เกลียด!
ตอนนี้มีแค่คำเดียวคือคำว่าเกลียด เกลียดคำเดียวสั้น ๆ แต่ความหมายโคตรยิ่งใหญ่ เป็นคำเดียวที่อยากพ่นใส่หน้าไอ้คนที่กำลังขับรถอยู่ข้าง ๆ
“หน้าบูดเป็นตูดเลยครับคุณหมอ ยิ้มหน่อยสิคันนี้พี่ให้หยานั่งเป็นคนแรกเลยนะ เมื่อเช้าพี่เอาคันอื่นมานะเนี่ยอุตส่าห์กลับไปเปลี่ยนเป็นคันนี้เพื่อมารับหยาโดยเฉพาะ”
“ปั้นหยา เรียกปั้นหยาอย่ามาเรียกหยาสั้น ๆ ไม่ได้สนิทกัน” ฉันสวนกลับด้วยความหงุดหงิด กล้าดียังไงมาเรียกหยาสั้น ๆ วะสนิทกันมาจากไหน แล้วยิ่งบอกว่ากลับไปเปลี่ยนรถเป็นคันนี้เพื่อมารับอีหยาโดยเฉพาะนี่ยิ่งไม่ได้อยากยิ้มค่ะคุณ เพราะเขาเอา Ferrari สีเหมือนขี้มารับ ปั้นหยาไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้ว่าไอ้กร๊วกนี่แอบจิกกัด
“ก็สนิทไงถึงเรียก”
“ฉันไม่ได้สนิทกับนาย ขนาดนายชื่ออะไรฉันก็ยังไม่รู้จักเลย” ฉันกอดอกเชิดหน้าใส่
“เหรอ~ แสบขนาดนี้คงไม่อยากรู้จักคนที่โยนตกน้ำหรอกมั้งน้อง” เขาพูดเหมือนพูดลอย ๆ แต่มันทำให้ปั้นหยาคนนี้หมั่นไส้มาก อยากทำอะไรสักอย่างเพื่อเอาคืนความด้านความมึน เกลียดการที่ด่าอะไรว่าอะไรไปก็ไม่มีผลต่อจิตใจไอ้บ้านี่เลยสักนิด เสี้ยวเดียวก็ไม่สะเทือน!
แล้วเมื่อกี้ถึงมันจะเป็นเวลาทุ่มกว่า ๆ แล้วแต่ก็ยังมีนักศึกษาอยู่นะคะ อีตานี่เป็นคนดังของมหาลัยแถมหล่อลากไส้จัญไรลากดิน แล้วยังเอา Ferrari สีเหมือนขี้มองจากทางไหนก็เห็นมาจอดหน้าคณะอีก มันเป็นจุดสนใจมากและแน่นอนว่าแทบทุกคนในบริเวณนั้นเห็นเขาลากกระเป๋าดึงฉันขึ้นรถแน่นอน
Line!
yahyee : หยามีคนบอกว่าพี่กราฟลากหยาขึ้นรถ
พอไลน์จากยาหยีดังขึ้นปั้นหยาคนนี้ก็รู้ได้ในทันทีเลยค่ะว่ามีหลายปากกำลังเม้าท์ T_T
Panhya : อือ T_T
yahyee : เฮ้ย! เขาพาไปไหน
Panhya : ไปกินข้าว แต่หยาไม่อยากไป ด่าแล้วเดินหนีแล้วแต่ไอ้บ้านี่กระชากเป้ลากขึ้นรถ
yahyee : ที่ไหนให้ตามไปช่วยไหม พี่กันต์มารอหยาพอดี พี่เขาเป็นห่วงมาก
Panhya : ไม่เป็นไรหยี เขาไม่กล้าทำอะไรหยาหรอก ฝากบอกพี่กันต์ด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง
yahyee : แน่นะหยา
Panhya : แน่ใจ หยาดูแลตัวเองได้หยีกลับบ้านเถอะค่ำแล้ว
yahyee : จะกลับได้ไงอ่ะหยาโดนลากไปแบบนี้
Panhya : กลับเถอะหมอหยีขา ไอ้บ้ากราฟนี่ปั้นหยาจัดการได้สบายมาก
yahyee : จะสแตนบายรอ มีอะไรรีบโทรบอก เป็นห่วงมาก
Panhya : โอเคค่ะแม่ จุ๊ฟฟฟฟ
“เนี่ยเพราะนายมาลากฉันขึ้นรถทำให้เพื่อนฉันกับพี่กันต์เป็นห่วงมาก แทนที่เราจะได้ไปกินข้าวกัน” ฉันวางโทรศัพท์ลงแล้วก็หันไปบ่นไอ้พี่กราฟด้วยความอารมณ์ที่เสียมาก มากจนบูด
อุตส่าห์นัดกับยาหยีจะออกไปกินหมูกระทะข้างมหาลัย ยาหยีก็อีกคนมัวแต่คุยกับเพื่อนเรื่องงานฉันเลยหนีลงมาข้างล่างก่อน ถ้าลงมาพร้อมกันคงพอช่วยไม่ให้ฉันโดนลากมาแบบนี้แน่นอน แต่จะโทษเพื่อนก็ไม่ได้หรอกทุกคนต้องมีธุระ และทุกคนต้องมีเวรกรรมและเจ้ากรรมนายเวรคอยตามรังควาญเหมือนปั้นหยาตอนนี้ไง
“ไอ้กันต์เหรอ?” เขาหันมาเลิกคิ้วข้างหนึ่งถาม ถามอะไรวะไม่ได้ตั้งใจฟัง
“อะไรนะ”
“นัดกับไอ้กันต์ไว้?” อ่อ ไม่ได้นัดหรอกแต่จะไม่ยอมรับเพราะเห็นเขม่นพี่กันต์อยู่พอดี
“เยส~”
บรื๊น!!!
“เฮ้ย! นายขับช้า ๆ หน่อย ได้ยินไหมเนี่ย” อยู่ดี ๆ ไอ้บ้าพี่กราฟนี่ก็เหยียบคันเร่งให้รถพุ่งเร็วมาก แถมปาดซ้ายปาดขวาชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด เขาปาดจนได้รับการบีบแตรสรรเสริญจากรถทุกคันที่ขับปาดหน้า ฉันได้ยินเสียงแตรรถยนต์บีบยาว ๆ มาทุกวินาทีไม่มีว่างเว้น
ฮือ~ ปั้นหยากลัวตายมาก ณ เวลานี้ กลัวมากจนต้องเอามือพาดไปด้านหลังเพื่อเกาะเบาะรถเอาไว้
ไอ้บ้ากราฟ ไอ้คนถ่วงความเจริญบนท้องถนน!
เอี๊ยด!!!
“ฟู่ว~ ขับแบบนี้ไม่พาไปกินที่นรกเลยล่ะฮะ!” พอรถจอดหลังเบรคจนล้อลากไปกับถนนฉันก็เลยตะโกนลั่นรถ ไม่กล้าตะโกนตอนรถยังไม่นิ่งเพราะรู้สึกเหมือนยิ่งตะโกนด่าเขา รถ Ferrari สีเหมือนขี้มินเนี่ยนกินคัสตาร์ดคันนี้ก็ยิ่งเพิ่มความเร็วมากขึ้น
“ไม่เอาหรอก พาไปกินบนสวรรค์ดีกว่า” เขาหันมาบอกแล้วก็ยิ้มแถมยังทำเสียงพร่าตอนที่พูดว่ากินบนสวรรค์อีก ด่าอะไรก็ไม่เคยสะเทือนจริง ๆ เจ็บใจที่ไม่เคยทำอะไรไอ้บ้านี่ได้เลย
“นายพาฉันกลับเดี๋ยวนี้” พอด่าไปแล้วมันทำอะไรไม่ได้ฉันก็เลยเลือกที่จะทำเสียงแข็งใส่เผื่อจะได้ผลบ้าง
“กินข้าวก่อน” ไอ้พี่กราฟมันพูดลอย ๆ แล้วก็ลงจากรถไปเลยทิ้งให้ฉันนั่งอยู่บนรถคนเดียว พอเห็นฉันไม่ลงเขาก็เดินอ้อมรถมาเอามือค้ำประตูรถฝั่งฉันแล้วก็เคาะบนหลังคารถ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
“ไม่ลงจะกลับ!” ฉันตะโกนออกไปนอกรถ เขาก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วก็เคาะต่อ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
“ไม่! ลง!"
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
“บอกว่าไม่ลงไงโว้ย!"
“อย่าให้พี่ถ่อยอีกน่าหยา ลงมาเถอะครับไปกินข้าวก่อนมันจะดึกแล้ว” อีพี่กราฟเปิดประตูรถออกแล้วก็ก้มหน้าลงมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่...ช่างมันเถอะค่ะ
“ไม่! ฉันจะกลับ อยากกินก็เข้าไปกินคนเดียว”
“หยา...” ไอ้พี่กราฟเรียกฉันเสียงดุ แล้วก็มองหน้าฉันทำเหมือนตัวเองเป็นผู้ใหญ่ที่กำลังดุเด็กดื้อ เหอะ! โทษทีนะอีหยาไม่ได้เป็นเด็กดื้อของเขาค่ะ!
“รีบกินด้วย!” เออลงก็ลง มัวแต่ลีลาก็ยิ่งได้กลับช้า ไม่รู้เป็นบ้าอะไรถึงได้พามากินไกลถึงพัทยา ว่างมากนักรึไงวะ!
“อยากกินไรเดี๋ยวพี่สั่งให้” กินหัวนายนั่นแหละ!
“เดี๋ยวสั่งเอง”
“เอาเป็นเซ็ตทะเลเผาไหม หยาแพ้อาหารอะไรรึเปล่า”
“เดี๋ยวสั่งเอง”
“เอาห่อหมกทะเลไหมครับ”
“นายอยากกินอะไรก็สั่งมาเหอะ ท่าทางจะหิว” ฉันวางเมนูอาหารที่ยกขึ้นมาปิดหน้ากั้นไม่ให้ฉันกับเขาต้องเจอหน้ากันลงแล้วก็บอกเขาที่เอาแต่ถามว่าเอาอันนั้นไหมเอาอันนี้ไหมเหมือนกำลังหิวมากแต่ที่ไหนได้ไอ้บ้านี่ไม่ได้ดูเมนูอาหารแต่นั่งเท้าคางมองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มต่างหาก
“หิวแต่พี่อยากให้หยาเลือกเมนูมากกว่า” เหอะ! จะมาแอ๊บแอ้ทำตัวสุภาพบุรุษอะไรตอนนี้ ตอนที่คนสวยแสนฉลาดอย่างปั้นหยาเห็นธาตุแท้ของนาย เห็นไส้เห็นพุงเห็นยันเซลล์ของเซลล์ของเซลล์ของเซลล์!
“พี่คะเอาทะเลเผาชุดใหญ่ ๆ เลยนะคะ แล้วที่เหลือเอาอะไรก็จัดมาเลยค่ะพี่ อะไรก็ได้พี่อยากให้หนูกับผู้ชายคนนี้กินจัดมาเลยนะคะ ราคาไม่เกี่ยงปริมาณไม่เน้น เน้นที่แพง ๆ ก็พอค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” ฉันหันไปสั่งพี่พนักงานเสิร์ฟซึ่งพี่เขาก็งง ๆ กับการที่ฉันไปสั่งแบบนั้น ก็มันไม่รู้จะสั่งอะไรนี่ หนูขอโทษนะคะพี่
พอฉันสั่งก็เหมือนพี่พนักงานไม่กล้าจะไปจัดการอาหารให้หรอกหันไปมองไอ้พี่กราฟเลิกลั่กเลย
“เอาเป็นเมนูเด็ดของร้านครับ สัก 7-8 เมนู เน้นซีฟู้ดครับจัดการมาให้ได้เลย ขอบคุณมาก” อีตานี่คงเห็นสีหน้าพี่พนักงานที่แสดงออกถึงความลำบากใจก็เลยหันไปบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพเกินนิสัย
“ได้ค่ะ สักครู่นะคะ” หืม~ ยิ้มหวานเลยนะคะคุณพี่
“เกลียดอะไรพี่นักหนา พี่ขอโทษ” หลังจากที่พี่พนักงานเดินออกไปอีตานี่ก็หันกลับมาคุยกับฉัน
“เกลียดปากร้าย ๆ แล้วก็การโยนผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักกันลงน้ำของนายไง” ฉันตอบกลับไปเสียงนิ่ง คิดแล้วยังไม่หายโกรธ วันนั้นฉันเป็นตัวตลกของไอ้พวกมีอันจะกินพวกนั้นโดยที่ฉันไม่ได้เต็มใจเลยสักนิด
“พี่เมาจริง ๆ เหมือนไม่เมาใช่ไหม แต่พี่เมามาก พี่คออ่อนกินแก้วเดียวก็เมาแล้ว”
“เมาก็ควรนอนไม่ใช่กร่าง”
“เฮ้อ! ขอโอกาสทำดีหน่อยเถอะปั้นหยาไม่ใช่ปิดกั้นทุกช่องทางแบบนี้ แล้วจะรู้ได้ไงวะว่าที่จริงพี่ก็เป็นคนดีเหมือนกัน”
“โอ้โห~ ทำไมกล้าพูดว่าตัวเองเป็นคนดี แล้วที่บอกว่าเมาเอาไปหลอกเด็กอนุบาลเถอะจ้ะพ่อหนุ่ม ตกน้ำแล้วเดินตัวตรงมาหาเรื่องฉันถึงงานวันเกิดพี่กันต์ได้มันไม่ใช่ลักษณะของพวกคออ่อน”
“ก็ทั้งเมาทั้งโมโหไงเลยทำแบบนั้นได้ ถ้าไม่เชื่อว่าคออ่อนเดี๋ยวกินให้ดูเลยก็ได้ ขับรถไปรถคว่ำตายจะได้ขึ้นสวรรค์พร้อมกัน” ไอ้พี่กราฟมันบอกฉันด้วยน้ำเสียงกวนส้นตีนและยิ้มด้วยความมั่นใจ แถมคำว่าขึ้นสวรรค์ยังทำสีหน้ากระลิ้มกระเหลี่ยส่งมาให้อีก
“...” ฉันเลือกที่จะเงียบดีกว่าค่ะ อย่าเอาตัวไปจมปลักกับการเถียงสู้ไอ้บ้าพี่กราฟนี่เลยเสียเวลา เถียงไม่ชนะหรอก
“ดื่มเบียร์สักแก้วกับอาหารทะเลไหมครับคุณหมอ เข้ากันนะ” เหอะ! ไหนว่าคออ่อนไงแล้วทำไมมาชวนดื่มเบียร์
"..." ไม่สน
"เดี๋ยวพี่สั่งให้"
“...” ไม่คุย
“ปั้นหยา”
“...” ไม่ตอบ
“หยา”
“...” ฉันไม่สนไม่คุยไม่ตอบอีตานี่เลยสักประโยค นั่งกดโทรศัพท์เล่นดีกว่ามีสาระกว่าเยอะ คนไม่ชอบขี้หน้ากันจะให้มาคุยกันทำไมวะ แค่มานั่งกินข้าวด้วยกันนี่ก็กระอักกระอ่วนมวนท้องมวนไส้จะแย่แล้ว
“ที่ไม่อยากคุยกับพี่ดี ๆ เพราะกลัวตกหลุมรักพี่เหรอ”
ขวับ!
"..."
พ่อง!!!