Chapter 19

2061 คำ
"แหม แห่กันมาต้อนรับกันใหญ่เลยนะ ไอ้เวร" คณณัฐ์สบถออกมา สายตาจับจ้องไปที่ฝ่ายศัตรู ซึ่งเขาสังเกตว่าฝ่ายนั้นก็เป็นเพลเยอร์หรือผู้มีพลังพิเศษเหมือนกัน โดยฝ่ายศัตรูใช้ลูกไฟขว้างใส่ทีมสวาทและทีมหน่วยรบพิเศษ เสมือนกับปาระเบิดใส่แต่อานุภาพของลูกไฟจะสูงกว่า ปกรณ์วุฒิใช้พลังกำไลปัดป้องการโจมตีของศัตรูไว้ "พวกมันไม่ยอมให้พวกเราเข้าไปในคาสิโนแน่ ๆ" ด้านร้อยเอกหลิวเสี่ยวเสี่ยวก็ทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกให้ปรมัตถ์เปิดทาง ด้วยการใช้ลมพายุพัดไปทางศัตรูเพื่อชะงักการโจมตีของฝั่งนั้น ทหารหญิงแกร่งบอกให้ทุกคนทั้งหมดปิดหู รอบนี้ปรมัตถ์ไม่พลาดเหมือนคราวก่อน เขาเอาสองมือปิดหูทันที ร้อยเอกหลิวเสี่ยวเสี่ยวออกมาเผชิญหน้ากับศัตรู พร้อมส่งเสียงคำรามกึกก้องราวกับราชสีห์ บรรดาเหล่าแก๊งขวานซิ่งที่เจอคลื่นเสียงคำราม ต่างเอามือปิดหูไม่ทันก็พากันล้มลงนอนกับพื้นแน่นิ่ง ไม่เพียงเท่านั้นปรมัตถ์พบว่าพลังเสียงของร้อยเอกหลิวเสี่ยวเสี่ยว ยังมีพลังทำลายล้างถึงขั้นซากรถหรืออาคารโดยรอบ ถูกบดขยี้ราวกับถูกค้อนขนาดใหญ่ทุบ ผ่านไปสามนาทีกว่า ๆ ก็กลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง ส่วนร้อยเอกหลิวเสี่ยวเสี่ยวก็รวบรวมลมปราณไว้ที่ท้อง แล้วผ่อนลมหายใจออกจากปากเป็นควันสีขาวเหมือนกับไอเย็นยามฤดูหนาว "พวกมันตายไหม" หนึ่งในทีมจ่าสิบเอกแลนเดนถามขึ้น "ไม่ แค่สลบไปเท่านั้น" ร้อยเอกหลิวเสี่ยวเสี่ยวตอบและหันไปทางหัวหน้าทีมสวาทของตำรวจ "ถ้าความเป็นไปได้อยากให้ใส่กุญแจมือพวกมันคะ" เธอบอก "อืม เข้าใจแล้ว" หัวหน้าทีมสวาทพนักหน้าและออกคำสั่งกับลูกทีม เข้าล็อกกุญแจมือใส่พวกที่นอนสลบอยู่ จ่าสิบเอกซูหลงปานำเครื่องบินโดรนขนาดเล็กเข้าไปสำรวจภายในอาคารก่อน ภาพจากโดรนจะปรากฏบนหน้าจอบนจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งสิ่งที่ทุกคนเห็นคือสถานการณ์ด้านใน ฝ่ายศัตรูเหมือนกำลังพยายามทำลายสิ่งที่อาจถูกใช้เป็นหลักฐานได้ หากปล่อยไว้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน ร้อยตำรวจเอกอารักษ์ หัวหน้าทีมสวาทอาสาจะโอบเข้าโจมตีทางขวามือ โดยจะให้ลูกทีมโยนระเบิดเฟรชเข้าไป แล้วทีมจ่าสิบเอกแลนเดนกับทีมร้อยเอกหลิวเสี่ยวเสี่ยว ค่อยเข้าโจมตีพร้อมกันแบบไม่ให้พวกมันตั้งหลักได้ เมื่อวานแผนกันเรียบร้อยแล้วทีมสวาทนำเข้าไปในคาสิโนก่อน โดยร้อยตำรวจเอกอารักษ์เดินมาที่ประตูทางเข้าไปสู่ลานจอดรถ โชคดีที่ด้านหลังไม่มียามเฝ้าระวัง แต่ก็โล่งใจได้ไม่นานเพราะในจังหวะที่ร้อยตำรวจเอกอารักษ์เดินมาถึงประตู มันก็ดันเปิดออกพอดีกับที่มีแก๊งขวานซิ่งเดินออกมา สองลูกทีมสวาทรีบรวบตัวศัตรูเอาไว้ในทันที แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้วเพราะดันมีคนหนึ่งรอด และวิ่งไปเตือนภัยคนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างใน ทำให้แผนแรกแตกโดยที่ยังไม่ทันเริ่ม ร้อยตำรวจเอกอารักษ์วิทยุบอกกับอีกสองทีม ให้เตรียมตะบุมบอนแทน ร้อยเอกหลิวเสี่ยวเสี่ยวหันมาสั่งให้ทุกคนเตรียมเคลื่อนพล ยกเว้นปรมัตถ์และหลี่ชิงชิงโดยสองหัวหน้าทีมของทั้งสองยุวชนทหาร ได้มอบหมายให้ปรมัตถ์กับหลี่ชิงชิง ออกไปค้นหาห้องใต้ดินที่ใช้กักขังเหล่าเด็กสาวและช่วยพาออกมา จากนั้นจ่าสิบเอกหลงซูปาก็มอบพิกัดให้ปรมัตถ์ "หาพวกเธอให้เจอ" ปรมัตถ์กับหลี่ชิงชิงต่างพยักหน้ารับและวิ่งแยกไปอีกทาง ทั้งคู่รอให้ฝั่งตนเองบุกเข้าไปสู้ด้านในก่อน แล้วค่อยแอบเข้าไปด้านในซึ่งปรมัตถ์คิดจะขึ้นไปชั้นสองของคาสิโน น่าจะหลีกเลี่ยงการปะทะที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ "ฉันขอขึ้นไปก่อน เธอค่อยตามมา" ปรมัตถ์หันมาบอก "นึกว่าเธอจะใช้คำว่า "เชิญสุภาพสตรีก่อน" ซะอีก" หลี่ชิงชิงสัพยอกอีกฝ่าย แม้สถานการณ์ตอนนี้จะไม่เหมาะก็ตาม ปรมัตถ์ที่ได้ยินก็หันมาพูดใส่หลี่ชิงชิงทันควันเลยว่า "ประโยคแบบนั้นมันเชยไปไหม ชิงชิง" +++++++ ระหว่างที่ชั้นล่างกำลังวุ่นวายกับการตะลุมบอนกันอยู่ ปรมัตถ์กับหลี่ชิงชิงก็เข้ามาข้างในคาสิโนชั้นสอง พวกเขาเดินก้มต่ำเพื่อไม่ให้ศัตรู้เห็น จากในพิกัดที่ได้มาห้องใต้ดินจะมีลิฟท์ลับอยู่ที่ห้องทำงานของเจ้าของคาสิโน ซึ่งจามข้อมูลในห้องประชุม คนที่ทำหน้าที่ดูแลคาสิโนคือ คลั่งใหญ่บ้าคลั่ง ลูกน้องคนสนิทของโอโตฮวา ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของมันแม้แต่กับมาเฟียตระกูลปลาทอง ตามแฟ้มประวัติอาชญากรรมที่มันก่อ เรียกได้ว่าครบสูตรคนโฉดชั่วไม่ต่างจากลูกพี่ของมันอย่างโอโตฮวา สายสืบที่เคยเก็บข้อมูลเคยเห็นมันใช้ขวานเล่มใหญ่คู่ ชำแหละร่างศัตรูเหมือนกำลังหั่นเนื้อสัตว์ นอกจากคลั่งใหญ่บ้าคลั่งแบ้วมันยังมีน้องชายพ่วงมาอีกสอง คลั่งรองคุ้มคลั่ง และ คลั่งสามเพ้อคลั่ง อดีตโจรป่าที่โอโตฮวานำมาชุบเลี้ยงเป็นสุนัขล่าเนื้อ คำถามต่อมาคือหลังจากโอโตฮวาถูกจับไปไอ้สามตัวนี้ไปมุดหัวที่ไหน เว้นเสียแต่มันสามตัวก็ได้รับคำสั่งให้ตามล่าโอโตฮวาด้วย "ห้องทำงานของมันอยู่ที่ไหน" หลี่ชิงชิงถามดึงสติของปรมัตถ์กลับมาโฟกัสที่ภารกิจ ห้องทำงานของคลั่งใหญ่บ้าคลั่งอยู่ด้านหลังห้อง VIP ไป ถึงแม้ไฟฟ้าในคาสิโนจะไม่สามารถใช้งานได้ แต่ห้องทำงานของบอสใหญ่ที่นี้ จะมีไฟฟ้าสำรองไว้ใช้ฉุกเฉิน แต่ก็เฉพาะห้องทำงานกับห้องขังใต้ดินเท่านั้น "ขอให้พวกเธอรอด" หลี่ชิงชิงพึมพำแต่ปรมัตถ์ที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปได้ยิน "อืม หวังอยู่เหมือนกัน" ปรมัตถ์บอก ทั้งสองเข้ามายังห้องทำงานของคลั่งใหญ่บ้าคลั่งได้สำเร็จ ไฟฟ้าที่นี้ยังคงทำงานอยู่เช่นเดิมแต่มันก็ไร้วี่แววเจ้าของห้อง ปรมัตถ์ลากเก้าอี้ออกมาจากโต๊ะ และก้มลงดึงลิ้นชักใต้โต๊ะทางขวามือ ยุวชนทหารหนุ่มเจอปุ่มสีแดงที่อยู่ในลิ้นชัก เขาเอานิ้วกดปุ่มดังกล่าวเกิดเสียงการทำงานกลไกดังขึ้น หลี่ชิงชิงเหลียวหลังไปดูพบว่าผนังที่มีกรอบภาพถ่ายคาสิโน แท้จริงแล้วมันคือประตูลิฟท์ที่จะพาไปสู่ห้องลับ เธอกดปุ่มลงล่างในทันทีและกำกระบี่ไว้แน่น สองนาทีต่อมาประตูลิฟท์ก็เปิดออกและทั้งคู่ก็เดินเข้าลิฟท์ พร้อมกับกดปุ่มลงชั้นใต้ดินและเพื่อความไม่ประมาท ทั้งสองเตรียมที่จะรับมือสถานการณ์ไม่คาดคิด ผ่านไปหกนาทีเสียงลิฟท์ดังขึ้นเป็นการบอกว่า ทั้งสองได้มาถึงที่หมายเรียบร้อยแล้ว ปรมัตถ์ขอให้หลี่ชิงชิงหลบไปอยู่ด้านหลังก่อน จากนั้นเขาก็รวบรวมพลังวายุไว้ที่สองฝ่ามือ ประตูลิฟท์เปิดออกแต่ด้านนอกกลับว่างเปล่า ไม่มีวี่แววของศัตรูแต่อย่างใด เขาเดินออกจากลิฟท์อย่างระแวดระวังส่วนหลี่ชิงชิงชักกระบี่ออกมาและเดินตามหลังปรมัตถ์ออกจากลิฟท์ บริเวณโดยรอยรอยเหมือนเป็นระเบียงทางเดิน พื้นที่ไม่ได้กว้างมากนักปรมัตถ์จึงคิดว่าตรงนี้คงมีไว้ลำเลียงพาเด็กสาวขึ้นลิฟท์ เพื่อไปให้บริการแขก VIP จากข้อมูลตรงนี้ที่ได้จากแขนขวานของโอโตฮวา เขากับหลี่ชิงชิงต้องเดินตรงไปอีกหน่อย มันจะมีประตูบานหนึ่งที่ต้องใส่รหัสด้วยการสแกนนิ้ว หลี่ชิงชิงมีความกังวลหน่อย ๆ เพราะทั้งคู่ไม่มีตัวอย่างลายนิ้วของโอโตฮวา ทว่าปรมัตถ์กลับคิดว่านี้ไม่ใช่อุปสรรค และดวงตาของเขากลายเป็นสีฟ้าเข้มแล้วซัดฝ่ามือไปที่ประตู ผลคือประตูกระเด็นออกเปิดทางให้ทั้งสองเดินเข้าไป และพอทั้งสองเดินเข้ามาก็ได้เจอกับบรรดาเด็กสาวหลายสิบชีวิต นั่งกอดกันด้วยความหวาดกลัว หลี่ชิงชิงสังเกตว่าแต่ละคนมีทั้งอายุมากกว่าทั้งอายุน้อยกว่า และยังมีอายุไล่เลี่ยกับเธอด้วยเช่นกัน ในตอนแรกทุกคนดูหวาดกลัวทั้งสอง แต่เมื่อสังเกตว่าเครื่องแบบทหารที่พวกเขาสวมใส่ สีหน้าของพวกเธอเหล่านั้นส่งประกายแห่งความหวังออกมา หลี่ชิงชิงรีบวิ่งเข้ามาดูพวกเธอเผื่อว่าจะมีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ด้านปรมัตถ์ก็ทำการวิทยุรายงานว่าเขาเจอกลุ่มเด็กสาวแล้วซึ่งทางศูนย์บัญชาการก็ตอบกลับว่าจะมีการส่งความช่วยเหลือเข้าไป ระหว่างนี้ปรมัตถ์กับหลี่ชิงชิงต้องคุ้มกันพวกเธอไปก่อน เจอคำสั่งแบบนี้ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความวิตกกังวล เนื่องจากจำนวนผู้หญิงที่ถูกจับมีจำนวนมากกว่าที่คิดมาก ดังนั้นการจะคุ้มกันพวกเธอจึงเป็นเรื่องยาก "เอาไงดี" หลี่ชิงชิงถาม "ขอเวลาฉันคิดก่อน" เขาตอบก่อนจะรวบรวมสมาธิเพื่อส่งโทรจิตไปหาเพื่อนทั้งสามของเขา เดชะบุญที่ทั้งสามขานรับ [ฉันเจอพวกเด็กสาวแล้ว แต่จำนวนเยอะเกินไปฉันกับหลี่ชิงชิงคุ้มกันกันเองไม่ไหวหรอก] ปรมัตถ์บอก [เยอะขนาดนั้นเลยหรือเพื่อน] คณณัฐถาม [นับด้วยตาเปล่าน่าจะเกินสามสิบแล้ว] ปรมัตถ์พูดเสียงเครียดปนวิตกกังวล [โอเค เข้าใจแล้วพวกเรากำลังตามไป] บุญธรพูด หลี่ชิงชิงที่กำลังดูแลเด็กสาวคนหนึ่งที่อายุไบ่เลี่ยกับเธอ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณขา สอบถามได้ใจความว่าเด็กสาวมีชื่อว่า โซฟี ถูกลักพาตัวตอนมาเที่ยวที่เมืองนี้ และพึ่งถูกทุบตีจากแขก VIP หลี่ชิงชิงที่ได้ยินก็ถึงกับเดือดดาลพลางคิดในใจว่า ถ้าเธอรู้ว่ามันเป็นใครละก็กระบี่เล่มนี้พร้อมตัดสายพานแห่งการสืบพันธุ์ของเดรัจฉานในร่างมนุษย์นั้นเสีย ทางด้านปรมัตถ์ที่คอยระแวดระวังภัย เขารู้สึกใจคอไม่ดีนักอาจเพราะเขาไม่เจอตัวการใหญ่อย่างคลั่งใหญ่บ้าคลั่ง ยุวชนทหารหนุ่มเชื่อว่าเป้าหมายยังอยู่แถวนี้แน่ ๆ เพราะเขาสัมผัสได้ถึงพลังของมัน ทันใดนั้นเองที่ปรมัตถ์สัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่พุ่งตรงมาทางเขาอย่างรุนแรง ในเสี้ยววินาทีนั้นเองยุวชนทหารหนุ่มใช้แรงลมผลักคนอื่น ๆ ไปข้างหลังของเขา ก่อนจะใช้พลังวายุสร้างโล่ป้องกันคมขวานที่ฟาดลงมากลางศีรษะ หวังจะฟันเป็นสองซีกเหมือนผ่าแตงโม ปรมัตถ์ที่ป้องกันไว้ทันก็ส่งลูกถีบอัดเข้ากลางลำตัว ทำให้ศัตรูกระเด็นไปชิดกับผนัง ปรมัตถ์ตั้งท่าต่อสู้ทันทีและพูดกับหลี่ชิงชิงทั้งที่ตายังจ้องศัตรู "พาพวกเธอออกจากที่นี้ซะ !" เขาร้องบอก "แล้วเธอล่ะ" หลี่ชิงชิงถาม "ไม่ต้องห่วง รีบไป !" หลี่ชิงชิงพยักหน้าและตะโกนบอกคนอื่น ๆ ให้รีบพากันวิ่งไปอย่างทางออก ฝั่งศัตรูที่เห็นก็พยายามจะเข้ามาขัดขวางแต่ก็เจอศอกขวาพุ่งอัดกระแทกตรงสีข้าง มันจุกจนเซไปด้านข้างเปิดโอกาสให้เหล่าเด็กสาวหนีรอดไปได้ ปรมัตถ์ย้ายมายืนขวางประตูไว้ เขามองศัตรูที่สูงใหญ่กำยำพอ ๆ กับโอโตฮวา ถือขวานใหญ่คู่ตามร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล ที่ทับซ้อนกับรอยสักมังกร ในที่สุดไอ้คลั่งใหญ่บ้าคลั่งก็ปรากฏตัว ++++++
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม