บทที่4

1235 คำ
บทที่ 4 “เช่นนั้นเจ้าคงเป็นคู่หมายของข้ากระมัง” คำพูดของหานเย่ทำให้เมิ่งเมียวชิงแปลกใจ เพราะคู่หมายของนางก็คือคนที่เพิ่งร่วมมือกับน้องสาวฆ่าเจ้าของร่างอยู่ก่อนหน้านี้อย่างไรเล่า “แต่คู่หมายของข้าคือองค์ชายสาม” หานเย่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ “ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว และหากเจ้าต้องการการช่วยเหลือ ช่วยบอกข้าทีเถอะว่าเหตุใดคุณหนูตระกูลหลี่ บุตรีคนโตของราชครูผู้มากความรู้และความสามารถถึงได้มีสภาพไม่ต่างจากยาจกเช่นนี้ได้” แม้น้ำเสียงจะหยาบกระด้าง แต่เมิ่งเมียวชิงสัมผัสได้ ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีไอสังหารมุ่งมาที่นาง หากเป็นเลี่ยงหรงตัวจริงก็คงจะไม่บอกออกไป แต่นางนั้นต่างออกไป ที่สำคัญนางจับสังเกตได้เมื่อยามนางพูดถึงองค์ชายสามชายตรงหน้ามีอาการบางอย่างที่บ่งบอกว่าเขาเองก็ไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกับองค์ชายสาม อย่างไรศัตรูของศัตรูย่อมต้องเป็นมิตรเอาไว้ “เรื่องมันยาวนะเจ้าคะ” เมิ่งเมียวชิงยื้อเวลาเพื่อดูอาการของอีกคน แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะสนใจประเด็นนี้มากกว่าที่คิด ทั้ง ๆที่ก่อนหน้านี้มองนางเหมือนขยะแท้ ๆ “ข้าถูกน้องสาวกับองค์ชายสามวางแผนฆ่าเจ้าค่ะ” เมิ่งเมียวชิงพูดออกไปชัดถ้อยชัดคำ นางไม่กลัวที่จะเล่าเรื่องที่นางเองก็เพิ่งรู้เมื่อครู่ให้กับคนตรงหน้าฟัง อย่างไรคนคนนี้ก็คงมีอำนาจไม่มากไม่น้อยไปกว่าองค์ชายสามนัก ให้ต่อกรก็คงไหวและหากให้ลองเดา คาดว่าชายหนุ่มตรงหน้าคงเป็นองค์ชายหานเย่เป็นแน่ เมิ่งเมียวชิงเล่าตั้งแต่เรื่องที่มารดาของเลี่ยงหรงช่วยองค์ชายสามเอาไว้ตั้งแต่เยาว์วัยจนได้รับพระราชทานตำแหน่งพระคู่หมั้นให้บุตรสาวนางกับองค์ชายสาม แม้จะเป็นเรื่องน่ายินดีแต่ก็แลกมาด้วยชีวิตเพราะกระโดดลงไปช่วยอีกฝ่ายในน้ำเย็นจัด จนตัวเองต้องเป็นโรคหนาวเข้ากระดูกรอเพียงวันตาย “เจ้าจะเล่าสิ่งที่ข้ารู้อยู่แล้วให้ข้าฟังทำไม เรื่องที่มารดาเจ้าช่วยชีวิตน้องชายข้า มันเอิกเกริกจนเสด็จพ่อมิอาจบอกปัดคำขอที่มารดาเจ้าเอ่ยขอแทนรางวัลได้” หานเย่เอ่ยออกมาอย่างเบื่อหน่าย เสียงของเขาแฝงความเย้ยหยันอยู่ในที สายตาเรียบนิ่งแต่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ หนี้ชีวิตที่ช่วยเชื้อพระวงศ์ ในสายตาของผู้อื่นคงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ มีค่ามากพอจะขอข้าวของเงินทอง หรือลาภยศใด ๆ แต่ไม่ใช่มารดาของหญิงสาวตรงหน้านี้ นางกลับหวังสิ่งที่สูงส่งยิ่งกว่านั้น การช่วยชีวิตน้องชายของเขาในครั้งนั้นเป็นเรื่องเล่าขานไปทั่วทั้งแผ่นดิน การกระทำอันสูงส่งของมารดาของหญิงสาวตรงหน้าทำให้เสด็จพ่อของเขาไม่มีทางเลือก มิอาจปฏิเสธคำขอใด ๆ ที่มารดาของหลี่เลี่ยงหรงเอ่ยขึ้นได้ หานเย่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ซาบซึ้งในบุญคุณนั้น แต่การรับรู้ว่ามันมีสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ แม้จะไม่ถูกกับน้องชายของตนและฮองเฮาสักเท่าไร เมียวชิงในร่างของเลี่ยงหรงชะงักไป คำพูดของหานเย่กระแทกใจนางจนต้องกลั้นหายใจ นางพยายามอธิบายต่อ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งการเดินทางกับน้องสาวของเจ้าของร่าง หญิงสาวเล่าว่า น้องสาวของนางได้ชวนนางกลับไปเยี่ยมสุสานบรรพบุรุษฝั่งมารดาก่อนวันออกเรือน โดยมิได้เอะใจเลยว่าการชวนที่แสนใจดีนั้นกลับเป็นแผนการอันแยบยลเพื่อจบปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น “ข้าไม่รู้เลยว่าองค์ชายสามกับน้องสาวของข้า…” เสียงของเมิ่งเมียวชิงสั่นเล็กน้อย นางรู้สึกจุกแน่นในอกเมื่อนึกถึงสภาพของเลี่ยงหรง เด็กสาวผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสาอย่างหลันฮวาคนที่เลี่ยงหรงรักและทะนุถนอมมาโดยตลอด แต่ในสายตาของผู้อื่นกลับเป็นเพียงหมากในเกมการเมืองที่ไม่มีวันหลีกหนี ความทรงจำของหลี่เลี่ยงหรงวิ่งไหลเวียนจนเมียวชิงอดที่จะสงสารเลี่ยงหรงไม่ได้ บัดนี้นางรู้แล้วว่าหลี่เลี่ยงหรงคือสายเลือดคนสุดท้ายของตระกูลเมิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ และองค์ชายสามนั้นก็หมายจะสังหารคนสุดท้ายของตระกูลนาง “ลูกไม้หลงมิใกล้ต้นเลยสักนิด” เมิ่งเมียวชิงพึมพำกับตัวเอง รู้สึกเหมือนถูกกรีดหัวใจด้วยความจริงอันโหดร้าย ตัวนางเองก็มีส่วนทำให้สกุลเมิ่งถูกกวาดล้าง นางเพียงอยากแก้แค้นให้คนรัก แต่คนในตระกูลต้องสูญสิ้น ในยามนั้นนางเพียงแค่คิดจะแก้แค้น ยังมิทันได้เริ่มด้วยซ้ำก็ถูกทั้งกองทัพของฮ่องเต้และคนในยุทธภพรวมหัวกันสังหาร แต่หนนี้นางจะทำให้สำเร็จในร่างของแม่หนูนี่ “ที่เสียใจอยู่นี่เป็นเพราะเจ้าชอบพอองค์ชายสามหรือ” หานเย่ถามออกไป เพราะหากเป็นเช่นนั้นเขาก็คงไม่ยินดีที่จะช่วยนางนัก เมื่อเห็นแววตาอาฆาตแค้นที่ฉายออกมาจากดวงตากลม “หามิได้ ข้านั้นไม่ได้เคยพบกับองค์ชายสามเป็นการส่วนตัวมาก่อน ไม่เคยรู้เลยว่าเขารังเกียจข้าจนถึงขนาดจะต้องฆ่าแกงกัน” เมิ่งเมียวชิงพูดออกไปตามจริง แต่นางรู้ดีว่าเจ้าของร่างปวดใจที่รับรู้เรื่องที่ทั้งสองบอกกับนางก่อนจะฆ่านางทิ้งเสียให้พ้นหูพ้นตา เพราะเพียงแค่นางตายไปสักคน ตำแหน่งชายาขององค์ชายสามก็ไม่มีใครมาชิงกับหลันฮวาน้องสาวของนางอีก “ข้าแค่แค้นใจที่น้องสาวร่วมบิดาตั้งใจจะฆ่าข้าให้ตายเพียงแค่เพราะเรื่องนี้” หานเย่มองอีกฝ่ายด้วยสายตาสนใจ “แค้นมากพอจะฆ่าอีกฝ่ายได้หรือไม่” เมิ่งเมียวชิงหันมองอีกฝ่าย “เจ้าค่ะ” หญิงสาวตอบ สายตามีไอสังหารชัดเจนจนหานเย่แปลกใจ แต่เมื่อเห็นสภาพอีกฝ่ายก็ไม่แปลกใจที่เจ้าตัวจะโกรธแค้น และหญิงสาวผู้นี้แม้คราแรกจะไม่ได้น่าสนใจนัก แต่ยามเมื่อเปิดปากพูดก็ทำให้เขาสนใจได้ น่าสนใจ “ขอบคุณผู้มีพระคุณมาก” เมิ่งเมียวชิงพูดทันทีที่รถม้ามาจอดที่หน้าจวนราชครูหลี่ นางไม่แน่ใจว่าคนที่นี่จะต้อนรับตนเช่นไรแต่ก็คิดหาทางรับมือเอาไว้แล้ว ต่างกับหานเย่ที่มองเรื่องตรงหน้าอย่างสนใจ และเขาก็ตัดสินใจที่จะทำตามคำสั่งของบิดา ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยคำที่ทำให้หญิงสาวแปลกใจออกไป “รักษาตัวให้รอดจนกว่าจะถึงวันสมรสของข้ากับเจ้าล่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม