ตอนที่ 1 บทนำ

1854 คำ
“แม้นชาตินี้ข้ามิได้สมหวังในรักกับเจ้า หากชาติหน้ามีจริงแล้วไซร้ ขอให้ข้าได้พบเจ้าและครองคู่ด้วยกันทุกชาติทุกภพ ข้าขอตั้งจิตอธิษฐาน จะมีเพียงเจ้าเป็นคู่ครองของข้าเท่านั้น ลี่เซียน” ถ้อยคำเจรจากลั่นออกมาจากหัวใจ ก่อนจะถึงวาระสุดท้ายของชีวิต มอบให้นางฟ้าแสนสวยของบุรุษผู้ทระนง จ้าวเทียนอี้ ในชุดเกราะระดับนายทหารชั้นสูง ผู้ซึ่งขึ้นชื่อได้ว่าเป็นแม่ทัพใหญ่คอยปกป้องแผ่นดินของราชวงศ์ถังมาโดยตลอด ทว่าวาระสุดท้ายของชีวิตจากแม่ทัพอันเป็นที่โปรดปรานจักรพรรดิถังเสวียนจง กลับกลายเป็นบุคคลที่ทรงตามล่าและชิงชังอย่างยิ่งยวด ด้วยเพราะพระสนมเอก เจาอี๋ หรือพระนามเดิมคือ ลี่เซียน กลับมีใจรักมั่นให้กับแม่ทัพใหญ่หาใช่องค์จักรพรรดิแต่อย่างใด และโทษที่คนทั้งสองได้รับนั้นก็คือความตาย ทว่าทั้งสองกลับยินดีที่ได้พบกับความตาย เพียงสิ่งเดียวที่ร้องขอนั้นก็คือขอตายเคียงคู่กัน และองค์จักรพรรดิก็ทรงมอบให้ตามที่ทั้งสองร้องขอทุกประการ ดวงหน้างามดั่งพระจันทร์ หันกลับไปมองที่ชายคนรักอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก พระสนมเอกเจาอี๋อยู่ในชุดฉลองพระองค์ขั้นที่สองแห่งราชวงศ์ถัง กำลังนั่งคุกเข่าอยู่พื้นดิน ตรงหน้าคือหลุมขนาดใหญ่ที่ขุดไว้เพื่อฝังศพคนทั้งคู่ บัดนี้พระสนมคนงามที่สุดในราชสำนักถูกปลดกลายเป็นหญิงสามัญชน ด้วยโทษฐานที่ไม่จงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิ มอบหัวใจให้กับชายอื่นทั้งๆ ที่เข้าวังมาเพื่อถวายตัวให้เป็นพระสนมต่อองค์ฮ่องเต้เพียงผู้เดียว “ข้าจะถามอีกครั้งเจาอี๋! เจ้าจะมอบกายถวายชีวิตและจิตใจให้กับข้าหรือไม่!” เสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ รับสั่งถามกึกก้องท่ามกลางความเงียบของรัตติกาล ดวงตาสีนิลคู่สวยที่มองอยู่แต่พื้นดิน ค่อยๆ มองปลายพระบาทขององค์จักรพรรดิทรงประทับยืนตรงหน้านางก่อนจะเงยใบหน้าแสนสวยราวกับนางฟ้าอย่างยิ่งยวดขึ้นมองพระองค์ ดวงตาคู่สวยสบพระเนตรสีนิลกาฬขององค์ฮ่องเต้ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำที่ทำให้พญามังกรผู้ยิ่งใหญ่เสียพระทัยอย่างยิ่งยวด “หม่อมฉันไม่สามารถกระทำตามพระประสงค์ของฝ่าบาทได้เพคะ หัวใจทั้งหมดของหม่อมฉันมีเพียงท่านแม่ทัพจ้าวเทียนอี้แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น พระองค์แสร้งถามหม่อมฉันเพื่อการใดอีก ทรงล่วงรู้ดีว่าหม่อมฉันและท่านแม่ทัพเทียนอี้มีใจรักมั่นต่อกัน แต่เพราะพระองค์! พระองค์ทรงใช้อำนาจบังคับหม่อมฉันทั้งที่ไม่เต็มใจ” พระสนมโฉมงามเอ่ยตอกกลับไปตามความเป็นจริง “กรอดดด!!!” เสียงกัดพระทนต์เข้าหากันจนแน่นแทบจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ เสียให้ได้เมื่อทรงได้ยินคำตอบของพระสนมคนโปรด พระวรกายสูงใหญ่ก้าวประชิดแม่ทัพหนุ่มที่กำลังนั่งคุกเข่าเคียงข้าง พร้อมใช้พระหัตถ์กระชากเส้นผมอย่างแรงจนใบหน้าหล่อเหลาของเทียนอี้แหงนไปตามแรงกระชาก “มันมีดีอะไรเจ้าถึงรักมัน! แทนที่จะรักข้าเจาอี๋! ข้าเป็นถึงองค์จักร-พรรดิหามีผู้ใดกล้าปฏิเสธข้าแต่อย่างใด แต่เจ้ากลับปฏิเสธไม่รับรักข้า ทั้งๆ ที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะแต่งตั้งเจ้าให้เป็นกุ้ยเฟยจนถึงสถาปนาเจ้าให้เป็นฮองเฮาเคียงข้างกายข้า เมื่อข้าได้เข้าหอกับเจ้าแล้ว แต่นี่กระไรช่างขลาดเขลาสิ้นดีกลับเลือกมันที่เป็นเพียงแม่ทัพของข้า ทำไมเจาอี๋! ทำไม!” รับสั่งตะคอกดุดัน พระเนตรแทบถลนออกมาจากเบ้าเลยทีเดียว “ก็เพราะหม่อมฉันรักท่านพี่เทียนอี้! หามีใจรักฝ่าบาทแม้แต่น้อย! ทรงได้ยินหรือไม่ว่าหม่อมฉันไม่เคยรักพระองค์! และไม่คิดจะรักด้วย” พระสนมคนงามเอ่ยถ้อยคำอย่างเด็ดขาด ฮ่องเต้หนุ่มแทบสิ้นไร้เรี่ยวแรงและพละกำลังเมื่อทรงได้ยินเช่นนั้น พระหทัยเจ็บแปล๊บปวดร้าวอย่างยิ่งยวด แม้ว่าจะทรงมีพระสนมมากมายและมีพระมเหสีอยู่แล้วหลายพระองค์ แต่เจาอี๋หรือลี่เซียนเป็นสตรีเดียวที่ทรงตกหลุมรักและหลงรักนางทันทีที่ได้ทอดพระเนตร แต่นางกลับมอบหัวใจให้กับขุนพลใหญ่ข้างพระวรกายแทนที่จะเป็นพระองค์ “ดี! รักกันมากใช่ไหม ในเมื่อรักกันปานจะกลืนกินถึงเพียงนี้ข้าก็จะส่งเจ้าสองคนให้ไปอยู่ปรโลกเสียด้วยกันทั้งคู่บัดเดี๋ยวนี้!...ทหาร!” รับสั่งตะโกนก้องท่ามกลางรัตติกาล “พะย่ะค่ะ!” ทหารองครักษ์ขานรับอย่างพร้อมเพรียงกัน “ตัดหัวจ้าวเทียนอี้! ส่วนเจาอี๋ นำนางไปฝังทั้งเป็นให้นางเห็นผู้ชายที่ตนรักในสภาพไร้หัวจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต!” รับสั่งพร้อมทอดพระเนตรร่างพระสนมคนงามด้วยความเสียพระทัยอย่างยิ่งยวด ก่อนจะก้าวพระบาทยาวๆ ออกไปจากบริเวณลานกว้างที่เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ไพศาล โดยไม่หันกลับมาทอดพระเนตรอีกเลย “ท่านแม่ทัพ!” ทหารองครักษ์เอ่ยกับอดีตผู้นำของตน เมื่อก้าวมาหยุดยืนตรงหน้าอดีตขุนพลกล้า “ข้าเข้าใจเจ้า เร่งลงมือเถิดอย่าได้ชักช้าหากแต่ก่อนตายข้าขอร้องบางสิ่งบางอย่างกับเจ้าจะได้หรือไม่” แม่ทัพหนุ่มกล่าวพร้อมหันกลับไปมองคนรักของตน ซึ่งใบหน้างามเต็มไปด้วยความเศร้าโศกอย่างเห็นได้ชัด “ท่านมีสิ่งใดจะสั่งความกับข้าอย่างนั้นหรอกหรือท่านแม่ทัพ” ทหารองครักษ์คนดังกล่าวเอ่ยถามกลับไป “ในรถม้ามีห่อผ้าที่มีเครื่องใช้ส่วนตัว ข้าใคร่ขอให้นำห่อผ้านั้นมาฝังไว้พร้อมกับศพของข้าและลี่เซียนด้วยเถิด” ทหารองครักษ์พยักหน้าขึ้นลงเป็นการตอบรับ “ได้! ข้าจะไปเอามาให้ท่าน” ทหารคนดังกล่าวรับคำพร้อมก้าวเดินตรงไปยังรถม้าที่จอดอยู่ไม่ไกลจากลานประหารชั่วคราวเท่าใดนัก ก่อนจะกลับมาพร้อมกับห่อผ้าขนาดใหญ่ที่บรรจุของมีค่ามากมายอยู่ภายในนั้น พร้อมชูขึ้นให้กับแม่ทัพใหญ่และสนมคนงามได้เห็นเป็นครั้งสุดท้าย “ข้าจะฝังห่อผ้าพร้อมของทั้งหมดในนี้ไปพร้อมกับท่านแม่ทัพและพระสนม และขอให้รับรู้ไว้เถิดว่าข้าทำตามพระบัญชาขององค์ฮ่องเต้และนับถือท่านแม่ทัพเสมอ” จ้าวเทียนอี้พยักหน้าขึ้นลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น พร้อมหันกลับไปสบเนตรสีดำสนิทของพระสนมคนงามที่หันกลับมามองตนเช่นกัน “เราจะได้เจอกันอีกลี่เซียน ไม่ว่าจะกี่ชาติข้าจะตามเจ้าให้พบเราทั้งสองจะได้ครองคู่กันอีกครั้ง” พระสนมแสนสวยยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ข้าจะรอท่านพี่ จ้าวเทียนอี้บุรุษเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ในหัวใจของข้าตลอดกาลและทุกชาติไป” สิ้นเสียงของพระสนมคนงามถุงผ้าสีดำสนิทถูกคลุมลงบนศีรษะของนางอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงตะโกนก้องของคนรัก “ข้ารักเจ้าลี่เซียน!!!” เสียงบอกรักครั้งสุดท้ายของแม่ทัพใหญ่ดังกึกก้องท่ามกลางความเงียบงัน “ฉัวะ!!!” เสียงคล้ายของมีคมลงดาบบนเนื้อได้ยินอย่างชัดเจน “ตุ้บ!” ศีรษะของแม่ทัพใหญ่ถูกตัดออกจากลำคอด้วยความรวดเร็ว ร่างสูงใหญ่ในท่าคุกเข่าบัดนี้ไร้หัว มีเพียงเลือดสีแดงฉานไหลทะลักดั่งเขื่อนกั้นทำนบแตกพุ่งกระฉูดออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้น “ช่วยกันนำร่างของท่านแม่ทัพพร้อมกับหัวเอาไปวางไว้ในหลุม” เสียงของทหารองค์รักษ์คนดังกล่าวร้องบอกเพื่อนพ้อง ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของพระนางลี่เซียน “ท่านพี่!” เสียงร่ำร้องเพรียกหาชายคนรักดังออกมาเบาๆ พร้อมกับผ้าที่คลุมศีรษะเมื่อครู่ที่ผ่านมาถูกดึงออกเผยให้เห็นร่างไร้วิญญาณของคนรักนอนเหยียดยาวในสภาพไร้หัวหากแต่วางอยู่ข้างลำตัวแทน “ได้โปรดเถิดข้าขอร้อง ช่วยนำหัวของท่านแม่ทัพไปวางไว้ติดกับลำตัวด้วยเถิด อย่าวางแบบไร้ทิศทางเฉกเช่นนี้เลย” พระนางพูดพร้อมร่ำไห้ออกมาเบาๆ ข้างฝ่ายบรรดาทหารเมื่อได้ยินเช่นนั้นต่างทำตามคำร้องขอเป็นครั้งสุดท้ายของพระสนมเอก ศีรษะที่ถูกตัดขาดออกจากกันบัดนี้ถูกนำมาต่อติดกันไว้ดั่งเดิมพร้อมกับวางห่อผ้าที่บรรจุของสำคัญมากมายและหนึ่งในนั้นก็คือตำราเวทมนตร์ตั้งแต่ยุคสร้างแผ่นดินจีนนั่นเอง ซึ่งถูกคัดลอกจากกระดองเต่าในสมัยราชวงศ์ซางและมีบางส่วนคัดลอกบนกระดาษอย่างดี สามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลานานหากเก็บรักษาไว้อย่างมิดชิด บรรดาทหารก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าอดีตพระสนมพร้อมเอ่ยขึ้น “ถึงเวลาของพระนางแล้วพ่ะย่ะค่ะ” กล่าวพร้อมทำท่าจะเข้ามาดึงร่างอรชรตรงหน้า “พวกเจ้าไม่ต้องมาจับข้า ข้าจะเดินไปที่หลุมฝังศพด้วยตัวของข้าเอง” ร่างอรชรลุกขึ้นยืนจากพื้นอย่างช้าๆ พร้อมก้าวเดินตรงไปที่หลุมศพตรงหน้าก่อนจะก้าวลงไปนอนเหยียดยาวเคียงคู่กับศพของชายคนรัก “ท่านพี่เทียนอี้” สนมคนงามเพรียกหาชื่อเจ้าของหัวใจนางก่อนจะใช้แขนเรียวสวมกอดร่างไร้วิญญาณเอาไว้จนแน่น “เราจะได้พบกันอีกแน่นอนข้าจะรอท่าน” เสียงหวานรำพึงกับร่างไร้วิญญาณก่อนจะกระชับห่อผ้าที่มีของสำคัญอยู่ในนั้นซึ่งมีเพียงพระนางเท่านั้นล่วงรู้จากปากของชายคนรัก ว่าสิ่งล้ำค่าดังกล่าวคือสิ่งที่องค์จักรพรรดิทุกราชวงศ์ตามหามาโดยตลอด “ท่านจะต้องได้กลับมาอีกครั้ง” พระสนมคนงามรำพึงออกมาเบาๆ พลางหลับตาลงพร้อมกอดร่างของคนรักเอาไว้แนบแน่นภายในหลุมศพของคนทั้งสอง พร้อมพึมพำออกมาเบาๆ "ขอสวรรค์เบื้องบนได้โปรดรับดวงวิญญาณของข้าและเทียนอี้ด้วยเถิด หากแม้นจะทรงเมตตาขอให้ข้าได้กลับมามีโอกาสแก้ไขเหตุการณ์ในวันนี้อีกครั้ง ให้ข้าเต็มไปด้วยสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดไม่โง่เขลาเบาปัญญาดั่งเช่นในชาตินี้" จิตสุดท้ายสนมเอกคนงามอธิษฐานขอความเมตตาจากสวรรค์เบื้องบน ดินมากมายเริ่มสาดลงไปในหลุมอย่างรวดเร็วจนหลุมขนาดใหญ่บัดนี้เต็มไปด้วยจำนวนดินทรายนับไม่ถ้วนอัดเอาไว้จนแน่นกลบร่างไร้วิญญาณอดีตขุนพลชื่อก้องแห่งต้าถังและร่างของพระสนมคนงามเจาอี๋ของจักรพรรดิถังเสวียนจงไปชั่วนิจนิรันดร ภายในพื้นที่โล่งกว้างเต็มไปด้วยท้องทุ่งและผืนป่านอกเมืองฉางอานติดกับเมืองลั่วหยาง เสียงสุดท้ายยังคงดังก้องออกมาจากหลุมศพตรงหน้าอย่างแผ่วเบา “ข้าจะรอท่านจ้าวเทียนอี้!!!!” “ข้าจะตามหาเจ้าลี่เซียน!!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม