งานใหม่

2026 คำ
​ตึก ตึก ฉันกับหมอต้าที่เดินออกจากบ้านนั้นได้ไม่ไกลนักก็พบกับหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ ฉันตัดสินใจเดินไปหาหญิงชราคนนั้นทันที ซึ่งร่างสูงข้างๆก็มีอาการ งง เล็กน้อย "คือคุณยายรู้จัก...." ประโยคคำพูดของฉันถูกกลืนเข้าไปคืนทันทีเมื่อหญิงชราตรงหน้าพูดตัดบท "เธออาศัยอยู่บ้านคนเดียว" ฉันขมวดคิ้วทันที "แล้วลูกของเธอละครับ ตอนนี้อยู่ไหน" ฉันยิ่ง งง เข้าไปใหญ่เมื่อร่างสูงข้างๆถามถึงลูกของผู้หญิงคนนั้น เขารู้ได้ไงว่าเธอมีลูก "ลูกของเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนสามีก็ติดคุกเพราะฆ่าลูกตัวเอง" ฉันอึ้งไปสักพักก่อนที่จะดึงสติกลับมา แปลว่าตอนนี้เธอก็ไม่มีใครเลยน่ะสิ จู่ๆ ฉันก็สะดุ้งเมื่อหญิงชราตรงหน้าจับจ้องมองมาที่ฉัน เป็นสายตาที่คาดเดาไม่ได้จริงๆ "ความสามารถพิเศษของหนูอาจจะช่วยคนอื่นได้ แต่ไม่ใช่กับทุกคนหรอกนะ" มือจากคนตรงหน้าที่กำลังยื่นมาทาบอกซ้ายของฉัน ทำให้ฉันสะดุ้งไม่เบา "เรื่องราวในอดีตกำลังจะกลับมา" จบประโยคของหญิงชราความรู้สึกแปลกๆก็กำลังจะเข้ามาแทน เรื่องราวในอดีตงั้นเหรอ ฉันนิ้วหน้าเพราะรู้สึกปวดหัวขึ้นมา "เธอเป็นอะไร" ฉันไม่ตอบหมอต้า เพราะกำลังประมวลผลบางอย่างกับประโยคที่ซ่อนเงื่อนงำอยู่ "ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ" ฉันรีบเดินออกจากตรงนั้นทันที แถมอาการปวดหัวก็เริ่มบรรเทาลง ฉันเป็นอะไรไป แล้วทำไมหญิงชราคนนั้นถึงรู้เรื่องของฉัน ตอนนี้ฉันมีคำถามอยู่เต็มหัวไปหมด ฉันที่จับจักรยานกำลังจะปั่นกลับบ้าน ก็ต้องชะงักเมื่อมีมือใครคนหนึ่งคว้าแขนเอาไว้ "เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม" "ฉันไม่เป็นอะไร ขอตัวกลับบ้านก่อนนะ" ฉันรีบปั่นจักรยานกลับบ้านทันที ฉันจอดจักรยานแล้วรีบเข้าบ้านทันที ตีก ตึก ฉันเดินขึ้นห้องทันที เสื้อที่ถูกเปิดขึ้นเพื่อดูรอยแผลเป็นที่อกข้างซ้าย ใช่ มันคือรอยแผลเป็นตอนที่ฉันถูกยิงเมื่อตอนอายุ 12 ปี ซึ่งมันคือสิ่งที่คอยหลอกหลอนฉันมาจนถึงทุกวันนี้ ไอ้โซลที่เดินมาหาผมแถมยังมีสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ วันนี้ผมกะว่าจะมาดื่มให้อารมณ์ดีสักหน่อย ผมหันไปมองหน้าเพื่อนสามคนที่กำลังนั่งจ้องหน้าผมอยู่ "จ้องหน้ากูทำไมวะ" พวกมันไม่พูดอะไรนอกจากนั่งจ้องหน้าผม "มึงหายไปไหนมา ไปนอนกกกับสาวที่ไหนวะ" ไอ้กายถามผม "เปล่านิ ไปช่วยคนป่วยมา" "คนอย่างมึงนี่นะ" ผมไม่พูดกับพวกมันแล้วหันหน้าไปมองทางอื่นทันที ขี้เกียจตอบคำถามพวกมัน "แล้วน้องมะนาวคนนั้นที่มึงให้กูไปสืบประวัติมาล่ะ วันนั้นเห็นมึงอุ้มน้องขึ้นห้องมันยังไงกันวะ" "ยัยนั่นไม่สบาย" พวกมันพยักหน้าแล้วก็ส่งยิ้มมาให้ผมแบบคนที่ไม่อยากจะเชื่อว่าคืนนั้นจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงผมจะเป็นพวกเจ้าชู้แต่ก็ไม่เคยคิดจะลักหลับผู้หญิงหรอกนะ อีกอย่างเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงในอุดมคติผม ผู้หญิงอะไรดูไม่มีเสน่ห์สักนิด แข็งกระด่างไม่ต่างจากผู้ชาย "มึงแน่ใจว่าไม่ได้ทำอะไรน้อง" "เออ ผู้หญิงอย่างยัยนั่นนะเหรอ แค่จะมองก็ไม่อยากจะมองแล้ว ไม่ทำให้กูเกิดอารมณ์หรอกเว้ย" ไอ้เพทายยิ้มทันทีเมื่อผมพูดจบ "ระวังจะกลืนน้ำลายตัวเอง" หึ ผมเค้นหัวเราะ ไม่มีวันนั้นแน่ เช้าวันต่อมา ตึกที่สูงประมาณสี่ชั้น ที่ล้อมด้วยต้นไม้ต่างๆถูกจัดสรรอย่างสวยงาม รอยยิ้มเล็กของฉันที่กำลังเผยออกมาอย่างเห็นได้ชัด นี่ฉันกำลังจะได้งานใหม่แล้วเหรอ แถมยังเป็นงานที่ได้เงินดีอีกด้วย ถึงมันจะเสี่ยงแค่ไหนก็เถอะ ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตรงไปที่พนักงานทันที "สวัสดีค่ะ คือฉันมาพบผู้จัดการสำนักงานค่ะ" "คุณมะนาวหรือเปล่าคะ" "ค่ะ ฉันมะนาวค่ะ" "งั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ" ฉันเดินตามพนักงานหญิงคนหนึ่งไป จนหยุดอยู่ที่ห้องๆหนึ่ง "คุณมะนาวเข้าไปได้เลยค่ะ ผู้จัดการรออยู่ข้างในค่ะ" ฉันยิ้มแล้วพยักหน้าให้พนักงานหญิงเบาๆ ก๊อก ก๊อก แอ๊ด ฉันค่อยๆเปิดประตูเข้าไปก็พบกับผู้ชายวัยกลางคนที่กำลังนั่งมองมาที่ฉัน "สวัสดีค่ะคุณลุง" ฉันยกมือไว้ลุงเชนซึ่งเป็นพ่อของมอคค่า "ไว้พระเถอะลูก ว่าแต่หนูจะทำงานนี้จริงๆเหรอ" ลุงเชนถามฉันเพื่อความแน่ใจอีกครั้งและฉันก็ยังจะยืนยันคำตอบเดิม "ค่ะ มะนาวจะทำงานนี้" ฉันยิ้มให้ลุงเชนก่อนจะหันไปมองคนที่เปิดประตูเข้ามา ก็พบกับผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งที่หน้าตาจัดว่าดีเลยทีเดียว "พี่ก้อง" ฉันอุทานด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่ ใช่ เขาคือพี่ข้างบ้านฉันเป็นลูกของป้าพร "เอ้า รู้จักกันแล้วเหรอ" ลุงเชนถามพร้อมมองหน้าฉันกับพี่ก้องสลับกัน "ครับ เรารู้จักกันตั้งแต่เด็กๆแล้ว" ลุงเชนพยักหน้าก่อนจะหันมามองฉัน "เอาเป็นว่าข่าวที่หนูต้องไปหาข้อมูลมาคือการค้ายาเสพติด ซึ่งหมวดก้องจะคอยช่วยงานหนูอยู่ห่างๆ" "ค่ะ" ฉันรับปากแล้วยิ้มให้พี่ก้องด้วยความดีใจ งานระหว่างเรียนของฉันกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า 16:00 นาฬิกา ฉันกับพี่ก้องที่กำลังเดินมาข้างนอกตึก ผู้ชายร่างสูงที่เดินมาพร้อมฉันทำให้สายตาหลายคู่มองมาที่ฉัน ก็แง๋ละสิใครจะไม่มอง สูง ขาว หล่อ ซ่ะขนาดนี้ "ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้ทำงานกับผู้หมวดสุดหล่อซ่ะด้วย" ฉันเอ่ยแซวคนข้างๆ จนทำให้เขาหยุดเดินทันที "ทำไมมะนาวถึงอยากทำงานนี้ แล้วแม่กับพ่อรู้ไหม" ฉันเบิกตากว้างทันที "เอ่อ แหะๆ ผู้หมวดห้ามบอกพ่อกับแม่นะ มะนาวไม่อยากทำให้ท่านเป็นห่วง" พี่ก้องเหมือนจะกำลังคิดอะไรสักอย่างก่อนจะพยักน่าเบาๆ "แล้วกลับยังไง ให้พี่ไปส่งไหม" "ไม่เป็นไรค่ะ มะนาวมีธุระที่ต้องไปทำอีกน่ะค่ะ" ฉันรีบปฎิเสธทันที คือเกรงใจอ่ะ "งั้นพี่ไปส่งมะนาวดีกว่า วันนี้พี่ว่างทั้งวัน" ชีวิตตำรวจนี่ว่างจังเลยเนาะ "งั้นก็ได้ค่ะ" จากนั้นฉันก็เดินตามพี่ก้องไปที่รถของเขาทันที ไม่นานรถก็จอด ฉันให้พี่ก้องมาส่งฉันที่โรงพยาบาล เป็นโรงพยาบาลสำหรับคนรวยจริงๆ ค่ารักษาคงจะแพงน่าดู ฉันกับพี่ก้องเดินขึ้นลิฟต์ทันที ติ้ง เมื่อลิฟท์เปิดออกฉันก็เดินไปหาพยาบาลสาว "สวัสดีค่ะ คือฉันจะมาขอเยี่ยมคนไข้ที่ถูกส่งตัวมาเมื่อวาน ไม่ทราบว่าอยู่ห้องไหนคะ" ฉันเห็นพยาบาลสาวทำที่กำลังคิดอะไรสักอย่าง เพราะเกิดจากความ งง ก็ตาม "คนไข้ที่หมอต้าช่วยเมื่อวานค่ะ" "งั้นตามดิฉันมาเลยค่ะ" เมื่อฉันเดินมาไม่นานก็พบกับผู้หญิงวัยกลางคนนอนอยู่ สีหน้าเธอเศร้าหมองมาก พอเดินเข้าไปในห้องได้ไม่กี่ก้าวก็พบกับร่างสูงซึ่งเขาก็คือหมอต้า เขาหันมามองฉันก่อนจะละสายตาไปมองพี่ก้องด้วยแววตานิ่งตามฉบับของเขา "ฉันต้องขอขอบคุณ คุณหมอมากๆนะคะ ที่ช่วยดูแลเธอ ส่วนเรื่องของค่าใช้จ่ายฉันจะเป็นคนจ่ายเองค่ะ" ว่าแต่คงไม่แพงหรอกนะ "ฉันก็ไม่ได้ห้ามนิ แต่ถ้าเธอจ่ายไหวก็แล้วแต่" ฉันอ้าปากกว้างทันทีเมื่อไอ้หมอนิสัยไม่ดีพูดจบ แล้วไม่นานเขาก็เดินออกไป ว้าว ใครที่ได้เขาเป็นสามีคนนั้นต้องโชคร้ายแน่ๆ กรี๊ง กร๊ง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นซึ่งเป็นของพี่ก้องก่อนที่พี่เขาจะกดรับ ไม่รู้พูดเรื่องอะไรถึงได้เครียดแบบนั้น ก่อนที่พี่เขาจะหันมามองฉัน "พี่ต้องขอตัวกลับก่อนนะ หัวหน้าเรียกพบด่วน" "ค่ะ ขับรถกลับดีๆนะคะ" ไม่นานพี่ก้องก็เดินออกจากห้อง ฉันเดินไปหาผู้หญิงคนนั้นที่หันหลังให้ฉันอยู่ "คุณน้าไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษานะคะ ฉันจะช่วยคุณน้าเอง" "ฮึกๆ ฉันไม่เหลือใครอีกแล้ว" เสียงสะอื้นของเธอ ฉันยื่นมือไปแตะแขนของเธอเบาๆ "คุณน้าเชื่อของโลกวิญญาณไหมคะ จะมีสักกี่คนที่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่ถ้าฉันจะบอกว่าฉันเชื่อและมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น คุณน้าจะเชื่อฉันไหม ถ้าฉันจะบอกว่าที่คุณน้ารอดจากความทรมานนั้นมาได้ก็เพราะลูกชายคุณน้ามาขอให้ฉันไปช่วย" สิ้นเสียงของฉันทำให้หญิงวัยกลางคนร้องไห้หนักกว่าเดิม ฉันเดินไปกอดเธอเบาๆ "การปล่อยวางคือสิ่งเดียวที่จะทำให้คุณน้าพ้นจากความทุกข์นะคะ ลูกชายคุณน้าน้องไปสู่ภพภูมิที่ดีแล้วค่ะ" ผมที่เดินเข้าห้องมาแต่ต้องชะงักหยุดฟังมะนาวปลอบผู้หญิงวัยกลางคนที่มีแต่ความเศร้า "หนูมองเห็นวิญญาณจริงเหรอ" ทำไมป้าคนนั้นเชื่อคนง่ายจัง "จริงๆ ฉันเคยหยุดหายใจแล้วครั้งหนึ่งตอนอายุ 12 ปี แต่สงสัยยังไม่ถึงเวลาของฉัน จู่ๆ ฉันก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับความสามารถพิเศษมองเห็นวิญญาณ" เธอตอบแล้วยิ้มแววตาที่ดูเศร้าหมองของเธอทำให้ผมขมวดคิ้วทันที "แต่การมองเห็นวิญญาณของฉัน มันมาพร้อมกับพร้ากความเป็นอิสระไปจากฉัน ทุกวันพระที่มีพระจันทร์เต็มดวงฉันจะไม่สามารถกินเนื้อสัตว์ได้และไม่สามารถออกจากบ้านได้เหมือนกัน" ตึก ตึก ผมเดินเข้าไปหาเธอทันที จนทำให้เธอตกใจไม่น้อย "พรุ่งนี้คุณป้าสามารถออกจากโรงพยาบาลได้นะครับเพราะอาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง" " ขอบคุณค่ะคุณหมอ" " ส่วนเธอตามฉันมา" ผมบอกมะนาวก่อนจะเดินนำหน้าเธอมาที่ห้องทำงานส่วนตัว "มีอะไรหรือเปล่าคะ" " ค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งหมด หกหมื่นบาท" เธออ้าปากว้างทันทีเมื่อผมพูดจบ "ทำไมมันแพงแบบนี้ล่ะ นี่นายแกล้งฉันเหรอ" ตอนนี้สรรพนามของผมถูกเปลี่ยนทันที " ฉันไม่มีเวลามาแกล้งเธอหรอกนะ" "ก็ได้ แต่ฉันขอเวลา 1 เดือน " ผมยิ้มก่อนจะพยักหน้าให้เธอ " แล้วถ้าเธอไม่จ่ายเงินภายใน 1 เดือนล่ะ ฉันจะได้อะไร" " ฉันจะเลิกยุ่งกับนายทันที ฉันจะไม่ตามตื้อนายให้ไปเป็นนายแบบอีกต่อไป" ข้อเสนอน่าสนใจนี่ "โอเค ว่าแต่วิธีปลอบคนแบบเธอนี่มันแปลกดีนะ" สิ้นคำพูดของผมเธอก็ทำสีหน้าตกใจทันที " นายได้ยิน นายแอบฟังฉันเหรอ" " เปล่านิ ว่าแต่เธอดูหนังผีบ่อยเหรอถึงได้จินตนาการได้ขนาดนั้น" หน้านิ่งของเธอทำให้ผมเผลอหุบยิ้มทันที " ใช่ ฉันมันบ้า ถ้าฉันจะบอกว่าที่ฉันพูดมันคือเรื่องจริงก็คงไม่มีใครเชื่อ เพราะฉันมันพวกสติไม่ดีชอบจินตนาการ พอใจแล้วใช่ไหม" จู่ๆเธอก็เดินออกไปจากห้องทันที ผมพูดแรงไปงั้นเหรอ หรือเมนส์มา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม