bc

My android รักผมได้ไหมครับ เจ้านายของผม

book_age16+
120
ติดตาม
1K
อ่าน
พัฒนาตนเอง
มั่นใจ
สร้างแรงบันดาลใจ
หวาน
เบาสมอง
วิทยาลัย
มัธยมปลาย
หนุ่มใหญ่จีบหนุ่มใหญ่
classmates
civilian
like
intro-logo
คำนิยม

เมื่อชีวิตที่อกหักเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป แต่แล้ววันหนึ่งก็มีใครอีกคนเข้ามาในชีวิต แต่ทำไมเขากลับเป็นหุ่นยนต์กันวะเนี่ย?!

"ความรักมันคืออะไรกันหรอครับ? ทำไมมนุษย์ถึงบอกว่ามันเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ ทำให้เจ็บปวด"

"แต่ก็ยังโหยหามันอยู่ดี"

"คุณบอกได้หรือเปล่า... ว่าความรู้สึก ในอกที่มันสั่นเวลาเจอใครสักคน มันคืออะไรกัน"

"ผมไม่รู้จักมันเลย.... อึก! ... ผม..ยะ..อยาก..รู้..จะ...จัก...------------------"

[ระบบกำลังประมวลผลข้อผิดพลาดของระบบ]

[พบข้อผิดพลาดที่ต้องได้รับการแก้ไข พบข้อผิดพลาดที่ต้องได้รับการแก้ไข]

[กำลังRestart.... โปรดรอสักครู่จนกว่าระบบจะเริ่มต้นอันติโนมัติ]

[เริ่มการRestart]

[0%....]

[10%.....]

[35%........]

[74%.............]

[100%...................]

[ดำเนินการRestartอัตโนมัติ]

....

...

"สวัสดีครับ... ผม"เชน" ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณเจ้านาย<3"

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทเรียนที่ 1 เป็นหุ่นยนต์จริงป่ะเนี่ย?! (1)
“เลิกกันเถอะ” ประโยคคำสั้นๆ ที่ตัดความสัมพันธ์กันในทันทีที่ได้ยิน คำว่าสั้นๆ แต่ได้ใจความ คงหมายถึงแบบนั้น ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยสีหน้าไม่เชื่อในหูของตัวเอง พยายามปรับสีหน้าให้ดูดีแต่มันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงเพราะสีหน้ายับยู่ยี่ที่ดูไม่ได้หลังจากได้ยินเรื่องที่ไม่คิดว่าจะได้ยินออกมาจากปากแฟนสาวของเขา “หมายความว่ายังไง? ฟ้าแกล้งวินใช่เปล่า? ฮ่า ฮ่า...” เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้โกหกหรือล้อเล่นแต่อย่างใด ขอบตาเริ่มมีสีแดงละเลื่อพร้อมนัยน์ตาเผยน้ำตาที่เริ่มคลอออกมาเล็กน้อย “ไม่ได้แกล้ง... ฟ้าไม่ได้แกล้ง แต่พูดความจริง ฟ้าคิดว่าเราจะไปกันได้ด้วยดี แบบว่า... ฟ้าให้โอกาสวินนะ! สามปีมานี้ วินไม่เคยมีเวลาให้ฟ้าเลย วันครบรอบของเราก็จำไม่ได้! วันเกิดฟ้าวินก็ยังจำไม่ได้! วันนึงเราเจอหน้ากันกี่ครั้งฟ้ายังนับได้เลย เดือนนึงล่ะกี่ครั้ง? ได้แต่ส่งข้อความคุยกันแค่ตอนนอนอ่ะ เหมือนเราไม่ได้คบกันเลยว่ะ ถึงจะพยายามไม่คิดอะไรมากเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ฟ้าคิดแบบนี้ตลอด ฟ้ารู้สึกว่า...เรามันไม่เหมือนคนรักกันเลย” หญิงสาวถอนหายใจก่อนที่เธอจะลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมกับหยิบกระเป๋าบนโต๊ะของเธอขึ้นมา ในตอนนั้นเองที่อีกฝ่ายก็ยังเหนี่ยวรั้งดึงข้อมือเล็กนั้นไว้เพื่อพยายามยื้อยั้งไม่ให้เธอไป ริมฝีปากขบเม้มแน่นสุดจะกล้ำกลืน แต่มันก็ไม่สามารถรั้งข้อมือนั้นไว้ได้แม้แต่น้อย “เลิกกันเถอะนะ” น้ำเสียงสั่นเทาเอ่ยขึ้นก่อนมือของเขาจะถูกปัดออก เธอเดินหายออกไปและไม่คิดแม้จะหันมามองเลยสักนิด หญิงสาวเดินห่างหายออกไปจากร้านพร้อมกับเสียงส้นสูงที่ดังห่างออกไปจากระยะเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงผู้คนในร้านที่กำลังนั่งทานอาหารแสนอร่อยกันกับครอบครัวและคนรักอย่างมีความสุข เว้นแต่ใครบางคนที่กำลังนั่งเป็นทุกข์อยู่เพียงลำพัง “.....อึก... ฟ้า! กลับมาก่อน! ฟ..ฟ้า....ฟ้า..ฮึก... ฟ้าอย่าทิ้งวินไปเลยนะ...” เสียงพึมพำเบาๆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่น มันไม่สามารถส่งไปถึงใครได้อีกแล้ว แม้แต่ตัวเขาเองที่นั่งพึมพำกับตัวเองบนโต๊ะอาหารที่ว่างเปล่า ดวงตาสีน้ำตาลหม่นอาบไปด้วยน้ำตา เส้นผมสีน้ำตาลสว่างดุจหญ้าแห้งที่กำลังแก่ตัวลงพันกันยุ่งเหยิงเหมือนกับจิตใจของเขาในตอนนี้ ‘ฉันไม่เคยใส่ใจเธอเลย ฉันเอาแต่เรียน เรียน และเรียนอยู่เรื่อย จนกระทั่งมารู้ตัวว่าเธอรู้สึกยังไง เมื่อความสัมพันธ์ทั้งสามปีของเรามันจบลงแล้ว’ ... “กริ๊กๆ ...กริ๊กๆ ... เคร๊ง! กริ๊กๆ ...” เสียงคลิกเมาส์ดังเรื่อยมาจากห้องนอนเล็กๆ ที่แต่เดิมมันควรจะสะอาดสะอ้านกว่านี้ ตอนนี้มันเต็มไปด้วยขยะ กองกระดาษ ขวดเหล้าเรียงรายเต็มพื้นกับคราบหกเลอะเทอะของเศษน้ำและอาหารกระจัดกระจายไปตามพื้นห้อง... ร่างนั่งกอดขวดเหล้าพลางนั่งทำงานไปด้วย ใต้ตาคล้ำ ทั้งดำและดูโทรม ไม่ต่างอะไรจากซากศพเดินได้เลยสักนิด “...อื้ม..ฟ้า..ฟ้า~~ ฟ้า..วิน...ขอโทษ... อึก..” เสียงพ่ำเพ้อดังก้องออกมาจากบ้านหลังเล็ก มีเพียงเขาคนเดียวที่อาศัยอยู่ มันเป็นบ้านหลังเก่าที่ป้าของวินเป็นเจ้าของและให้เขาเข้ามาพักอาศัยระหว่างเรียน เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องกังวลเลย ที่จะมีผู้ใหญ่เข้ามาในห้องแล้วกล่าวตักเตือนเขาถึงห้องที่สกปรกเลอะเทอะนี่ เพราะมันไม่มีใครอื่นนอกจากเขา “ตื้ดๆ ...ตื้ดๆ ....” โทรศัพท์ที่เอาแต่สั่นเรื่อยๆ พร้อมข้อความที่เด้งขึ้นมาอย่างไม่รู้จักหยุดถึงเพื่อนของเขาที่ทักเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วงอยู่ตลอด แต่กระนั้นมันก็ไม่สามารถทำให้เขาละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์และเหล้าขวดใหญ่ได้เลย นิ้วเรียวยาวไล่สัมผัสบนแป้นอย่างเอื่อยเฉื่อยนั่งทำรายงานหัวก็จ้องจะสัปหงกอยู่เรื่อย เขาได้แต่กล่าวในใจ โทษตัวเองอยู่ในใจทั้งที่ร่างกายกำลังบอกว่าเขาควรรีบพักผ่อน ‘หัวหมุนไปหมดแล้วแฮะ... แต่รายงานตรงหน้าของฉันมันยังไม่เสร็จ ฉันยังพักไม่ได้’ “อ่ะ.. อะไร? ...” ดวงตาเริ่มหรี่ลงๆ แต่ก็สะดุดตาเข้ากับอะไรบางอย่างที่ส่งเข้ามาในอีเมลของเขา มันคืออีเมลโฆณาชวนเชื่อที่หน้าตาก็ไม่ได้น่าเชื่อถือเอาซะเลยเด้งเข้ามาบนหน้าจอ ใบหน้าจ้องมองเจ้าโฆษณาที่เป็นโพสปักหมุดเหมือนว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆ อย่างไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่แล้วก็เปิดมันเข้าไปอ่านถึงเนื้อหาด้านในด้วยความสงสัยว่ามาจากที่ไหนกันแน่ “อึก... คุณได้รับ..ให้เป็น..ผู้ร่วมทดสอบ.. หุ่นยนต์ช่วยเหลือ.. มันคืออะไร~ ต..แต่น่าสนใจดี..” เขากล่าวด้วยเสียงสั่นทั้งที่แก้มแดงก่ำเป็นลูกตาลยีเพราะพิษเมาจากการดื่มสุระหนัก “ส..สะ..ใส่ชื่อ..กับที่อยู่ อึก~ อ้า..ปวดหัวจัง..กรอกๆ ไปเถอะ ฉันอยากนอนเต็มทีแล้ว” นิ้วเรียวบรรจงกรอกข้อมูลลงไปในเว็บทั้งที่ตาก็จวนจะหลับ พยายามประคองสติของตัวเองจนถึงวินาทีสุดท้ายจนกระทั่งกดส่งจดหมายตอบกลับไปทางอีเมลอย่างใจเย็น “อืม... พัสดุจะถูกจัดส่งในวันถัดไป... อ่าห๊า... ม..ไม่ไหว...ง่วง..ชะมัด อ้า! คร่อก~” ใบหน้าซุดลงกระแทกกับโต๊ะเต็มแรงอย่างหมดสติด้วยท่าทางอ่อนล้า โดยไม่รู้เลยว่า กำลังจะมีเรื่องบางอย่างที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นกับเขา [กำลังอัปโหลดข้อมูล....] ... พาวิน “อึก..อื้ม..” ปวดหัวหนึบๆ แฮะ... ผมลืมตาตื่นขึ้นมา บนโต๊ะทำงานของผมที่ตอนนี้มันได้เวลาเช้าช่วงโชติสว่างแสบตากับพระอาทิตย์ที่ส่องทแยงมุมเข้ามาแยงตา อ่า.. เมื่อคืน... เมาหนักอีกแล้วสินะ พยุงตัวลุกขึ้น แต่ตัวเองก็เซไปเซมาด้วยอาการยังเมาค้างหลังจากดื่มไปเยอะของเมื่อคืน “เมื่อวานโดดเรียนไปสองคลาส วันนี้โดดไม่ได้แล้วสิ...” ผมค่อยๆ พยุงร่างตัวเองที่ยังกึ่งหลับกึ่งตื่นกึ่งเมา ไปยังห้องน้ำเพื่อส่องกระจกมองหน้าโทรมๆ ของตัวเอง อื๋อ...ขอบตาดำสุดยอดเลย แถมสิวก็ขึ้นหน้าอีก โอ๊ะนั่น สิวหัวช้างกลางหน้าผาก....พระเจ้า.. สามวันโทรมไปขนาดนี้เหรอเนี่ย... ผมจ้องไปยังใบหน้าของตัวเองที่มองยังไงมันก็คงไม่ใช่คนแล้วล่ะ แถมยัง...มีสิวเม็ดเบ้งโชว์หลาอยู่กลางหน้าผาก แน่นอนว่าถ้ามองจากตึกชั้นห้าลงมาก็คงจะเห็นมันชัดเจน แต่หลังจากเช็กสภาพเบ้าหน้าตัวเองเสร็จ ผมก็ต้องมาจัดการธุระส่วนตัวของตัวเองก่อนออกไปเรียน และนั่นแหละคือที่ที่ ไม่อยากจะไป “พาวิน!” เสียงเล็กเอ่ยขึ้นจากระยะไกลก่อนวิ่งพุ่งกระโจนเข้ามากระชากใบหน้าของผมไปบีบเพื่อตรวจเช็กสภาพ เธอคนนี้ชื่อว่า” ปลายน้ำ” เป็นเพื่อนสมัยเรียนประถมของผม เธอมักจะเข้าหาผมเสมอเวลาผมมีเรื่องเดือดร้อนหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ต้องการความช่วยเหลือ เธอจะเป็นคนแรกที่ก้าวเข้ามา และตอนนี้ก็กำลังบีบแก้มผมด้วยสีหน้าเอาเป็นเอาตาย จับผมเบิกตากว้างจ้องไปยังตาของผมแม้ใต้ตาจะคล้ำดำมืดดูไม่ได้มากก็ตาม “เธอ ยัยบ้า พอได้แล้วน่ะ” “ดูสิ สิวขึ้นด้วยอ่ะ อี๋ นี่หัวช้างหนิ ขอบีบได้ไหมอ่ะ” นิ้วไว้เล็บยาวเฟื้อยเข้ามาใกล้สิวบนหน้าผากของผมอย่างรวดเร็วโดยที่ยังไม่ได้เอ่ยตอบออกมาและเธอก็กดนิ้วด้วยเล็บคมๆ ของตัวเองนั่นจิกสิวบนหน้าผากผมเหมือนเป็นเรื่องง่ายดายทั้งที่ผมกรีดร้องแทบตายกลางโรงอาหาร “เฮ่ย โอ๊ย! โอ๊ยๆ ๆ ๆ อย่าน้ำ โอ๊ย โอ๊ย!” “โอ่ยโอ๊ยคิดถึงจังเธอ~~” เสียงเอื้อนร้องเพลงมาจากไกลๆ ก่อนจะเผยให้เห็นเจ้าของน้ำเสียงที่กำลังฮำเพลงพร้อมในมือถือห่อขนมเคี้ยวกรุบกรอบ ครับ ผู้ชายบ๋องๆ นั่นชื่อลำธาร เป็นเพื่อนผมอีกคน เรารู้จักกันตอนที่ผมมาเรียนที่นี่ปีแรก ท่าทางออกดูเหมือนคนสติเกินมาเยอะไปหน่อย แต่มันเป็นคนดีนะ และตอนนี้ ผมกับปลายน้ำก็กำลังจ้องมองท่าทางบ้าๆ ของมันอยู่ “อะไร? มองแบบนั้นคืออะไรครับ? ไม่รู้จักเพลงโอ๊ยโอ๊ยของแจ้ ดนุพลหร๋อม” “ฉันรู้จักแต่เวอชั่นเบน ชลาทิศย่ะ” “อุบ๊ะ! เจ้ฟังเพลงเก่าๆ แบบนี้ด้วยเหรอจ๊ะ” “อย่ามาเรียกเจ้นะอีธาร” “ทำไมเจ้? หรือให้เรียกเจ๊? เจ๊ปลายน้ำ~~” “เดี๋ยวจะเอาสิวที่หน้าวินมาป้ายหน้าแกนี่แหละ! ฉันไม่เข้าใจแกเลยจริงๆ บ้าอยู่แล้วจะทำตัวให้เหมือนคนบ้าทำไมอีกกลัวคนเขาไม่รู้หรือไงว่าแกบ้าน่ะ! ” “โอ๊ย กลัวแล้ว กลัวจังเลย~~ แต่ถึงจะบ้าพี่ลำธารก็บ้ารักนะคะ คริคริ...เอ่อ ไอ้วิน หน้ามึงนี่นะ หายหัวไปวันเดียวโทรมยังกะผี ขอบตาแกก็ดำ เมื่อวานกูกับน้ำส่งข้อความโทรหาแกยิ๊กๆ จนไฟไหม้สายก็ไม่ยอมรับ จนจะบุกบ้านแกอยู่แล้วเนี่ย! บอกแล้วไงเลิกกับสาว แต่ยังมีเพื่อนเป็นที่พึ่งนะ เย็นนี้เลิกเรียนไปตี้ร้านเกมดีกว่าไหมห้ะ? ” ลำธารกล่าวจบพลางตบที่ไหล่ผมเบาๆ ถึงจะพูดแบบนั้นแต่อะไรมันก็ยังทำให้ผมรู้สึกไม่ดีอยู่ดี เรายังกังวลแต่เรื่องของฟ้าอยู่ดี จนถึงตอนนี้ “ขอโทษนะครับที่ทำให้เป็นห่วง แต่...กูก็ยังรู้สึกไม่ดีเรื่องฟ้าอยู่ดีว่ะ อีกอย่างกูไม่ไปร้านเกมกับมึงหรอก ทำตัวเป็นเด็กไปได้ ทั้งที่มึงเล่นกากกว่ากูอีก” “เอ้า ใครบอกกูเล่นกาก เดี๋ยวนี้ฝีมือกูพัฒนาแล้วนะเว้ยทำเป็นเล่นไป อย่าหาว่าพี่ขี้โม้นะน้อง เมื่อวานชนะขึ้นแรงค์ Glorious Ruler แล้วนะครับไม่อยากจะโม้” ลำธารเก๊กท่าทำตัวมั่นอกมั่นใจจนน่าหมันไส้ ทั้งที่ในปากแม่งเคี้ยวขนมตุ่ยๆ เหมือนเด็กอยู่ดี “วิน ผู้หญิงดีๆ ไม่ได้มีคนเดียวบนโลกนะ บางทีอาจจะมีใครสักคนที่ยอมรับในตัวแกแล้วก็ชอบแกจริงๆ อยู่ก็ได้ ฉันเชื่อว่ามันต้องมี” ริมฝีปากฉีกยิ้มอย่างเป็นกำลังใจและพูดให้กำลังใจของน้ำ ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้างและฉุกคิดขึ้นมา บางที... เราควรจะก้าวผ่านมันออกมาให้ได้ตั้งนานแล้ว ผมไม่ควรใส่ใจมันเกินไปจริงๆ นั่นแหละ “ขอบใจนะ รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย” “หน่อยนี่มันเท่าไหนวะ” “จิ๊ดนิง เท่าเม็ดทราย” “โห่ ระดับคุณแม่ปลายน้ำไม่มีทางทำให้แกรู้สึกดีและคิดได้แค่จิ๊ดเดียวหรอกไอ้วิน เอ้า กินไหม?” ธารพูดพลางยื่นห่อขนมมาให้ทางนี้ “เออ หิวพอดี... เชี่ยไรเนี่ย ขนมบ้านมึงอะ นี่มันซองเปล่า” “ฝากทิ้งด้วย กูกินหมดละ ฮิฮิ ไปละ” พูดจบปุ๊บร่างก็รีบยกก้นวิ่งหนีออกไปก่อนที่ผมจะหยิบรองเท้าฟาดใส่ “ไอ้เชี่ยธาร ไอ้ห่านี่! อย่าให้เจออีกรอบนะ จะเอาซองเปล่ายัดปาก” “อร๊าย น่ากลัวจังเลย อย่าทำผมเลยครับ กรี๊ดๆ” [กำลังประมวลผลข้อมูล] ... “อ้า~ เหนื่อยยย กลับบ้านสักที” กลับมาถึงบ้าน ผมก็เอาหัวอิงแนบกับประตูบ้านไปโครมหนึ่งด้วยความเหนื่อย วันนี้วิชาไม่เยอะแต่โคตรจะเปลืองแรงเลย... “หื้ม?” พึ่งจะสังเกตเห็นกล่องอะไรบางอย่างวางนอนนาบข้างๆ ประตู “...อะไรวะเนี่ย จำได้ว่าไม่ได้สั่งอะไรมานะ” ผมจ้องมองกล่องพัสดุขนาดใหญ่อย่างพิจารณาพลางหันหน้ามองซ้ายขวามองไปรอบบ้าน เพราะกล่องนี่อาจะส่งมาผิดบ้าน แต่... มันจ่าหน้ากล่องชื่อตูนี่หว่า มันจะเป็นของคนอื่นได้ยังไงวะเนี่ย “เอ่อ... อ่า ช่างแม่ง เอาเข้าไปเปิดก็ได้ บางทีฉันอาจจะสั่งฟิคเกอร์มากั๊กไว้แล้วลืมก็ได้” ผมเปิดประตูบ้านออกกว้างพลางยกกล่องนั่นขึ้นมา แต่ แบบว่าอ๊ากกก อะไรเนี่ย ทำไมมันหนักยังกับอัดคนไว้ข้างในอย่างงั้นล่ะ เอาจริงดิ ผมชักไม่แน่ใจละว่าของในกล่องนี่มันของผมจริงๆ อะเหรอ เอาตัวดันไปที ยกขึ้นไปทีแต่มันแทบจะไม่กระดุกกระดิกเลยแม้แต่น้อย อะไรเนี่ยผมเริ่มสงสัยแล้วนะว่ามันอาจเป็นระเบิดจากคนคิดทำร้ายผมก็ได้ ถ้าหากว่ามีจริงๆ อ่ะนะ เอาไงดี... คิดอะไรไม่ออกเว้ย เอาเป็นว่าเดินกลับเข้าไปแล้ววางกระเป๋าสัมภาระ แล้วก็วกกลับมาหัวข้อเดิม คือ..จะเอาไอ้กล่องบ้านี่เข้าไปยังไง “ค่อยๆ ดันมันเข้าไปแล้วกัน” [กำลังสแกนหาข้อผิดพลาด...] ... “โว๊ว.. ในที่สุด” ผมใช้เวลาสักพักจนในที่สุดก็เอาเจ้ากล่องขนาดยักษ์ใหญ่เข้าไปในบ้านได้สำเร็จ แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังคิดอยู่ว่า ผมเผลอไปสั่งอะไรเข้าบ้านมาจริงๆ น่ะเหรอ “....ไม่แกะดูก็ไม่รู้...” นั่งแงะใช้มีดคัดเตอร์แกะเล็มเทปที่ห่อหุ้มกล่องไว้แน่นเหมือนไม่อยากจะให้ดูของข้างในจนกินเวลาล่วงเลยไปครึ่งชั่วโมงได้ “อ้า แกะหมดสักที อะไรกันที่ฉันสั่งมา....หื้ม...” แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่ผมเผชิญ เพราะว่าเหนือกล่องใบโต ยังมีกล่องข้างในอีกกล่อง... “ว้อยย จะไม่แกะแล้วนะเฮ่ย!” ถึงจะบอกไม่แกะ แต่สุดท้ายผมก็แกะกล่องนั่นออกมาอยู่ดี [อัปโหลดข้อมูลเสร็จสิ้น....] ... “นี่มัน...อะไรวะเนี่ย.. ม..หมายความว่ายังไง? นี่มัน...” เมื่อผมเปิดกล่องนั่นออกมาด้วยความเหนื่อยและคิดว่าถ้ามีกล่องอีกชั้นผมจะทิ้งมันจริงๆ แล้วนะ และนั่นแหละ มันทำให้ผมได้พบกับ... “ม..มีมนุษย์นอนอยู่ในกล่อง?!” ผมรีบตะกุยห่อซิลที่พันรอบๆ ร่างนั่นอย่างลนลานพลางเขย่าร่างที่นอนนิ่งไม่ไหวติงนั่น “เฮ้ คุณครับ ฮัลโหล ตายยังเนี่ย?” ภายในกล่องเป็นชายรูปร่างสูงสวมชุดสูทสีดำเข้มกับผมของเขาที่เป็นสีดำออกน้ำเงินเข้มเล็กน้อย... บ้า! ถ้าเกิดเป็นศพแล้วมีใครส่งโบ้ยความผิดมาให้ผมจะทำไงเนี่ย อย่าบอกนะว่านี่ศพอ่ะ งานหยาบตูแล้วนะเฮ่ย จากที่ซึมๆ พึ่งเลิกกับแฟนไป ต้องมาตาสว่างกับภาพตรงหน้าที่ชวนให้คิดมาก “ทำไงดี ฉัน..ฉันจะซวยไหม..คุณครับ ตื่นเซ่!!” ร่างตรงหน้ายังคงนอนแน่นิ่งไม่ขยับ แต่ว่าหน้าของเขาก็ไม่ได้ซีดเหมือนศพ อาจจะยังไม่ตายจริงๆ หรือไม่ก็...พึ่งตายเหรอ!! ไม่ๆ คิดมาก เขาอาจจะหายใจอยู่ ใช่แบบนั้น เป็นแบบนั้นแน่ๆ ผมลองยื่นนิ้วไปใกล้ๆ ปลายจมูกเพื่อพิสูจน์และเพื่อให้ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์แต่ว่า “ไม่หายใจ...” จบกันชีวิตบริสุทธิ์หรรษามันต้องดับลงในตรงนี้ แต่ตอนนี้ผมควรทำยังไงดี ผมนั่งจ้องมองชายปริศนาในกล่องด้วยความสับสน ก่อนอื่นผมควรเอาเขาออกมาจากกล่องนี่หรือเปล่า? แล้วเราค่อยวางแผนว่าจะทำยังไงกับมันดีไหม? ใช่ เอาแบบนั้นล่ะ ผมดันร่างที่นอนแน่นิ่งให้ลุกขึ้นแต่จะว่าไป มันหนักแปลกๆ หรือเปล่านะ เขาก็ไม่ใช่คนอ้วน แต่ทำไมความรู้สึกเหมือนผมกำลังยกรถถังมากกว่ายกคนออกมาจากกล่องล่ะวะ “อ่ะ..อะไรเนี่ย?” พึ่งจะเห็นว่าที่ท้ายทอยของเขามันมีรอยแปลกๆ เป็นขีดๆ อารมณ์เหมือนแบตโทรศัพท์ที่มักจะขึ้นโชว์มาบนหน้าจอ อะไร? รอยสักเหรอ? แต่มันเหมือนกับพลาสติกแข็งๆ ฝังอยู่ที่ท้ายทอยมากกว่า อะไร? แฟชั่น? “เหมือนพลาสติกฝังลงไปจริงๆ นะเนี่ย.. อ่ะ เหวอ!!” แค่สัมผัสมันเบาๆ จู่ๆ ชายตรงหน้าที่คิดว่าน่าจะตายไปแล้ว เกิดอาการกระตุกขึ้นมาเล็กน้อยดวงตาสีฟ้าอ่อนลืมตาขึ้นกะทันหันจนขวัญผมแทบกระเจิง เชี่ยเอ้ย มันเล่นกูแล้วไงพ่อครับแม่ครับ ช่วยด้วย ช่วยลูกด้วย!! ร่างสปริงตัวลุกขึ้นมานั่งนิ่งก่อนที่ดวงตาของเขาจะเปิดออกกว้างแล้วกวาดตามองไปรอบๆ ห้อง สีตาของเขาเป็นสีฟ้าแวววาวเหมือนกับสีของน้ำทะเลใสๆ ฟ้าแบบฟ้าจริงจังน่ะครับ พอนึกออกกันไหม? ใบหน้าของเขานั้นดูเรียวยาว ดูดีมากๆ บางที่เขาอาจเป็นคนต่างชาติหรือเปล่าผมควรทักถามเขายังไงดีนะ แต่เมื่อลองสังเกตดูดีๆ ที่ท้ายทอยของเขาที่ผมพูดถึงก่อนหน้านี้ มันกลับปรากฏแสงไฟสีฟ้าเล็กๆ ขึ้นโชว์เหมือนพลังแบตเตอรี่ ม..มันคืออะไร? หรือเขาไม่ใช่คน? เอเลี่ยนเหรอ เอเลี่ยนบรรจุกล่องแพ็คส่งมาบ้านผมเนี่ยนะ เขาจะมาลักพาตัวผมไปชำแหละดูเครื่องในไหมเนี่ย ตอนนี้ขาผมเริ่มสั่นระรัวเสียงสั่นตัวสั่น เอาเป็นว่ามันสั่นไปหมดจนขยับไปไหนไม่ได้นอกจากนั่งดูร่างตรงหน้าลืมตากะพริบถี่ยิก

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

Spicy Short Story Set 3 รวมเรื่องสั้นเผ็ดซี้ด ชุดที่ 3

read
1.0K
bc

ทาสเรือนพระยา

read
1.1K
bc

Change you!!! เปลี่ยนจากนายให้กลายเป็นสาว

read
1.9K
bc

The Night with the Beast ราตรีอสูร

read
1K
bc

マイBLノーベル เขียนนิยายให้กลายเป็นรัก

read
1K
bc

เริ่มแรกจากงานวิวาห์

read
2.8K
bc

My Doctor อกเคยหักเพราะรักหมอ

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook