Chapter.1 นี่คือการกระทำของคนที่เจอกันครั้งแรก?!
หนึ่งปีก่อน
ร่างเพรียวบางยืนชื่นชมตัวเองในกระจกบานใหญ่ ตอนนี้เธอกลายเป็นคุณหนูมาโอะ ฟุกิฮาระ ในชุดเจ้าสาวสีงาช้างกับดีเทลลายปักดอกซากุระเล็กๆซึ่งบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ว่ามาจากดินแดนอาทิตย์อุทัย
แม้ความจริงถิ่นกำเนิดเธอจะมาจากชุมชนแออัดใจกลางกรุงเทพมหานคร แต่เธอจะพยายามวางท่าทีสีหน้าให้สมกับที่ใครต่อใครก็ว่าเธอช่างละม้ายคล้ายมาโอะ ไม่ว่าจะเป็นความสูงที่ไล่เลี่ยกัน บวกกับโครงหน้าที่ใกล้เคียงทำให้เธอเตะตามหาเศรษฐีชาวอิตาเลียนผู้เปลี่ยนชีวิตเธอราวกับฝัน
ซึ่งตอนนั้นเธอไม่รู้ว่างานของคนพวกนี้จะเอี่ยวกับคดีอุกอาจและอาชญากรรมน่ากลัวทั่วโลก พวกเขาส่งมอบอาวุธร้ายแรงให้ประเทศผู้นำกระหายอำนาจและล้มเหลวทางเศรษฐกิจ
“ฟู่วว..”
เธอแขม่วท้องพ่นความหวั่นกลัวและประหม่าออกมาพร้อมลมหายใจที่ถอนออกมาพรืดใหญ่
“วันนี้เราจะได้เจอกันแล้วนะคะ โลเรนโซ เจ้าบ่าวรูปหล่อของวาโย”
เธอคลี่ยิ้มจนตาหยีขณะคุยกับตนเองในกระจก นอกจากค่าจ้างจำนวนแปดหลักที่จะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเธอและน้องๆต่างพ่ออีก4คนให้ดีขึ้นแล้ว
สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจให้คนจนตรอกอย่างเธอตัดสินใจเลือกงานประหลาดนี้โดยไวคงไม่พ้นใบหน้าเจ้าบ่าวผู้หล่อเหลา
‘โลเรนโซ่’
รอยยิ้ม ภาพเคลื่อนไหวแม้เห็นผ่านภาพหน้าจอก็ทำเอาเธอตกหลุมรักเอาง่ายๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ต้นกำเนิดเสียงเคาะโต๊ะจากมือที่ประดับด้วยเพชรเม็ดโตของมาดามอลิซเซ่ปลุกเธอหลุดจากอาการเหม่อ
“..!”
เธอสะดุ้ง ยืดคอตั้งหลังตรงตามที่มาดามเคยสั่ง
“ได้เวลาไปพบเจ้าบ่าวเธอแล้ว”
“ค่ะ”
ระหว่างทางเดินไปสู่ห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าว ดวงตาสีฟ้าที่เลื่อนมาขอบหางตาชายมองเธอแล้วตำหนิเบาๆขณะที่ฝีเท้ายังก้าวเดินฉับๆ
“ถ้าจะเชิดคอขึ้นก็ไม่ต้องยิ้มแฉ่งหรือกลอกตาลอกแล่กสิมันดูตลก!!”
“ขอโทษค่ะ” เธอรีบโค้งศีรษะลกๆ ทำเอาบรรดาบอดี้การ์ดและช่างแต่งหน้าที่เดินตามหลุดขำสายตาที่ทุกคนมองกันต่างเห็นพ้องต้องกันว่า
‘ไม่รู้ว่ารอบนี้มาดามไปขุดหล่อนคนนี้มาจากไหนกันนะถึงได้ดูตลกขนาดนี้’
เธอเหม่อลอยอยู่ในภวังค์ภาพชายหล่อเหลา วาดฝันถึงสัมผัสหวานละมุนไว้มากมาย
พอมาเจอเข้าจริงๆ
“เอ่อ..”
หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ ชายใบหน้าหล่อยิ้มละมุนคนนั้น
ทำไมถึงได้กลายเป็นชายใบหน้าดุดัน ดวงตาแดงขุ่นขวาง คิ้วเข้มขมวดตึง อยู่ในชุดสูทสีดำนั่งท่าแสนสบายดูไม่ตื่นเต้นและไร้ชีวิตชีวา เขามีรอยสักลามมาถึงลำคอ ไม่บอกก็รู้ว่าใต้ร่มผ้านั้นจะถูกประทับด้วยรอยสักมากขนาดไหน
“คะ..คนนี้เหรอคะ?”
ใบหน้าสวยใต้ผ้าเวลโปร่งแสงเนื้อบางเบาปกคลุมใบหน้าเจ้าสาวค่อยๆ เหลือบหันไปมองมาดามร่างสูงสง่าผู้เป็นมารดาของเขาด้วยข้อกังขา
“ออ ฉันลืมบอกไปว่าภาพนั่นเป็นภาพเมื่อห้าปีก่อนของโลเรนโซ่น่ะ”
มาดามอลิซเซ่ยักไหล่ตอบอย่างไม่ยี่หระก่อนเชิดหน้าเดินนำเธอเดินเข้าไปหาเขา
“มาสิ!”
แม้แข้งขาแข็งทื่อก้าวลำบากแต่ยังพยายามเดินไปด้วยท่าทีตื่นกลัวแถมยังยืนหลบหลังมาดามอลิซเซ่ไม่ต่างจากเด็กตื่นผู้คนและสถานที่ใหม่ๆ
“ไง มาโอะ ฟื้นจากความตายแล้วสินะ”
เขาเอ่ยเสียงงึมงำเพราะปากคาบบุหรี่เตรียมจุด
“อะฮึ่ม”
มาดามอลิซเซ่ปรามบุตรชายแบบอ้อมๆเพราะเธอไม่ถูกกับกลิ่นควันบุหรี่
ทว่าเขากลับทำหน้าท้าทาย จุดไฟ ดูดเข้าเต็มปอดก่อนพ่นออกมาจนคลุ้ง
“ฟู่ววว”
มาดามอลิซเซ่ยืนกอดอกแข็งทื่อราวกับหุ่นขี้ผึ้ง สายตาเพ่งจ้องมองลูกชายไม่กระพริบ
วาโยยืนกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ให้กับสถานการณ์ที่น่าอึดอัดยิ่งกว่าชุดเจ้าสาวที่รัดคลอเซ็ทจนเอวคอดเหลือ22นิ้วนี้
“ถ้าไม่อยากทนดมกลิ่นหอมๆนี้ก็ควรรีบๆพูดมาสิครับ”
“แม่พาหนูมาโอะมาทำความสนิทสนมกับลูกก่อนเข้าพิธีน่ะ พอถึงเวลาจะได้ไม่เคอะเขินเงอะงะเหมือนคนไม่สนิทกัน”
“ออ เข้าใจแล้วครับ” โลเรนโซ่เอียงคอชะเง้อมองดูเจ้าสาวที่ยืนตัวทื่อเป็นเสาแขวนผ้าคลุมอยู่ข้างหลังแม่เขา
“นี่ ปิดมิดชิดขนาดนั้นเชียว?”
“มาโอะจ๊ะ เปิดผ้าคลุมสิ”
“ค่ะ”
เธอค่อยๆเผยใบหน้าเรียวสวยอวดสายตาเจ้าบ่าว
“เฮอะ..”
แต่เขากลับหัวเราะออกมา
“คิดว่าจะตบตาผมได้เหรอครับมาดาม?”
วาโยหน้าซีด รู้สึกผิดที่เธอไม่สามารถแสดงได้แนบเนียนพอ
มือใหญ่คีบบุหรี่บี้ลงบนโซฟาจนเป็นรอยไหม้ก่อนกระดกนิ้วเรียกเธอ
“มานี่สิ”
ผู้เป็นแม่กลอกตาไปมาอย่างหัวเสีย ไม่รู้ว่าเพราะโซฟาไหม้หรือเพราะว่าลูกชายรู้ทันเรื่องเจ้าสาวตัวปลอมกันแน่
“ไปซะสิ”
“ค่ะๆ” เธอรีบทำตามอย่างลนลาน สะโพกหย่อนลงนั่งบนโซฟาคนละตัว
“ไม่ๆ หมายถึงตรงนี้” โลเรนโซ่ชี้มาที่ตักตนเอง
วาโยเหลือบมองมาดามอลิซเซ่อย่างขอความเห็น แต่ความว่างเปล่าในแววตาเย็นชาหน้านิ่งๆนั้นทำเธอจำฝืนทำตามอย่างว่าง่าย
วาโยกลั้นหายใจชั่วขณะ เมื่อบั้นท้ายแตะสัมผัสตักแกร่งแม้จะมีกระโปรงฟูฟ่องกั้นกลางก็ยังรู้สึกเคอะเขิน
“อุ๊ย!”
หญิงสาวสะดุ้งโหยงเมื่อถูกมือหนาลูบต้นแขนซ้าย ส่วนมือขวาของเขาหนักยิ่งกว่าเพราะกำลังล้วงเข้ามาลูบเรียวขาเนียนนุ่ม
“มะ มาดาม” เธอพยายามร้องขอความช่วยเหลือ
แต่มาดามอลิซเซ่กลับเพิกเฉยไม่สนใจ
“นี่ เฉยๆเถอะน่า”
“ฮึก ไม่นะ”
เธอพยายามปัดป่ายมือใหญ่ออกแต่เขาสวนกลับหนักด้วยการใช้สองมือใหญ่บีบขยำหน้าอกจนเนื้อนุ่มหยุ่นพอดีมือล้นทะลักออกนอกเกาะอก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวดเร็วจนเธอตั้งรับไม่ทันอกสั่นขวัญแขวนไม่คิดว่าโลเรนโซ่จะมีนิสัยป่าเถื่อนกล้าลวนลามเธอแบบโจ่งแจ้งได้ขนาดนี้
“ฮึก ปล่อยนะ! มะ มาดามช่วยด้วยค่ะ”
มาดามพ่นลมหายใจออกหนักๆเหมือนกำลังเอือมระอาแทนที่จะรีบเข้าช่วย
“เอาล่ะ เชิญตามสบาย”
ซ้ำยังบอกอย่างนั้นกับลูกชายก่อนเดินออกไปราวกับว่านี่คือเรื่องปกติ
เสียงร่ำร้องสั่นกลัวยิ่งกระตุ้นให้โลเรนโซหัวเราะออกมาอย่างพอใจ สองมือย้ายจากทรวงอกมือข้างหนึ่งเลื่อนต่ำลงมาตะปบเนินเนื้อ และอีกข้าง เขาสอดล้วงเข้ามาสัมผัสผิวเนื้อโดยตรง
“ฮึก..ช ช่วยด้วย!”