ภายในห้องน้ำจุดเทียนหอมส่งกลิ่นผ่อนคลาย อ้ายนอนแช่น้ำอุ่นๆในเวลา 5 ทุ่มเพื่อรอคนที่บอกว่าจะกลับมาก่อนเที่ยงคืน เธอจัดการผู้หญิงคนนั้นก่อนจะโยนมันทิ้งข้างถนนที่ห่างไกลพอสมควรทั้งที่อยากจะทำมากกว่านี้แต่กวินห้ามเอาไว้ก่อน
ก๊อกๆๆ
“อ้ายพี่วางนมอุ่นไว้หัวเตียงนะ” อ้นพูดผ่านประตูห้องน้ำเสียงดัง
“ขอบคุณค่ะ”
“พักผ่อนได้แล้วนะ พี่ไปก่อน”
เช้าวันต่อมาสนามบินแห่งหนึ่งที่คนค่อนข้างพลุกพล่านมากตามปรกติ อ้ายมาส่งพ่อขึ้นเครื่องบินไปทำงานในต่างประเทศเป็นเวลา 1 เดือนก่อนจะกลับมาอยู่กับเธออีกครั้ง
“คริสฝากดูน้องด้วยนะ” ชารีฟบอกลูกเขยยิ้มให้ลูกสาว
“ครับป๊า”
“ปะป๊าต้องโทรหาอ้ายทุกวันนะ” อ้ายกอดพ่อแน่นขึ้น
“เจ้าหญิงของป๊าเป็นเด็กดีนะ อีกเดี๋ยวป๊าก็กลับมาแล้ว กวินอ้นดูแลคุณหนูให้ดีที่สุดจำไว้”
หลังจากส่งพ่อขึ้นเครื่องเธอให้ลูกน้องกลับไปทำงานอย่างอื่นก่อนเพราะตัวเองจะไปกินข้าวกับพี่คริสและเพื่อนของเขา เพื่อนเขาชอบหาผู้หญิงให้พี่คริสเธอยังไม่จัดการอะไรทั้งนั้นเพราะอยากให้คิดเอง แต่ถ้าวันไหนหมดความอดทนก็อีกเรื่องหนึ่ง เรามาถึงร้านอาหารญี่ปุนพี่กู๊ดกับพี่ม่านมานั่งรอแล้ว
“ไงน้องอ้ายหายดีรึยัง?” กู๊ดทักเมียเพื่อนก่อนเลย
“ดีแล้วค่ะ เมื่อคืนดื่มกันไม่เมาค้างเหรอ?” เธอถามก่อนเลยเพราะพี่คริสเนี่ยค้างปวดหัวแต่เช้าเลย
“จะเหลือเหรอถามได้” ม่านตอบมาแทน
“เมื่อคืนน้องอ้ายไปไหนมารึเปล่า?” ม่านถามขึ้นเพราะพึ่งจะรู้ข่าวเรื่องมิรินถูกทำร้ายอย่างหนัก
“ก็อยู่บ้านค่ะ อยู่กับปะป๊า พี่ม่านมีอะไรรึเปล่าคะถึงมองอ้ายแปลกๆ” เขาถามแบบนี้แสดงว่าต้องรู้เรื่องอีร่านนั่นแน่ แต่เธอไม่สนเพราะคนเดียวที่สนคือพี่คริสเท่านั้น
“เมียกูอยู่บ้าน” คริสบอกเพื่อนให้เข้าใจ
“มึงแน่ใจเหรอไอ้คริส?” ม่านถามซ้ำ
“แน่ใจสิ อ้ายอยู่บ้านคุยกับกูตลอดเวลามึงก็เห็น” เมียคนดีโทรหาเขาเกือบทุกชั่วโมงเลยก็ว่าได้เพื่อนก็เห็นแถมยังบ่นด้วย
“พี่ม่านมีอะไรจะถามอ้ายรึเปล่าคะ?” เธอถามเขาสั้นๆเพราะดูเหมือนว่ามีเรื่องจะถามเธอ
“พอดีเด็กพี่โดนทำร้ายเลยกลัวอ้ายจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเด็กไอ้คริสแล้วไปทำอะไร” ม่านถามขึ้นอยากรู้จริงว่ายัยตัวร้ายเมียเพื่อนจะตอบอะไร
"อ้ายจะไปทำเด็กของพี่ทำไมล่ะคะ อ้ายไม่ใช่คนโหดร้ายขนาดนั้นนะ” เธอยิ้มตบท้ายให้กับคำตอบพลางซบไหล่คนรักอ้อนเขาให้เห็นใจกัน
“อ้ายตัวแค่นี้จะทำเหี้ยไรได้ มึงอย่ามั่วไอ้ม่าน!” มันพาลไปมั่ว เมียเขาน่ะเหรอจะทำร้ายคนจนเข้าโรงพยาบาลได้ อีกอย่างมิรินอาจจะมีโจทย์เก่ามาคิดบัญชีก็ได้
“มึงอะหลงเมียไอ้คริส!”
“ไอ้ม่านพูดเหี้ยไรระวังหน่อยดิ” กู๊ดห้ามเพื่อนก่อนจะมีเรื่องกันเพราะผู้หญิงแค่คนเดียว
“แล้วมึงว่าไม่แปลกเหรอที่อ้ายปล่อยไอ้คริสมาง่ายๆ” ม่านถามต่อมองหน้าเมียเพื่อนอย่างเอาเรื่อง
“ก็อ้ายอยู่กับปะป๊าไงคะ พี่คริสไม่ได้บอกเหรอคะทำไมถึงรีบกลับมาขนาดนี้” เธอหันไปทางคนรักกำลังจะพูดต่อแต่ว่าเขาพูดขัดขึ้น
“พ่ออ้ายไปแม็กซิโกเมื่อเช้านี่เอง มึงก็รู้นี่หว่าว่าพ่อเมียกูเป็นคนยังไง” คริสอธิบายให้เพื่อนฟังเพิ่มความจริงมันไม่ใช่เรื่องด้วยซ้ำ มิรินโดนทำร้ายแล้วเกี่ยวอะไรกับเมียเขาในเมื่อเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“มันไม่แปลกเหรอวะ?”
“ไม่แปลก มึงหยุดกล่าวหาเมียกูแล้วแดกข้าวได้แล้ว” เขาจะให้อ้ายมารับผิดแทนใครมั่วซั่วได้ไง
“แล้วสรุปมันเรื่องอะไรกันแน่คะ ใครใจดีพอจะอธิบายให้อ้ายฟังได้บ้าง” คิดจะจับผิดเธอแบบนี้เหรอ มันจะง่ายเกินไปไหม คนอย่างเธอไม่ใช่หมูในอวยให้ใครเชือดเล่นๆด้วยสิ มีแต่เธอจะเชือดคนอื่นเล่นโดยเฉพาะคนที่กล้ามายุ่งกับคนของเธอ
“ไม่มีอะไรหรอกอ้ายไอ้ม่านมันพาลเฉยๆ” คริสหันมาเอาใจเมียแทนเพราะถ้าอ้ายรู้เรื่องคนจะตายมันจะเป็นเขา
“พี่คริสไม่ได้โกหกอ้ายใช่ไหม?” เธออยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะโกหกเธอหรือยอมบอกความจริง ลึกๆเธอก็อยากให้เขาบอกความจริงนะ
“เรื่องเด็กไอ้ม่านไม่มีอะไรจริงๆที่รัก” เขาโกหกเธอก็ยอมรับแต่ถ้าอ้ายรู้คงต้องทะเลาะกันแน่ เขาไม่อยากให้เธอต้องมาระแวงเรื่องพวกนี้
สุดท้ายเขาก็ทำเหมือนว่าเธอเป็นเด็กโง่ๆเหมือนเดิม เธอรักเขาก็ใช่ว่าจะยอมเขาหมดทุกอย่างโดยเฉพาะเรื่องนี้ พี่คริสคงคิดว่าเธอไม่รู้อะไรเลยโกหกกันแต่เปล่าเลยเธอรู้มากกว่าที่เขาคิดและจัดการอีร่านที่มันคิดจะแย่งของเธอไปก่อนมันจะทำสำเร็จ
“อาหารไม่อร่อยเหรอหน้าบึ้งจัง” เมียหน้าบึ้งตึงแล้วก็เงียบจนน่างง
“เปล่าค่ะ อ้ายแค่คิดถึงปะป๊า” เธอเบะปากเล็กน้อยเงยหน้ามองเขา
“โอ๋...เด็กดีพี่อยู่ตรงนี้นะ” เขาขยี้ผมเธอเบาๆอยากจะจูบหน้าผากปลอบใจแต่ก็กินอาหารอยู่เดี๋ยวมันจะเปื้อนหน้าใสๆของเธอ
คริสดึงเมียมาลูบไหล่ปลอบใจก่อนจะป้อนซูซิให้เธอ แล้วอ้ายเป็นเด็กติดพ่อมากพอพ่อไปทำงานก็หง่อยแบบนี้ตลอด แต่ไม่เป็นอะไรเขาจะดูแลให้ความอบอุ่นตามใจเธอเอง
“พี่รักหนูนะอย่างอแง กินต่อดีกว่าเดี๋ยวพาซื้อเสื้อผ้าใหม่” เรื่องเปย์เมียไว้ใจเขาได้เลย เขาพร้อมจ่ายทุกอย่างจนหมดตัวก็ยอมเพื่อให้เมียอารมณ์ดีแล้วหายเครียดได้
“งั้นดูหนังด้วยนะ” เธอก็อยากมีเวลาสวีทกันกับเขาบ้าง
“ตามหนูสิครับคนสวย อืม...กินซูซิให้อิ่มก่อนพี่สั่งแต่ที่หนูชอบมาเลยนะ” เขาหยิบอีกชิ้นมาป้อนเธอจนเต็มปากอ้ายยิ้มออกมายกมือปิดปากตัวเอง คนเป็นผัวแค่ได้เห็นเมียมีความสุขมันก็สุขใจแล้ว
“แม่ง! เหม็นความรักฉิบหาย!”
หลังจากอาหารเที่ยงคริสพาเมียคนดีมาเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าตามที่บอกเอาไว้ เธอมีหน้าทีแค่เลือกส่วนการจ่ายเขาจัดการเองรวมถึงถือให้ทุกอย่าง ใครคิดว่าการทำเรื่องแค่นี้ให้เมียมันเป็นเรื่องน่ารำคาญวะ สำหรับเขาแค่เธอมีความสุขแค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว
“หนูอยากได้อะไรอีกไหม?”
“หนูอยากได้ลิปอีกสักแท่งแล้วเราไปดูหนังกัน”
“ครับ” คำเดียวเลยที่พูดได้ในตอนนี้เพราะแค่เมียยิ้มก็ขัดใจไม่ลง
“น่ารักแบบนี้ไงอ้ายถึงหวงพี่คริสมากๆ” เธอหยิกแก้มเขาเบาๆดึงมือเขาเข้ามาในร้านเครื่องสำอาง
พี่คริสไม่เคยบ่นสักครั้งเวลามากับเธอแบบนี้คงเพราะว่าเขาชินแล้วมั้ง เธอลองสีลิปสติกก็เป็นแขนเขาเพราะว่าเธอไม่กล้าจะทาปากไม่รู้ว่าตัวทดลองนี้ลองมาแล้วกี่คนแล้ว ถ้ามาเทสสีกับแขนตัวเองก็จะเปื้อนดังนั้นแขนพี่คริสนี่แหละเหมาะสมที่สุด
เขาน่ะเป็นทุกอย่างให้เธอจริงๆ
“พี่คริสคะสีไหนสวย” มันมีทั้งชมพูตุ่น ชมพูอ่อน ชุมพูนมเธอเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอาแบบไหน
“แล้วหนูชอบสีไหนล่ะ?” พูดได้เลยว่าเขาไม่กล้าสบตาเมียมันเหมือนจะเจอรังสีบางอย่างมีฤทธิ์ทำลายล้างสูง แค่คิดก็ขนลุกแล้ว!!
“เลือกไม่ถูกเลย พี่ช่วยหนูเลือกหน่อยนะ” เธอมองลิปสติกทั้ง 3 สีมันสวยหมดเลย เธอมองหน้าเขาอีกครั้งส่งสายตาขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเลย
ตายครับ! สถานการณ์แบบนี้ยังไงก็ไม่รอด เขาไม่จะเลือกให้ยังไงในเมื่อมันก็เป็นสีชมพูเหมือนกันหมดเลย เขาควรจะเอายังไงดี หน้าก็ไม่เคยแต่ง ความรู้ด้านนี้แทบจะเป็นศูยน์เลย
เวรกรรมกูจริงๆ
“เอาทั้ง 3 สีเลย” วิธีการตัดปัญหาที่ง่ายที่สุดแล้ว
“3 สีเลยเหรอ?” ทำไมพี่คริสใจดีจัง
“พี่อยากให้หนูมีทุกสีเลยเพราะหนูสวย ไม่ว่าทาสีไหนก็สวยอยู่แล้ว ไปจ่ายตังดีกว่าเนอะเด็กดี” งานเอาใจเมียเขานี่แหละตัวพ่อ เขาไม่สนว่าราคามันจะเท่าไรขอแค่ไม่มีปัญหาก็พอแล้ว
“ที่รักตามใจแบบนี้ตลอดเลยนะ” อ้ายควงแขนคริสซบหน้าลงที่ต้นแขนเขาแสดงความเป็นเจ้าของออกมา เธอรู้ว่าพี่คริสหล่อแต่ใครก็ห้ามสนใจทั้งนั้นเธอไม่ชอบ
แต่ร้านเครื่องสำอางมีผู้หญิงมาเยอะแล้วหลายคนก็มองด้วย อ้ายหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันทีแล้วควงแขนเขาอย่างชัดเจนเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของ เขาไม่รู้ว่าทำไมอ้ายถึงขี้หวงขนาดนี้แต่ว่ามันรู้สึกดีถึงแม้บางครั้งจะรับมือไม่ไหวและหงุดหงิดตามไปด้วยจนทะเลาะกัน แต่อย่างน้อยที่เธอแสดงออกมันก็แปลว่ารักเขามากด้วยไง เขาไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าวันหนึ่งมีคนมาจีบอ้ายแล้วจะหวงขนาดไหน อ้ายไม่ใช่คนขี้เหล่เลยแต่เธอหน้าตาน่ารักเหมือนเด็กน้อยเลย
“คุณคะคุณ!!”
“คุณลูกค้าคะ!”
“มีอะไรรึเปล่าครับ”
“ลูกค้าลืมบัตรเครดิตค่ะ”
“ขอบคุณครับ
“พี่คริสลืมจริงเหรอ?” เธอว่ามันแปลกๆแล้วคนบ้าอะไรจะลืมของสำคัญแบบนี้
“ก็พี่รีบไงอ้าย” เขารับบัตรเคดิตมาพนักงานร้านเครื่องสำอางก็ยังอุตส่าห์หาเรื่องให้เขาเพิ่มด้วยการยิ้มหวานเลี่ยนมือโดนมือเขาอีก
เมียจ้องตาเขียวปั๊ดเลย!!
“มันหมายความว่ายังไงห่ะ!!” เธอหันไปจับมือเขาหยิบบัตรดิตขึ้นมาดู เขาจับมือกับยัยป้าหน้าหนานั่นต่อหน้าเธอมันมากเกินไปแล้วนะ
“ที่รักใจเย็นๆก่อนนะ คือมันไม่มีอะไรเลย” ยินดีต้อนรับช่วงเวลานรกต่อจากนี้ได้เลย
“ไม่มี! แต่จับมือกับพี่คิดว่าอ้ายโง่เหรอห่ะ?” เธอผลักเขาออกห่างกำมือแน่นเกลียดสีหน้าแบบนี้ของเขาที่สุด
“อ้ายอย่างี่เง่าสิเมื่อกี้พี่ไม่ได้คิดอะไรเลย”
“แต่ว่ามันจับมือพี่!”
“แล้วหนูจะให้พี่ทำไง?”
เธอไม่อยากจะงี่เง่าแบบนี้แต่ว่าเมื่อกี้มันเกินไปแล้วนะ พี่คริสก็หน้าเสียเพราะเธอโวยวายอีนั่นก็เดินหน้าระรื่นหนีไป เธอค้นในกระเป๋าหยิบกระดาษทิชชูเปียกจับมือเขามาเช็ดที่ละนิ้ว
“มันต้องขนาดนี้เลยเหรออ้าย?" นอกจากจะเช็ดมือเขาจนสะอาดทุกซอกทุกมุมแล้วยังทาโลชั่นที่มือให้เขาอีก เมียขี้หวงแต่ก็มีมุมน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อเลยเพราะแบบนี้ไงเขาถึงรักเธอมากถึงจะปวดหัวมากก็ตาม
“ต้องแบบนี้แหละ พี่ก็รู้ว่าอ้ายไม่ชอบทำไมต้องให้ใครมาโดนตัวด้วย” เธอจะบ่นต่อแต่ว่าพี่คริสมาหอมแก้มเธอ
ฟอดด…..
“พี่ระวังตัวให้มากขึ้นนะหนูจะได้สบายใจ”
“อารมณ์ดีแล้วก็ยิ้มให้พี่หน่อยสิ”