วันต่อมา....
ข้าวหอมไปแวะส่งลูกที่โรงเรียนพร้อมกับคุยกับคุณครูเรื่องที่จะให้นาราเรียนถึงวันนี้แล้วจะพาไปอยู่ที่ต่างจังหวัดช่วงปิดเทอม คุณครูตอบรับและจัดการบ้านให้เด็กน้อยเยอะพอสำหรับสองเดือน จากนั้นหญิงสาวก็มาทำงานเป็นปกติ เธอเลือกที่จะไม่เข้าไปใกล้ห้องท่านประธานเพราะไม่อยากเจอหน้าและถูกแกล้งเหมือนเมื่อวานอีก
"คุณข้าวหอมมานานหรือยัง ผมซื้อกาแฟมาฝาก"
ตฤณถือแก้วกาแฟเย็นมาให้หญิงสาวถึงห้องทำงาน ข้าวหอมยกมือไหว้ขอบคุณชายหนุ่มก่อนจะยกกาแฟขึ้นดื่มให้ชื่นใจ
"ชื่นใจจังเลยค่ะคุณตฤณ ขอบคุณมากนะคะใจดีกับข้าวตลอดเลย"
หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาอย่างจริงใจ เขาคือคนในบริษัทที่ดีกับเธอที่สุด พร้อมช่วยเหลือทุกเรื่องที่เธอมีปัญหา สอนงานให้คำแนะนำจนเธอมาอยู่ตรงจุดนี้ได้ เขาคือผู้มีพระคุณอีกคนของเธอ
"ผมใจดีกับคุณตลอดทั้งใจดีและหวังดีเสมอ"
"ขอบคุณมากนะคะ ถ้าไม่มีคุณตฤณข้าวก็ไม่รู้ว่าจะมาถึงจุดนี้มั้ย"
"ถ้าอย่างนั้นต้องตอบแทนกันหน่อย ไปทานข้าวกลางวันกับผมนะครับ"
ข้าวหอมมองหน้าเขาเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา แค่ทานข้าวเองสบายมากถึงจะไม่เคยไปทานด้วยกันสองต่อสองเลยก็เถอะ
"ได้สิคะ สัญญาก่อนว่าให้ข้าวเลี้ยง"
"เอ่อ.. คือว่า"
เขาลังเลไม่กล้าสัญญาเพราะไม่มีทางที่ผู้ชายอย่างเขาจะให้ผู้หญิงเลี้ยงแน่นอน
"ถ้างั้นไม่ไปแล้วนะคะ"
ข้าวหอมยื่นคำขาด เธออยากจะตอบแทนเขาบ้างแต่ไม่เคยมีโอกาสนั้นเลย ยิ่งเขาอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าด้วยแล้วยากมากที่จะขอเลี้ยงเขาได้
"โอเคๆ เลี้ยงก็เลี้ยงครับ"
"เย่ๆ งั้นไปเลยมั้ยคะ"
ข้าวหอมมองนาฬิกาก็ได้เวลาสิบเอ็ดโมงกว่า ทานข้าวเวลานี้ก็ได้เพราะตอนเช้าเธอก็ไม่ได้กินมา ตฤณพยักหน้าตกลงก่อนจะเดินออกไปเปิดประตูให้หญิงสาวออกไปก่อน
"เชิญครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
ข้าวหอมเดินเคียงข้างไปกับผู้ช่วยท่านประธาน ทั้งสองคนคุยกันสนุกมีแต่เสียงหัวเราะตลอดทาง เมื่อมาถึงที่ลิฟต์ประตูถูกเปิดออกก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเจอณภัทรกำลังเดินออกมาพอดี
"สวัสดีครับคุณณภัทร"
"สวัสดีค่ะท่านประธาน"
ทั้งสองคนทำความเคารพเจ้านาย ณภัทรมองทั้งสองคนก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย
"จะไปไหนกัน"
"ผมกำลังจะไปทานข้าวกับคุณข้าวหอมครับ พอดีว่าวันนี้เธอใจดีอยากจะเลี้ยงข้าว"
หญิงสาวยิ้มแห้งก่อนจะก้มหน้าลงต่ำไม่ยอมสบตากับเขา เรื่องเมื่อวานยังไม่เคลียร์เลยไม่อยากจะมีประเด็นกับเขาอีก
"ผมหิวพอดีเลย ไปด้วยสิ"
ข้าวหอมเงยหน้าขึ้นมองสบตากับเขาอย่างทึ่งสุดๆ ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้จากชายหนุ่มเลยด้วยซ้ำ
"ท่านประธานจะไปด้วยเหรอคะ"
"ทำไม... ผมไปไม่ได้เหรอ"
เขาตีหน้ามึนเอ่ยถามเธอตาใส ตฤณหันไปมองหน้าหญิงสาวก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย สุดท้ายแล้วเขาก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปไหนสองต่อสองกับข้าวหอม
"ไปได้สิครับ ถ้าอย่างนั้นเชิญเลยครับ"
ตฤณผายมือเชิญเขาเข้าไปในลิฟต์ตามเดิม ข้าวหอมไม่รู้จะทำยังไงดีก็เลยเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้ ตลอดเวลาที่อยู่ในลิฟต์ณภัทรเขี่ยผมเธอเล่นอย่างไม่เกรงใจผู้ช่วยและคนติดตามคนอื่น ส่วนคนที่เกร็งที่สุดคงจะเป็นหญิงสาวเองที่ถูกเขาปฎิบัติอย่างสนิทสนมจนออกนอกหน้า
"ผมนุ่มจังเลย"
เขายังไม่หยุดแถมยังหมุนผมเธอเล่นอย่างสนุก ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกเธอรีบเดินออกไปทันทีเพราะรู้สึกอึดอัดมาก
"ไปทานร้านไหนดีคะ"
หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องเป็นอื่น เขาเดินไปโอบเอวเธอก่อนจะพาเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีโดยที่ตฤณทำได้แค่เพียงเดินตามเท่านั้น
"เห็นร้านหนึ่งเปิดใหม่ ร้านอาหารไทยแบบที่ข้าวชอบด้วยนะ วันนี้จะสั่งของโปรดให้กินเอาป่ะ"
"อย่าทำแบบนี้เลยค่ะคุณณภัทร คุณเป็นเจ้านายฉันเป็นลูกน้อง ทำแบบนี้มันไม่เหมาะสมนะคะ"
ข้าวหอมพยายามเบี่ยงตัวหลบการกระทำของชายหนุ่ม ถ้าเขายังทำแบบนี้เธอคงไม่พ้นโดนพนักงานคนอื่นนินทาว่าเอาตัวเองเข้าแลก
"ทำไม... ใครกล้านินทาเหรอ"
"เขาไม่กล้านินทาคุณค่ะ แต่เขากล้านินทาฉัน"
"ถ้าเจอว่าใครนินทาเมียของภัทร จะไล่ออกให้หมดเลยข้าวจะได้สบายใจดีมั้ยคะ"
เขาเอ่ยออกมาอย่างไม่รู้สึกอะไร หญิงสาวเหลือบสายตามองคนอื่นโดยรอบที่มองมาอย่างสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอและเขาก็รู้สึกอึดอัดอยากจะหายไปจากตรงนี้เสียจริง
"รีบขึ้นรถไปเถอะค่ะ แล้วทำความเข้าใจใหม่ข้าวไม่ใช่เมียคุณ!"
เธอทนเขาไม่ไหวไล่ให้ไปขึ้นรถก่อนเป็นคนแรก ตฤณผายมือเชิญให้เธอเข้าไป ข้าวหอมขยับตัวไปข้างหลังแต่ก็ถูกชายหนุ่มดึงมานั่งลงข้างๆซะก่อน
"มานั่งด้วยกันสิอยากมองหน้านานๆ"
เขาอมยิ้มแก้มปริมองหญิงสาวอย่างแกล้ง เธอเริ่มกุมขมับด้วยสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งนานไปเขายิ่งแสดงออกมากขึ้นจนเธอเริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว
"อ่อ มีของมาฝากด้วยนะ"
เขาหยิบกล่องในกระเป๋าออกมาก่อนจะเปิดกล่องกำมะหยี่สีแดงออกมาแล้วหยิบสร้อยข้อแขนพร้อมจี้ออกมาถือไว้ หญิงสาวมองเขาด้วยความงุนงงว่าหยิบของมีราคาแบบนั้นขึ้นมาทำไม
"อะไรคะ..."
"ของฝากไง"
เขาดึงมือหญิงสาวมาตรงหน้าก่อนจะค่อยๆใส่สร้อยข้อแขนให้อย่างเบามือ ข้าวหอมเห็นแบบนั้นก็รั้งมือของตัวเองกลับเพราะไม่อยากรับของอะไรจากเขาทั้งนั้น
"ไม่เอาค่ะ คุณเก็บไว้เถอะ"
"ผมเป็นเจ้านายและผมสั่งให้คุณรับนะข้าว"
เขาเอ่ยเสียงดุจนเธอนิ่งไปไม่กล้าหือ เธอยังต้องพึ่งพาบริษัทนี้เพราะไม่กล้าลาออกไปที่ไหน เขาฉลาดมากถ้ามีแผนการจะแก้แค้นเธอโดยการมาซื้อธุรกิจนี้เพราะสามารถใช้บารมีข่มขู่ให้เธอจำยอมได้อย่างไม่น่าเชื่อ
"คุณต้องการอะไรกันแน่"
"ก็บอกแล้วไงว่าผมต้องการพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าผมยังรักและอยากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมกับคุณ เพราะฉะนั้นยอมผมเถอะนะ"
เขายิ้มออกมาด้วยใจจริง ข้าวหอมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกสับสนไปหมด สิ่งที่เขาทำให้มันไม่ได้เหมือนคนมีความแค้นต่อเธอใดๆ หรือว่าเธอกำลังมองโลกในแง่ลบมากเกินไป บางทีเขาอาจจะไม่ใจร้ายขนาดนั้นก็ได้
"ฉันจะเชื่อคุณได้ยังไง"
"ไม่ต้องเชื่อเพราะผมกำลังพิสูจน์ตัวเองให้คุณเห็นอยู่"
เขาสวมสร้อยข้อมือให้เธอเสร็จก็กุมมือหญิงสาวมาจูบพร้อมกับมองสบตาเธอด้วยแววตาอ่อนโยน ข้าวหอมมองการกระทำนั้นด้วยแววตาสั่นไหว เธอกลัวมากจริงๆกลัวว่าหัวใจของตัวเองมันจะใจอ่อนกับเขาในซักวัน....