บทที่ 10 ตัวสำรอง
“ รอนานไหมครับ ” พี่โอเว่นมาถึงก็ยื่นถุงขนมใบใหญ่มาตรงหน้าฉัน
“ ไม่นานค่ะ ว่าแต่ไปเหมามาหมดแล้วเหรอ เยอะจุง ”
“ 555+ ไม่ขนาดนั้น มีขนมที่ทำสดใหม่ๆ ต่อวันด้วยนะ พี่ฝากไปให้น้านุชด้วย นะ ”
หลังจากนั้นพี่เขาก็ออกรถ ขับแบบไม่เร่งรีบ แบบเรื่อยๆ ก็ชวนคุยไปทั่ว สัพเพเหระ เอาเข้าจริงๆ พูดเยอะเหมือนกันนะเนี่ย
“ พรุ่งนี้เดี๋ยวมารับ ”
“ ว่าแต่พี่ใช้สิทธิ์อะไรถึงพารถเก๋งไปโรงเรียนได้อะ ปกติเขาให้พาแค่มอเตอร์ไซค์ไม่ใช่เหรอ ”
“ ลืมไปแล้วเหรอ ลุงของพี่เป็นคนบริจาคผืนดินแห่งนั้นที่สร้างโรงเรียนอะ คนที่ใช้นามสกุล ธนาคม จะได้สิทธิพิเศษหลายอย่างมาก ”
“ อ๋อ รู้สึกอยากใช้นามสกุลนี้ขึ้นมาเลยอะ ”
“ เอาไหมล่ะ ” ฉันก็แค่พูดเล่นเอง พี่โอเว่นดูจริงจังไปไหมอะ
“ 555+ เปลี่ยนกันได้ง่ายๆ หรือไง ”
“ จดทะเบียนสมรสก็เปลี่ยนได้ ”
“ … ” ห้ะ สมองฉันหยุดชะงักเลย นี่พี่เขาชวนฉันแต่งงานไหมอะ
“ 555+ อ้าปากเหว่อ แต่พี่ไม่ได้อำเล่นนะ เอาไว้เรียนจบค่อยว่ากัน ”
“ อะไรของพี่เนี่ย ”
“ ก็ตามที่พูดไง ว่าแต่ชอบสีอะไรที่เป็นสีโปรด ”
“ ชอบสีม่วง สีเขียว โตขึ้นหนูอยากย้อมสีชมพูด้วยนะ หนูไม่ชอบสีดำที่สุด เพราะรู้สึกว่าไม่สดใส หม่นหมอง หดหู่ มันไม่คู่ควรกับหนูที่เป็นคนร่าเริง ส่วนสีขาวก็ไม่ค่อยชอบเช่นกันเพราะรู้สึกว่ามันจะเลอะง่าย ต่อให้สีขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใยก็เถอะ ”
“ อาหารที่ชอบและไม่ชอบล่ะ ”
“ ไม่ชอบที่สุดคือมาม่าเพราะรู้สึกว่ามันง่ายเกินไป ที่ชอบพิเศษน่าจะเป็นกะเพราหมูสับไขดาว ”
“ พี่จะจำไว้ ”
“ พี่รุกแรงไปเปล่า หนูยังเด็กอยู่นะ ”
“ 555+ เด็กแก่แดดนะสิไม่ว่า ”
“ เชอะ! งอนนะมาว่าแก่แดดได้ไง ”
“ โอ๋ๆ ล้อเล่นๆ ” เอื้อมมือหนามาขยี้หัวฉันเบาๆ ในเชิงหยอกล้อไปด้วย
“ ว่าแต่พี่ชอบอะไรบ้าง ไม่ชอบอะไรบ้าง ”
“ ชอบเบนซ์ ไม่ชอบคนอื่น ” ง้อววว~ เขินได้ไหม โดนคนหล่อมาหยอด งื้อ~
“ พูดอะไรเนี่ย นะ…หนูหมายถึงว่า พี่ชอบสีอะไร ชอบกินอะไรโน่น ”
“ 555+ พี่เหรอได้หมดนะไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ” แล้ววันนี้ก็เพิ่งเห็นพี่โอเว่นหัวเราะเยอะมาก ปกติก็ดูจะขรึมๆ
บ้าน
“ ไม่คุยด้วยแล้ว ไปนะ ”
“ เดี๋ยวก่อน ” แค่เขาเอ่ยปากห้าม ฉันก็ทำท่าเขินแล้ว
“ วะ…ว่าไง มะ…มีอะไรอีก ”
“ สรุปให้พี่เป็นคนสำรองที่เท่าไหร่ ยังไม่บอกเลย ”
“ พี่อย่าจริงจังสิ หนูทำตัวไม่ถูกแล้วนะ ไปแล้ว ” ฉันรีบวิ่งเข้าบ้านทางประตูรั้วเล็กทันที เพราะความเขินอายแท้ๆ ทั้งชีวิตมีแต่หยอดคนอื่น พอโดนกลับ ทำเอาเสียอาการไปเลย
' แค่กๆ ฮัดชิ้ว~ '
“ แม่อยู่ในครัวเหรอ? ” ตอนแรกทำท่าจะวิ่งขึ้นไปชั้นบน เพราะคิดว่าแม่น่าจะนอนพักอยู่
“ แม่คะ มะ…แม่ โดนอะไรมาคะ เลือดทั้งนั้นเลย ” พอฉันเข้าไปในครัว แม่ดูเหมือนจะตกใจมากๆ ดูลุกลี้ลุกลน น่าสงสัย รีบเก็บทิชชูที่มีสีแดงๆ ลงถังขยะทันที
“ เอ่อ…มันไม่ใช่เลือดจ้ะ แม่ทำซอสหกเอง ว่าแต่ทำไมเพิ่งกลับ แม่เห็นพี่บอสกลับมาได้สักพักแล้วนะ ”
“ หนูไป…หาพ่อมาเอ่อ… หนู…” จะบอกดีไหมนะ ถ้าบอกไปแม่เกิดคิดมากทำไง ยิ่งช่วงนี้ทะเลาะกับพ่อบ่อยมากด้วย หรือเราควรมีหลักฐานให้ชัดเจนค่อยบอกดีกว่า
“ มีอะไร พ่อของลูกไปกับ…. ”
“ ไม่ใช่ค่ะ คืนนี้พ่อไม่กลับ เพราะติดเวรค่ะ ”
“ อ๋อ ลูกไปอาบน้ำสิ แล้วลงมากินข้าว ”
“ ได้ค่ะ ว่าแต่ช่วงนี้ แม่หน้าซีดๆ นะคะ ไม่สบายหรือเปล่า ที่ปวดท้องหายหรือยังคะ ”
“ แม่ไม่ค่อยสบายเล็กน้อย ส่วนท้องไม่ปวดแล้ว ”
“ แม่คะ อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะ ”
“ จ้ะ ลูก ”
ตั้งแต่แม่มีลูกสามคนให้พ่อ แม่ก็ไม่ได้ออกไปทำงานนอกบ้านอีกเลย เพราะแม่ต้องเลี้ยงดูลูกๆ และทำงานบ้านไปด้วย บ้านฉันไม่ถึงกับร่ำรวยที่ต้องจ้างคนสวนคนใช้ ฐานะพอใช้ พอกิน พอมี มีสวนปาล์ม สวนยางอยู่บ้าง เงินที่ใช้จ่ายในบ้านส่วนมากก็มาจากพ่อ เป็นรายได้หลักของครอบครัว ส่วนรายได้รองก็มีเงินจากค่าปาล์ม ค่ากรีดยางที่จ้างลูกกุหลี (ลูกจ้าง) มากรีดให้ แบ่งครึ่ง 50/50
ที่ดินที่พวกเราอาศัยอยู่เป็นมรดกตกทอดมาจากปู่ที่มอบให้พ่อ ส่วนแม่ฉันเป็นคนที่อื่น บ้านเกิดอยู่ภาคใต้ตอนบน ส่วนที่เราอาศัยอยู่ตอนนี้คือภาคใต้ตอนล่าง
?________?
นามปากกาผกายมาส