ตอนที่ 4 เรื่องบังเอิญมีอยู่จริงหรือ?
“พี่ข้าวตังเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เสียงทักทำให้ข้าวตังสะดุ้งก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียง กี คือพนักงานคนใหม่ที่เขาเพิ่งจ้างมามีหน้าที่ดูแลร้านและออกไปส่งดอกไม้ในบางครั้ง ตั้งแต่ความฝันเมื่อคืนเขาไม่สามารถเอามันออกจะหัวได้เลย จะเป็นไปได้เหรอที่คนคนหนึ่งจะฝันเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ หลายต่อหลายครั้ง ‘ทำไมนายทำแบบนี้’ เป็นประโยคแรกที่เขาได้ยินชัดเจนหลังจากที่ไม่สามารถปะติดปะต่อได้มาหลายครั้ง
“พี่ไม่เป็นอะไร” กีมองเจ้าของร้านอย่างเป็นห่วงแม้ว่าเขาจะเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ไม่นานแต่ก็รู้สึกดีใจที่มีเจ้านายนิสัยดีไม่ขี้งกถ้าวันไหนมีทิปเขาก็ได้คนเดียวเต็ม ๆ เพราะในร้านมีเขาเป็นพนักงานคนเดียว
“ครับ” ข้าวตังยิ้มก่อนจะเดินไปที่โซนดอกไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ต่างเบ่งบานส่งกลิ่นหอมทุกครั้งที่เขาอยู่ตรงนี้จะรู้สึกผ่อนคลาย เขาหยิบดอกกุหลาบสีขาวมาตัดแต่งเพื่อส่งให้ลูกค้าน่าแปลกใจที่ลูกค้าวันนี้คือชื่อที่คุ้นเคย กวิน หนุ่มหล่อที่เขาเพิ่งเจอไม่กี่วันก่อน เมื่อจัดดอกไม้เสร็จแล้วข้าวตังก็เดินไปรอที่ด้านนอกวันนี้กวินบอกว่ารบกวนให้เอามาให้ด้านนอกเพราะรีบเขาเลยไม่ได้ขัดอะไร รอไม่นานนักรถยุโรปคันหรูก็มาจอดเทียบท่า
“ขอบคุณมากเลยนะครับ” แววตาคมมองข้าวตังที่ถือดอกไม้ด้วยความทะนุถนอม กวินรับช่อดอกไม้มา
“ไม่เป็นไรครับ คนที่ได้ดอกไม้คงโชคดีแน่เลย” ข้าวตังยิ้มดอกกุหลาบสีขาวมีความหมายว่าความรักที่บริสุทธิ์ไม่หวังสิ่งตอบแทนเหมาะกับให้คนรักหรือครอบครัว
“ผมยังไม่มีแฟนหรอกครับ” กวินยิ้มเจ้าเล่ห์ ข้าวตังเพียงยิ้มตอบไม่ได้พูดอะไรมากแต่ก่อนที่กวินจะได้กลับรถคนที่สูงกว่าก็โน้มตัวเข้ามาใกล้ทำให้ข้าวตังยืนแข็งด้วยความตกใจ
“ผึ้งน่ะครับ” ข้าวตังมองผึ้งตัวน้อยที่บินอยู่รอบ ๆ มันคงจะได้กลิ่นดอกไม้ ข้าวตังขยับตัวออกด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ
“ขอบคุณครับ” กวินยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นรถ เมื่อรถออกไปแล้วเขาก็เห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยที่อยู่ตึกตรงข้ามไม่ไกล
“เฮีย?” แผ่นหลังนั้นทำไมเขาจะจำไม่ได้ ด้านข้างมีร่างเล็กของน้ำเพชรพอเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันความรู้สึกไม่สบายใจก็กลับมาอีกครั้ง
ช่วงเวลาเดียวกันภามที่กำลังลงจากรถพร้อมเลขาอีกคนเขาเพิ่งกลับจากการคุยกับลูกค้ารายใหญ่การพูดคุยใช้เวลาทั้งวันโชคดีที่ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เขาค่อนข้างพอใจกับเลขาคนใหม่ตอนแรกที่อีกคนเข้ามาเขากังวลอยู่บ้างว่าจะทำงานสำคัญได้ไหมแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ต้องกังวล แน่นอนว่าสาเหตุเพราะว่าน้ำเพชรเป็นนายเอกโลกใบนี้หมุนตามเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะทำได้ดีและสร้างความพอใจให้ภาม
“อ่ะ นั่น” หลังจากที่ลงจากรถเสียงร้องของเลขาคนใหม่ก็ทำให้ภามหันไปมองก่อนจะมองตามสายตาของอีกคน ภาพตรงหน้าคือร่างบางที่คุ้นเคยและใครอีกคนที่กำลังโน้มหน้าเพราะเห็นแค่แผ่นหลังเลยสามารถมองได้ว่าทั้งคู่จูบกันอยู่ ภายในใจของภามรู้สึกโมโหเขาอยากเดินเข้าไปกระชากผู้ชายคนนั้นออกแต่ก่อนที่จะได้เดินไปน้ำเพชรก็ได้เอ่ยขึ้นก่อน
“มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้นะครับ ทั้งคู่อาจจะไม่ได้ จะ..จูบ” เสียงหวานขาดห้วงพูดแก้ตัวให้ทั้งคู่ “มันอาจจะเป็นการเข้าใจผิดคุณณภัทรอย่าเพิ่งรีบร้อนเลยนะครับ” ใบหน้าของภามราบเรียบก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าบริษัท น้ำเพชรยกแฟ้มขึ้นปิดครึ่งหน้าเผยรอยยิ้มออกมา ยังหรอก...แค่นี้มันยังไม่พอ เขาต้องค่อย ๆ ให้ทั้งคู่แตกกันอย่างไม่รู้ตัว
อ่า...ขอโทษนะข้าวตัง ยังไงชีวิตนี้นายก็ถูกกำหนดให้เป็นฝ่ายจากไป นายควรดีใจที่ได้ช่วยชีวิตของผมไว้!
รถคันหรูแล่นมาจอดที่คอนโดราคาแพงกวินถือช่อดอกไม้ลงจากรถก่อนจะเดินไปที่ถังขยะโยนดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์ลงในถังด้วยสายตาราบเรียบ สีขาวเหรอ...แววตาของกวินฉายแววรังเกียจสีขาวเป็นสีที่เขาเกลียดมากที่สุดและดอกไม้เขาก็เกลียดไม่ต่างกันมันทำให้เขานึกถึงเรื่องราวในอดีตใครจะรู้ว่า กวิน ประธานบริษัทชื่อดังจะเป็นเพียงลูกเมียน้อยของตระกูลเจริญชัยรุ่งเรือง ตั้งแต่เด็กเขามองแม่ถูกรังแกต่าง ๆ นานา สวนกุหลาบที่แม่ชื่นชอบก็ถูกทำลายซ้ำแล้วซ้ำอีกสุดท้ายเธอก็หนีออกจากบ้านไปปล่อยให้เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวแม้ว่าเขาจะเป็นลูกชายแต่เมื่อลับหลังนายท่านเขาก็ถูกรังแกทุกวันใต้ร่มผ้าเต็มไปด้วยรอยไม้ฟาดและรอยหยิก
อ่า แต่ตอนนี้มันไม่มีมือให้ทำร้ายเขาแล้วก็เขาตัดมือนางแพศยาหลังจากนั้นเขาก็วางยาพ่อตัวเองขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแต่แล้วยังไงยังไงคนพวกนั้นก็ไม่เห็นเขาเป็นครอบครัวอยู่แล้วแม้ว่าพวกญาติคนอื่น ๆ จะพยายามหาเรื่องต่าง ๆ นานาแต่พวกมันจะทำอะไรเขาได้อย่าลืมว่าตอนนี้เขาอยู่จุดสูงสุดของตระกูล!
Rrrrrrr
กวินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดรับระหว่างนี้ก็เดินขึ้นคอนโด
(คุณเป็นไงบ้าง) เสียงหวานเอ่ยจากปลายสาย ตอนนี้เป็นช่วงเย็นหลังจากที่ว่าง น้ำเพชรก็ต่อสายมาหากวินทันทีเพื่อสอบถามสถานการณ์
“ก็ไม่ยังไง” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยตอบ
(อ้าวคุณ คุณณภัทรเห็นฉากจูบของคุณพอดีเลยนะ) น้ำเพชรเอ่ยเสียงโอ้อวดแน่นอนว่าเขากะจังหวะถูกแบบเป๊ะ ๆ ไม่คิดว่าลงจากรถจะเจอฉากเด็ดพอดี
“แค่บังเอิญ” แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะมีแผนแต่ไม่คิดว่าฟ้าจะเต็มใจให้ผึ้งบินมาพอดีมันเลยทำให้ทุกอย่างดูราบรื่นไปหมด ไม่รู้ว่านี่เป็นความบังเอิญหรืออิทธิพลของพล็อตนิยายแต่ไม่ว่ายังไงมันก็สร้างความพอใจให้แก่น้ำเพชรแค่นี้อย่างน้อยภายในใจของภามต้องรู้สึกบางอย่างแน่ ๆ
(เอาเถอะ ผมแค่โทรมาเช็กแค่นี้ละกัน) หลังจากนั้นสายก็ตัดไป กวินมองเบอร์ที่วางไปแล้วก่อนจะเลิกสนใจเดินเข้าห้องของตัวเองเขาไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรทั้งนั้นในเมื่อเขาอยากได้อะไรก็จะเอามันมาให้ได้ไม่จำเป็นต้องสนใครหน้าไหน
แรงสั่นของโทรศัพท์ทำให้ข้าวตังละสายตาจากบัญชีตรงหน้าเมื่อเห็นว่าใครโทรมาใบหน้าสวยก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยน
“ครับแม่”
(ตังลูก ไม่มาเยี่ยมแม่บ้างเหรอ แม่คิดถึง)
“ช่วงนี้ยุ่งมากเลยครับถ้ายังไงช่วงปีใหม่ผมจะขึ้นไปเยี่ยมนะครับ” ข้าวตังยิ้มแม้ว่าเขาจะเปิดร้านอยู่ในเมืองหลวงแต่บ้านเกิดเขาอยู่ที่ต่างจังหวัดแม้ว่าจะชวนพ่อและแม่มาอยู่ด้วยแต่เพราะเป็นคนแก่การจากบ้านมาอยู่ในเมืองเลยไม่ใช่แนวทาง ทุกครั้งแกจะบอกว่าอยู่บ้านดูไร่ดูสวนมีความสุขกว่าอยู่ในเมืองรถติด
(โธ่ อย่าทำงานหนักเกินไปล่ะ แล้วพี่ภามเป็นยังไงบ้างลูก)
“พี่เขาสบายดีครับ”
(อย่างนั้นเองเหรอ ยังไงดูแลตัวเองด้วยนะ)
“ครับผม ไม่ต้องเป็นห่วง”
(จ้า งั้นแม่ไปแล้ว) หลังจากนั้นอีกคนก็วางสายไป ข้าวตังยิ้มเพราะที่บ้านไม่ได้มีเงินมากนักตั้งแต่จบมัธยมปลายเขาเลยทำงานเก็บเงินมาตลอดจนได้ร้านดอกไม้เล็ก ๆ
“พี่ข้าวตังผมกลับก่อนนะครับ” เมื่อถึงเวลาปิดร้านกีก็เอ่ยขึ้น ข้าวตังพยักหน้าให้ก่อนจะเช็กทุกอย่างอีกครั้งเมื่อมองไปที่นาฬิกาตอนนี้เกือบหนึ่งทุ่มแล้วน่าแปลกใจที่ภามมาช้ากว่าปกติ
ข้าวตังมองโทรศัพท์ลังเลว่าจะโทรไปดีไหมความจริงเขากลัวมันรบกวนเวลาทำงานของภามช่วงนี้อีกคนทำงานหนักมาก สุดท้ายเขาก็หยิบของทุกอย่างและเดินไปที่บริษัทของภาม เมื่อเดินมาถึงก็มองไปรอบ ๆ ยังเห็นรถคันหรูของภามจอดอยู่ ข้าวตังเดินไปหายาม
“พี่ยามครับ พี่ภามกลับหรือยังครับ” ยามเงยหน้ามองเมื่อเห็นว่าอีกคนคือข้าวตังคนรักของประธานเขาก็เด้งตัวลุกอย่างเกร็ง ๆ ทำให้ข้าวตังยิ้มอย่างขำขำ
“ยังเลยครับ น่าจะยังอยู่ที่ห้องทำงาน”
“ขอบคุณครับ” ข้าวตังยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปในตึกภายในมืดสนิทมีเพียงไฟที่เปิดไว้บางดวง เสียงของลิฟต์ดังขึ้นเมื่อถึงชั้นเป้าหมาย ชั้น 35 เป็นชั้นสูงสุดของบริษัทนี้ ก่อนที่จะเปิดประตูห้องเข้าไปคนด้านในก็เปิดออกมาก่อน น้ำเพชรเผยสีหน้าตกใจใบหน้าของหนุ่มน้อยแดงระเรื่อราวกับเขินอายแน่นอนว่ามันเป็นการแสดงน้ำเพชรรู้อยู่แล้วว่าข้าวตังต้องมาที่นี่
“ผมขอตัวนะครับ” น้ำเพชรยิ้มก่อนจะก้มหน้าเดินออกไป ข้าวตังเดินเข้าไปในห้องทำงานก่อนจะเจอร่างสูงที่คุ้นเคย ภามกำลังนอนเหยียดที่โซฟาตัวหรูชายเสื้อหลุดออกจากกางเกงกระดุมเสื้อสามเม็ดบนถูกปลดออก ข้าวตังขมวดคิ้วเมื่อเห็นสภาพของภามนึกไปถึงใบหน้าเขินอายของน้ำเพชรมันเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เขาจะมากันแน่ ข้าวตังเดินไปนั่งที่โซฟาค่อย ๆ พยุงหัวของภามมาหนุนตักเขาไม่ใช่คนประเภททึกทักไปเองเหตุการณ์ทุกอย่างมันน่าสงสัยมากเกินไปมันประจวบเหมาะจนน่ากลัวถ้ายังไม่มั่นใจเขาจะไม่ตัดสินใจผลีผลาม
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทั้งความฝันหรือมันจะเกี่ยวข้องกับเลขาคนใหม่ของเฮียภามเพราะหลังจากที่เขาเจอน้ำเพชรทุกอย่างเหมือนจะแปลกไปอีกทั้งยังมีความรู้สึกไม่สบายใจ
มือเล็กลูบที่แก้มสากเขากับเฮียภามคบกันตั้งแต่ตอนเขาอายุ 20 ก็ประมาณสามปีแล้วมันดูเหมือนเร็วมาก ๆ ตลอดสามปีเฮียทำตัวดีมาตลอดไม่มีวี่แววนอกใจและเขาก็เชื่อใจเฮียมากเขาไม่คิดว่าเฮียจะนอกใจเพียงเพราะเพิ่งเจอคนคนหนึ่งไม่กี่วัน
-------------------------------------
เรื่องราวจะจบแบบไหนหน้อออ ฝากติดตามด้วยนะคะ