เสียงพลุและดอกไม้ไฟดังไปทั่วบริเวณ ซินเฟยยิ้มสดใสเป็นยิ้มครั้งแรกในรอบหลายปีมานี้ ชุดสีขาวขลิบแดง ส่งให้ผิวขาวนวลเนียนแม้ใบหน้าจะซีดจางลงจากการเสียเลือด ไปแต่ก็คงความงดงามไม่เปลี่ยน เดินบนถนนเพียงลำพัง อย่างน้อยตอนนี้ก็มีอาวุโสย่าหนานที่ยืนเคียงข้าง แม้บิดาจะเอ่ยปากตัดพ่อตัดลูกเมื่อครั้งถูกสอบสวนเรื่อง ลักลอบได้เสียกับองครักษ์ต่ำชั้นตามคำกล่าวหา ซินเฟยมิได้มีความรู้สึกเสียใจ ดีใจเสียด้วยซ้ำที่บิดาไม่ต้องมารับผลกระทบในคำกล่าวหาที่ซินเฟยต้องแบกรับเพียงลำพัง ซินเฟยยังจำแววตาเจ็บซ้ำของบิดาได้ดี เมื่อตัดพ่อตัดลูกกับซินเฟยในวันนั้นต่อหน้าฮองเฮา ตอนนี้จึงนับว่าตัวคนเดียวโดยแท้ เช่นนั้นจึงไม่ต้องกังวลสิ่งใดต่อจากนี้
แบมือดูเหรียญเงินในมือที่อาวุโสให้มามีเพียงไม่กี่อีแปะ คงพอซื้อน้ำตาลก้อนมากินได้เพียงอย่างเดียว
เดินมาหยุดที่ร้านขายน้ำตาลที่เป็นรูปสัตว์ต่างๆ หยิบเอามาถือไว้ก่อนจะหย่อนเงินเพียงน้อยนิดลงบนมือของพ่อค้า
“คุณหนูสองอันแค่ห้าอีแปะจะรับสองอันเลยไหม”
“ข้ามีเงินเพียงเท่านี้ มีเพียงแค่สามอีแปะ” ร่างสูงชลูดของใครบางคน ส่งเหรียญเงินสองอีแปะลงบนมือพ่อค้า ก่อนจะหยิบน้ำตาลมากัด
“สองอัน ห้าอีแปะ ข้าเอาอีกสองอันส่งเงินห้าอีแปะใส่มือพ่อค้าก่อนจะส่งน้ำตาลก้อนรูปดอกไม้สีแดงให้กับซินเฟย ซินเฟยเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาราว เทพมาจุติอาภรณ์ที่สวมใส่หาใช่คนเดินถนนทั่วไปไม่
“ขอบคุณ แต่ข้ารับไว้ไม่ได้ ท่านเป็นคนจ่ายเงินก็นำมันไปเถิด”จิวซัว ยิ้มพิศมองใบหน้าสวยหวานอีกทั้งชุดสีขาวขลิบแดงที่ ประณีตงดงามส่งให้ร่างบางยิ่งอ้อนแอ้นอรชร จิวซัวยิ้มวันนี้โชคดีเหลือเกินพบหญิงงามถูกตาต้องใจไม่ต้องเดินเพียงลำพัง
“ข้าอาศัยโอกาสที่พ่อค้าลดราคาให้แม่นางจึงได้มันมา ครั้งนี้ถือว่าตอบแทนข้าให้แม่นางไม้หนึ่งถือว่าเป็นการขอบคุณน้ำตาลเพียงแค่ไม้เดียวเจ้าคงกินไม่หน่ำใจ”
“ข้าชอบความไม่หน่ำใจนั้น ทำให้รู้สึกถึงรสอร่อยอยากลิ้มลองอีกไม่มีสิ้นสุดหากครั้งไหนที่กินจนอิ่ม ท่านก็จะไม่อยากกินมันไปอีกนาน”จิวซัวอมยิ้มแนวคิดของนางช่างแปลก
"ข้ามาแค้วนฉินเพียงลำพัง ยังหาคนเดินเคียงคู่ในคืนนี้ไม่ได้เจ้าคงเป็นคนที่นี่ จะรบกวนไหมหากข้าจะให้เจ้าเป็นผู้ชี้แนะในค่ำคืนนี้” สายตาพึงพอใจทอดไปยังซินเฟยที่พยายามหลบตา
ซินเฟยยิ้ม บางๆ
“ข้าต่ำต้อย ไม่อาจเดินเคียงข้างใคร ขอตัว”ก้าวขา จากไป จิวซัวเลิกคิ้วสูงไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไรผิดหรือนางไม่พอใจอะไรในตัวเขา ความจริงมีเพียงซินเฟยเท่านั้นที่รู้ดีว่าตัวเองไม่สมควรสานสัมพันธ์กับผู้ใด
จิวซัวสาวเท้าตามซินเฟยไปห่างๆ ซินเฟยแม้จะรู้ว่าถูกตามก็ไม่ได้กังวลอะไร
“ตูม”ดอกไม้ไฟส่องสว่างทั่วฟ้าซินเฟยแหงนหน้ามองท้องฟ้าสุกสว่างเผลอยิ้ม ให้กับความงดงามนั้น
"ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี"เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ ซินเฟยหุบยิ้มก้มหน้ามองพื้น ใจเจ้ากรรมกับรู้สึกเจ็บแปลบ
จางหลง ฮองเฮาซูจิน และไทฮองไทเฮายืนอยู่หน้ามุข ที่ประดับโคมไฟสวยงาม ซูจินยืนเคียงข้างจางหลงด้วยท่าทีดุจนางพญาหงส์ ซินเฟยมือไม่สั่นใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มีความรู้สึกอยากหนีไปจากตรงนี้ หันหลังวิ่งออกจากตรงนั้นเมื่อจางหลงหว่านเหรียญทองในมือ ผู้คนต่างก้มลงเก็บเหรียญทอง กันจ้าระหวั่นมีเพียงซินเฟยที่ออกวิ่งล้มลุกคลุกคลาน ทั้งโดนผลักโดนดัน จิวซัวทะยานขึ้นไปข้างบนด้วยสุดยอดวิชา ก่อนจะคว้าเอวบางพาทะยานขึ้นสู่หลังคาออกจากตรงนั้นไป จางหลงจ้องมองร่างคนสองคนตาไม่กะพริบ ซินเฟยหันหน้าไปมองจางหลงก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้จิวซัวพาออกจากตรงนั้นไป
“ฝ่าบาทเกิดอะไรขึ้น”ซูจินไม่ทันได้เห็น รู้แต่เพียงว่าจางหลงทอดสายตามองใครอยู่
“คนที่มารับเหรียญทอง คงถูกผลักจนล้มลงดีที่มีคนช่วยไว้ทัน”ซูจินยิ้มๆ
“ผู้คนล้วนมาชมบารมีของฝ่าบาทมากมายจึงมีบ้างที่จะได้รับบาดเจ็บ เช่นนั้นซูจินให้เขานำเหรียญมาให้ฝ่าบาทโปรยอีกมากหน่อย เพื่อจะได้แจกจ่ายกันทั่วถึง”จางหลงยิ้มเป็นการตอบตกลง ซูจินโบกมือให้ขันที ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้จางหลง
กองไฟถูกเติมด้วยฟืนท่อนยาวที่จิวซัวลากมาสุมไว้
“แม่นางทำไมต้องวิ่งหนีจากตรงนั้นด้วย”
ซินเฟยนิ่งเงียบ ไม่เอ่ยคำใด
“ขอโทษที่ข้าละลาบละล้วงหากไม่อยากพูดถึงมันก็อย่าได้เกรงใจ”ซินเฟยก้มหน้านิ่ง
เสียงฝีเท้าม้าควบตะบึงมาแต่ไกล จิวซัวผิวปากเพียงครั้งเดียว ม้าก็มาหยุดยืนตรงหน้าบุรุษร่างสูงอีกคน ในชุดพรางตัวกระโดดลงจากหลังม้า เหลือบตามองซินเฟย ก่อนจะประสานมือคารวะจิวซัว
“ฝ่า..คุณชายข้าตามหาทันจนทั่วเขตวังหลวงคิดว่าเกิดอันตราย”จิวซัวยิ้มอ่อนโยน ซินเฟยลุกออกจากตรงนั้นเพื่อเป็นการไม่เสียมารยาทที่นั่งฟังคนอื่นคุยกัน
“ข้าปลอดภัยดี”พูดด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ฝ่าบาทการเดินทางมาครั้งนี้อันตรายไม่น้อย หากคนของแคว้นฉินรู้ว่าฝ่าบาทอยู่ที่นี่อาจ จับตัวเพื่อต่อรองด้านการศึก”
“ความจริง กองกำลังของเราก็ประชิดชายแดนแคว้นฉินแล้วเหลือแต่ว่าจะเข้าโจมตีเมื่อใดเท่านั้น”
“เมื่อฝ่าบาท ชมวังหลวงของแคว้นฉินจนพอใจแล้ว ข้าน้อยเห็นว่าสมควรกลับไปที่ค่ายของเราจะดีกว่า”
“ทีแรกข้าก็คิดว่าจะกลับไปแต่ตอนนี้ขอรั้งอยู่ที่นี่นานหน่อย”เหลือบตามองซินเฟยที่อยู่ห่างออกไป
“ฝ่าบาท เกรงว่าจะเกิดอันตราย”
“ข้าเชื่อว่าข้าเอาตัวเรอดได้ เจ้าระหว่างนี้ไปมาอย่าทิ้งร่องรอย ข้าเองก็จะเร้นกาย เพื่อความปลอดภัย”เหลือบตามองไปที่ซินเฟยที่ยืนกอดอกเพราะความหนาว
“นาง ..ฐานะนางคงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนกิริยานางต่างจากหญิงชาวบ้านทั่วไป”
“ข้าก็คิดเช่นนั้นหากข้าพึงใจนางเจ้าคิดเห็นเช่นไร”
“ฝ่าบาท ที่มาที่ไปนางไม่ชัดเจนเกรงว่า”
“ข้ายังไร้ฮองเฮาข้างกาย เจ้าคิดว่านางไม่เหมาะสมเช่นนั้นหรือ ที่ข้านังไม่แต่งตั้งฮองเฮาเพราะยังไม่เจอคนที่ถูกใจ แต่ที่ผ่านแค่สบตานางข้าก็รู้ได้ทันทีว่านางแตกต่างจากคนอื่น”
“ฝ่าบาทโปรดไตร่ตรองแคว้นเหลี่ยงของเราใช่ว่าจะไร้ซึ่งหญิงงามแต่เดิมเป็นเพราะฝ่าบาทไม่ทรงเปิดใจ”จิวซัวถอนหายใจ
“ไว้ข้าไตร่ตรองอีกทีหากข้าและนางมีวาสนาต่อกัน อีกไม่นานเจ้าคงเห็นข้าพานางกลับไปยังแคว้นเหลี่ยง”ทหารองครักษ์ประสานมือก่อนจะจากไป