ปะป๊าเอมิยักไปดูสัด

1977 คำ
“เอมิไม่เบื่อหรอคะ” เมโลดี้เอ่ยถามเด็กตัวน้อยที่วันๆ เอาแต่เรียนและเล่นอู่เพียงในบ้านไม่บางครั้งก็ออกไปว่ายน้ำที่สวนข้างนอกเพียงเท่านั้นซึ่งมันเป็นชีวิตที่ขาดสีสันสำหรับเด็กซะเหลือเกิน “ไม่ค่ะ เอมิซาหนุกดั้ยเล่งกะหม่าม้า” เอมิเอ่ยตอบพร้อมส่งยิ้มหวานก่อนจะหยิบของล่นมาเล่นเพิ่มโดยมีเมโลดี้คอยเล่นอยู่ข้างๆ แต่เธอรู้ว่าใบหน้าของเด็กน้อยคนนี้นั้นมีความเศ้ราปนอยู่ “แล้วเอมิมีเพื่อนไหม” เอมินิ่งไปสักพักก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ น้่นทำให้เธออยากจะร้องไห้ออกมาเสียเหลือเกิน “แค่มีหม่าม้ากะพอแล้ว” เอมิเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มอีกครั้งเมโลดี้ลูบผมสวยเบาๆ ด้วยความสงสารเหตุใดเด็กอายุที่ยังไม่ถึง5ขวบถึงได้มีชีวิตที่มันมืดมนไร้สีสันไร้เสียงหัวเราะเช่นนี้เอมิจะรู้ไหมนะว่าโลกข้างนอกเขาใช้ชีวิตกันเช่นไร ก๊อกๆ “เข้ามา” เสียงทุ้มเอ่ยตอบก่อนจะมองร่างบางที่ตอนนี้ได้มาทำหน้าที่แม่ของเอมิได้เกือบเดือนแล้วทุกอย่างเป็นไปด้วยดีเอมิดูมีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่กับเขาขอแค่เอมิมีความสุขเขาก็พอใจแล้ว “เอ่ออ…” เมโลดี้ยืนอ้ำอึ้งไม่กล้าพูดทั้งๆ ที่เตรียมใจมาคุยด้วยแท้ๆ แต่พอเจอใบหน้าดุๆ ของศิลาจู่ๆ ปากมันก็แข็งจนพูดไม่ออกเสียนี่ “ถ้ามาแล้วไม่พูดทีหลังไม่ต้องมา เสียเวลา” เมโลดี้เบะปากเบาๆ ให้กับคำพูดสุดแสนจะเย็นชาก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และกลั้นใจพูดมันออกมา “ฉันขอพาเอมิไปเที่ยวได้ไหมคะ!” ร่างบางจ้องใบหน้าหล่ออย่างออดอ้อนขอเพียงได้พาเอมิออกไปเที่ยวข้างนอกบ้างคงจะเพิ่มสีสันให้ชีวิตของเด็กน้อยคนนี้ไม่น้อยขนาดเธอโตแล้วยังอึดอัดกับการที่ได้อยู่แต่บ้านเลยแล้วเด็กน้อยคนนั้นจะอึดอัดแค่ไหนกันถึงแม้ภายในบ้านจะมีทุกอย่างที่ต้องการแต่สิ่งที่บ้านหลังนี้ให้ไม่ได้เลยคือประสบการณ์การใช้ชีวิตภายนอกการได้เห็นผู้คนมากมายและการได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ กับคนอื่นได้พูดคุยได้เล่นกับเพื่อนวัยเดียวกันได้มองเห็นการกระทำของแต่ละคนว่าใช้ชีวิตกันอย่างไร “ไม่ได้” “คะ! ทำไม? แค่ออกไปเที่ยวเองนะคะ” ร่างบางเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “ไม่ปลอดภัย” ร่างสูงเอ่ยตอบเสียงเรียบก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ ใช่ว่าเขาไม่อยากพาเอมิไปไหนต่อไหนแต่เพราะเขาเป็นห่วงเอมิมากเหลือเกินแค่วันนั้นยอมพาไปทะเลยังเกิดเรื่องมากมายจนเขาปวดหัว “ฉันจะดูแลเอมิเองค่ะจะไม่ให้เอมิห่างจากฉันสักเมตรเลยขอเถอะนะคะฉันอยากให้เอมิออกไปเจอโลกภายนอกบ้าง” “เมโลดี้..” “เด็กต้องการเสียงหัวเราะนะคะ!!” เมโลดี้ตัดสินใจตะโกนกลับไปด้วยอารมณ์โกรธก่อนจะรีบปิดปากตัวเองทันทีเมื่อรู้ว่าเผลอทำกิริยาที่ไม่เหมาะสมออกไปร่างสูงมองเธอด้วยสายตาเรียบนิ่งก่อนจะค่อยๆ เดินมาหาเธออย่างช้าๆ เมโลดี้หลับตาแน่นด้วยความกลัวก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกสัมผัสจากร่างสูงที่กำลังจับใบหน้าของเธออยู่เมโลดี้ตัดสินใจลืมตาขึ้นก่อนจะสบสายตากับคนตรงหน้าดวงตาสีดำเหมือนกับสีผมทำเมโลดี้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะกลิ่มหอมสะอาดลอยเข้ามาแตะจมูกของเธอใบหน้าหล่อจ้องเธออยู่แบบนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “ดูแลเอมิให้ดี” “คะ? มะ..หมายความว่าให้ไปหรอคะ?” เมโลดี้เอ่ยขึ้นอย่างดีใจจ้องมองใบหน้าหล่อด้วยความตื่นเต้นศิลาไม่ได้ตอบเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ แทนเมโลดี้ที่เห็นแบบนั้นก็ดีใจจนเผลอกระโดดกอดคนตรงหน้าเพียงชั่วครู่เท่านั้นก็ดีดตัวออกทันที “อะเอ่อขอโทษค่ะ” เมโลดี้เอ่ยออกมาเบาๆ ใบหน้าร้อนผ่าวไปด้วยความเขินอายถึงแม้จะกอดเพียงครู่เดียวเธอก็สัมผัสได้ว่าคนตรงหน้านั้นแข็งแรงมากแค่ไหนอกแข็งๆ นั่นคงจะดีไม่น้อยถ้าเธอได้หนุนนอน เมโลดี้ส่ายหัวไล่ความคิดบ้าๆ ออกไปก่อนจะก้มหน้าลงอีกครั้งเมื่อร่างสูงค่อยๆ เดินเข้ามาหาเธอ “ผมติดธุระอาจจะไปด้วยไม่ได้” “ไม่เป็นไรเลยค่ะฉันจะดูแลเอมิอย่างดี เชื่อใจฉันได้เลยค่ะ!” เมโลดี้เอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจก่อนจะเดินออกจากห้องด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยสุขเอมิจะดีใจแค่ไหนนะถ้ารู้ว่าตัวเองจะได้ออกไปข้างนอกแล้วว่าแล้วก็รีบวิ่งไปหาเอมิเพื่อบอกข่าวดีอย่างรวดเร็ว วันต่อมา “นะนี่มันอะไรกันคะ” เมโลดี้กวาดสายตามองบอดี้การ์ดนับสิบคนที่ยืนเรียงกันแต่ละคนใส่ชุดสูทพร้อมเครื่องมือสื่อสารที่ติดอยู่บริเวณใบหูหลังจากเมื่อวานที่รีบไปเอมิว่าจะได้ออกไปเที่ยวเอมิก็ดีใจมากวันนั้นทั้งวันเลยมุ่งอยู่กับการวางแผนเที่ยววันนี้ก็ตื่นแต่เช้าเพื่อมาแต่งตัวสวยๆ ให้เอมิแต่พอออมาก็อย่างที่เห็น “เราจะไปสวนสัตว์กันนะคะจะแต่งตัวแบบนี้กันจริงหรอ” เมโลดี้เอ่ยถามการ์ดก่อนจะหันไปมองร่างสูงที่อุ้มเอมิอยู่ “ถ้าไม่ไปก็เข้าบ้าน” ศิลาเอ่ยเสียงเรียบเมโลดี้จ้องมองเอมิที่ทำหน้าเศ้ราอยู่ภายในอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อเธอกัดฟันกรอดด้วยความไม่พอใจ “ก็ได้ค่ะ แต่ขอจากสิบคนเป็นห้าคนได้ไหมคะมันเยอะไปค่ะคนที่เห็นเขาจะกลัวเอาได้นะคะแบบนี้เอมิเองก็คงไม่มีความสุขด้วยหรอก” เมโลดี้เอ่ยขึ้นก่อนจะมองร่างสูงด้วยสายตาขอร้องที่จริงห้าคนมันก็ยังเยอะไปอยู่ดีแต่มันก็ยังดีกว่าสิบคนแหละนะ “ปะป๊าเอมิยักไปดูสัด” เอมิเอ่ยขึ้นเบาๆ ใบหน้าสวยมีน้ำตาคลอมือเล็กๆ ขยำเสื้อของศิลาก่อนจะถูมันเบาๆ เป็นการขอร้อง “ติดตามไปห้าคนพอ” เมโลดี้ฉีกย้มกว้างเมื่อร่างสูงยอมที่จะฟังเหตุผลของเธอศิลาเดินมาส่งเอมิที่รถก่อนจะพูดย้ำเรื่องความปลอดภัยของเอมิให้ทั้งเธอและบอดี้การ์ดที่ติดตามเธอไป “ขอบคุณนะคะ” เมโลดี้เอ่ยขึ้นเบาๆ ด้วยรอยยิ้มร่างสูงเพียงหยักหน้ารับก่อนจะปิดประตูรถให้และยืนมองจนรถนั้นหายลับสายตาไปศิลาเสยผมขึ้นก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ ถ้างานไม่เยอะมากก็อยากที่จะไปด้วยแต่เพราะงานของเขานั้นทั้งเยอะและยุ่งยากมากเหลือเกินเลยไม่สามารถปลีกตัวออกไปไหนได้เลย “มารายงานทุก5นาที” ร่างสูงเอ่ยบอกกับลูกน้องก่อนจะเดินเข้าบ้านเพื่อไปทำงานอีกครั้ง อีกด้านหนึ่งทั้งเมโลดี้และเอมิต่างมีความสุขกับการได้ดูสัตว์มากมายเธอเลือกที่จะมาวันหยุดเพราะว่าอยากให้เอมิได้สัมผัสถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอยากให้เธอได้รู้ว่าโลกใบนี้เป็นเช่นไรและเขาใช้ชีวิตกันแบบไหน “เดี๋ยวฉันขอพาเอมิไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” “ผมจะเข้า” “คะ? ห้องน้ำหญิงนะคะ อยู่แค่หน้าห้องน้ำก็พอค่ะ” เมโลดี้เอ่ยห้ามการ์ดที่จะเข้าไปด้วย “แต่ว่า…” “แค่ห้านาทีค่ะ ถ้าเกินนั้นก็เข้ามาตามได้เลย” เมโลดี้เอ่ยบอกการ์ดจึงยอมแต่โดยดีเมโลดี้เลยอุ้มเอมิรีบเข้าห้องน้ำทันทีและเมื่อทำธุระเสร็จก็พาเอมิออกมาล้างมือแต่ด้วยความที่เป็นวันหยุเห้องน้ำเลยเต็มไปด้วยผู้คนทำให้เกิดการเบียดกันบ้างจนกระทั้ง “กรี๊ดยัยเด็กบ้าแกกล้าเบียดฉันหรอดูสิ๊หน้าฉันเลอะลิปสติกหมดแล้ว” ผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจเมโลดี้มองใบหน้าของธอที่เลอะไปด้วยลิปสติกสีแดงสดแต่เธอรู้ว่าเอมิไม่ได้เป็นกดเบียดเธอแต่คนข้างๆ เอมิต่างหากที่อยู่ๆ ก็วิ่งเข้ามาเบียดจะล้างมือทำให้ทั้งเธอและเอมิต่างเสียหลักไปชนผู้หญิงคนนั้น เมโลดี้รีบพาเอมิมาอยู่ข้างหลังทันทีก่อนจะยกมือเป็นการบ่งบอกว่าให้เธอใจเย็น “คือว่าฉันกับลูกก็โดนเบียดมาอีกทีค่ะ” เมโลดี้เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงใจเย็นแต่อีกฝ่ายนั้นไม่ได้มีอารมณ์ที่เย็นแต่อย่างใดเธอยังคงแผดเสียงแหลมปี๊ดใส่ใบหน้าสวยคำด่าถอมากมายถูกพ่นออกมาเอมิที่ยืนอยู่ข้างหลังเมโลดี้ก็เบะปากทันทีเพราะไม่ชอบที่หม่ามี้ของตัวเองนั้นโดนด่าโดยที่ไม่ได้ทำความผิด “ฉันก็บอกแล้วไงคะว่าฉันโดนเบียดมาอะ” เพี้ยะ “หม่าม้า!” ใบหน้าสวยหันไปตามแรงตบจากอีกฝ่ายเมโลดี้จับใบหน้าของตัวเองที่แสบร้อนใบหน้าของเธอมีน้ำตาคลอเล็กน้อยก่อนจะเกิดเสียงฝีเท้ามากมายที่วิ่งเข้ามาในห้องน้ำเพราะว่าคนเยอะมากพวกการ์ดเลยต้องถอยออกจากหน้าห้องน้ำเรื่อยๆ จนกระทั่งสังเกตุถึงความผิดแปลกขึ้นเมื่อมีคนเริ่มมุงดูอะไรบางอย่างก่อนที่การ์ดจะตัดสินใจแหวกฝูงชนเข้ามาเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของทั้งคู่และได้เห็นว่าเจ้านายของพวกเขานั้นถูกทำร้ายกับตา “พะพวกแกเป็นใครกันเข้ามาห้องน้ำหญิงได้ไง!” ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยถามด้วยความโกรธแถมยังชี้หน้าพวกบอดี้การ์ดเรียงตัวอีกด้วย “เป็นอะไรไหมครับ” การ์ดคนหนึ่งเอ่ยถามเมโลดี้ “ไม่เป็นไรค่ะ ออกไปกันเถอะค่ะฉันไม่อยากมีเรื่อง” เมโลดี้เอ่ยบอกก่อนจะตัดสินใจอุ้มเอมิขึ้นและให้บอดี้การ์ดเป็นคนนำทางให้จนในที่สุดก็พากันออกมาได้เมโลดี้ตัดสินใจเดินมานั่งพักก่อนจะลูบหัวเอมิเบาๆ เหตุการณ์แบบนี้เอมิไม่ควรมาเห็นเลยด้วยซ้ำเธออุส่าห์จะทำให้ทั้งวันของเอมิมีแต่ความสุขแต่ตอนนี้เอมิเหมือนจะร้องไห้ขึ้นไปทุกที “หม่าม้าเจ็บไหม” เอมิเอ่ยถามก่อนจะลูบแก้มที่ขึ้นสีแดงเบาๆ “หม่าม้าไม่เป็นไรค่ะ เอมิไม่ต้องร้องนะ” เมโลดี้เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม “น้ำแข็งประคบครับ” “ขอบใจนะ” เมโลดี้เอ่ยขึ้นพร้อมรับถุงผ้าที่ห่อน้ำแข็งมาประคบที่แก้มเบาๆ “หม่าม้าขอโทษนะเอมิ ที่ทำให้เอมิไม่มีความสุขเลย” “เอมิมีฟามสุก หม่าม้าไม่ร้องนะ” เอมิเอ่ยบอกก่อนจะตะกายขึ้นไปบนตักสวยพร้อมปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของเมโลดี้เบาๆ โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว “เตรียมรถฉันจะไปหาเอมิเดี๋ยวนี้!” คุมพ่อโกรธแล้ววว่าแต่จะโกรธใครกันนะ???
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม