ตอนที่ 2 คิดถึง...พ่อเธอ
หลังจากพูดคุยกันไปได้นิดหน่อย คุณพ่อของวาโยก็ดูข่าวไป มาถึงตอนนี้ผมก็ไม่ค่อยกวนเขาเท่าไร เพราะเกรงว่าเขาจะรำคาญ บวกกับการที่เขาพูดเหมือนรู้ว่าผมนอนกับลูกชายเขาแล้ว ถ้าออกตัวแรงไปจะไม่ดี และที่สำคัญที่สุดคือผมไม่รู้ว่าคุณพ่อของวาโยสนใจผู้ชายรึเปล่า ผมจึงทำแค่ใจเย็นนั่งมองเขาไปเพลินๆ
ผมเดาว่าคุณพ่อของวาโยอาจจะมีลูกตั้งแต่ยังเด็ก เพราะเขายังดูไม่แก่มาก ถ้าให้ผมเดาอาจจะยังไม่ถึงสี่สิบ แต่ผมก็แอบบวกเผื่อในใจเพิ่มไปอีกห้าหกปี ก็นะ พวกฝรั่งห้าสิบ หกสิบยังดูเด็กกันอยู่เลย ต่อให้คุณพ่อวาโยจะแก่แล้วผมก็ไม่มีปัญหาหรอก ก็ถ้าแก่แล้วยังดูดีเวอร์ขนาดนี้ เด็กหนุ่มที่ไหนก็ชิดซ้ายหมดแหละ
ผมนั่งมองคุณพ่อของวาโยไปเพลินๆ จนข่าวจบและกินกาแฟเสร็จ เขาถึงได้หันกลับมาสนใจผมอีกครั้ง
“อายุเท่าไร” คุณพ่อของวาโยถาม ดีจัง นึกว่าจะไม่คุยอะไรกับผมซะแล้ว
“ปีนี้ยี่สิบสองครับ”
“เป็นพี่ของวาโยเหรอนี่”
“ครับ” ผมตอบกลับแล้วขยับเปลี่ยนขาอีกข้างขึ้นไขว่ห้างแทน แม้จะบอกตัวเองว่าให้ใจเย็นเท่าไร แต่การได้อ่อยเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้มันก็เป็นสิ่งที่ผมชอบทำและห้ามตัวเองไม่ค่อยได้เท่าไร
ตึก ตึก ตึก
ระหว่างที่ผมกับคุณพ่อวาโยกำลังต่างคนต่างมอง ต่างคนต่างหยั่งเชิงกันอยู่ เสียงคนเดินลงบันไดก็ดังขึ้น ผมหันไปมองพบว่าเป็นวาโยที่ตื่นมาแบบงัวเงียๆ น้องเดินลงมาแบบมีบอกเซอร์ มาถึงก็มานั่งลงข้างผมแล้วหันมาจูบคอผมหนึ่งทีต่อหน้าพ่อของตัวเอง
“มอร์นิ่งครับ พี่ตื่นเช้าจัง” วาโยทักทายผม มือหนาของน้องวางบนต้นขาของผม ผมไม่คิดว่าวาโยจะกล้าทำขนาดนี้ต่อหน้าพ่อของตัวเอง แล้วก็ไม่คิดว่าคุณพ่อของวาโยจะดูด้วยท่าทางเฉยๆ ขนาดนี้
“พี่ชินน่ะ ปกติตื่นไปทำงานเช้า”
“อ่อ เมื่อคืนยังไม่ทันได้คุยกันเลย พี่ร้อนแรงจนผมไม่อยากเสียเวลาคุย ตกลงว่าพี่อายุเท่าไร แล้วตอนนี้อยู่ปีไหนนะ” วาโยถาม อันที่จริงผมมันไม่ใช่พวกชอบตอบข้อมูลของตัวเองกับคู่นอนเท่าไร แต่ประเด็นคือตอนนี้ไม่ได้มีแค่ผมกับวาโยน่ะสิ ในห้องนี้ยังมีอีกคนที่ผมสนใจ และเต็มใจบอกข้อมูลของตนเองให้เขาฟังซะด้วย
“ปีนี้พี่ยี่สิบสอง อยู่ปีสี่ ตอนนี้ฝึกงานอยู่”
“อ่อ แล้วพี่จะต่อกับผมอีกหรือจะกลับเลย” วาโยถาม น้องถามเปิดเผยซะจนผมทำตัวไม่ถูก อันที่จริงวาโยก็ทำเก่ง ได้อยู่ทำกับวาโยอีกก็คงดี เพราะนั่นหมายความว่าผมจะได้อยู่บ้านหลังนี้นานขึ้นอีก แต่งานผมก็ยังไม่เสร็จต้องกลับไปเคลียร์ เอาเถอะ เรื่องผัวค่อยว่ากัน กลับไปทำงานก่อน
“พี่กลับเลยดีกว่า”
“เสียดายจัง งั้นเราไปเปลี่ยนชุดกันดีกว่า พ่อ ผมยืมรถด้วยนะ จะไปส่งพี่เขา” วาโยพูดกับผมแล้วหันไปบอกกับคนเป็นพ่อ ก่อนจะรีบพาผมขึ้นห้องไป
พอขึ้นห้องถึงเราจะตกลงกันว่าขึ้นมาเปลี่ยนชุด แต่วาโยก็ยังวอแวผมจนสุดท้ายเราก็ได้ทำกับอีกรอบหนึ่งก่อนกลับจนได้ แต่การทำรอบนี้ผมไม่ได้รู้สึกฟินมากเท่าเมื่อคืน เพราะผมลบภาพพ่อวาโยออกจากหัวไม่ได้สักที นั่นเลยทำให้ผมรู้ตัวว่าผมก็เป็นเอามากเหมือนกัน
พอแต่งตัวเสร็จ ผมก็เดินลงมาด้านล่างพร้อมวาโย คุณพ่อของวาโยยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน แต่ตอนนี้เหมือนจะกำลังทำงานอยู่ เพราะเห็นกำลังนั่งงมกับโน้ตบุ๊กอยู่
“แป๊บนะพี่ ผมลืมโทรศัพท์” พอเดินลงมาถึงข้างล่างโยก็เหมือนนึกได้ว่าลืมโทรศัพท์เลยเดินกลับขึ้นไปหยิบใหม่ ผมเลยใช้โอกาสนี้เดินไปหาพ่อของวาโยอีกครั้ง
“คุณอาครับ เดี๋ยวผมกลับแล้วนะครับ” ผมพูดพลางส่งสายตาออดอ้อน อยากรู้ว่าทำขนาดนี้แล้วเขาจะยื้อผมไว้รึเปล่า หรือจะปล่อยผมลับไปเฉยๆ
“อื้ม” แต่แล้วผมก็ได้คำตอบ คุณพ่อของวาโยทำเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองผม แล้วก้มลงทำงานตรงหน้าต่อ การกระทำของคุณพ่อวาโยทำผมยืนชั่งใจอยู่นานว่าควรจะเอายังไงดี ควรจะไปเลยหรืออ่อยต่ออีกสักนิด จนกระทั่งได้ยินเสียงวาโยเดินลงบันไดมา ผมจึงตั้งใจทำในสิ่งสุดท้ายที่ผมน่าจะคิดออก
“คุณอาครับ คุณอาชื่ออะไรเหรอครับ” ผมถามชื่อคุณอาไปอย่างรนๆ อย่างน้อยถ้าวันนี้การอ่อยของผมจะไม่ได้อะไรเลย ผมก็ขอรู้ชื่อคนที่ผมตั้งใจอ่อยหน่อยแล้วกัน
สิ้นสุดคำถามของผม พ่อวาโยก็เงยหน้าขึ้นมองผม ในใจผมเต้นรัวรอลุ้นคำตอบ ไม่ได้รอลุ้นกับชื่อหรอกนะ แต่รอลุ้นว่าเขาจะยอมบอกรึเปล่า เพราะถ้าคนตรงหน้าเห็นผมเป็นแค่เด็กของลูกชายตัวเองจริงๆ การรู้ชื่อคงไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่าไร
“พนา ฉันชื่อพนา” คุณพ่อวาโยตอบ เป็นจังหวะที่วาโยเดินมาถึง น้องมันก็พาผมไปส่งที่หอไอ้น็อตเพื่อให้ผมได้กลับไปเอาของก่อน
ตลอดทางที่ผมนั่งรถไปกับวาโย น้องมันก็มีการพูดจาทะลึ่งตึงตังใส่ผมบ้าง แล้วก็ยังยกเอาสิ่งที่ทำกันเมื่อคืนมาพูด ถ้าเป็นปกติผมคงจะระริกระรี้ไปแล้วเพราะผมชอบนักแหละพูดเรื่องลามกเนี่ย แต่ตอนนี้จิตใจผมไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไร เพราะแค่เดินจากกันมาแป๊บเดียว ผมก็รู้สึกคิดถึงเขาแล้ว
คุณพนา
พ่อของคู่นอนคนนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังตกหลุมรักอีกครั้งแล้วสินะ
จากวันที่ผมกลับไปสัมมนาที่คณะแล้วเจอวาโยและพ่อสุดฮอตของวาโย นี่ก็ผ่านมาสองอาทิตย์แล้ว ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมาผมยังไปเที่ยวเกือบทุกวัน แต่สิ่งที่ต่างไปคือผมไม่ได้ไปนอนกับใครอีก
ตลอดสองอาทิตย์ผมมักจะเล็งหาเหยื่อที่ชอบ อ่อยคนที่ถูกใจ และดีลหนุ่มๆ ได้เสมอ แต่พอจะไปผมก็รู้สึกไม่อยากทำตลอด หรือบางคนได้ถึงห้องนอนแล้ว เล้าโลมกันแล้วผมก็ต้องเทอีกฝ่ายด้วยเหตุผลว่าผมไม่มีอารมณ์
ตลอดเวลาคนลามกที่ชอบเรื่องเซ็กซ์เป็นชีวิตจิตใจอย่างผมปฏิเสธเซ็กซ์เพื่อกลับบ้านไปช่วยตัวเองแล้วนึกถึงหน้าของคุณพนา ดูเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ไม่น่าจะเกิดกับคนที่มีหนุ่มๆ รายล้อมแบบผมได้ แต่มันก็เกิดมาสองสัปดาห์กว่าแล้ว
ผมคิดถึงคุณพนาจัง
ผมนึกแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ คนเดียว ผมอกหักบ่อยก็จริง แต่ไอ้การชอบใครแล้วฝันลมๆ แล้งๆ คิดถึงจนนอนกับใครไม่ได้ตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรกนี่เกิดขึ้นครั้งแรกแน่นอน แล้วมันก็รับมือยากจัง ตอนโดนนอกใจยังโมโห แล้วตัดขาดง่ายๆ แต่เพ้อถึงเขาแล้วเขาไม่ผิดอะไรนี่จะจัดการยังไงดีนะ
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
ระหว่างที่ผมกำลังนั่งห่อเหี่ยวอยู่คนเดียว เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาในเช้าวันเสาร์แบบนี้ ถ้าให้ผมเดาคงเพื่อนสักคนที่จะชวนผมออกในคืนนี้แน่ๆ ผมคว้าโทรศัพท์มาดูแล้วเดาเล่นในใจว่าเป็นใคร แต่ผมก็เดาผิดทั้งหมด เพราะเบอร์ที่โชว์เป็นเบอร์ที่ผมไม่คุ้นเท่าไร
“ฮัลโหล”
“สวัสดีครับ บิ๊กรึเปล่า” เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงของผู้ชาย ฟังดูแล้วเสียงค่อนข้างนุ่มทุ้ม เสียงหล่อระดับหนึ่งเลยละ แต่ผมจำไม่ได้ว่าเสียงใครแฮะ
“ใช่ นี่ใครเหรอ”
“แย่จัง ครางด้วยกันทั้งคืนลืมเสียงผมแล้วเหรอ”
“หืม?” ผมยิ่งงงกว่าเดิม ช่วงนี้ผมไม่ได้นอนกับใครเลยนะ
“อะไรเนี่ย อย่าบอกว่าเยอะจนจำไม่ได้นะ”
“ไม่ได้นอนกับใครเลยต่างหากละ” ผมตอบกลับไปแบบเหวี่ยงนิดๆ ใครมันโทรมากวนนะ แต่พออีกฝ่ายได้ยินผมตอบแบบนั้นกลับหัวเราะชอบใจใหญ่
“งั้นอยากนอนไหม”
“นี่ใครเนี่ย อย่ากวนนะ” ผมเริ่มโมโห ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ก็ยังจะมีคนมากวน พออีกฝ่ายได้ยินว่าผมเริ่มโมโหจึงยอมเฉลยในที่สุด
“ฮ่าๆๆ ผมเอง วาโยคนที่ชมว่าเอาดุ”
“โยเหรอ” ทันทีที่ได้ยินชื่อโยผมก็ดีดตัวขึ้นจากที่นอน ใบหน้าที่ฉายแววเบื่อกลับมาสดใสทันที ที่ผมดี๊ด๊าขนาดนี้ไม่ใช่เพราะดีใจที่ได้คุยกับวาโยนะ แต่ตื่นเต้นเพราะดันนึกถึงพ่อวาโยมากกว่า
“ใช่ เสียงดูดีใจจัง รอผมอยู่เหรอ”
“เธออย่ามากวนพี่ มีอะไร โทรมาทำไม แล้วเอาเบอร์พี่มาจากไหน”
“ไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือผมโทรมาขนาดนี้ คืนนี้พี่จะอยากมานอนเล่นที่บ้านผมรึเปล่า” ประโยคชวนนอนเล่นที่ผมมั่นใจว่าไม่น่าจะได้นอนเล่น ถ้าถามอารมณ์ผม ผมไม่อยากจะทำกับวาโยอยู่แล้ว แต่พอได้ยินคำว่าไปที่บ้านวาโยผมก็รู้สึกว่าต้องเปลี่ยนใจ
ทางเดียวที่ผมจะได้เจอคุณพนา คือผมต้องไปบ้านเขา
“เอาสิ พี่อยากนอนเล่นกับโยอยู่พอดี”
“อื้อ” หลังจากตกลงกันได้ ตอนเย็นวาโยก็มารับผมที่หอของผม มันอยู่ไกลจากบ้านวาโยประมาณยี่สิบกิโลเมตร ทันทีที่ผมขึ้นรถ น้องก็เริ่มทักทายผมด้วยการโน้มตัวมาจูบผม มือหนายังซนเหมือนเดิม ไม่ทันไรก็ล้วงเข้ามาในเสื้อผมแล้ว
“โย อย่าเพิ่งสิ”
“คิดถึงพี่จัง พี่เด็ดจนผมอยากซ้ำอีกหลายๆ รอบ” วาโยซุกหน้าลงกับคอผมไปก็ชมไป นึกอยากขอบคุณความเด็ดของตัวเองเหมือนกันที่ทำให้วาโยติดใจจนหาทางติดต่อกลับมา
“แล้วเธอไปเอาเบอร์พี่มาจากไหน”
“ขอจากพี่วิว แต่พี่วิวไม่กล้าให้เองเลยรอพี่วิวถามพี่บีม ยุ่งยากชะมัด วันนั้นก็มัวแต่เอาเลยลืมถามไว้ คราวหลังถ้าไปโชว์ฝีมือใส่ใครไว้ก็ทิ้งคอนแทกต์ไว้บ้างนะครับ” วาโยว่าเสียงทะเล้น พอได้นอนด้วยกันน้องดูต่างจากครั้งแรกที่เจอ ครั้งแรกที่เจอน้องดูเงียบขรึม แต่ตอนนี้ดูพูดมากและกวนชะมัด
“พี่ไม่ทิ้งคอนแทกต์เพราะพี่ไม่ชอบซ้ำสอง”
“แล้วทำไมพี่ยอมมากับผม”
“ก็...เธอเด็ด” ผมเว้นวรรคแล้วพูดคำว่า พ่อ ไว้ในใจ ก่อนจะตามด้วย เธอเด็ด แปลรวมกันง่ายๆ คือ ‘พ่อเธอเด็ด’ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้วันนี้ผมต้องยอมกลับมาเจอวาโยอีกครั้ง
“น่ารักว่ะ ขอขึ้นไปเอาบนห้องสักยกก่อนค่อยกลับได้ปะ”
“ทะลึ่ง ไปได้แล้ว” ผมรีบเบรกก่อนที่วาโยจะพาผมหื่นไปมากกว่านี้ วันนี้เป้าหมายหลักของผมไม่ใช่การมาเอากันเท่านั้น เพราะงั้นผมต้องตั้งสติ
หลังจากนั้นวาโยก็ขับรถพาผมมาที่บ้านน้องอย่างรวดเร็ว พอถึงบ้านน้องมันก็เดินมาอุ้มผมแล้วเริ่มฟัดผมตั้งแต่หน้าบ้าน ดูแล้ววาโยคงอยากมากจริงๆ นั่นแหละ ถึงได้ใจร้อนขนาดนี้
“โย อื้อ ใจเย็นสิ เดี๋ยวพ่อเธอก็เห็นหรอก” ผมแกล้งพูดเรื่องคุณพนาเพื่อเช็กว่าเขาอยู่รึเปล่า
“พ่อไม่สนใจหรอก เขาชินแล้ว”
“อ๊ะ เธอพาคนมาแบบนี้ตลอดเหรอ”
“อื้ม แล้วพ่อผมก็เข้าใจวัยรุ่นอย่างผมด้วย พี่อย่าคิดมาก” วาโยอุ้มผมในท่าลิงอุ้มแตงแล้วเดินเข้าบ้าน คำพูดของวาโยทำให้ผมคิดได้สองอย่าง อย่างแรกคือคุณพนาดูน่าจะยังวัยรุ่นและเข้าใจวัยรุ่นน่าดู แต่อีกมุมหนึ่งผมก็แอบขัดใจ นั่นหมายความว่าทุกคนที่โยพามานอนก็ต้องเคยเจอคุณพนาเหรอ
แล้วคนปวดนั้นจะตกหลุมรักคุณพนาเหมือนผมรึเปล่านะ
“เหมือนพ่อจะอยู่ข้างบนแฮะ เราทำกันข้างล่างดีกว่า เปลี่ยนบรรยากาศ” วาโยสรุปแล้วอุ้มผมไปที่ครัว วางผมลงบนโต๊ะอาหาร แล้วเริ่มกิจกรรมกันทันที
แม้ใจผมจะอยากเจอคุณพนาก่อนแค่ไหน แต่ผมก็ไม่สามารถถ่วงเวลาไปได้มากกว่านี้ วาโยมีเป้าหมายชัดเจนว่าพาผมมาเอา และผมตกลงว่ามาเอา ถ้าเกิดมามัวแต่ลีลา วาโยต้องสงสัยแน่ๆ เอาเถอะ ทำไปก่อนสักน้ำสองน้ำค่อยว่ากัน ผมเองก็อยากปลดปล่อยเต็มที่แล้วเหมือนกัน ข้างหลังผมว่างมาเกือบสองอาทิตย์แล้วนี่ ถือว่าวันนี้มาเติมเต็มสักหน่อย
“อ๊ะ อ๊า โย” ไม่ได้ทำกันมาสองอาทิตย์ กลับมาเจอกันวันนี้ วาโยยังเป็นวาโยที่ทำเก่งเหมือนเดิม น้องเอาผมอย่างร้อนแรงคาโต๊ะกินข้าว เด็กคนนี้ไม่ธรรมดามากๆ ส่วนผมที่ถึงแม้จะมาเพราะพ่อ แต่พอเจอลูกเด็ดขนาดนี้ก็เผลอลืมคนพ่อไปแล้วเริงรื่นกับคุณลูกเต็มที่
“ซี้ด ตอดเก่งจังนะ”
“อื้อ เธอก็กระแทกเก่ง” ผมชื่นชมวาโย ผมมันเป็นพวกชอบให้กำลังใจคู่นอนครับ ยิ่งชมคู่นอนยิ่งคึก แต่ของวาโยจะต่างไปจากคนอื่นหน่อยตรงที่น้องเก่งมากจริงๆ สมคำชมของผม
ผมกับวาโยทำกันไปหลายท่า จนกระทั่งถึงท่าเบสิก วาโยจับผมนอนราบลงกับโต๊ะแล้วน้องก็กระแทกกายเข้าออกตัวผม จังหวะนั้นที่ผมกำลังทำกับวาโยอยู่ ตาผมมันดันเผลอหันไปมองทางบันได แล้วดันเผลอได้สบตากับใครบางคนเข้า
คุณพนา
ระหว่างที่ผมกำลังทำกับวาโยอยู่ คุณพนาน่าจะเดินลงมาด้านล่างพอดีแล้วเจอช็อตเด็ดเข้า จากมุมนี้ผมคิดว่าวาโยน่าจะไม่เห็นคุณพนา คุณพนาเองก็น่าจะไม่เห็นวาโยเพราะกำแพงบังอยู่ จะมีก็แต่ผมที่นอนราบแล้วตัวด้านบนโผล่ขึ้นให้คุณพนาเห็นเท่านั้น
ถ้าคุณพ่อสุดหล่อของคู่นอนผมจะลงมาเห็นฉากสิบแปดบวกของผมกับวาโยเข้ามันก็คงไม่ได้แปลกอะไร เพราะเราทำกันอยู่ในที่โล่งแจ้งเหลือเกิน แต่ที่น่าแปลกคือทำไมคุณพนายังยืนมองผมอยู่
“อื้อ พี่อยากทำให้เธอ”
เห็นแบบนั้นผมก็ดึงวาโยลงบนโต๊ะ แล้วผมก็ขยับมานั่งคร่อมบนตักวาโย แขนเรียวของผมกอดคอวาโยไว้ พอผมกอดน้องมันก็ซุกหน้าเข้าคอผม ก่อนผมจะเป็นคนเริ่มโยกเอง
ในจังหวะเมื่อกี้ที่เปลี่ยนท่า คุณพนาก็ขยับตัวหลบไป พอผมกับวาโยเข้าที่ คราวนี้คุณพนาก็ขยับตัวออกจากกำแพงแล้วขยับมายืนมองผมตรงๆ ดวงตาคมเหมือนอยากรู้ว่าถ้ามองตรงๆ แบบนี้แล้วผมจะอายหรือหยุดทำไปรึเปล่า
แต่ผมไม่อาย และจะไม่หยุด
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า วาโย” ผมขยำผมวาโยแล้วกระดกเอวขึ้นลงรัวๆ เอวบางของผมก็ส่ายไปมาไม่หยุด ส่วนตาก็ยังมองประสานกับคุณพนาอย่างท้าทาย ไม่เจอกันตั้งสองอาทิตย์ผมต้องทักทายคุณพนาอย่างสาสมหน่อย
“อื้ม”
“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ เสียวไหม” ผมบดเอวใส่สุดเท่าที่มี ยิ่งเห็นสายตาร้อนแรงขอบคุณพนายิ่งรู้สึกตื่นเต้น ช่องทางด้านหลังยิ่งตอดรัดรุนแรงกว่าเดิม แค่เห็นหน้าคุณพนา อารมณ์ผมมันก็พุ่งสูงอย่างห้ามไม่อยู่
“อื้ม ร้อนแรงจังนะ” พอจู่ๆ ผมร้อนแรงขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ วาโยก็ยิ่งได้ใจ มือหนาบีบก้นและเอวผมอย่างเมามัน ดูท่าจบรอบนี้ผมก็คงจะไม่ได้พักง่ายๆ วาโยน่าจะอยากต่ออีกยาว
“อ๊ะ อื้อ ลึกจัง ของเธอใหญ่มาก” ตอนพูดคำว่าใหญ่มาก ตาผมมันก็เลื่อนมาหยุดอยู่ที่เป้าของคุณพนา มองจากตรงนี้ผมแอบเห็นว่าเป้าของคุณพนาดูเหมือนจะเริ่มนูนๆ แล้ว ถ้าให้ผมเดา ขนาดของคุณพนาน่าจะยิ่งกว่าของวาโยอีก อ่า ลูกยังขนาดนี้ ไม่อยากจะนึกถึงคนพ่อเลย
“ของพี่ก็รัด”
“เธอชอบไหม ชอบของพี่ อ๊ะ มากรึเปล่า”
“ชอบ พี่ตอดเก่ง แถมยังเอาโคตรมัน” คำรีวิวจากคนลูกที่ผมจงใจถามเพื่อให้คนพ่อได้ยินถูกส่งออกมาอย่างชัดเจน สิ้นสุดคำพูดของวาโยผมก็ก้มลงเลียซอกคอของวาโย แต่ตายังมองไปที่คุณพนาอยู่ดี
ดวงตาเราสองคนสอดประสานกัน คุณพนาดูเหมือนสับสน แต่ขณะเดียวกันก็เหมือนไม่พอใจ แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือความร้อนแรงของเขาที่ส่งออกมาผ่านสายตา ร้อนแรง ในขณะที่ผมขย่มวาโยอยู่ สมองผมก็เผลอจินตนาการว่ากำลังได้ขย่มคุณพนาอยู่
ถ้าได้ขย่มจริงเมื่อไหร่จะเอาให้หลงหัวปักหัวปำเลย
“อ๊า เสียว” ผมโยกตัวอีกสักพัก คุณพนาก็ดูเหมือนจะทนไม่ไหว คุณพ่อสุดฮอตของผมเดินหนีขึ้นบ้านไป ไม่รู้ว่าภาพมันบัดสีจนทนดูต่อไม่ไหว หรืออยากทำบ้างจนต้องขึ้นไปจัดการพนาน้อยข้างบนกันแน่
แต่ถึงคุณพนาจะไปแล้ว แต่สายตาร้อนแรงยังตราตรึงใจผมอยู่ ผมยังคงทำกับวาโยต่อ แต่ก็ต้องขอโทษวาโยที่ตอนทำกับวาโยใจผมมันดันจินตนาการว่าได้เอากับพ่อวาโยอยู่
ช่วยไม่ได้ ก็พ่อเธอเด็ดจริงๆ นี่วาโย
หลังทำกันอย่างดุเดือดข้างล่าง วาโยก็พาผมขึ้นมาทำกับบนห้องต่อ แต่บอกเลยว่าถึงแม้จะย้ายขึ้นมาบนห้องแล้ว แต่ความร้อนแรงของผมก็ยังไม่ได้ลดลง แถมผมยังร้องเสียงดังขึ้นด้วย ก็นะ คุณพนาบอกเองนี่ว่าได้ยินเสียงผม ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ตอนนี้ที่ทำอยู่เขาก็คงได้ยินเสียงผมด้วย
“อ๊ะ อ๊า เอาพี่แรงๆ” ผมร้องครวญครางอย่างยั่วยวน ยิ่งผมยั่ววาโยยิ่งรุนแรงกับผม และเสียงก็ยิ่งดัง
ช่วยไม่ได้นี่ ในเมื่อคุณพนาดันรู้แล้วว่าผมนอนกับลูกชายของเขา ไหนๆ เรื่องมันก็มาขนาดนี้ ผมก็ขอไปในทางนี้ให้สุดเลยแล้วกัน ให้มันรู้ไปว่าถ้าเห็นลูกชายติดใจผมขนาดนี้ คนเป็นพ่อแบบเขาจะไม่อยากลองผมบ้าง