10

1431 คำ
บุษบาบัณประสานสายตากับรินลณี บุษบาบัณจำได้ดีเมื่อ สิบสี่มิถุนายน สองปีที่แล้วชลลัมพีให้เธอสั่งช่อดอกไม้จากร้านดังที่สุดในกรุงเทพฯ ส่งไปให้นักแสดงสาวเจ้าบทบาทคนนี้และเจ้านายของเธอหรือเจ้าบ่าวในค่ำคืนนี้จะย้ำเสมอว่ามันต้องเป็นดอกไม้ที่สวยที่สุดในร้านและแพงที่สุด เพราะมันคือดอกไม้สำหรับคนที่พิเศษสุดของเขา ดาราสาวคนสวยคนนี้หายไปอยู่ต่างประเทศหลายปีพร้อมสามีได้ข่าวว่าไปโกอินเตอร์เล่นหนังที่บอลลีวู้ดและเพิ่งกลับมาเมืองไทยได้ปีกว่า ๆ แล้วมีข่าวว่าขาเตียงกำลังจะหักออกมาเป็นระยะ ๆ “ขอบคุณมากค่ะคุณรินอันที่จริงไม่ต้องลำบากก็ได้” บุษบาบัณฉีกยิ้มหวานกลบเกลื่อนความรู้สึกว่าคนให้มีสายตาไม่เป็นมิตรเมื่อรับมาถือไว้ก็นึกในใจว่าอย่าให้ในกล่องเป็นระเบิดก็แล้วกันเพราะรู้ดีรินลณีกับชลลัมพีเคยคบหาดูใจกันมาก่อน “ลำบากยังไงเหรอคะ ไหน ๆ เราก็ใช้ของ…” ยังไม่ทันจบประโยคก็พอดีกับเวลาที่เพื่อนสนิทของชลลัมพีควงคู่มากับแฟนสาวในชุดราตรีสีชมพู สมโภชน์เพื่อนสนิทของชลลัมพีฉีกยิ้มกว้างพร้อมแตะไหล่ชลลัมพีเจ้าบ่าวจึงหันไปสนใจเพื่อน รินลณีจึงใช้จังหวะนั้นกระซิบบางอย่างข้างหูเจ้าสาวคนสวย “ไหน ๆ เราก็จะต้องใช้ของร่วมกันแล้ว แค่ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเองนึกว่าเป็นที่ระลึกจากฉันก็แล้วกัน” บุษบาบัณยิ้มไม่ออกสำหรับผู้หญิงคนนี้ชลลัมพีไม่เคยควงไปไหนมาไหน เพราะถ้าเขาควงออกหน้าออกตาเช่นคนอื่นคงไม่มีชีวิตยืนอยู่ตรงนี้เป็นแน่ ก็เธอมีสามีและลูกไปแล้ว แต่ก็พอรู้มาว่าเจ้านายเธอเคยคบหากับหญิงสาวรายนี้สมัยเป็นนิสิต แต่บุษบาบัณเชื่อว่าดาราสาวรินลณีคนนี้มีบทบาทสำคัญในหัวใจของชลลัมพีอยู่มากและเธอนี่เองเป็นเหตุให้มีวิวาห์กำมะลอนี้ขึ้นมา ++++++++++++++++++++++++++++++++ ขณะที่ชลลัมพีกำลังคุยกับสมโภชน์เพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมตอนต้นจนไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยกันและสุนิสาแฟนสาวคนทั้งคู่มาร่วมแสดงความยินดีพร้อมแซวชลลัมพีถึงการแต่งงานสายฟ้าแลบครั้งนี้อีกทั้งยังเปรยข่าวดีว่าอีกสองเดือนข้างหน้าทั้งคู่ก็จะมีข่าวดีเช่นเดียวกันส่วนปลายปีน้องชายของเขาชื่อสุดเขตกับแฟนสาวก็มีแพลนจัดงานวิวาห์ทำให้ชลลัมพีไม่เห็นว่ารินลณีกับบุษบาบัณคุยอะไรกันบ้างหลังจากเขาแยกตัวออกไป บุษบาบัณเชื่อว่ารินลณีกับชลลัมพีมีอะไรที่ลึกซึ้งกันแต่เธอไม่รู้เรื่องส่วนตั๊วส่วนตัวลึก ๆ ของนายจ้างและตำแหน่งสามีหมาด ๆ ของเธอมากนักเพราะที่เห็นชลลัมพีควงอยู่ประจำก่อนจะมีงานวิวาห์ชวนปวดหัวครั้งนี้คือริต้า กับดาราสาวหน้าใหม่ดาวรุ่งที่ชื่อพลอยชมพู “หวังว่าคุณบุษบาบัณคงจะถูกใจของขวัญของฉันนะคะ” สายตาไม่เป็นมิตรแต่ริมฝีปากสดสวยนั้นกลับฉีกยิ้มเต็มที่ แต่ทั้งหมดก็ไม่เกินคาดของบุษบาบัณ รินลณีไม่พอใจในการแต่งงานครั้งนี้อย่างแน่นอนเพราะได้ยินข่าววมาว่ารินลณีกำลังจะหย่ากับสามีในเร็ว ๆ นี้บางทีต้นเหตุอาจจะเกิดจากเรื่องถ่านไฟเก่า บุษบาบัณยิ้มรับเล็กน้อย “ถ้าของขวัญไม่ใช่ กางเกงในชาย ใส่กล่องผูกโบมาอย่างในละคร เรื่อง ม่านดอกงิ้ว ที่คุณรินแสดงนำดิฉันก็ยินดีรับไว้ค่ะ” ที่จริงเธอไม่ได้ตั้งใจยั่วประสาทดาราสาวคนสวยแม้แต่น้อยเพราะละครที่รินลณีเล่นจบไปและกระแสดีมากแล้วก็มีฉากแบบนี้เสียด้วย นางร้ายในเรื่องเอากางเกงในของพระเอกซึ่งเป็นเจ้าบ่าวในเรื่องห่อของขวัญสวยงามมาให้เจ้าสาวกลางงานแต่งงาน รินลณีหมั่นไส้คนตรงหน้าหนักแต่ทำอะไรไม่ได้มากน้องจากจิกตาใส่ “นั่นมันละครย่ะ เรื่องจริงใครจะกล้าบ้าบิ่นร้ายเปิดเผยแบบนั้นและมันก็ไม่ใช่คนอย่างฉันแน่ ๆ” รินลณียังไม่วายทิ้งสายตาดูหมิ่นบุษบาบัณก่อนจะเดินเข้าไปในงาน ชลลัมพีหันกลับมามองยังซุ้มดอกไม้ทางเข้างานแต่ไม่ได้มองที่เจ้าสาวเขามองผ่านบุษบาบัณเลยไปที่รินลณีที่พาร่างระเหิดระหงพาแผ่นหลังขาวเนียนนั้นหันหลังเดินเข้างานไปแล้วก่อนที่เพื่อนสนิทของเขาจะขอตัวเข้าไปในงาน ชลลัมพีจึงขอตัวกลับมายืนเคียงข้างบุษบาบัณเหมือนเดิม “คุณรินเข้าไปในงานแล้วเหรอ เธอพูดอะไรกับคุณบ้าง” บุษบาบัณยิ้มออกมาอย่างฝืน ๆ นี่ถ้าเธอเป็นเจ้าสาวจริง ๆ ไม่ใช่รับจ้างแต่งงานแลกหนี้แบบนี้คงได้เดินหนีจากเจ้าบ่าวรายนี้แน่แล้ว เจ้าบ่าวที่ไม่มีสายตาไว้มองเจ้าสาวเลยสักนิด “สำหรับคุณรินลณี คุณยังคงไม่ได้บอกเธอว่างานแต่งงานครั้งนี้คุณไม่ได้พิศวาสฉัน แค่เอาฉันมาเป็นโล่กำบังไม่ให้คุณแม่คุณรู้พฤติกรรมหลังแต่งงานของคุณ” ชลลัมพียิ้มให้เธอบาง ๆ อย่างมีลับลมคมใน “ใช่ รินเขาไม่รู้เรื่องนี้ว่าเราแต่งงานกันแบบจอมปลอม อ้อ...แต่เรื่องนี้ป้าไม่ต้องยุ่งและไม่ต้องไปเสนอหน้าบอกเขานะ งานของป้าคือทำให้คุณหญิงชลัมพรคุณแม่สามีเชื่อสนิทใจว่าเรารักกัน และหลังแต่งงานผมมีพฤติกรรมที่ดีเป็นสามีที่น่ารักของคุณ เรื่องอื่น ๆ ผมจัดการเองได้เข้าใจไหม” ชลลัมพีส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับคนที่ชื่อว่าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายก่อนจะขอตัวแยกไปหาเพื่อน “เดี๋ยวผมขอตัวอีกสักครู่คุณรับแขกแทนผมที ผมมีเรื่องจะคุยกับเพื่อน ๆ หน่อย” เจ้าสาวที่วันนี้ดูแล้วทั้งสวยทั้งน่ารักผิดกับวันทำงานตามปกติไหวไหล่ไม่แคร์ “รับทราบค่ะเจ้านาย เชิญตามสบายเถอะบุษบาบัณทนได้” บุษบาบัณรู้สึกขุ่น ๆ อยู่ในใจวันนี้ส่องกระจกและก็ต้องตกใจที่เธอดูเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อหลังแต่งหน้าทำผมและถอดแว่นตาที่ใคร ๆ ชอบหาว่าขโมยตัวกาตูนอาราเล่มาใส่ เธอยังคิดว่าตัวเองหน้าเด็กลงไปเป็นกองทำไมหนอเขาถึงยังใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อจิตใจของเธอเรียกว่าป้าอยู่เรื่อย ๆ ชลลัมพีเห็นเพื่อนสนิทสองคนกำลังเดินเข้างานมาจึงหันมาบอกบุษบาบัณ “ถ้าเช่นนั้นก็ดีต้อนรับแขกดี ๆ ทำหน้าที่แทนเจ้าบ่าวด้วยก็แล้วกัน” ท่าทางของเขาไม่ต่างกับเวลาที่ใช้งานเธอในยามปกติในตำแหน่งเลขา แต่นี่มันงานวิวาห์นะเว้ยใจคอจะให้เจ้าสาวแบกหน้ารับแขกคนเดียวหรือไงบุษบาบัณได้แต่ลอบถอนใจเบา ๆ แล้วก็ทำหน้าที่ต่อไป “ได้ค่ะเจ้านาย เชิญตามสบายเลยค่ะ” จะให้พูดอะไรได้อีกนอกจากคำนี้ จากนั้นบุษบาบัณก็เห็นว่าเจ้าบ่าวของเธอเดินเข้าไปกอดคอเพื่อนรักอีกคน คือคุณวายุและคุณวาโย เพื่อนฝาแฝดของเขาจากนั้นคนทั้งสามก็หันมามองหน้าเธอพร้อมรอยยิ้มก่อนจะหันไปคุยอะไรกันแต่บุษบาบัณแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เรื่องนี้แม้แต่พวกเพื่อนสนิทเขาก็งงเพราะชลลัมพีไม่ได้บอกใครยกเว้นคู่ขาแสนสนิทท้องติดกันของเขาคนนั้น ที่ออดอ้อนขอให้คืนนี้ชลลัมพีกระโดดออกจากหอไปปลอบขวัญเธอ บรรดแขกเหรื่อก็ควงคู่กันทยอยเข้างานไม่ขาดสาย “หนูบุษ ตาพีไปไหนจ้ะนี่ทำไมเขาถึงได้ทิ้งให้หนูยืนรับแขกคนเดียวเป็นเจ้าบ่าวประสาอะไรเจ้าลูกคนนี้” คุณหญิงชลัมพรในชุดราตรีสีทองประดับลูกไม้ฝรั่งเศสรับกับทรงผมเกล้าสูงดูสมเป็นคุณหญิงไฮโซผู้งามสง่า บ่นอุบอย่างไม่พอใจ สอดส่ายสายตาหาพ่อลูกชายตัวดีที่ไม่เห็นแม้แต่เงา “ตาพีนี่จริง ๆ ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม