2 อาทิตย์ผ่านไป
หลังจากที่มาเฟียหนุ่มได้รับรู้ความในใจของเด็กสาวแล้วเค้านั้นก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะมีความรู้สึกดีๆให้เธอกลับไปเลยสักนิด เค้ายังคงเป็นมาเฟียหนุ่มที่รักสันโดดอยู่เช่นเดิม แถมยังไม่เคยนึกถึงเรื่องของการรับผิดเธอในเรื่องของการมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งต่อกันอีกด้วย
ตลอดเวลา2อาทิตย์ที่ผ่านมานี้เฮดีลได้สังเกตเห็นว่าเลขาของตัวเองมีท่าทีที่เปลี่ยนไป แต่ทว่าเค้านั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรและยังคงใช้งานเธอหนักเช่นเดิม
บริษัท
คลืดดดดด คลืดดดดดด
ในขณะที่มาเฟียหนุ่มกำลังนั่งทำงานอยู่นั้น จู่ๆโทรศัพท์ของเค้าก็ได้สั่นขึ้นก่อนจะปรากฏชื่อบนหน้าจอสมาร์ตโฟนให้เค้าได้เห็นว่าใครคือเจ้าของปลายสายที่โทรเข้ามา
มีสายเรียกเข้าจาก ไอ้ออกัส
“ไอ้ดีล”
“ว่า”
“น้องกูมาถามเรื่องมึงกับมุกริน ตกลงมึงหลอกฟันน้องมันหรอว้ะ ทำไมมึงไม่รับผิดชอบน้องมัน!”
“พูดจบยัง?”
“เชี้ยดีล! กูไม่น่าให้มึงรับน้องมุกเข้าทำงานเลยสัส!”
“เจ้าตัวไม่โวยวาย มึงจะโวยวายเพื่อ?”
“วิวมาด่ากูอะดิ!”
“ด่ามึงไม่ใช่กู”
“ไอ้ดีล! เป็นมาเฟียก็ใช่ว่าจะต้องทำตัวหะ..”
ตู๊ดดดดดๆ ไม่ทันที่ออกัสจะได้ด่าจบเฮดีลก็ชิงตัดสายเค้าไปทันที ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงที่เดิมพร้อมกับมองไปที่หน้าห้องทำงานที่ตอนนี้มีเด็กสาววัย22ปีกำลังนั่งทำงานให้กับเค้าอยู่
ตอนนี้เด็กสาวนั้นกำลังทำงบประมาณของบริษัทให้กับบอสของตัวเองอยู่ ซึ่งบอสของเธอนั้นได้บอกเอาไว้แล้วว่าหากวันนี้เธอทำไม่เสร็จเธอจะต้องนั่งทำจนกว่าจะเสร็จไม่ว่าจะมืดค่ำหรือดึกแค่ไหนก็ตามซึ่งเธอนั้นก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ทั้งๆที่งานนี้เธอทำเสร็จไปตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเช้า
หลังจากที่เด็กสาวเดินทางมาถึงบริษัทเธอนั้นก็พบกับบอสของตัวเองกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องกระจกแต่เช้าตรู่ ทำให้เธอนั้นต้องรีบไปชงกาแฟมาให้กับเค้าด้วยความรวดเร็ว
“กาแฟค่ะ”
“เดี๋ยว”
“คะ?”
“งานวันนี้ ไปทำให้เสร็จ ไม่เสร็จไม่ต้องกลับ” เฮดีลพูดพลางดันเอกสารที่เด็กสาวนำมาส่งให้เมื่อวานคืนเธอกลับไปโดยที่สายตาของเค้านั้นยังคงจดจ้องอยู่ที่หน้าจอ Macbook ของตัวเอง
“แต่งบนี้หนูทำไปแล้วนะคะ”
“ไม่ถูกต้อง”
“จริงหรอคะ ตะ…”
“สั่งให้ทำก็ทำ! จะถามมากทำไม!”
“ค่ะ!” เมื่อเด็กสาวไม่สามารถขัดใจเจ้านายของตัวเองได้ เธอจึงทำได้แค่หยิบเอกสารกองนั้นกลับมาทำที่โต๊ะทำงานของตัวเองอีกครั้ง ทั้งๆที่เมื่อวานนี้เธอได้ตรวจไปแล้วถึง3ครั้งหลังจากที่ทำเสร็จ
ตอนนี้เวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงช่วง 16:55 น.แล้ว ในขณะเดียวกันโทรศัพท์ของเด็กสาวที่วางไว้ข้างๆก็ได้สั่นขึ้นฉุดให้เธอต้องละสายตาจากหน้าจอคอมมาเป็นหน้าจอโทรศัพท์แทน
มีสายเรียกเข้าจาก พี่มาร์ค
“ค่ะพี่มาร์ค”
“พี่มารอหน้าบริษัทแล้วนะ”
“หื้อออ~ หนูลืมบอกเลยค่ะว่าวันนี้คงต้องกลับดึก เพราะยังทำงานไม่เสร็จเลย~”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่รอหน้าบริษัทนี่แหล่ะ”
“ไม่ใช่เวลาคุยโทรศัพท์ งานเธอเสร็จหรือยัง!” ในขณะเดียวกันเสียงของเฮดีลก็ได้ดังขึ้นฉุดให้เด็กสาวต้องรีบหันไปมองเค้าในทันที ก่อนจะทำให้เธอต้องรีบวางสายของมาร์คไป
“ขอโทษค่ะ” หลังจากที่เด็กสาววางโทรศัพท์ลงแล้วเธอนั้นก็ทำแค่เพียงกล่าวคำขอโทษออกมาสั่นๆเท่านั้นและทำงานต่อทันทีโดยไม่ได้พูดอะไรกับบอสของตัวเองต่อซึ่งเฮดีลนั้นก็เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง บ่งบอกได้ว่าเค้าก็จะยังไม่กลับบ้านเช่นกัน
เวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงช่วง3ทุ่ม ตอนนี้เด็กสาวนั้นได้ทำงานของตัวเองเสร็จแล้ว และกำลังให้บอสของตัวเองตรวจสอบอยู่
“ถูกต้องหรือป่าวคะ”
“อืม”
“งั้น.. หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“…” เมื่อเฮดีลไม่ได้ตอบอะไรเลขาของตัวเองกลับไป ทำให้เธอนั้นต้องรีบเดินกลับมาที่โต๊ะทันทีเพื่อเก็บข้าวของและแฟ้มเอกสารอื่นๆเข้าที่
เมื่อเด็กสาวเก็บข้าวของของตัวเองเสร็จแล้ว เธอก็เห็นทันทีว่าบอสของตัวเองกำลังยืนรอลิฟต์อยู่เช่นกัน ทำให้เธอนั้นต้องเข้ามาในลิฟต์กับเค้าทั้งๆที่ไม่อยากจะเข้ามาด้วยซ้ำ..
ทันทีที่ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่างเด็กสาวนั้นก็รีบเดินออกมาที่หน้าบริษัททันที ก่อนจะเห็นว่ามีรถของมาร์คจอดรอเธออยู่ซึ่งเค้านั้นจอดอยู่ในที่ๆมารอรับเธอทุกวัน
“อ่าว หนูบอกให้พี่กลับไปก่อนไม่ใช่หรอคะ” เด็กสาวเอ่ยถามขึ้นทันทีที่คนในรถเปิดประตูออกมา
“พี่จะให้หนูกลับคนเดียวได้ไงล่ะ” มาร์คพูดพลางมองไปที่ด้านหลังของเด็กสาวก่อนจะเห็นว่าคู่อริของตัวเองก็กำลังเดินออกมาจากบริษัทเช่นกัน ทำให้เด็กสาวที่เห็นเช่นนั้นต้องหันไปมองตามเค้าทันที
“งั้นเราไปกันเถอะค่ะ”
“ค่ะ” มาร์คไม่ได้เอ่ยถามอะไรต่อนอกจากเปิดประตูให้กับเด็กสาวได้ขิึ้นรถ ส่วนเค้านั้นก็เดินไปขึ้นฝั่งคนขับและขับออกมา
“มันไม่ให้หนูกลับบ้านหรอ” เมื่อรถแล่นออกมาได้ไม่นานมาร์คจึงตั้งคำถามขึ้น เมื่อเค้านั้นเห็นเฮดีลเพียงคนเดียวที่ยังอยู่ในบริษัท
“ป่าวค่ะ หนูทำงานให้บอสไม่เสร็จ ก็เลยต้องทำให้เสร็จ”
“แน่ใจนะ”
“ค่ะ”
“แล้วไป พี่คิดว่ามันมาแกล้งอะไรเราอีก”
“พี่มาร์คคะ”
“หื้ม ว่าไงคะ”
“หนูมีเรื่องจะบอกค่ะ”
“ว่ามาสิ”
“คือว่า.. หนูกับบอส..”
เอี๊ยดดดด! ไม่ทันที่เด็กสาวจะได้พูดจบประโยครถของมาร์คก็ถูกเหยียบเบรกกระทันหันทันที
“อื้ออ! ตกใจหมดเลย~”
“โทษที พูดมาเถอะพี่รอฟังอยู่”
“หนูกับบอส.. เรามีอะไรกันแล้วค่ะ”
“…”
“ถะ..ถ้าพี่รับไม่ได้หนูก็เข้าใจนะคะ แต่หนูแค่อยากจะบอกไว้เฉยๆ ว่าหนูไม่ใช่ผู้หญิงที่บริสุทธิ์อะไร”
“ขอบคุณที่บอกพี่นะ”
“…”
“หนูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันใช่ไหม?”
“ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ” เด็กสาวเลือกที่จะปฏิเสธเพราะเธอนั้นก็พยายามที่จะลืมความรู้สึกดีๆที่มีให้กับบอสของตัวเองอยู่เหมือนกัน
“พี่ไม่โกรธเราหรอก พี่ดีใจส้ะอีกที่เรายอมบอกพี่”
“ไม่โกรธแน่หรอคะ?”
“อื้ม โกรธทำไมล่ะ”
“งั้นหนูขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“อะไรล่ะ”
“พี่กับเจ้านายของหนูเป็นเพื่อนกันหรอคะ”
“ไม่นับเพื่อนนะ แค่เคยเรียนที่เดียวกันนะแต่คนล้ะห้อง”
“อ้อค่ะ” เด็กสาวพยักหน้าสองสามครั้งก่อนจะหันมามองที่มาร์คอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ภายในรถนั้นเต็มไปด้วยความเงียบ จะมีก็แต่เสียงเครื่องยนต์เท่านั้นที่ยังทำงานอยู่
“เป็นแฟนกับพี่นะ”
“อะ..อะไรนะคะ!”
“โถ่ พี่รู้ว่าเราได้ยิน~”
“มันจะไม่เร็วไปใช่ไหมคะ”
“ถ้าหนูยังไม่สะดวกใจก็ไม่เป็นอะไรนะ” มาร์คพูดพลางทำสีหน้าวิตกกังวล ทำให้เด็กสาวที่เห็นเช่นถึงกับแก้สถานะการไม่ถูกทันที
“กะ.. ก็ได้ค่ะก็ได้! เป็นก็เป็น!”
“ห้ะ! จริงนะ หนูยอมเป็นแฟนกับพี่จริงๆนะ!” มาร์คพูดออกมาด้วยความดีใจพร้อมกับจับไปที่มือของเด็กสาว
“ไม่จริงค่ะ5555”
“โถ่หนู~ อย่าแกล้งพี่สิ~”
“ค่าา เป็นค่ะ!”
เชียร์ให้ลูกสาวมีความรักครั้งใหม่ จนอีบอสต้องอกแตกตาย!
ฝากกดใจ + คอมเมนท์ให้กำลังใจไรท์หน่อยนะค้าบบ ???
รีไรท์เมื่อ 7/6/66