เมื่อเด็กสาวเดินลงมาชั้นล่างเธอนั้นก็พบกับแฟนหนุ่มรุ่นพี่ของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่กับเจ้านายของเธออยู่ เธอจึงรีบเดินเข้ามาหามาร์คทันที
“พี่มาร์ค”
“ไง จะหนีพี่ไปเที่ยวตั้ง1อาทิตย์เลยหรอ” มาร์คเอ่ยถามพลางวางมือหนาของตัวเองลงบนศีรษะของเด็กสาวทำให้เด็กสาวนั้นต้องยู้หน้าขึ้นพร้อมกับทำสีหน้าละห้อย โดยไม่ได้สนใจเลยว่ากำลังถูกสายตาฟาดฟันของใครบางคนจ้องมองอยู่
“ใช่ค่ะ หนูต้องไปทำงาน~”
“เสร็จแล้วก็ไป!” เป็นเสียงของมาเฟียหนุ่มที่พูดแทรกขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก
“ยังค่ะ ขอลาแม่ก่อน!”
“ไปเถอะลูก ขับรถขับลากันดีๆก็แล้วกันนะพ่อหนุ่ม”
“ครับ”
“บอกพี่มาร์คเค้ายังล่ะลูก จะไม่อยู่ตั้ง7วัน” ประโยคของมารดาเด็กสาวทำให้เฮดีลนั้นต้องมองไปที่เธอทันที เพราะเค้านั้นไม่คิดว่ามารดาของเลขาตัวเองจะสนิทกับคู่อริของเค้าขนาดนี้
“น้องบอกแล้วครับแม่”
“ฝากพี่มาร์คแวะมาดูแม่ให้หนูด้วยนะคะ
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่แวะมาหาแม่ทุกวันเลย”
“พูดเหมือนแม่เป็นเด็กไปได้นะเราเนี้ย”
“ก็เป็นห่วงนี่คะ~”
“ขอตัวนะครับ” มาเฟียหนุ่มพูดขึ้นอีกครั้งก่อนที่เค้านั้นจะรีบเดินออกจากบ้านไปขึ้นรถของตัวเอง
“งั้นหนูขอตัวนะคะแม่”
“จ่ะลูก รักลูกนะจ้ะ”
“รักแม่ค่ะ หนูไปนะคะพี่มาร์ค”
“ค่ะ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่รถ”
“ค่ะ”
เมื่อเด็กสาวขึ้นมาบนรถแล้ว เธอก็ไม่วายที่จะลดกระจกลงเพื่อโบกไม้โบกมือให้กับแม่และแฟนหนุ่มรุ่นพี่ของเธอ
“ปิดกระจก!”
“ค่า!” เมื่อเด็กสาวได้ยินคำสั่งจากเจ้านายของเธอ เธอจึงต้องปิดกระจกลงในทันที ก่อนจะดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาดเอาไว้
“พี่คิวไม่ไปด้วยหรอคะ” เมื่อรถออกมาได้ไม่นานเด็กสาวจึงเอ่ยถามขึ้นเมื่อเธอนั้นไม่เห็นคิวนั่งมาด้วย และคนที่กำลังขับรถอยู่ในตอนนี้ก็คือบอสของเธอเอง
“…”
“พูดด้วยก็ไม่พูด! หยิ่งชะมัด!” เด็กสาวบ่นพึมพำขึ้นอีกครั้งพร้อมกับหันหน้าหนีไปทางกระจกเพราะกลัวว่าเจ้านายของเธอนั้นจะได้ยินที่เธอว่าเค้า
“นั่งเงียบๆ! หยุดพูดจะตายหรือไง!”
“…” เมื่อเด็กสาวถูกตำหนิทำให้เธอนั้นต้องเงียบปากลงในทันทีและหันมาสนใจท้องถนนแทน
บ้านเฮดีล
“บะ..บ้านใครคะ ไหนเราบอกจะไปทำงานกันไง”
“บ้านฉัน”
“อ่าว! แล้วจะมาบ้านบอสทำไมคะ?”
“…” ไม่มีคำตอบไดดังขึ้นเฮดีลทำแค่เพียงปรดสายเข็มขัดนิรภัยของตัวเองออกพร้อมกับลงมาจากรถ ทำให้เด็กสาวที่เห็นเช่นนั้นต้องมองตามเค้าไปด้วยสายตาที่งุนงง
“ใส่ชุดดำเต็มบ้าน มีงานศพหรอ~” ถึงแม้เด็กสาวจะยังงุนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่ แต่เธอก็อดที่จะสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นผู้ชายร่างใหญ่ในชุดสูทสีดำมากมายยืนล้อมรอบบ้านหลังใหญ่หลังนี้อยู่
“นี่มันคฤหาสน์ชัดๆ!” สายตาแพรวพราวจับจ้องไปทั่วบ้านก่อนที่เด็กสาวนั้นจะเปิดประตูรถลงมาจากรถ แต่แล้วก็มีสิ่งที่ทำให้เธอนั้นต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องของหมาที่ได้ยินแล้วรู้ทันทีว่าไม่ใช่หมาธรรมดาทั่วไป
“บรู๊วววววว!” เสียงของหมาป่าดังขึ้นอีกครั้งฉุดให้เด็กสาวต้องหันไปตามเสียงก่อนที่เธอนั้นจะตกใจกับสิ่งที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเธอ จนเธอนั้นต้องรีบเปิดประตูกลับขึ้นมาอยู่บนรถด้วยความตกใจและกลัว
ปึก! เสียงหมาป่ากระแทกเข้ากับรถ ซึ่งตอนนี้เด็กสาวนั้นกำลังมองไปที่หมาป่าตัวนั้นด้วยความตกใจอยู่ เพราะมันมีขนาดที่ใหญ่มากกว่าหมาทั่วไป เผลอๆใหญ่กว่าเธอด้วยซ้ำ..
“บรู๊ววววว!” เสียงร้องดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับสายตาดุร้ายของหมาป่าตัวนั้นที่กำลังจ้องมองมาที่เธิ ซึ่งมันทำให้เธอนั้นรู้สึกว่ามันกำลังจ้องมองเธอราวกับว่าเธอนั้นเป็นเหยื่อของมัน
“แซม..” เมื่อเด็กสาวสังเกตเห็นชื่อที่สร้อยคอเธอนั้นก็จำได้ทันทีว่านี่คือแซม หมาป่าที่ดุร้ายที่สุดของเฮดีล
“แซม!!” เสียงของเฮดีลดังขึ้นฉุดให้เด็กสาวต้องมองไปตามเสียงก่อนจะเห็นว่าหมาป่าตัวนั้นได้วิ่งไปหาเจ้านายของเธอแล้ว แต่เธอนั้นก็ยังคงไม่กล้าที่จะเปิดประตูรถลงมาอยู่ดี
“ลงมา!”
“ไม่!”
ปึก! เมื่อเด็กสาวไม่ยอมเปิดประตูเฮดีลจึงเป็นคนเปิดประตูฝั่งที่เธอนั่งอยู่ด้วยตัวเอง จึงทำให้เด็กสาวนั้นเห็นรูปร่างของหมาป่าได้อย่างชัดเจน
“บะ..บอสจะฆ่าหนูหรือไงคะ!”
“ถ้าเธอเสียงดังใส่ฉัน แซมจะไม่เอาเธอไว้”
“…” ประโยคขู่เข็ญของเฮดีลทำให้เด็กสาวนั้นต้องยกฝ่ามือเรียวเล็กของตัวเองขึ้นมาปิดปากในทันที พร้อมกับมองไปที่หมาป่าตัวนั้นอีกครั้งที่ตอนนี้กำลังยืนจ้องมองหน้าของเธออยู่
“ลงมา”
“ระ..เราต้องไปทำงานกันไม่ใช่หรอคะ ระ..รีบไปดีกว่านะคะ”
“ยังไม่ถึงเวลา”
“อ่าว! ละ..แล้วจะรีบไปรับหนูมาทำไมเล่า~”
“ตอนแรกจะไป แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจ”
“บ้าชะมัดเลย~”
“ลง มา!”
“มะ..หมาคุณจะกัดหนู!”
“ถ้าเธอทำให้ฉันโมโห มันจะกัดโดยไม่ลังเล”
“อึก! มะ..ไม่มีทางเลือกให้กันเลยสักนิด~”
“แซม!”
“ละ..ลงแล้วๆ~ ใจร้ายกับหนูตลอดเลยนะ!”
“…” ประโยคของเด็กสาวทำให้เฮดีลนั้นต้องนิ่งเงียบไปทันที แต่ก็ถอยหลังให้เธอลงมาจากรถสองถึงสามเก้า ซึ่งแซมนั้นก็ถอยตามแต่ก็ยังคงจ้องมองมาที่เธออยู่เช่นเดิม
“ให้หนูไปรอตรงไหนล่ะคะ”
“…” เป็นอีกครั้งที่เฮดีลนั้นไม่ได้ตอบคำถามของเด็กสาว แต่หันหลังเดินตรงมาที่ทางเข้าบ้านแทน ทำห้เด็กสาวที่เห็นเช่นนั้นยืนยันที่เธอไม่รู้จักคำว่าพอชั่งใจอยู่นานก่อนจะตัดสินใจเดินตามเค้าไปเงียบๆ โดยมีหมาป่าตัวใหญ่ยักษ์เดินนำหน้าอยู่อีก1ตัว
ซึ่งในขณะที่เด็กสาวกำลังนั่งรอเวลาอยู่นั้น จู่ๆเธอก็ถูกบอสของตัวเองตามให้ขึ้นไปชั้นบน ซึ่งคนที่มาตามเธอนั้นก็คือคิว มือขวาของเจ้านายเธอ
“เข้าไปได้เลยครับ นายรออยู่ด้านใน”
“ขอบคุณค่ะ”
เมื่อเด็กสาวเดินเข้ามาประตูห้องก็ถูกปิดลงในทันที ทำให้เธอนั้นต้องหันกลับไปเพื่อลองบิดลูกบิดประตูดู แต่ทว่าประตูนั้นกลับถูกล็อคเอาไว้จากด้านนอก
“พี่คิว! พี่คิว! เปิดประตูให้หนูหน่อย!” เสียงตะโกนของเด็กสาวนั้นดังอยู่นานสองนาน จนทำให้เธอนั้นต้องตัดสินใจเดินเข้ามาด้านในและพบกับความว่างเปล่า..
“เล่นบ้าอะไรกันเนี่ย!” ตอนนี้เด็กสาวเริ่มรู่สึกกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว แถมเธอนั้นยังไม่ได้เอากระเป๋าและโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาอีกด้วย
ทางด้านของเฮดีลหลังจากที่เค้านั้นสั่งให้คิวไปทำตามคำสั่งแล้ว เค้านั้นก็เดินมาที่กระเป๋าของเด็กสาวเพื่อเอากระเป๋าของเธอนั้นไปเก็บที่ห้องนอนของเค้าแทน
“ถ้าจะโทษ เธอคงต้องโทษที่ไอ้มาร์คมันเข้ามายุ่งกับเธอ หึ”
คลืดดดด คลืดดดดด
ในขณะเดียวกันโทรศัพท์ของเค้าเองก็ได้สั่นขึ้น ฉุดให้เค้านั้นต้องหยิบขึ้นมาดูว่าใครคือเจ้าของปลายสายที่โทรเข้ามา
มีสายเรียกเข้าจาก เฮเดล
“ฮัลโหลเฮีย!”
“อืม”
“ได้ข่าวว่าไม่อยู่7วันหรอ”
“อืม”
“ไปไหนว้ะ”
“ไม่ต้องรู้ ทำงานที่กูสั่งให้ดี”
“รู้แล้วน่า เฮียเหอะอย่าให้รู้นะว่ามีสาวอะ”
“ไร้สาระ!”
ตู๊ดดดดดๆ ไม่ทันที่ปลายสายจะได้ตอบอะไรกับมาเค้าก็ชิงตัดสายไปก่อนทันที ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงและเดินตรงไปที่ห้องนอนที่มุกรินอยู่ด้านในในตอนนี้
เฮี๊ยยยยย เฮี๊ยทำไร?
อีพีต่อไป มี เอ็นนนนนนนซี ?
รีไรท์เมื่อ 7/6/66