กรี๊ดดดดดดดดดดดด
เสียงกรีดร้องของสุรศักดิ์ดังขึ้นแต่เช้า วันนี้หล่อนมาเปิดร้านช่วยมนิตาหลังจากที่เปิดร้านเสริมสวยช่วยหรรษาเสร็จ พอเปิดร้านได้ไม่นานก็มีลูกค้าเข้ามาในร้าน และที่ทำให้ชายใจหญิงกรีดรั้นร้านแบบไหนเพราะลูกค้าที่ว่านั้นหล่อมาก หล่อระดับพระเอกหนังเลยแหละ
คำแพงที่เพิ่งตื่นตกใจกับเสียงกรีดร้องของสุรศักดิ์เธอก็รีบวิ่งลงมาข้างล่างตรงไปยังมนิตากับสุรศักดิ์ที่กำลังยืนอึ้งมองอะไรสักอย่างอยู่
“มีอะไรกัน?”
“เอื้อยเบิ่งเอาโลด” มนิตาลืมเลยว่าต้องพูดภาษากลาง ก็นะตอนนี้ความหล่อทำให้มึนงง
“หลบไปสิ บังพี่อยู่ได้” คำแพงสั่งสองสาวหลบให้ตน และมันก็ทำให้เธออึ้งจริงๆ
“ผัวเอื้อยชัดๆ หล่อหลาย ฝรั่งๆ ขอบคุณสวรรค์หลายๆ เด้อค่ะ” คำแพงลืมตัวยกมือขึ้นเหนือหัวพูดคนเดียว จนลืมทุกคนรอบๆ กาย
“เอื้อยๆ ผัวข้อยเด้อค่ะคนนี้ ข้อยเห็นก่อน” สุรศักดิ์เอ่ยขัดขึ้น
“บาดี้ของพี่ พี่เจอก่อน คนนี้แหละที่พี่ไปเจอที่จตุจักรบ่อยๆ พรหมลิขิตแน่ๆ พวกเธอ” คำแพงยืนบิดกายไปมาด้วยความเขินอาย
ชายหน้าหล่อที่เป็นประเด็นได้แต่ยืนมึนงง ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ใช่เขาจำได้ว่าผู้หญิงที่ลงมาทีหลังเขาเคยเจอมาแล้ว และเคยเจอบ่อยด้วย เมื่อวานก็เจอ เพราะเธอกรี๊ดเขาอยู่ตอนเดินผ่าน ตัวชายหนุ่มเองก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าจะได้เจอผู้หญิงตัวเล็กน่ารักคนนี้อีกครั้ง และที่มาวันนี้เพราะจะมาซื้อชุดสูทไว้ใส่ออกงาน
ชายหนุ่มยืนยิ้มทำหน้าเอ๋อแสร้งฟังทั้งสามไม่รู้เรื่อง ขณะแสร้งทำเอ๋อนั้นเขาก็พิศมองคนตัวเล็กที่ใส่ชุดนอนลายโดเรม่อนแล้วอดนึกขำในใจ อยากรู้นักว่าเธออายุเท่าไหร่แล้ว ทำไมดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูจัง แต่เท่าๆ ที่ฟังดูผู้หญิงคนนี้กับผู้ชายไม่แท้เรียกเธอว่าพี่ เห็นทีจะอายุเยอะอยู่ แต่ดันหน้าเด็กชะมัดเลย
“อุ้ย! ลืมเชิญลูกค้าเข้าร้าน” คำแพงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่บิดตัวไปมาจนได้สบกับนัยต์ตาสีน้ำตาลเข้าสติถึงกลับมา
“เชิญเข้าไปนั่งในร้านก่อนค่ะ อุ้ย! ลืมไปว่าไม่ใช่คนไทย คือ....”
“ผมพอฟังได้ครับ” ภาษาไทยสำเนียงแปลกๆ ดังออกมาจากปากหนาของชายตัวโต
‘ตายแล้วอิแพง ฟังไทยออก แล้วเมื่อกี้ล่ะ กูตายแน่ๆ เลย หือๆๆ ’ เธอโอดครวญในใจ ก่อนจะยิ้มแหย่ๆ ผ่ายมือให้ชายหนุ่มเข้าไปในร้าน ก่อนจะสั่งลูกน้องของตนไปเตรียมของตอนรับลูกค้า
“มินไปตอนรับลูกค้า ส่วนแกบาดี้กลับไปหาพี่ษาได้แล้ว”
“ค่ะพี่แพง” มนิตารับคำแล้วรีบเดินตามฝรั่งรูปหล่อไป
“โอ้ย! พี่แพงกะ อยู่ด้วยก็ไม่ได้ เอื้อยษาเพิ่นไปซื้อไอติมข้อยเลยได้แวะมาหานิละ มากะมาเห็นฝรั่งหล่อเลย”
“ของกู! เบิ่งปากเอื้อยชัดๆ เด้อ ของกู! ” คำแพงแสดงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน
“ให้ได้เขาก่อนเถอะเอื้อยค่อยมาเว้า ฮ่าๆ ” สุรศักดิ์ปิดปากหัวระเดินกลับไปร้านเสริมสวย
“เออ! ท่าเบิ่งโลด จังไดกูกะจะได้ผัวฝรั่งและกะคนนี้พร้อม หึหึ” คำแพงตะโกนบอกคนที่เดินจากไปด้วยความมั่นใจ
“จตุจักรไม่ไปแล้ววันนี้ เพราะไหนๆ ก็มีฝรั่งมาให้ดูถึงที่แต่เช้าแล้ววันนี้” พึมพำเสร็จก็เดินเข้าไปในร้านที่มนิตาเอาน้ำและขนมมาตอนรับรออยู่ และเอาแฟ้มแบบชุดให้ลูกค้าเลือกดู
“เลือกแบบก่อนนะคะคุณ...”
“เวลครับ ผมชื่อเวล” ชายหนุ่มแนะนำตัวสั้นๆ กับคนตัวเล็ก
“ค่ะคุณเวล ฉันแพงนะคะ เลือกแบบเลยนะคะ นอกจากเราจะรับตัดชุดแล้วร้านเรายังมีตัดไว้ขายและให้เช่าด้วยนะคะ สูทของเราคุณภาพทั้งนั้นเลยค่ะ แพงรับประกันเลยค่ะ” คำแพงทิ้งเวลาบ้าผู้ชายหันมาจริงจังกับงานก่อน เพราะเวลางานก็คืองาน เวลาบ้าผู้ชายก็อีกเรื่อง ตอนนี้คืองาน
“ขอตัวก่อนนะคะ พอดีแต่งตัวไม่เรียบร้อยต้องขอโทษคุณเวลด้วยนะคะ” เธอเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองแต่งตัวไม่เรียบร้อย
“ไม่เป็นไรครับ น่ารักดี” ชายหนุ่มชมอย่างซื่อๆ ก็ใช่หญิงสาวน่ารักจริงๆ ดูเหมือนเด็กอายุ 18 ปีไม่มีผิดเลย แก้มก็น่าหยิก ไม่แปลกใจเลยทำไมเขาถึงจำหญิงสาวได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็น และไม่คิดว่าจะได้มาเจอเธออีกวันนี้ ไม่อยากชื่อว่าทุกอย่างจะบังเอิญบ่อยเกินไป แต่มันก็เป็นไปแล้วตอนนี้
“บ้า! เขินนะคะ ชมมาได้” คำแพงลืมตัวบิดตัวเขินอายปัดมือไปมาไม่เป็นตัวของตัวเอง จนมนิตาต้องสะกิดผู้เป็นนายให้ได้สติคืนมา
“พี่แพงๆ ”
“วะ...ว่าไงมิน”
“พี่รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเถอะค่ะ ทางนี้มินดูแลเอง”
“ขอบคุณนะมิน ขอตัวก่อนนะคะคุณเวล” เอ่ยขอตัวอย่างอายๆ ก็เธอทำแต่เรื่องน่าอายให้ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันเห็น แต่ละอย่างดีงามทั้งนั้นเลย
“ครับผม”
เมื่อลับร่างของคำแพงแล้วชายหนุ่มก็ก้มหน้าดูสูท เปิดไปเปิดมา เขายอมรับสูทร้านนี้แบบเก๋มาก และสวยมาก แถมมองสำรวจร้านรอบๆ แล้วชุดที่มีอยู่มีแต่ดีๆ ทั้งนั้นเลย ไม่แปลกใจที่ใครๆ ก็แนะนำมาที่นี้ ใช่เขาเปิดดูข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และใครๆ ก็ต่างแนะนำมาที่ “ห้องเสื้อคำแพง” ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ นั้นทำคนเดียวหมด เธอเก่งจริงๆ
“คุณครับผมขอไปดูสูทจริงตรงนั้นได้ไหมครับ ผมอยากจับเนื้อผ้าของชุด”
“อะ...ออ...ได้ค่ะ” ว่าแล้วเธอก็พาลูกค้าเดินไปดูชุด และพูดแนะนำแต่ละชุดให้ชายหนุ่มฟัง
ชายหนุ่มฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ก็พอจับใจความได้บ้างว่าเธอพูดอะไร และไม่นานนักเจ้าของร้านก็เดินเข้ามาสมทบ พร้อมกับชุดใหม่ของเธอ ตอนนี้สาวเจ้าใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาดเข่าแฟชั่น ปล่อยผมยาวเป็นธรรมชาติ มองดูแล้วน่ารักเหลือเกินในความคิดชายหนุ่ม
“เลือกได้รึยังคะคุณเวล หรืออยากจะสั่งตัดใหม่ก็ได้นะคะ” ‘ขอให้ตัดใหม่ด้วยเถอะ อยากวัดตัว อยากสัมผัสถูกตัวสูดกลิ่นกายเขาจริงๆ หึหึ หื่นจริงๆ อิแพงเอ้ย! ’ ประโยคหลังหลุดหายเข้าไปในลำคอระหง ก่อนจะยิ้มให้ชายหุ่มแล้วเดินไปจับชุดในมาหนึ่งชุดแล้วเทียบกับตัวชายหนุ่ม
“ชุดนี้ไหมคะแพงว่าเหมาะกับคุณดี” เอาชุดเทียบตัวชายหนุ่มยังไม่พอ ยังถือวิสาสะแทนชื่อตัวเองกับชายหนุ่มอย่างสนิทสนมอีก
การกระทำทำให้ชายหนุ่มหัวใจเต้นรัว ตั้งแต่โตมาอายุ 30 กว่าปียังไม่เคยมีหญิงคนไหนทำให้เขาใจเต้นแรงแบบนี้เลย แถมสาวเจ้าก็ดูเป็นธรรมชาติมาก ไม่มีเก้อเขินอะไร ผิดต่างจากก่อนหน้านี้ คือผู้หญิงคนนี้มีอะไรน่าค้นหา จนอยากทำความรู้จักให้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่ดี เพราะอีกไม่กี่วันเขาก็ต้องไปเที่ยวเกาะล้านแล้ว ไม่เป็นการดีที่จะทำแบบนั้นกับเธอ
“ขอบคุณครับ งั้นผมขอลองได้ไหม จะได้รู้ว่าพอดีรึเปล่า”
“ได้เลยค่ะ เชิญทางนั้นเลยนะคะ” คำแพงยื่นชุดใส่มือให้อีกฝ่าย ก่อนจะชี้ไปยังห้องลองชุดของร้าน
“ขอบคุณครับ” ว่าแล้วก็เดินไปยังห้องลองชุด
“เอื้อยแพงข้อฮู้เด้อว่าเจ้าคิดหยังอยู่” ลูกน้องแซวทันทีเมื่อเหลือกันสองคน
“อย่าฟ่าวบอกเอื้อยษาเด้อมิน” เธอไม่อยากให้พี่สาวเธอรู้เรื่องนี้ เพราะเธออยากมั่นใจก่อนและเธอจะเป็นคนพูดเอง
“ค่ะคุณพี่ ว่าแต่เพิ่นหล่อเนาะเอื้อย หล่อหลายๆ หล่อวัวตาย ควายล้มเลย อยากล้มทับควายเพิ่นเนาะเอื้อย ฮ่าๆๆ ”
เพียะ
“เว้าไปนั้น เป็นสาวเป็นนาง ว่าแล้วอยากล้มจักสองสามทีเด้เนาะ ควายเพิ่นคือสิใหย่เอื้อยว่า ฮ่าๆๆ ” คำแพงพูดไปหัวเราะไป ก็มันจริง ถ้าได้แบบชายหนุ่มนะยอมถวายทั้งตัวเลยงานนี้ สมบัติมีเท่าไหร่ก็จะขอพ่อสมยศกับแม่คำผ่องมาให้
“โอ้ย! แล้วมาทำเป็นตีเค้า หึ๋ย! จะของกะอยากล้มทับควายเขาคือกันนั่นล่ะ ฮ่าๆ นั้นๆ เพิ่นออกมาแล้วเอื้อย” ว่าพลางบุ้ยปากไปทางชายหนุ่ม ที่เดินใส่ชุดที่ลองออกมา ชายหนุ่มเดินตรงมาหาสองสาว เขาไม่รู้หรอกว่าพวกเธอคุยอะไรกัน เพราะมันเป็นภาษาที่เขาฟังไม่รู้เรื่อง
“คุณแพงครับ ผมใส่แล้วเป็นไงบ้างครับ” ถามใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“อุ๊ต๊ะ! เทพบุตร…” คำแพงเอ่ยคล้ายคนละเมอ พร้อมกับก้าวเท้าไปหาชายหนุ่มอย่างช้าๆ พอถึงตัวชายหนุ่มก็ยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าหล่อไปมาอย่างหลงใหล แม้แต่ตัวชายหนุ่มเองยังอึ้งทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งแข็งให้คำแพงลูบไล้ใบหน้าตน
มนิตาปิดปากตกใจ เพราะไม่คาดคิดว่าพี่สาวตนจะเป็นได้ถึงขนาดนี้ แต่ยอมรับฝรั่งคนนี้หล่อจริงๆ หล่อดูดี และเมื่อสติมาจึงเดินเข้าไปดึงเจ้านายของตนออกมาให้ห่างตัวลูกค้า ‘โอ้ย! เอื้อยแพงมาหื่นอยากมีผัวหยังตอนนี้ ทำงานก่อนแหน่ ข้อยอายแทนเด้’ ลูกน้องสาวบ่นในใจ
“อุ้ย! ขอโทษค่ะคุณเวล แพงน่าตีจริงๆ ขอโทษจริงๆ นะคะ” ตอนนี้คำแพงอยากแทรกพื้นหนีแล้ว แต่มันทำไม่ได้ เลยแต่ยิ้มอายๆ แล้วเดินไปจับอีกชุดมาให้ชายหนุ่มไปลองอีก
“ไม่เป็นไรครับ ผมว่าผมเอาชุดนี้แหละ พอดีเลยครับ ไม่แน่น ไม่หลวม” เขาได้ยินชัดว่าหญิงสาวชมเขาว่าอะไรก่อนจะเดินมาลูบไล้หน้าเขาอย่างหลงใหล
“ขอบคุณนะคะ มินพาคุณเวลไปเปลี่ยนชุดแล้วเอาชุดใส่ถุงให้คุณเขานะ ส่วนพี่ขอตัวไปตลาดก่อน หิวจะแย่อยู่แล้ว โอกาสหน้าเชิญที่ร้านใหม่นะคะ” ว่าแล้วก็รีบเดินหนีไป เพราะตอนนี้เธออาย ยังไม่อยากยืนจ้องหน้าหล่อนานๆ
“เชิญทางนี้ค่ะคุณเวล” มนิตาทำตามเจ้านายสั่งทุกอย่าง ส่วนหนุ่มตำน้ำข้าวก็ได้แต่อมยิ้มมองตามหลังคนที่รีบเดินออกไป เขารู้ว่าเธออาย
“ครับผม” ว่าแล้วก็ตามมนิตาไปยังห้องลองชุดที่ตนออกมาก่อนหน้านี้