11

1487 คำ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณพีเขาเจอเพื่อนสนิทคงไปส่งกันที่โต๊ะ เดี๋ยวก็คงมา” บุษบาบัณพยายามแก้ตัวให้เจ้านายของเธอไปตามหน้าที่ คุณหญิงชลัมพรตีสีหน้าไม่พอใจลูกชาย“ไปส่งเพื่อนแล้วทิ้งเจ้าสาวให้อยู่รับแขกแบบนี้มันน่าจริง ๆ เอาแบบนี้แม่จะยืนเป็นเพื่อนหนูจนกว่าตาพีจะกลับมา” “ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะเชิญคุณหญิง...เอ๊ยคุณแม่ไปนั่งพักด้านในเถอะค่ะ” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อมอย่างเกรงอกเกรงใจ คุณหญิงชลัมพรมองบุษบาบัณด้วยแววตาสงสารแกมเอ็นดู “ไม่เป็นไรจ้า แม่จะอยู่เป็นเพื่อน เอ๊ะ...” คุณหญิงชลัมพรมองใบหน้าหวานสวยของลูกสะใภ้ “นี่ขนตาหนูกาวมันหลุดรีบเข้าไปจัดการก่อนไป” คุณหญิงชลัมพรหมุนมองรอบตัวจะเรียกเขมเลขาประจำกายก็ลืมไปว่าใช้แม่เขมไปธุระ “ยัยเขมก็ไม่อยู่ หนูรีบไปให้ช่างแต่งหน้าจัดการกับขนตาปลอมนั่นเถอะลูก กาวมันคงหลุดออกมา” บุษบาบัณพบว่ามันหลุดจริง ๆ อย่างที่ท่านว่า “ถ้าเช่นนั้นบุษขอตัวสักครู่นะคะ” บุษบาบัณจึงรีบขอตัวไปที่ห้องแต่งตัวโดยใช้เส้นทางอ้อมหลังห้องจัดงานเพื่อขึ้นไปที่ห้องแต่งตัวเจ้าสาวซึ่งเธอบอกให้ช่างแต่งหน้ากลับไปแล้ว แค่เรื่องติดขนตาให้สนิทใช้กาวติดลงไปอีกเล็กน้อยเธอก็ทำเองได้ ช่างแต่งหน้าจะอยู่ช่วยจนงานเลิกแต่บุษบาบัณเห็นว่าช่างเหนื่อยมาทั้งวันและบ้านอยู่ไกลจึงจ่ายค่าจ้างพร้อมให้กลับไปตั้งแต่ช่วงสองทุ่มแล้ว ที่จริงช่างแต่งหน้าให้อุปกรณ์กาวติดขนตา และขนตาคู่ใหม่ไว้ด้วยเพราะว่าทางช่างบ่นโทษตัวเองว่าหยิบกาวติดขนตาผิดยี่ห้อมา ยี่ห้อที่นำมาใช้ในการแต่งหน้าให้เธอค่อนข้างหลุดง่าย และให้บุษบาบัณพกกาวน้ำใส ๆ หลอดเล็กติดไว้ด้วยกรณีฉุกเฉินแต่บุษบาบัณลืมไว้ที่ห้องแต่งตัวเจ้าสาว “แย่จริงมาหลุดอะไรกันตอนนี้ ตอนแขกกำลังเข้างาน” บุษบาบัณมองกระเป๋าถือใบจิ๋วสีทองเธอไม่น่าลืมกาวตามคำแนะนำของช่างเลยคงต้องเสียเวลาขึ้นไปที่ห้องแต่งตัว แต่ระหว่างที่จะเข้าไปในห้องแต่งตัวทางเดินที่ทอดยาวไปยังห้องของเธอนั้นมีทางแยกไปทางห้องแต่งตัวเจ้าบ้าว บุษบาบัณได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเหมือนคนคุยกันอยู่หน้าห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าว “ริน ไม่เอาน่าอย่าทำแบบนี้ใครมาเห็นคุณเองจะเสียหาย เลิกทำแบบนี้เสียทีเถอะ” เสียงนั้นคุ้นหูเธอมานานนับสิบปีทำไมบุษบาบัณจะจำไม่ได้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของชลลัมพี เจ้าสาวร่างบางในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ยืนพิงหลังกำแพงราวกับจะทำให้ตัวเองลีบแบนหายไปในกำแพง ก่อนจะทำใจและค่อย ๆ ยื่นหน้าออกไปดูเพื่อให้หายคาใจ “ไหนว่าไปส่งเพื่อนที่โต๊ะทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ เพื่อนแบบไหนกัน” เมื่อชะโงกหน้าออกไปดูเพื่อให้พ้นความสงสัยเธอกับพบว่า ‘อุ๊ ต๊ะ แม่เจ้า! อกอีแป้นจะแตก’ ทั้งหมดได้แต่อุทานในใจกิริยาที่ทำออกมาคือยกมือทาบอกด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่ารินลณีกำลังกอดรัดเกี่ยวกระหวัดอยู่กับชลลัมพี แค่แผ่นหลังของชลลัมพีบุษบาบัณก็รู้ว่าคือเขาส่วนผู้หญิงที่หันหน้ามาทางเธอและสองมือโอบรัดคอขอชลลัมพีพยายามซุกใบหน้าเข้ากับลำคอของชลลัมพีและเบียดตัวเข้าหาราวกับจะรีดพิษของเจ้าบ่าวของเธอก่อนเข้าหอออกให้หมดนั่นคือรินลณีดาราคนดัง รินลณีทำราวกับว่าจะเข้าหอกับเจ้าบ่าวแทนเจ้าสาวในคืนนี้ “คุณใจร้ายนะพีคุณเคยสัญญาว่าจะแต่งงานกับรินเท่านั้นไม่ใช่ริณก็จะไม่แต่งกับใคร” “ไม่ใช่คุณเองหรือรินที่ลืมสัญญาของเรา” เขาพยายามดันร่างที่เคยพิศวาสเธอแทบคลั่งออกแต่มองจากด้านหลังดูเหมือนกับว่าเขาเองกำลังร่วมนัวเนียกับเธอ “ก็เพราะคุณอีกนั่นแหละพีที่ทำให้รินต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ รินรักคุณนะคะ รินไม่เคยเปลี่ยนใจไปจากคุณ” ฝ่ายชายพยายามแกะมือหญิงสาวออกจากลำคอของตน “ปล่อยนะริณเดี๋ยวใครมาเห็น คุณอยากให้สามีของคุณรู้เรื่องของเราหรือยังไง แค่ข่าวนั่นยังเดือดร้อนกันไม่พออีกเหรอ” “รินไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้วรินรักคุณ รินไม่ยอมให้ใครครอบครองได้คุณเป็นเจ้าของไปจริง ๆ หรอก บอกรินสิคะทำไมจู่ ๆ ถึงได้คิดอุตริแต่งงาน แต่งกับใครไม่แต่งแต่งกับนังป้าเชยเลขาของตัวเองคุณคิดจะทำอะไรคะ รอรินหน่อยไม่ได้เหรอคะรินกำลังจะหย่าขาดกับเขาแล้ว รินรักคุณแล้วไม่เคยลืมรักของเรา” “ผมเบื่อกับผู้หญิงที่ผ่าน ๆ มาก็แค่อยากจะหาแม่ของลูกไม่ได้เหรอริน คุณยังแต่งงานได้แล้วทำไมผมจะแต่งงานกับใครไม่ได้” “อย่าโกหกเลยค่ะ ฉันรู้มันไม่จริงคุณยังรักฉันเรายังรักกันผู้หญิงกี่ร้อยกี่พันคนไม่ทำให้คุณลืมรินได้หรอกค่ะพีใช่ไหมคะ ใช่ไหม” หญิงสาวจ้องมองแววตาคมกล้านั้นอย่างมั่นอกมั่นใจแต่ดูเหมือนว่าสายตาของเขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว “รินพอสักทีเถอะ” ชลลัมพีพยายามดันร่างงดงามของดาราสาวเจ้าเสน่ห์ออก “ผู้ชายไม่เอา แล้วคุณทำแบบนี้เขาเรียกว่าหน้าด้านนะ” บุษบารีบหลบกลัวรินลณีจะมองเห็นเธอรู้สึกตกใจหรือว่าข่าวที่เขาลือกันให้แซ่ดว่าเจ้านายของเธอลอบเป็นชู้กับลูกสะใภ้รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จะเป็นจริงไม่ใช่เพียงข่าวลือ ถ้าเรื่องที่เธอคิดเป็นเรื่องจริง มันร้ายแรงมากที่ผ่านมาแม้รู้ว่าเจ้านายหนุ่มจะมีสาวรอบกายทั้งเลี้ยงดูเป็นตัวตนหรือผ่านแล้วผ่านไป แต่เธอพวกนั้นเป็นสาวโสดที่ไม่มีพันธะแต่การไปยุ่งกับหญิงที่มีสามีแล้วมันผิดศีลธรรมอย่างแรง “ตายแล้ว!!! นี่ฉันเป็นเหยื่อของคุณใช่ไหม กาเม สุมิจฉา...” บุษบาบัณคิดว่าเธอหลงผิดติดอุบายร้ายของชลลัมพีเข้าให้แล้วเขาอาจจะไม่ใช่แค่ไม่อยากแต่งงานตามใบสั่งแม่ เพราะอยากใช้ชีวิตแบบชายโสดเท่านั้นแบบที่มาลวงหลอกเธอ แต่แท้ที่จริงลึกและร้ายมากกว่านั้นเขาอาจจะใช้การแต่งงานกับเธอบังหน้าเพื่อจะได้ลอบเป็นชู้กับภรรยาชาวบ้าน “คุณพีคุณหลอกฉัน!!” บุษบาบัณอึ้งทำสีหน้าเหมือนกำลังจะร้องไห้ ยิ่งรินลณีมีลูกน้อยทำให้บุษบาบัณยิ่งรู้สึกผิด คืนนี้เธอจะต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่องถ้าเขาใช้เธอเพื่อบังหน้าเพื่อที่จะเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน อย่างไรเธอไม่มีทางยอมเด็ดขาด “พวกคุณเป็นชู้กันจริง ๆ” บุษบาบัณเผลอทำกระเป๋าใบเล็กที่ถืออยู่ร่วงลงพื้น “ใครน่ะ!” คนทั้งสองที่กอดก่ายกันราวกับปาท่องโก๋ แยกกันออกอย่างอัตโนมัติชลลัมพีเดินออกมาดูต้นเหตุของเสียงแล้วพบว่า “เธอมาทำอะไรที่นี่!” น้ำเสียงของชลลัมพีดูเอาเรื่อง “แหม...คุณพีขา ก็เจ้าบ่าวหนีงานขึ้นมาเข้าหอ...เอ๊ย หนีมาเข้าห้องน้ำนานคุณหญิงก็เลยใช้เขมขึ้นมาตามน่ะสิคะ” เขมกวาดตาผ่านไหล่ของเจ้านายหนุ่มมองไปที่ดาราสาวคนดัง“ว้าย! ตายแล้วและนี่คุณรินลณีมาทำอะไรอยู่ตรงนี้คะเนี่ย” รินลณีหน้าแดงด้วยความอายก่อนจะเดินสะบัดสะบิ้งเฉียดไหล่คนสนิทของคุณหญิงชลัมพรไปอย่างหัวเสีย ชลลัมพีมองตามรินลณีไปและถอนใจก่อนจะหันมามองเขมที่ยืนกรีดกรายไม่สะทกสะท้าน “ถ้าเห็นอะไรก็คิดว่าไม่เห็นซะ และอย่าพูดอะไรให้คุณรินเสียหายเข้าใจไหม” ชลลัมพีถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินผ่านเขมไปอย่างเดาอารมณ์ไม่ถูก บุษบาบัณนั่งถอนใจที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเป็นครั้งที่ห้า หากเมื่อครู่เขม เลขาของคุณหญิงไม่เข้ามาช่วยเธอเอาไว้ไม่รู้ว่าจะทำหน้าเช่นไร หากเขาจับได้ว่าเธอรู้ความลับของเขาเธอควรจะทำยังไงต่อไปดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม