“ป้านวล ป้าผ่อง ใจเย็นๆ ก่อน อย่าทะเลาะกัน”
“อย่าเสือก!” พร้อมใจร้องประสานเสียง
สาวรับใช้กลัวหัวหดถอยมารวมกลุ่มพวกพ้องมองแม่บ้านสองคนแย่งชามกุ้ง กุ้งทั้งหมดตกลงบนพื้นในสภาพน่าอนาถ ต่างคนต่างโทษว่าเป็นความผิดของอีกฝ่าย มีปากเสียงกันรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นจับผัก จับน้ำปลา น้ำตาลมาสาดใส่กันกลิ่นตลบอบอวล
“หยุด! ใครไม่หยุดฉันจะไล่ออกจากบ้านให้หมดทุกคน!”
เหตุการณ์สงบลงตอนที่นายแพทย์สิทธิเดชมาปรากฏ ชายสูงวัยไม่ได้ถึงกับหล่อมากแต่มีเค้าโครงหน้าดี ผิวพรรณดี รัศมีจับ สภาพแม่นวลกับแม่ผ่องเละพอกัน รุดเข้าไปฟ้องด้วยการใส่ร้ายอีกฝ่าย
“ดิฉันไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อนนะคะคุณท่าน นังนวลมันเข้ามาระรานในครัว ทั้งที่วันนี้เป็นเวรทำครัวของดิฉัน” แม่ผ่องเล่นใหญ่ ร้องไห้ไม่มีน้ำตาเสียงดังเสียจนแม่นวลอยากเอานิ้วจิ้มตาให้บอด แม่นวลกลัวเสียความน่าเชื่อถือฟ้องกลับด้วยน้ำเสียงที่ดังมากกว่า
“ดิฉันไม่ได้ระรานนะคะคุณผู้ชาย แค่มาขอแบ่งกุ้งทำเมนูโปรดให้คุณหนูปลื้มเท่านั้น นานๆ คุณหนูจะกลับมาร่วมโต๊ะ”
“ไม่จริงค่ะคุณท่าน นังนวลมันจงใจระรานดิฉัน หาเรื่องทะเลาะกับดิฉัน มันไม่ได้ขอแต่มาแย่งชามกุ้งจนกุ้งทั้งหมดตกลงบนพื้น ฮือ... ผ่องสัญญากับคุณหนูของผ่องไว้ว่าจะทำของอร่อยๆ ให้กิน แต่เป็นแบบนี้ ผ่องจะกล้าเก็บกุ้งมาล้างน้ำทำให้คุณหนูกินได้ยังไง”
คราวนี้แม่ผ่องร้องไห้ออกมาจริงๆ เพราะรักคุณหนูตัวเองมาก
“ถ้าแกแบ่งให้ฉันแต่แรกก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอก!”
“พอได้แล้ว อยากถูกไล่ออกพร้อมกันหรือไง!”
เจ้าของบ้านหน้าเครียด ทำงานหนักมาทั้งวันกลับถึงบ้านแทนที่จะสงบใจได้บ้างกลับต้องมาทนเห็นทนฟังเรื่องเดิมๆ เมียสองคนทะเลาะกัน คนรับใช้ของเมียทั้งสองติดนิสัยจากเจ้านายทะเลาะกันทุกวัน
“ไม่นะคะ อย่าไล่พวกเราออกจากบ้าน” คุณผู้ชายอยู่ในหมวดจริงจัง แม่นวล แม่ผ่องรู้นิสัยท่าน สามัคคีปรองดอง
“คุณผู้ชายหักเงินดิฉันชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดได้เลยค่ะ”
“หักของผ่องด้วยก็ได้ค่ะ ส่วนของที่เสียหาย ผ่องจะรีบออกไปจ่ายตลาดมาเพิ่มให้ทันมื้อเย็น อย่าไล่พวกเราออกเลยนะคะ”
“อายุไม่ใช่น้อยๆ แล้วนะ เมื่อไหร่จะเลิกทะเลาะกันสักที ระวังเถอะ ทำลายข้าวของ ทะเลาะกันบ่อยๆ ฉันจะเฉดหัวออกจากบ้าน แม้แต่เจ้านายพวกเธอก็เปลี่ยนใจฉันไม่ได้!”
เจ้าบ้านชักสีหน้าเบื่อหน่าย ไม่ชอบที่ทั้งสองแบ่งนายแบ่งบ่าวทะเลาะกันเหมือนเด็กไม่รู้จักโต
“ขอโทษค่ะ” แม่นวล แม่ผ่องหน้าสลดไม่กล้าเถียง
“มีอะไรกัน ส่งเสียงดังโวยวายไกลถึงหน้าบ้าน”
คุณกาญจนา คุณผู้หญิงหมายเลขหนึ่งเข้ามาผสมรวม สามีเหม็นหน้าภรรยาเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ฝ่ายคุณกาญจนาเชิดหน้าใส่ด้วยความไม่ลงรอยแต่ทนอยู่ด้วยกันเพราะผลประโยชน์
“ไม่ได้ยินที่ฉันถามเหรอว่ามีอะไรกัน”
“ถามคนของเธอเองสิ” ตอบเสียงสะบัด จ้ำอ้าวเดินหนี
แม่นวลคับข้องใจ ไม่ชอบที่คุณสิทธิเดชวางตัวไม่ดีใส่คุณผู้หญิงต่อหน้าแม่ผ่องและสาวรับใช้ เบียดเพื่อนร่วมอาชีพกระเด็นไปด้านหลังมายืนแทนที่เพื่อฟ้องคุณผู้หญิง
“ดิฉันมาขอแบ่งกุ้งจากนังผ่องทำอาหารขึ้นโต๊ะให้คุณหนูปลื้ม แต่นังผ่องไม่ยอม มันบอกว่าจะทำให้แค่คุณหนูของมันกิน มันกับดิฉันแย่งกัน สภาพกุ้ง สภาพครัว เลยเป็นอย่างที่เห็น” แม่นวลไม่ได้พูดจาโป้ปด บอกเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดโดยละเอียด
“วันนี้เวรดิฉันทำอาหารขึ้นโต๊ะ ถ้าแม่นวลอยากให้ทำอาหารนอกเหนือจากรายการก็ควรบอกดิฉันตั้งแต่ก่อนไปจ่ายตลาด”
“ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณหนูจะกลับมาร่วมโต๊ะอาหารค่ำเมื่อกี้นี้เอง”
“แม่นวล พอ”
แม่บ้านวัยกลางคนสงบปากสงบคำ ก่อนคุณกาญจนาจะปรายสายตาไม่พอใจไปทางแม่บ้านอีกคนที่จองหองอวดดี
“ของทุกอย่างรวมถึงบ้านหลังนี้เป็นของตาปลื้ม! เธอไม่มีสิทธิ์หวงของกับเขา! อย่าคิดว่ามีดาราตกกระป๋องถือหางแล้วจะอวดดียังไงก็ได้ เจ้านายเธอก็แค่เมียน้อยที่สามีของฉันตาต่ำไปคว้ามา!”
“คุณนา!” นายแพทย์สิทธิเดชตะเบ็งเสียงเข้มกึกก้องใส่ภรรยาที่ไม่ไว้หน้าตัวเอง กำหมัดตัวสั่นอยู่ห่างออกไป
“ฝากแม่นวลเตรียมอาหารไว้ให้ตาปลื้มด้วยนะจ๊ะ ตาปลื้มไม่เรื่องมาก รสมือแม่นวลดีทำอะไรก็อร่อย ส่วนแม่ผ่อง ถ้าเขาอยากทำกุ้งก็ยกให้ทำไปเถอะ อย่าเอาของเปื้อนฝุ่นมาทำให้ลูกชายฉันกิน”
“รับทราบค่ะคุณผู้หญิง เชื่อมือดิฉันได้”
ถูกคุณผู้ชายตวาด แต่คุณผู้หญิงของแม่นวลไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย ถูกใจแม่นวล แม่นวลไม่กล้ามองกลับหลังได้แค่เหยียดยิ้มใส่แม่บ้านคู่อริ ประกาศสถานะให้รู้ว่าตัวเองอยู่สูงกว่ามากแค่ไหน