"ชิ ไอ้หมอบ้าพูดออกมาได้" ฉันเดินบ่นคนเดียวตามประสาคนกำลังโมโห ทำไมชีวิตฉันช่วงนี้มันทำอะไรไม่ขึ้นเลยนะ คิดอะไรเพลินๆ ทว่า จู่ๆก็มีสายเข้าจากไอ้ธาม ฉันเม้มปากก่อนจะกดรับโทรศัพท์
"ไอ้มอคบอกกูว่ามึงจะทำงานให้สำนักงานข่าว มึงคิดดีแล้วเหรอวะ" ยังไม่ทันได้อ้าปากพูด คนในสายก็แร๊ปใส่ทันที
"เออน่า ฉันเอาตัวรอดได้ แกอย่าลืมสิว่าฉันก็มีวิชามวยติดตัวอยู่นะ" ถึงจะไม่ค่อยได้ใช้ก็เถอะ
"ถ้ามีอะไรให้กูช่วยก็บอกนะ"
"อืม ขอบใจที่เป็นห่วง" อย่างน้อยฉันก็ยังมีคนที่เป็นห่วงฉันอยู่ หลังจากคุยกับไอ้ธามเสร็จ ฉันก็เดินไปขึ้นวินมอไซต์ทันที
โครม "อย่าทำอะไรร้านของฉันเลยนะ ขอล่ะ" เมื่อฉันกลับถึงบ้านได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของแม่พร้อมกับภาพตรงหน้าที่มีผู้ชายสามคนกำลังพังร้านอาหารของฉัน
"หยุดนะ พวกแกมีสิทธิอะไรมาทำลายข้าวของร้านแม่ฉัน" ฉันมองผู้ชายสามคนที่กำลังยิ้มมาให้ฉัน เป็นยิ้มที่น่ารังเกียจจริงๆ
"หึ ก็แม่ของแกติดหนี้พวกฉัน" ฉันหันไปมองผู้เป็นแม่ที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่ ฉันจึงรีบไปประคองท่านทันที
"มันคือเรื่องจริงใช่ไหม" แม่ไม่ตอบอะไรแล้วมองฉันด้วยสายตาที่มีแต่ความรู้สึกผิด
" เท่าไหร่ แม่ฉันติดหนี้พวกแกเท่าไหร่"
"สองล้าน แต่ถ้าเธอยอมเป็นเมียเสี่ยเจ้านายของฉัน เสี่ยอาจจะยกหนี้ทั้งหมดให้ก็ได้นะ" ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะไม่ยอมตกเป็นเมียของพวกคนชั่วอย่างพวกแกแน่
"ฉันขอเวลา 1 ปี ฉันจะรีบหาเงินทั้งหมดมาคืน" ร้อยยิ้มที่ปรากฎบนหน้าผู้ชายทั้งสามคนทำให้ฉันรู้สึกกลัวทันที
"1 เดือน ถ้าแกไม่นำเงินมาจ่ายหนี้ แกก็ต้องไปเป็นนางบำเรอให้เจ้านายของฉัน" 1 เดือนงั้นเหรอ ฉันกำมือแน่น พร้อมจ้องไปที่ผู้ชายสามคน
"ได้ ฉันรับข้อเสนอ"
"ไม่มะนาว ลูกอย่าทำแบบนี้เลย เงินตั้งเยอะลูกจะหามาจากไหน" ฉันยิ้มให้ผู้เป็นแม่ ก่อนจะมองไปที่ผู้ชายสามคนที่กำลังเดินออกจากร้านไป
"แม่มะนาวสะบายมาก มะนาวว่าเราเก็บกวาดข้าวของพวกนี้เถอะ" ท่านพยักหน้าเบาๆก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเก็บกวาดข้าวของที่เกลื่อนเต็มพื้น
หลังจากทำความสะอาดพื้นเสร็จฉันก็มาเดินเล่นที่สวนสาธารณะ ฉันจะหาเงินสองล้านมาจากไหน อยู่ๆน้ำตาฉันก็ไหลออกมา ฉันเกลียดเวลาที่ฉันอ่อนแอที่สุด ฉันเดินไปเรื่อยๆจนหยุดอยู่ที่แม่น้ำแห่งหนึ่งซึ่งไม่มีคนอยู่บริเวณนั้นเลย เพราะมันใกล้จะค่ำแล้ว
"ทำไมชีวิตฉันไม่เคยมีความสุขเลย ทำไมฉันต้องฟื้นจากความตายด้วย ทำไมฉันต้องมีไอ้ความสามารถบ้าๆนั่นด้วย ทำไม ทำไม ฮือๆ" เข่าของฉันทรุดลงกับพื้น พร้อมกับปล่อยน้ำตาออกมา
"เองจะมานั่งร้องไห้ให้มันได้อะไร ห้ะ ไอ้นาว" บรรยากาศเย็นๆ พร้อมกับเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังทำให้ฉันสะดุ้งลุกขึ้นยืน
"ลุงเองเหรอ ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามาแบบเงียบๆ ฉันก็ตกใจเป็นนะ เป็นผีแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้เหรอ" ฉันเช็ดน้ำตาตัวเอง ก่อนจะมองไปที่ลุงเจ้าที่
"ข้าไม่ใช่ผีสักหน่อย แล้วข้าก็บอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าข้าเป็นเทพ" ฉันเบะปาก แล้วยืนกอดอกมองไปที่แม่น้ำ
"ถ้าฉันได้เป็นเทพเหมือนลุงก็คงจะดี ฉันจะได้ไม่ต้องใช้ชีวิตแบบนี้"
"ข้าละเหนื่อยใจกับเองจริงๆ ข้าอยู่คุยกับเองไม่ได้นานหรอกนะ งั้นข้าไปล่ะ"
"เอ้า ลุงจะไปไหน ทิ้งกันไปซ่ะแล้ว" กรี๊ง กร๊ง จู่เสียงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์ก็สว่างขึ้นพร้อมกับชื่อไอ้เต้ที่ปรากฎบนหน้าจอ
"กูเห็นหมอต้าอยู่ที่ผับว่ะ แกจะต้องมาทำคะแนน เพื่อพี่เขาจะใจอ่อนช่วยแก" ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ ปัญหามักมีทางแก้ แต่ทำไมฉันยังมองไม่เห็นสักทาง แถมปัญหาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีก
"อืม เดี๋ยวไป"
ณ ผับ xx
ฉันเดินเข้ามาในผับด้วยสภาพการแต่งตัวไม่ต่างจากครั้งก่อนนัก ฉันที่กำลังจะเดินไปหาพวกเพื่อนๆแต่ก็ต้องชะงักหยุดเมื่อมีเสียงทักมา
"อ้าว น้องมะนาวนี่เอง มาคนเดียวเหรอ มานั่งกับพวกพี่ไหม" พอหันไปที่ต้นตอของเสียงก็พบกับผู้ชายสี่คนนั่งอยู่ หนึ่งในนั้นก็มีไอ้หมอต้านิสัยไม่ดีนั่งอยู่ด้วย แถมยังมีผู้หญิงที่อวบอึ๋มนั่งนัวเนียกันอยู่ ทำให้ฉันเบนสายตาออกทันที
"ก็ดีเหมือนกัน งั้นขอนั่งด้วยคนนะคะ" ฉันนั่งลงข้างๆหมอต้า เขามองมาที่ฉันก่อนที่จะละสายตาไปนัวเนียกับผู้หญิงคนนั้นต่อ
"พี่ชื่อกายนะครับ ว่าแต่น้องมะนาวมาที่นี่บ่อยเหรอครับ" ผู้ชายตรงหน้าที่จัดอยู่ในกลุ่มหน้าตาดีเอ่ยถามฉัน
"เปล่าค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่มา" ฉันยิ้มเจือนๆให้ แล้วมองไปที่หมอต้าที่ยังไม่เลิกนัวเนียกับผู้หญิง ทำไมชีวิตฉันต้องมาติกแง็กอยู่กับผู้ชายคนนี้ด้วยนะ
"ว่าแต่มะนาวมาหาไอ้ต้าเหรอ" หืมมม เขารู้ได้ไง เซนต์แรงนะเนี่ย
"ใช่ค่ะ" ฉันยิ้มแล้วหันไปหาหมอต้าก่อนจะขยับไปควงแขนเขา จึงทำให้เขาชะงักมองมาที่ฉันตามด้วยผู้หญิงคนนั้นที่กำลังจ้องฉันจะกินเลือดกินเนื้อฉันยังงั้นแหละ
"เธอมาหาฉันทำไม" ชิ๊ ทำหน้าตาเหมือนฉันเป็นตัวเชื้อโรคยังงั้นแหละ
"ก็เมียจะมาหาผัวไม่ได้หรือไง" จู่ๆยัยผู้หญิงคนนั้นก็ลุกออกจากตักหมอต้า
"นี่มันเรื่องอะไรคะต้า" ฉันเลิกคิ้วแล้วมองเขาที่กำลังทำสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างมาก
"มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ" หมับ!! จู่ๆเขาก็จับมือฉันแล้วพาเดินออกมาจากตรงนั้นทันที
"เธอต้องการอะไร"
"ฉันบอกแล้วไงตราบใดที่นายยังไม่ยอมไปเป็นนายแบบให้มหาลัย ฉันก็จะตามป่วนนายไปทุกที่"
"หึ งั้นฉันมีข้อเสนอให้ เงินหกหมื่นถ้าเธอสามารถหามาได้ภายในหนึ่งเดือนฉันจะยอมช่วยเธอ แต่ถ้าไม่ได้เธอก็เลิกยุ่งกับฉันซะ" แล้วฉันจะหามาจากไหนล่ะ ทำข่าวก็ได้แค่ห้าหมื่น ไหนจะหนี้ของแม่ ไหนจะค่าเทอม
"ได้ ฉันรับข้อเสนอนั้น" เขายิ้มก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆ ทำให้ฉันก้าวถอยหลังทันที หมับ!! ฉันเบิกตากว้างทันทีเมื่อเขาผลักฉันชิดกำแพงตามด้วยแขนทั้งสองข้างของเขากำลังกักขังฉันอยู่
"อีกอย่างผู้หญิงอย่างเธอ ฉันไม่มีวันเอามาเป็นเมียเด็ดขาด" เขาพูดพร้อมกับมองไปที่หน้าอกของฉันทำให้ฉันยกมือปิดทันที ก และไม่นานเขาก็เดินออกไป ปล่อยให้ฉันยืนอยู่ตรงที่มืดๆคนเดียว
"ไอ้หมอบ้า ฉันก็ไม่มีวันเอานายมาทำพันธุ์เหมือนกันนั่นแหละ"
ทว่า จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบไร้ซึ่งผู้คน "คืนนี้จะมีการขนย้ายสินค้าล็อตแรก ถ้าเห็นใครที่น่าสงสัย ฆ่ามันทิ้งซะ" ฉันชะงักหยุดเมื่อได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งพูด ฉันยิ้มแล้วเดินตามผู้ชายคนนั้นเข้าไปในผับทันที สินค้าอะไรทำไมต้องขนย้ายตอนดึกด้วย
"ขอโทษค่ะ" ฉันแกล้งเดินชนผู้ชายคนนั้นเพื่อจะมองหน้าให้ชัด
ผู้ชายคนนั้นไม่พูดอะไรแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทันที ฉันที่เดินไปนั่งโต๊ะเดียวกับหมอต้าและเพื่อนๆของเขา แต่สายตาฉันที่กำลังมองผู้ชายคนนั้น
"หึ เธอก็ไม่ต่างกับผู้หญิงทั่วไปที่ชอบแต่ผู้ชายรวย" ฉันหันไปมองหมอต้า ที่กำลังนั่งมองผู้ชายคนนั้นเหมือนกัน
"นายจะมองว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบไหนก็เชิญ" จู่ๆผู้ชายคนนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วกำลังเดินออกจากผับโดยมีผู้ชายอีกสองคนเดินตาม ฉันจะตามไปดีไหม แล้วไปคนเดียวฉันจะเอาตัวรอดได้ไหม เอาเว้ย ไปคนเดียวนี่แหละ ฟุ๊บ ฉันลุกขึ้นทันที
"ฉันขอตัวกลับก่อนนะ" ฉันหันไปลาผู้ชายสามคนแต่ไม่ลืมหันไปมองผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ ชิ๊ วันนี้ฉันมีเรื่องอื่นที่ต้องไปทำ ฉันจะปล่อยนายไปก่อนแล้วกัน ไอ้หมอนิสัยไม่ดี
"อ้าว จะกลับแล้วเหรอ ให้ไอ้ต้าไปส่งไหม"
"อ๋อ...มะ" ไม่ทันได้พูดจบก็ต้องกลืนคำพูดเข้าไปคืน
"เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเอง" ควับ!! ฉันหันไปมองหมอต้าทันที ไม่ได้นะ เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ โอ้ย ฉันจะทำยังไงดี
"ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้ นายไปสนุกต่อเถอะ นายไม่สงสารเธอบ้างเหรอที่นั่งรอไปต่อกับนายนะ" เขาหันไปมองผู้หญิงคนนั้นที่นั่งข้างๆเขา
" อ้อ ที่ไม่ให้ฉันไปส่งก็เพราะจะไปกับผู้ชายคนนั้นสินะ" เขามองไปที่ผู้ชายคนนั้น จะดูถูกฉันเกินไปแล้วนะ ฉันฝืนยิ้มเพราะกำลังเก็บอาการโมโหอยู่
"ใช่ค่ะ" จบประโยคคำพูดของฉัน ฉันก็เดินออกทันที แต่ฉันแอบเห็นสีหน้าเขาที่กำลังไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาแล้ว ฉันต้องรีบตามผู้ชายคนนั้นไป
ฉันรีบเดินตามผู้ชายคนนั้นห่างๆเพื่อไม่ให้เขารู้ตัว
"พี่คะตามรถคันนั้นไปเลยค่ะ แต่ตามแบบห่างๆนะ" เมื่อฉันขึ้นรถแท็กซี่ได้ไม่นาน
"น้อง ทำไมต้องตามรถคันนั้นไปด้วย" พี่จะสงสัยทำไมเนี่ย
"ฉันกำลังตามสามีที่แอบไปมีกิ๊กค่ะ" ฉันจำเป็นที่จะต้องโกหกจริงๆ เอาเป็นว่าพี่คงจะเชื่อฉันแล้วไม่ต้องถามอีกนะ จู่ๆ รถคันที่ฉันตามก็หยุดอยู่ตรงโกดังร้างแห่งหนึ่ง ฉันรีบลงจากรถแล้วแอบเดินตามช้าๆ ฉันหยิบโทรศัพท์มาพลางกดโทรหาหมวดก้อง แต่กลับไม่มีคนรับ ฉันเม้มปากพร้อมเท้าที่ค่อยๆก้าวไปเรื่อยๆ เป็นไงเป็นกันขอให้ได้แค่รูปก็พอ
"เฮ้ รีบๆหน่อยดิวะ ชักช้าอยู่ได้" ฉันหยุดชะงักอยู่หลังพุ่มไม้เมื่อมีเสียงผู้ชายคนนั้นพูด ซึ่งมีคนห้าคนที่กำลังขนย้ายกล่องบางอย่างขึ้นรถ ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปทันที แต่เพราะภาพมันไม่ค่อยชัดฉันจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ กรึบ เสียงกิ่งไม้หักทำให้ผู้ชายห้าคนหันมาทันที กรี๊ง กรี๊ง จู่ๆเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นพร้อมแสงจากหน้าจอ
"มีคนอยู่ตรงนั้น ไปจับตัวมันมา"
"ซวยแล้วไงไอ้นาว"