางหลันเป็นภรรยา เหม่ยหลินย่อมยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะเข้าใจมาโดยตลอดว่าฟางหลันกับหยวนจงเป็นคนรักกัน แต่ติดปัญหาตรงที่ก่อนหน้านี้ หยวนจงแต่งงานกับเหม่ยฮว๋าแล้วด้วยสมรสพระราชทาน ฟางหลันจึงเป็นได้เพียงสตรีหลังเรือน มิอาจเป็นอื่นได้นอกจากอนุภรรยา ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เหม่ยหลินมิใคร่จะสบายใจตลอดมา แต่ทว่ายามนี้...หลังเรือนของหยวนจงสะอาดดีแล้ว ไร้สตรีใดเบียดเบียนทั้งนั้น เหม่ยหลินจึงอนุญาตให้ฟางหลันเดินทางกลับเข้าต้าโจวพร้อมหยวนจง แต่ใครไหนเลยจักคาดคิดว่าฟางหลันจะปฏิเสธเสียงแข็ง หญิงสาวให้ข้ออ้างว่าต้องการไล่ล่าความฝันอันยิ่งใหญ่ นั่นก็คือ มีโรงเตี๊ยมร้อยห้องเป็นของตนเอง มีบ้านหลังใหญ่ มีเครื่องเรือนล้ำค่า แพรพรรณมากมาย เป็นสาวงามผู้หรูหราร่ำรวย เหม่ยหลินได้ฟังก็รู้สึกเห็นด้วยตามนิสัยสตรีด้วยกัน จึงอนุญาตทันที สตรีทั้งสองจึงเปลี่ยนเรื่องคุยกันทันใด กระทั่งลืมหยวนจงไปเลย หยวนจงเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่ทอดถอนใจ ทว่าวันรุ่งขึ้นหยวนจงกับฟางหลันก็ทะเลาะกันอย่างหนัก เหม่ยหลินไม่สบายใจเป็นอย่างมาก จึงปรึกษากับหงซือกวนผู้เป็นสามี เพียงเค่อเดียวเท่านั้น การทะเลาะกันก็เงียบกริบ ด้วยเพราะทั้งสองถูกสมุนตัวโตที่ได้รับคำสั่งเฉียบขาดจากท่านประมุขหงซือกวน เข้าจัดการคู่รักคู่นี้ให้สลบไสลไม่ได้สติ ก่อนจะจับพวกเขาโยนใส่รถม้าคนละคัน คนหนึ่งส่งกลับจวนแม่ทัพของหยวนจง ส่วนอีกคนส่งไปยังโรงเตี๊ยมร้อยห้องที่ลงนามเจ้าของว่าฟางหลัน เรื่องราวหลังจากนั้น ก็คือฝ่ายชายกลับเข้ารับตำแหน่งแม่ทัพเช่นเดิม และได้รับพระเมตตาจากฮ่องเต้ให้ทำความดีความชอบชดเชยความผิด โดยการเดินทางไปประจำยังค่ายหน้าด่านทิศอุดร เพื่อปราบปรามชนเผ่าหนึ่งที่กำลังรุกรานชาวบ้านแถบนั้น ส่วนฝ่ายหญิงก็ได้ทำตามความฝันของนาง คือเป็นเถ้าแก่เนี๊ยโฉมสะคราญเจ้าของโรงเตี๊ยมร้อยห้อง มีบ้านหลังใหญ่โต ร่ำรวยขึ้นมา แต่ทว่าทั้งสองกลับต้องแยกกันอยู่ จากวันนั้นจนกระทั่งถึงวันนี้ ก็กินเวลาทั้งสิ้นเจ็ดเดือนแล้ว คลิกเรื่องที่เกี่ยวข้อง >>> จอมใจจอมมาร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม