และพอมาถึงบ้านเอวาก็ไม่พูดไม่จาเดินลงจากรถของเพลิงตะวันไปทันทีเธอเดินตรงดิ่งขึ้นไปบนห้องพร้อมล็อคประตูอย่างแน่นหนา
“เฮ้อออ จะบ้ารึไง อยู่ดีๆจะให้ไปอยู่กับเขาเนี่ยนะ! บ้าไปแล้ว”
เอวาได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียงด้วยหัวใจสั่นระรัว ถึงจะเอาแต่คิดถึงคำสั่งเสียของคุณตราดาในจดหมายแต่เธอก็กลัวเหลือเกินที่จะอยู่ใกล้เขา
ส่วนเพลิงตะวัน พอเห็นว่าเธอหายไปนาน เขาเลยเดินลงจากรถพร้อมกับมองไปรอบๆบ้านที่ครั้งหนึ่งเขาเคยอาศัยอยู่ที่นี่อย่างอบอุ่นและตอนนี้มันก็ยังเหมือนเดิม บ้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้
“นายหัวจะให้ผมเข้าไปตามเธอ...”
“ไม่ต้อง ฉันจัดการเอง”
พูดจบเพลิงตะวันก็เดินเข้าไปในบ้าน ก่อนจะเจอเข้ากับพวกแม่บ้านที่มองเขาอย่างหวาดกลัว
“เอ่อ คุณเพลิง เอ่อ ต้องการอะไรรึเปล่าคะ...”
“เปล่า ไปทำงานเถอะ”
เพลิงตะวันบอกขึ้น ก่อนจะเดินมองไปรอบๆอย่างสำรวจ ถึงความทรงจำของเขาจะเลือนรางแต่ความรู้สึกของเขามันกลับจัดเจนเป็นที่สุด เขาเดินเข้าไปในห้องรับแขกที่เต็มไปด้วยรูปภาพตั้งโชว์เต็มไปหมด และกว่าครึ่งหนึ่งเป็นรูปครอบครัวที่มีเขาและบิดารวมอยู่ด้วย เพลิงตะวันเดินเข้าไปใกล้รูปครอบครัวที่น่าจะเป็นรูปแรกนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย
‘ทำไม...ทำไมถึงเลือกที่จะทำอย่างนั้น...ทำไมกัน...’
เอาเขาแต่ตัดพ้อผ่านรูปถ่าย เมื่อความรู้สึกเสียใจยังคงอยู่ถึงแม้บิดามารดาจะจากไปแล้ว ก่อนจะมองไปที่ชั้นสอง เขาก้าวเดินขึ้นไปพร้อมมองไปยังประตูสี่บานบนนั้นและเขาจำได้ว่าบิดามารดาเคยนอนห้องใหญ่ทางด้านขวา สองขายาวเดินก้าวไปอย่างสั่นเทา ก่อนจะเปิดมันออกและพบว่ามันคงเป็นห้องนอนที่มารดาของเขาใช้
เพลิงตะวันมองไปรอบๆห้องที่ยังดูสะอาด ก่อนจะหยุดยืนอยู่หน้าตู้โชว์ขนาดใหญ่ ที่ตอนนี้มีแต่รูปของเขาวางโชว์อยู่
“นี่มัน...”
พอเห็นว่ารูปพวกนั้นเหมือนเป็นรูปในทุกช่วงวัยของตนเอง จนกระทั่งปัจจุบัน ร่างใหญ่ถึงกับแข็งทื่อ เมื่ออันที่จริงแล้ว ข้อแม้ในการไปอยู่กับบิดาของเพลิงตะวันคือ การขอให้บิดาของเพลิงตะวันส่งรูปของเขามาให้ในทุกวันเกิดหรือวันสำคัญของเขา คุณตราดาจึงเอารูปที่ได้มาตั้งเอาไว้ในห้องเพื่อชื่นชมลูกชายของเธอซึ่งทุกรูปมีเขียนบรรยายเอาไว้จนหมด ยิ่งทำให้เพลิงตะวันรู้สึกสับสน
“แล้วจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร...”
เพลิงตะวันมองไปอีกตู้ที่เต็มไปด้วยรูปถ่ายของเอวา ซึ่งไม่ต่างจากรูปถ่ายของเขาเพราะถูกเก็บเอาไว้ตั้งแต่ที่เธอยังเด็กจนถึงตอนนี้ แต่เพลิงตะวันกลับไปสะดุดเข้ากับรูปถ่ายล่าสุดที่มีผู้ชายอีกคนอยู่ในรูปนั้นด้วย
‘ใครกัน? แฟนเด็กคนนี้เหรอ...’
สองคิ้วขมวดยุ่งเข้าหากันทันที
“แล้วนี่หายไปไหน! บอกว่าให้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวไง!”
อยู่ดีๆเขาก็หัวเสียขึ้นมาดื้อๆเลยเดินกลับออกมาเพื่อตามหาเอวาที่หายมานานเกินที่เขากำหนดเอาไว้ ก่อนจะเปิดประตูทุกห้องและพบว่าห้องสุดท้ายมันถูกล็อคจากทางด้านใน
กึกๆๆๆ
“นี่! อยู่ข้างในรึเปล่า ฉันให้เวลาเธอมากพอแล้วนะ!”
กึกๆๆๆ
เพลิงตะวันพยายามดึงกลอนประตูให้เปิด ทำเอาคนด้านในถึงกับสะดุ้ง เอวาที่ไม่รู้จะทำยังไงเริ่มใจเสีย
“นี่คุณ!!! ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น! ต่างคนต่างอยู่สิจะมาลากฉันไปทำไม!”
เอวาตะโกนออกมาเสียงดังหวังว่าเขาจะได้ยิน
“คิดว่าประตูบางๆแค่นี้จะขังเธอไว้ข้างในนั้นได้เหรอ จะออกมาหรือให้พังเข้าไป”
“จะบ้าเหรอห๊ะ!!”
“ออกมาดีๆหรือให้พัง ลูกน้องฉันเยอะด้วยนะ”
เพลิงตะวันเริ่มขู่ ทำเอาเอวาถึงกับไปไม่เป็นได้แต่มองไปรอบๆห้องเพื่อหาทางหนี พอเดินไปที่ระเบียงก็ดันสูงแถมไม่มีทางให้ปีนลงอีก
“ฉันจะนับถึง 3 ถ้าไม่ออกมาได้พังเข้าไปแน่...1...2...3”
ผลั๊วะ!!!
“คุณเป็นบ้ารึไงห๊ะ!? จะให้ฉันไปด้วยทำไม! ยังไงเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน!”
“เธอเป็นน้องฉันไงความจำเสื่อมเหรอ! ไปขึ้นรถ!”
เอวาที่หน้างอขั้นสุดพยายามมองเขาด้วยความโมโห แต่เพลิงตะวันกลับดูไม่ได้สนใจอาการไม่พอใจของเธอ เขายืนจังก้ารอให้เธอออกจากห้อง
“ฉันยังไม่เก็บของ!”
หมับ!
“ไม่ต้องเก็บ ไปซื้อเอาที่โน่น”
“ว๊ายยยย! ไม่นะ ปล่อยฉันนะคุณ!”
เพลิงตะวันไม่สนใจคว้าข้อมือเล็กแล้วดึงให้เดินตามเขาลงไปทันที
“เกิดอะไรขึ้นคะ! คะ...คุณหนู เอ่อ คุณเพลิงจะพาคุณหนูไปไหนคะ...”
แม่บ้านที่ได้ยินเสียงต่างวิ่งกรูกันเข้ามาดูพร้อมกับถามขึ้นอย่างตกใจ
“ฉันจะพาน้องสาวไปอยู่ด้วย ใครมีปัญหา?”
“.................”
เพลิงตะวันหันมองไปรอบๆแล้วพูดขึ้นด้วยท่าทีอันน่ากลัวจนทุกคนต่างพากันไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก จากนั้นเขาก็พาเธอเดินไปที่รถแล้วยัดเอวาเข้าไปด้านใน
“คุณจะพาฉันไปด้วยทำไม หรืออยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาสมบัติที่คุณแม่แบ่งให้?”
เอวาเริ่มคิดไปไกล เมื่อมันไม่มีเหตุผลเลยจริงๆที่เขาจะพาเธอไปอยู่ด้วย
“ออกรถ”
แต่เพลิงตะวันไม่สนใจ สั่งคนขับรถให้ออกรถทันทีที่เขาเข้ามานั่งข้างเธอแล้ว
“ถ้าคุณอยากได้ก็เอาไปเลย ฉันไม่อยากได้อะไรจากคุณแม่เลยสักนิด เดี๋ยวฉันเซ็นให้ เอาเอกสารมาได้เลย”
“สมบัติแค่นั้น ฉันไม่สนหรอก แล้วก็หุบปาก ไม่งั้นฉันจะทำให้เธอหุบปากเอง”
‘อะไรของเขา?? ต้องการอะไรจากเรากันแน่เนี่ย! โอ๊ยยยยย ทำไงดีๆๆๆ’
พอเจอคำขู่ของเขาเข้าไป เอวาเลยหยุดตีโพยตีพายแล้วนั่งกอดอกหันข้างให้เขาแทน เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆทำไมเขาต้องทำแบบนี้กับเธอ หรือต้องการแก้แค้นคุณตราดาเลยมาลงที่เธออย่างนั้นเหรอ ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งไม่เข้าใจ
ส่วนเพลิงตะวัน เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่แค่รู้ว่าเขาต้องพาผู้หญิงคนนี้กลับไปด้วย เมื่อยังไงคุณตราดาก็สั่งเสียให้เขาดูแลเธอ
“ไอ้เกียรติ นายหัวกลับมารึยัง?”
“อืม พึ่งมาถึง เห็นว่าพรุ่งนี้เรียกประชุมคนทั้งเหมืองด้วย อ่าว แกจะไปไหน ชมพู่โว้ย เฮ้อออ ไปให้นายหัวรำคาญเปล่าๆ”
นายเกียรติ คนงานในเหมืองตะโกนออกมา แต่ดูท่าสาวสวยประจำเหมืองอย่าง ชมพู่ จะไม่สนใจฟังเขาเลย เมื่อหัวใจลิงโลดไปอยู่ที่บ้านของนายหัวหนุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“พาเธอไปที่ห้องปลีกขวาแล้วหาเสื้อผ้าและของใช้ไปให้ด้วย”
“จ๊ะนายหัว...เอ่อ คุณ...”
“เอวาค่ะ...”
“ตามป้ามะลิมาเลยค่ะจะพาไปที่ห้องพัก”
ถึงจะไม่เต็มใจขนาดไหน แต่ตอนนี้เธอคงทำอะไรไม่ได้แล้วเมื่อนั่งเฮลิคอปเตอร์ร่วมสองชั่วโมงเพื่อมาที่นี่ เอวาเดินตาม ป้ามะลิ แม่บ้านสูงอายุไป เมื่อเธอเองก็เหนื่อยเหลือเกินแล้ว
“บอกคนงานไปแล้วใช่ไหมว่าพรุ่งนี้ฉันเรียกประชุม”
“เรียบร้อยครับ นายจะให้เรียกมิราเข้ามาไหมครับ?”
“อืม ก็ดี นายก็ไปพักเถอะ”
“ครับ”
สั่งเสร็จเพลิงตะวันก็เดินตรงไปทางปีกซ้ายที่มีห้องพักของเขาอยู่ แต่ก็ไม่วายหันไปมองทางปีกขวา เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขามีคนมาอยู่ร่วมบ้านหลังจากบิดาจากไป
“นายหัวจ๊ะ! ชมพู่เอาขนมหวานที่นายหัวชอบมาให้ ให้ชมพู่เตรียมน้ำให้อาบไหมจ๊ะ เดินทางมาเหนื่อยๆจะได้แช่น้ำร้อนๆ”
ยังไม่ทันได้เดินเข้าห้อง ร่างเล็กของชมพู่ เด็กสาวที่เขาพามาจากในเมืองเมื่อเห็นว่าเธอไร้ที่อยู่ตั้งแต่เธออายุแค่ 12 จนตอนนี้ 23 แล้ว เขาเห็นเธอเป็นเหมือนน้องสาวคนหนึ่งและไม่เคยคิดอะไรเกินเลยนอกจากความเอ็นดูที่เขามีให้
“อืม ก็ดีเหมือนกัน”
เพลิงตะวันตอบตกลง เพราะปกติแล้วชมพู่จะเข้ามาทำโน่น ทำนี่ให้เขาแบบนี้ตลอดโดยไม่คิดเลยว่าน้องสาวเก็บได้คนนี้ไม่ได้คิดว่าเขาเป็นเพียงพี่ชายตั้งแต่เริ่มโตเป็นสาวแล้ว เธอหลงรักเพลิงตะวันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ทั้งพยายามแสดงให้เขาเห็นว่าเธอนั้นโตเป็นสาวแล้วแถมสวยจนหนุ่มๆในเหมือนยกให้เป็นนางฟ้าของที่นี่ แต่เพลิงตะวันกลับไม่เห็นเธอเป็นสาวเสียทีนี่สิ
ชมพู่เดินเข้าไปในห้องนอนของเขาพร้อมกับยิ้มกว้างอย่างมาดหมายว่าสักวันเธอต้องได้นอนโอบกอดกับเขาที่นี่ มันจะเป็นสนามรักอันเร่าร้อนระหว่างเขากับเธอ แค่คิดเธอก็ขนลุกอย่างกระสันแล้ว
“ยืนทำอะไร เข้าไปเตรียมน้ำสิ”
เพลิงตะวันที่เดินเข้ามาถามอย่างแปลกใจ ก่อนจะตักขนมหวานที่เธอเอามาให้เข้าปากไปด้วย ส่วนชมพูก็รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้เขา
‘นี่มันหน้าที่ของเมียชัดๆ หึหึ สักวันเราต้องได้นอนแช่น้ำด้วยกันนะคะพี่เพลิง’
จัดเตรียมไปก็คิดไปด้วยอย่างมีความสุข จนกระทั่งเพลิงตะวันเดินเข้ามาเมื่อต้องการแช่น้ำแล้ว
“เสร็จแล้วใช่ไหม?”
เขาถามขึ้น ก่อนที่ชมพู่จะหันกลับมามองเขา และภาพตรงหน้าก็ทำเอาหัวใจสาวน้อยเต้นรัวจนแทบกระเด็นออกมานอกอก ร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเปลือยเปล่าท่อนบน ส่วนท่อนล่างนั้นมีแค่ผ้าเช็ดตัวพันรอบกายปกปิดเอาไว้ แต่ชมพู่ก็ไม่วายจินตนาการไปถึงเรื่องเปลือยเปล่าของเขาจนเธอปวดหนึบที่ตรงกลางระหว่างขาขึ้นมา
“เอ่อ สะ...เสร็จแล้วจ๊ะ”
เสียงที่เริ่มตะกุกตะกักบอกขึ้น ก่อนจะรีบเดินออกไปเมื่อสองแก้มแดงลามไปจนถึงใบหูแล้วตอนนี้
ส่วนเพลิงตะวันก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย พอได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลงเขาก็ตวัดผ้าเช็ดตัวออกจากท่อนล่างแล้วเดินลงไปที่อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำอุ่นและฟองสบู่
“เฮ้ออออ”
เสียงถอนหายใจดังขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความอุ่นร้อนไหลผ่านร่างกายอันเหนื่อยล้าของเขา ตอนนี้เขาไม่รู้เลยจริงๆว่าต้องทำยังไงกับความรู้สึกที่เขาเคยมีต่อมารดา
ทางด้านเอวา ตอนนี้เธอเหนื่อยเกินที่จะมานั่งคิดหรือหาทางออก พออาบน้ำเสร็จเธอก็เผลอหลับไปทั้งที่ผมยังไม่แห้งด้วยซ้ำ