13 ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ 3

1623 คำ
“จริงด้วยสิ นัดพี่ยาไว้นี่นา” เฌอลิณณ์หยิบกระเป๋าเงินใบน้อยลายตัวซีขึ้นมาถือไว้ในมือ แต่คนด้านข้างของเธอกลับนั่งนิ่งดูดกาแฟ ที่น้องชายซื้อมาให้อย่างสบายใจ มนรดามองเห็นแววหาเรื่องกันมาอีกแล้ว ไม่คิดว่าคุณสุดหล่อจะกวนบาทาขนาดนี้เหมือนกัน เลยได้แต่มองสบตากับรุ่นพี่แบบไม่รู้จะช่วยยังไง “คุณกลทีป์คะ” เฌอลิณณ์ใช้ความใจเย็นมากที่สุดกว่าครั้งไหน ๆ ฉีกยิ้มน่าเกลียดให้เขาแรง ๆ “ครับ” เขาวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ หันมามองเฌอลิณณ์ที่เตรียมพร้อมลุก มือหนึ่งถือแก้วกาแฟ อีกมือถือโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าเงินไว้ หญิงสาวขยับหน้าขึ้นเล็กน้อย “จะไปแล้วเหรอครับ” กลทีป์ตีหน้าซื่อไม่รู้เรื่องราวใส่ “ก็ใช่สิคะ” ต้องพูดดัง ๆ ใส่ เขาถึงยอมขยับออกไปยืนอยู่ข้างโต๊ะ เธอเลยไถตัวเองออกมาจากโซฟา “ไปก่อนนะคะ” มนรดายิ้มหวานให้ทั้งคู่ เฌอลิณณ์แค่โค้งศีรษะลง ก่อนเดินจากไปแบบเร็ว ๆ สองพี่น้องมองตากันเล็กน้อย ตอนนี้คนในร้านกาแฟเยอะขึ้นกว่าก่อนหน้า พวกเขาไม่สะดวกที่จะคุยกันต่อ พากันขึ้นไปยังชั้นยี่สิบห้า แต่ยังไม่ถึงเวลาทำงาน ก่อฤกษ์จึงไปขลุกอยู่ในห้องพี่ชายพร้อมแก้วกาแฟในมือ “มีอะไรอยากพูดก็พูดมา อย่ามานั่งจ้องหน้าฉันแบบนี้” กลทีป์เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามของน้องชาย รู้ว่าอีกฝ่ายมีเรื่องอยากถามเขามากแค่ไหน “ก่อนพี่ทีมาผมได้คุยกับสองสาวนั่น เลยได้รู้อะไรมานิดหน่อย” “รู้อะไร” อีกคนมองน้องชายแบบไม่ไว้วางใจ “ก็เรื่องของคุณเฌอลิณณ์นั่นแหละครับ” คำพูดแบบสบาย ๆ เหมือนไม่ได้รู้เรื่องสำคัญอะไรมา ทำให้กลทีป์ลอบถอนหายใจเบา ๆ “คุณเฌอลิณณ์เขาทำไม” “ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ว่าแต่พี่ทีรู้ไหมครับว่าสองสาวนั่นเรียกพี่ทีว่าคุณสุดหล่อ” “รู้สิ” ‘บ้าเอ๊ย’ ถูกน้องชายหลอกถามจนได้ ถึงกับถอนหายใจเบา ๆ เขารู้ว่าหญิงสาวเอาแต่เรียกเขาว่าคุณสุดหล่อ ตอนอยู่บนเตียงยังไงล่ะ “ว้าว ๆ นี่ใช่อย่างที่ผมคิดไว้จริง ๆ ใช่ไหมครับ คนที่ขึ้นเตียงกับพี่ทีคืนนั้น คือคุณเฌอลิณณ์เองเหรอครับ” แววตาของก่อฤกษ์เปล่งประกายราวคนเจอเรื่องสนุกเข้าให้ ยิ่งพี่ชายเขาวอแวหญิงสาวเมื่อครู่นี้ด้วย ยิ่งรู้สึกว่ามันชักจะยังไง ๆ กันอยู่ “ก็รู้อยู่แล้วนี่ ยังจะมาหลอกถามฉันอีกนะไอ้ก่อ” กลทีป์ปรายตามองน้องชายแบบไม่พอใจ แต่เขาไม่ได้โกรธหรือโมโหเท่าไรนัก ยังไงก่อฤกษ์ก็หูตาไวเป็นสับปะรด เรื่องแบบนี้ยากจะปิดบังได้ “พี่ทีรู้สึกยังไงบ้างครับที่จู่ ๆ ก็มีคนมาคลั่งไคล้ตัวเอง ขนาดเรียกว่าคุณสุดหล่อกันเลยนะ” ในคำถามมีความหยอกล้อพี่ชายไปด้วย “สยองจะตายไป” เพราะอดีตเคยมีสาว ๆ มารุมล้อมหน้าหลัง ไม่ว่าจะประถมมัธยมหรือมหาวิทยาลัย กลทีป์เลยรู้สึกอคติกับบรรดาสาว ๆ เหล่านั้นอยู่ไม่น้อย คนรักคนชอบมันก็ดีอยู่หรอก แต่หากมากไปมันก็น่ารำคาญอยู่เหมือนกัน ส่วนเฌอลิณณ์เขายังระบุไม่ได้ ว่าหญิงสาวอยู่ประเภทไหนกันแน่ “แต่ผมว่ายังไงก็คนกันเองนะครับพี่ที ลองศึกษากันไปก่อนก็ได้นี่ครับ” “นี่แกหมายความว่าไงก่อ แม่นั่นจะมาเป็นคนกันเองกับฉันได้ยังไง” คราวนี้เขาขึ้นเสียงดังใส่น้องชาย “พี่ทีก็รู้นี่ครับว่าความสัมพันธ์ของพี่ทีกับคุณเฌอลิณณ์ไม่ธรรมดา พี่ทีไม่อยากแสดงความรับผิดชอบเขาหน่อยเหรอครับ ถ้าให้ใจไม่ได้ก็มอบเป็นสิ่งของเงินทองก็ได้นี่ครับ หรือ...” เขาเว้นจังหวะเพื่อมองหน้าพี่ชาย รอยยิ้มนุ่ม ๆ ตรงมุมปาก ทำให้กลทีป์รู้สึกไม่ชอบมาพากล “หรืออะไรพูดมาดี ๆ นะก่อ” “ถ้าชอบก็จีบเลยครับ” “ไอ้ก่อ โน่นประตู เชิญ !” “คร้าบบ” ขืนอยู่ต่อคงได้เจอบาทาพี่ชายฟาดก้นเป็นแน่ ก่อฤกษ์รีบเปิดประตูออกไปอย่างว่องไว ในใจนึกสนุกที่ได้เห็นพี่ชายแสนขรึมคนนั้น มีสีหน้าที่แปลกใหม่ไม่จำเจเหมือนเช่นเคย แบบนี้สิ เขาถึงจะเรียกว่าชีวิตมีสีสัน ‘ใครจะไปชอบแม่นั่นกัน หน้าด้านหน้าทนจะตาย...’ แม้ในใจจะขัดแย้ง แต่ความจริงเขาควรแสดงความเป็นสุภาพบุรุษอย่างที่ก่อฤกษ์พูดจริง ๆ แล้วอะไรล่ะที่จะชดเชยเรื่องในคืนนั้นได้ ‘ไม่ใช่ว่าเฌอลิณณ์แอบสมใจไปแล้วรึ’ แค่คิดหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ พลันภาพเคลื่อนไหวในหัวก็ผุดขึ้นไม่ยอมหยุด ต้องทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา เหมือนคนหมดเรี่ยวแรงขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ส่วนสองสาวที่กลับขึ้นไปยังแผนกตัวเองนั้น กำลังยืนคุยกันเบา ๆ ในห้องครัว พากันวิเคราะห์สถานการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปอย่างตั้งใจ “ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเองมนไม่อยากเชื่อเลยนะคะ ว่าคุณสุดหล่อจะเสน่ห์แรงขนาดนี้ แม้ว่าเขาจะดูแปลก ๆ ไปบ้างก็เถอะ” มนรดายิ้มหวานให้กับใบหน้าแสนหล่อของกลทีป์ ปกติได้แค่ช่วยเฌอลิณณ์แอบมอง คราวนี้ได้เห็นใกล้ ๆ รู้สึกว่าเขาช่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ “ผิดประเด็นอยู่หรือเปล่ายัยมน พี่ถามว่าพี่มองคนผิดไปหรือเปล่า ทำไมเขาถึงได้ดื้อด้านแบบนั้นล่ะ ถึงได้บอกว่าคนเราน่ะ รู้หน้าไม่รู้ใจ” เขาควรจะสุขุมนุ่มลึกแบบพระเอกนิยายสิ นี่มันหน้าหนาหน้าทนกว่าเธอเสียอีก มันผิดพลาดตรงไหน สายตาเธอมีปัญหาหรืออย่างไรกัน “ไม่ผิดหรอกค่ะพี่ลิณณ์เขาหล่อจริง ๆ คุณก่อฤกษ์น้องชายเขาก็น่ารัก แต่เขามาหลอกถามมนด้วยนะคะ ว่าทำไมเราสองคนถึงเรียกพี่ชายเขาว่าคุณสุดหล่อ” ผู้ชายคนนี้ทำมนรดากระอักกระอ่วนใจชอบกล ดูยิ้ม ๆ ร่าเริง ๆ แต่สายตาอันตรายเป็นอย่างมาก เฌอลิณณ์กุมขมับเล็กน้อย เธอก็ปากไวไร้ปัญญาไม่ต่างจากมนรดาเลย คิดแล้วก็ขำออกมาเบา ๆ “หัวเราะอะไรคะพี่ลิณณ์ คุณก่อฤกษ์คนนี้น่ากลัวนะคะมนว่า ดูคิดอะไรอยู่ในใจตลอดเวลา แล้วตอนมองพี่ลิณณ์กับพี่ชายของเขาเอง มุมปากเขาก็กระตุกนิด ๆ ด้วย” มนรดาพูดไปตามความรู้สึกของตัวเอง “แล้วตอบคุณก่อฤกษ์เขาไปยังไง” ปล่อยไปกันสองคนแบบนั้น มนรดาจะทันเหลี่ยมก่อฤกษ์หรือเปล่าก็ไม่รู้ “ก็ต้องตอบว่าเพราะหล่อไงคะ เลยเรียกคุณสุดหล่อ ไม่มีอะไรจริง ๆ ค่ะ คุณก่อฤกษ์ก็เออออตามนะคะไม่ได้ถามอะไรต่อ แต่เหมือนเขาอมยิ้มแบบไม่เชื่อ หรือเขารู้เรื่องที่พี่ลิณณ์แอบชอบพี่ชายเขาแล้ว” การคาดเดาของมนรดาทำให้เฌอลิณณ์ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ออกมา ถ้าเขารู้เรื่องนี้จริงเธอคงกลายเป็นเรื่องน่าขำ ของสองพี่น้องนั่นไปแล้ว “ไม่รู้สิถ้าพี่ชายเขาเป็นคนเปิดเผยกับน้องชาย คงเล่าหมดแหละพี่ว่า” “ดูแล้วคงเล่าจริง ๆ แหละ ดูจากสายตาที่เขามองพี่ลิณณ์กับคุณกลทีป์แล้ว มันมีลับลมคมในอยู่” คำพูดของมนรดาทำเฌอลิณณ์หน้าซีดเล็กน้อย หวังว่าเขาจะไม่เล่าเจาะลึกถึงเรื่องบนเตียงหรอกนะ ‘โอ๊ย แค่คิดก็เครียด’ ยกมือขึ้นกุมขมับตัวเองแรง ๆ ก่อนจะเอามือออก เงยหน้าขึ้นมองมนรดาอีกรอบ “คุณกลทีป์เขาขู่พี่อยู่หรือเปล่ายัยมน” “ขู่เข่ออะไรกันคะพี่ลิณณ์ นั่นเหมือนมา...” คำว่าจีบไม่กล้าพูดออกไป เพราะดูแล้วคงเป็นไปได้ยาก ไม่อยากให้ความหวังจนเกินควร “มาอะไร” คิ้วเรียวสวยเลิกสูงทั้งสองข้าง ท่าทางลังเลไม่กล้าพูดของมนรดามันผิดปกติ “มาทักทายอยากทำความรู้จักกันไว้ไงคะพี่ลิณณ์ ญาติของอดีตเจ้าสาวตัวเองทั้งคนนี่คะ” พูดแล้วก็ลอบถอนหายใจเบา ๆ “เขาไม่ได้อยากรู้จักพี่สักหน่อย เขาแค่อยาก” ‘ปิดปากพี่’ ทั้งคู่หยุดคุยกันเมื่อพีรยาเดินเข้ามาในแผนก หลังจากเป็นตัวแทนของทุกคน นำกระเช้าไปเยี่ยมศิวกรที่โรงพยาบาล พร้อมกับแจ้งข่าวดี พรุ่งนี้ศิวกรน่าจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว วันจันทร์คงมาทำงานตามปกติ เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ สามสาวต่างยิ้มยินดี ต่างแยกย้ายกันกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะของตัวเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม