SO STAR :: CHAPTER 1 [30%]
Interviewer : วันนี้เป็นการสัมภาษณ์นายแบบที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้นะคะ เขามีงานมากมาย และเป็นนายแบบที่มีโฆษณามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง เสื้อผ้า รองเท้าและอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยใบหน้าที่หล่อสไตล์อปป้าเกาหลีที่สาวๆ หลายคนชอบ ขอเชิญพบกับ คุณโซล นายแบบคนดังล่าสุดแห่งยุคค่ะ
เสียงปรบมือดังไปทั่วห้องส่ง เมื่อม่านของเวทีรายการแห่งหนึ่งเปิดขึ้น แฟนคลับและคนชมในห้องส่งอยากที่จะเห็นใบหน้าหล่อๆ และร่างกายที่สมบูรณ์แบบของเขา รองเท้าผ้าใบคู่แพงเดินตรงออกมาจากหลังเวที รูปร่างของเขาที่มีส่วนสูงถึง 185 ซม. ใบหน้าหล่อสไตล์เกาหลี ริมฝีปากแดง จมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าเรียวยาว ทรงผมที่ไถข้างออกทั้งสองข้าง สร้างเสน่ห์ให้เขาด้วยต่างหูสีดำนับสิบที่ติดอยู่ทั้งสองข้าง ดวงตาคมเรียบเฉย ถอนหายใจออกมาเป็นระยะ วันนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมลงสามเม็ดจนเห็นรอยสักที่ชวนน่าหลงใหลบริเวณอก และข้อมือขวาที่สักรูปสามเหลี่ยมธรรมดา นั่งลงไขว่ห้างด้วยใบหน้าที่หงุดหงิดจนผู้สัมภาษณ์เหงื่อตก ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่ดูดีและร่างกายที่แสนจะเพอร์เฟ็ก ทุกอย่างบนตัวของเขามันดีเลิศ ยกเว้น...
นิสัยจอมเหวี่ยงวีนที่เขาล่ำลือกันไง!
Interviewer : ถ้าอย่างนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราขอสัมภาษณ์คุณโซลเลยก็แล้วกันนะคะ
โซล : อือ ด่วนด้วย ผมมีงานต้องไปทำต่อ
Interviewer : คือเป็นคำถามที่แฟนๆ ของคุณอยากรู้นะคะ เกี่ยวกับประวัติของคุณ ก่อนที่จะมาเป็นนายแบบที่โด่งดังจนถึงตอนนี้ เมื่อก่อนคุณเคยเป็นเนตไอดอลที่ชื่อดังมากเลยใช่ไหมคะ?
โซล : ใช่ เมื่อก่อนผมเป็นแค่เนตไอดอลธรรมดาเท่านั้นล่ะ
Interviewer : แล้วที่มีข่าวลือมาว่าคุณเป็นเนตไอดอลที่ชอบเปลือยโชว์ของลับจนโด่งดังนี่ล่ะคะ
โซล : ข่าวแบบนั้นจ้องจะโจมตีผมอยู่แล้วล่ะ ถ้าทุกคนรู้จักผมดี จะรู้นะว่าผมดังเพราะเล่นกีต้าร์ ร้องเพลงลงยูทูป กระทั่งมีแมวมองจากบริษัทชนะศึกมาติดต่อให้ผมไปทำงานถ่ายแบบ เพราะเห็นว่าหุ่นของผมและหน้าตาของผมดีก็เลยตกลงไป หลังจากนั้นก็เลยเป็นแบบทุกวันนี้
โซลถอนหายใจออกมายอย่างหงุดหงิด เขามองนาฬิกาที่ข้อมือที่บ่งบอกว่าได้เวลาที่เขาจะต้องไปปาร์ตี้กับเพื่อนนายแบบ นางแบบที่คอนโดแถวชายทะเลตอนเที่ยงคืน แต่ถ้ายังให้สัมภาษณ์อยู่แบบนี้ มีหวังไปสายแน่!
Interviewer : จนถึงตอนนี้คุณก็โด่งดังมาก และคุณคิดยังไงกับการที่จู่ๆ จากเนตไอดอลธรรมดากลายมาเป็นนายแบบชื่อดัง คุณคิดว่ามันเปลี่ยนแปลงคุณมากไหมคะ?
โซล : ก็มากนะ เพราะมันทำให้ผมมีเงินและก็ได้ทำงานที่ตัวเองชอบ ตอนแรกอาจจะไม่ชอบแต่ตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะว่าตัวเองเหมาะกับอะไร
Interviewer : งั้นขอสอบถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวหน่อยนะคะ เคยมีข่าวว่าคุณกิ๊กกับตากล้องสาวคนหนึ่งในบริษัทนี่จริงหรือเปล่าคะ?
โซล : คนอย่างผมน่ะเหรอจะไปกิ๊กกับผู้หญิงที่แมนๆ แบบนั้น ไม่มีอะ
Interviewer : ถ้างั้นตอนนี้หัวใจของคุณก็กำลังว่างใช่ไหมคะ
โซล : ใช่ ผมเบื่อที่จะต้องผิดหวังแล้วล่ะ พอที
Interviewer : ที่ว่าเบื่อ ผิดหวัง คงไม่ได้หมายถึง ‘นางแบบ’ ที่ชื่อดังอีกคนที่เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศเพราะไปเล่นหนังหรือเปล่าคะ
โซลยกยิ้มมุมปาก เมื่อผู้สัมภาษณ์พูดพาดพิงถึงใครบางคนที่เขาลืมไปแล้ว ใช่สิยัยนั่นเพิ่งจะกลับมาจากไปโกอินเตอร์เล่นหนังที่เมืองนอกนี่นา เห็นว่าได้ประกบกับพระเอก- นางเอกดังของฮอลลีวูดด้วยนี่ ใบหน้าหล่อหรี่ตาจิกไปที่กล้อง หวังว่ายัยนั่นคงจะฟังอยู่นะ เพราะถ้าได้ฟังคงจะปรี๊ดแตกแน่นอน
โซล : หึ ผู้หญิงแบบนั้นไม่มีผลอะไรกับชีวิตผมหรอกครับ ก็แค่ผู้หญิงจองหองที่ทำตัวเป็นพญาหงส์ แต่ที่แท้... ก็แค่เป็ดที่ร้องอยู่ในลำคลอง
เรียกเสียงฮือฮาในทันที โซลลุกขึ้นยืนหมุนตัวออกจากรายการไปในทันที รอยยิ้มร้ายกระตุกขึ้น แม้แต่ผู้จัดการส่วนตัวยังห้ามเขาไม่ได้ที่คว้าเอากุญแจรถสปอร์ตไฮบริดจากปอร์เช่รุ่น Porsche 918 Spyder สีเทาที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ เขาก้าวเท้าขึ้นรถของตัวเองและบึ้งออกจากสถานีไปอย่างรวดเร็วก่อนจะเปิดหลังคารถเพื่อรับลม
“Let's go party seoul”
ตุ้บ
“กล้าดียังไงมาว่าฉันเป็นเป็ดกัน ไอ้บ้า!”
ร่างสวยระหงที่ยืนกอดอกดูสัมภาษณ์ในทีวีจอยักษ์อยู่บนคอนโดสุดหรูของตัวเอง เมื่อกลับมาจากเมืองนอกหลังจากไปโลดแล่นอยู่กับการเล่นหนังครั้งแรกในชีวิต ‘พริกหวาน’ นางแบบสาวสุดฮอตที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ เธอกลับมาพร้อมกับความสำเร็จที่ถล่มทลาย เมื่อก้าวไปสู่อีกขั้นของการเป็นนางแบบ ใบหน้าเรียวสวย ดวงตากลมโต ริมฝีปากนูนน่าสัมผัสอิ่มเป็นสีชมพู ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวเป็นลอนกลางแผ่นหลัง เจ้าของส่วนสูง 170 ซม. และสัดส่วนเป็นที่น่าอิจฉาของผู้หญิงทุกคน 34b-24-34 หุ่นที่แสนจะเพอร์เฟ็ก เหมาะกับงานถ่ายแบบที่เธอทำอยู่
เธออยู่ในชุดนอนสีขาวสายเดี่ยวสุดเซ็กซี่ เพิ่งกลับมาถึงที่นี่ตอนเย็น เพราะเข้าไปต่อสัญญากับทางบริษัทชนะศึก และไม่คิดว่าการที่เธอกำลังจะผ่อนคลายเพื่อให้ผิวหน้าของเธออิ่มและสวยเพื่อรับงานในวันพรุ่งนี้ กลับต้องมาอารมณ์เสียเพราะการให้สัมภาษณ์ของไอ้บ้าที่อยู่ในทีวี ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยชื่อเธอ แต่ประโยคที่ว่าเป็นนางแบบที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ มันจะเป็นใครกันถ้าไม่ใช่เธอ!
“ตัวเองดีตายล่ะ ไอ้บ้าโซลจอมวีน!”
เธอและเขาเป็นนายแบบ นางแบบสังกัดเดียวกัน แต่ทว่าด้วยความที่นิสัยต่างกันสุดขั้วทำให้ไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ ที่ไม่ลงรอยคงเห็นจะมีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น เพราะมันเคยมีเรื่องทำนองนี้มาก่อนไง
“คงจะแค้นฉันล่ะสิที่หักอกนาย หึ” ริมฝีปากอวบอิ่มเหยียดตรงและยกไวน์แดงขึ้นจิบ นั่งลงไขว่ห้างและมองออกไปนอกระเบียงที่ตอนนี้มืดสนิทแต่เห็นแสงไฟจากตึกมากมายที่รายล้อมอยู่
“คนอย่างนาย ต่อให้หล่อมากแค่ไหน คนอย่างฉันก็ไม่สนหรอก นิสัยแย่ ทำตัวแย่ ชิ!” เธอหยิบหนังสือที่มีปกของเขาดูและเขวี้ยงทิ้งลงถังขยะ ถึงแม้จะเป็นพวกที่หยิ่งจองหองแต่ถ้าได้ทำงานเธอจะเปลี่ยนเป็นคนละคน เพราะเธอแยกแยะออกไง แต่สำหรับไอ้บ้านั่น ไม่เคยแยกแยะออกหรอก! คงคิดว่าตัวเองดังแล้วดับไม่เป็นมั้ง
นึกไปถึงตอนนั้นก็ขำไม่หาย... ตอนนั้นที่เธอทำให้เขาอับอายขายขี้หน้าคนทั้งประเทศน่ะ หึหึ
สองปีที่แล้ว
“พวกคุณสองคนร่วมงานกันบ่อยแบบนี้ แถมยังดูเหมือนจะสนิทกันด้วย คงจะมีลุ้นให้แฟนคลับจิ้นหรือเปล่าคะ?”
“มีครับ / ไม่มีค่ะ” โซลและพริกหวานมองสบตากัน หลังจากที่มางานแฟชั่นโชว์ หลังจากที่พวกเขาได้ร่วมงานกันครั้งแรกกับการถ่ายแบบเสื้อผ้ากีฬายี่ห้อหนึ่งก็ทำให้เป็นที่จับตามองของทุกคน จนกระทั่งมันดังเปรี้ยงแฟนคลับคิดว่าทั้งสองคนกำลังสานสัมพันธ์กันอยู่ โดยที่โซลออกอาการได้ชัดว่าตามจีบ
“เออ ยังไงกันแน่คะ”
“สำหรับพริกนะคะ พริกโฟกัสที่งานดีกว่าค่ะ เรื่องที่เราจิ้นกันก็ขอให้เป็นเพียงแค่จิ้นนะคะ ไม่จริงค่ะ”
“แต่ฉันอยากให้เป็นจริง ไม่ได้แค่จิ้น” พริกหวานหันไปมองโซลที่โอบเอวเธอให้แนบชิดกับร่างกายแกร่ง ใบหน้าหล่อยกยิ้ม ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงได้อยากจีบยัยนี่ที่ทั้งหยิ่งและจองหอง แต่มันก็ดีไม่ใช่เหรอที่จะทำให้กระแสของเราดังขึ้นไปอีก มันเป็นผลดีต่อตัวของเขาและบริษัทด้วย ที่สำคัญการจีบยัยนี่มันท้าทายเขามาก เพราะพริกหวานสวย และดูจะไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เขาเนี่ยล่ะจะทำให้มันเป็นผลสำเร็จเอง
จีบติดก็คบสิ รออะไรเล่า!
“ว้าว คุณโซลเล่นหยอดหวานแบบนี้ คุณพริกหวานว่ายังไงคะเนี่ย?”
“คือ...”
“ผมจีบพริกเขาอยู่น่ะครับ เขาอาจจะกำลังเขินอยู่ก็ได้” ใบหน้าสวยเหวอไปในทันที โซลมันจีบเธอตอนไหนกัน ไม่เห็นจะพูดบ้าอะไรเลยนี่ คิดจะทำให้ชื่อเสียงของเธอป่นปี้หรือไงกัน? คิดจะเล่นกับพริกหวานงั้นเหรอ
ได้จัดให้นะโซล!
“ค่ะ แต่พริกไม่เล่นด้วย”
“!”
“ผู้ชายอย่างโซลไม่ใช่สเปกพริกหรอกค่ะ เรานิสัยต่างกันที่สำคัญนะคะ... หล่อแค่ไหนก็กินไม่ได้ค่ะ” โซลเบิกตากว้างที่โดนยัยหยิ่งคนนี้หักหน้ากลางงานแฟชั่นและต่อหน้านักข่าวอีกนับร้อย เขากลายเป็นตัวตลกในทันทีที่ผู้หญิงคนนี้ปฏิเสธการจีบของเขา ผู้ชายที่ชื่อโซล ผู้หญิงแค่เห็นก็ยอมสยบแล้วนะ ยัยบ้านี้เป็นใครกัน? แค่หยิ่งจองหองคิดว่าจะเอาชนะเขาได้งั้นเหรอวะ!
“เพราะฉะนั้นไม่จริงนะคะ ขอโทษด้วยนะโซล นายไม่ใช่สเปกฉันอะ”
“...”
“ขอโทษพี่นักข่าวด้วยนะคะ ที่ฟังโซลเขาคนเดียว ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังนะคะ บายค่ะ” พริกหวานโบกมือและทิ้งให้โซลยืนนิ่งอยู่กลางดงนักข่าวที่ถามเขาเรื่องที่เกิดขึ้น
และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเกลียดขี้หน้ากันอย่างสุดขีด!
“เฮ้ยโซล เช้าแล้วนะมึง”
“งือ กูจะนอน”
“มึงต้องเข้าบริษัทไม่ใช่หรือไงวะ ตื่น!” สายตาของผมโฟกัสที่ร่างสูงของเพื่อนนายแบบที่ชื่อตัง มันเก็บของที่เกลื่อนเต็มพื้นคอนโดและนายแบบอีกหลายคนที่นอนตายอยู่เกือบสิบชีวิตและร่างของนางแบบสาวที่นอนอยู่บนโซฟา ผมลุกขึ้นนั่งยีผมตัวเองอย่างหงุดหงิด หาวออกมาเพราะเมื่อยล้าจากเมื่อคืนที่หนักไปหน่อย
“ทำหน้าวีนเหวี่ยงตลอดนะมึง”
“กูฝันได้โคตรเลวร้ายเลยว่ะ”
“ฝัน? ฝันอะไรของมึง” ผมจิ๊ปากและหยิบซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ต ควานไฟแช็กแต่ไอ้ตังก็โยนมาให้ผมจุดสูบพ่นควันไปทั่วห้อง
“ฝันร้ายว่ะ คือแบบอย่างหลอน”