Chapter 2
รักต้องรุก (2)
มทนาลัยเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ยายตลับซึ่งมีศักดิ์เป็นคุณยายทวดเพราะท่านเป็นคุณยายของบิดาบุญธรรม สองฝาแฝดนั่งขนาบอยู่ข้างซ้ายและขวาคนที่มีอายุมากที่สุดในโต๊ะอาหาร ตรัยคุณนั่งลงข้างๆ คุณน้าฝั่งตรงข้ามกับหลานสาว ส่วนหัวโต๊ะนั้นน้าเขยของเขาเป็นผู้ครอบครอง เมื่อสมาชิกพร้อมหน้าพร้อมตา เวลาอาหารเย็นจึงเริ่มขึ้นด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากบทสนทนาที่แลกเปลี่ยน อันมาจากความคิดถึงที่นานๆ จะเจอหน้ากัน เหตุเพราะตรัยคุณมัวทำแต่งานเลยไม่ค่อยกลับบ้านสวนมาเยี่ยมญาติๆ ได้บ่อยครั้งนัก เมื่อมีโอกาสได้มาชายหนุ่มจึงมักจะอยู่ยาว ถือโอกาสเติมพลังให้ชีวิตด้วยธรรมชาติอันเขียวรื่นและทะเลสีคราม ก่อนจะกลับไปแบกรับภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงที่รออยู่ คืออนาคตที่เขาสร้างมันขึ้นมาด้วยสมองและสองมือ
มทนาลัยอมยิ้มขณะใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกที่อบมาร้อนๆ ซึ่งทรายมาศรู้ดีว่าเป็นสิ่งที่ต้องมีบนโต๊ะอาหารทุกมื้อหากสองสาวมาเยี่ยมบ้านสวน หล่อนจึงเตรียมไว้สำหรับสองฝาแฝดโดยเฉพาะท่ามกลางสายตาของตรัยคุณที่เหลือบมองคนตรงหน้ากำลังส่งไส้กรอกเข้าปาก หล่อนช้อนสายตามองพร้อมใบหน้าที่แดงซ่านเมื่อนึกไปถึงเรื่องความลับที่ถูกขู่เอาไว้ไม่ให้บอกใคร
สองมือแกร่งกำช้อนและส้อมอย่างลืมตัวเมื่อยามจ้องมองไส้กรอกอันใหญ่กำลังลอดผ่านเรียวปากสีสดก่อนจะถูกฟันซี่คมขาวสะอาดกัดกินด้วยลีลาที่ทำเอาเขาเสียววาบอยู่ในท้องน้อย มันทั้งปั่นป่วนคลื่นเ**ยนหวิวโหวงราวมีผีเสื้อนับพันบินวนอยู่ข้างใน เขาห้ามความคิดไม่ได้จริงๆ เมื่อภาพเมื่อคืนคอยแต่จะผุดขึ้นมาในความทรงจำ
'เค้ก! อย่า-ยั่ว-กัน-จะ-ได้-มั้ย'
เขาเข่นเสียงในใจข่มขู่คนขี้แกล้งด้วยสายตาดุๆ และหล่อนก็ช่างเหลือเกิน เหมือนรู้ว่าคนมองกำลังใจกระเจิดกระเจิงร้อนรุ่มจนนั่งแทบไม่ติด จึงยิ่งแสดงท่าทีเพื่อแกล้งให้เขาอกแตกตายกลางโต๊ะอาหารมื้อเย็น
"อะแฮ่ม" ตรัยคุณกระแอมเพื่อเตือนคนที่นั่งอมยิ้มอยู่ฝั่งตรงข้าม บอกเป็นนัยๆ ให้หล่อนหยุดทำท่าทางและสีหน้าแววตาแบบนั้นเสียที ท่าทีของเขาเรียกสายตาทุกคู่ให้โฟกัสมาเป็นจุดเดียว
"เป็นอะไรจ๊ะ"
"ระ รู้สึก...คันคอน่ะครับ"
ตอบพลางรีบหยิบน้ำมาจิบกลบเกลื่อน ในขณะที่มทนาลัยปิดปากซ่อนขำ เมื่อเห็นคนตรงหน้าต้องมาฟุ้งซ่านเพราะตน
"ต้องแอบกินอะไรแสลงมาแน่ๆ เลยค่ะ ถึงได้คันคอแบบนี้"
มทนาลัยหัวเราะใส่ตาคนที่กำลังเขม่นมองด้วยสีหน้าข่มขู่อาการแปลกๆ ของตรัยคุณกับน้องสาวฝาแฝดไม่อาจหลอกเซ้นส์อันแสนดีเยี่ยมของมุกตาภาได้ แววตาคู่สวยเหลือบมองหน้าคนสองคนสลับกันไปมาอย่างสงสัย ในขณะที่ตรัยคุณไม่ทันสังเกตเห็น
'เค้ก...อาตุลย์...ต้องมีอะไรแน่ๆ'
"เอาเถอะ กินข้าวกันต่อได้แล้วจ้ะ"
ทรายมาศและคนอื่นๆ ไม่ได้สังเกตเห็นถึงความไม่ปกตินั้น นอกจากมุกตาภา...เขาว่าคนเป็นฝาแฝดกันมักจะมีสัมผัสพิเศษที่เชื่อมถึงกัน ซึ่งนั่นก็คงจะจริง เพราะแฝดผู้พี่เริ่มจะสงสัยในพฤติกรรมแปลกๆของน้องสาว หากแต่หล่อนก็นิ่งดูท่าทียังคงไม่พูดอะไรออกมา
ตรัยคุณเลิกสนใจมทนาลัย ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาทานอาหารไม่สนใจว่าหล่อนจะแสดงท่าทีอะไรออกมาเพื่อแกล้งเขากลางโต๊ะอาหาร คิดคาดโทษเอาไว้ กลับกรุงเทพฯเมื่อไหร่เขาจะโยนงานให้หล่อนรับผิดชอบจนไม่มีเวลามาคิดเล่นอะไรแผลงๆ ได้อีกเลยทีเดียว...ถึงเวลาแล้วที่หลานสาวของเขาจะต้องโตขึ้นไปอีกขั้น ก้าวเข้าสู่วัยทำงานที่ความคิดอ่านก็ควรที่จะโตตามภาระหน้าที่ของตัวเอง
"กลับไปจากบ้านสวน สาวๆ จะเริ่มงานเลยหรือเปล่าจ๊ะ"
ทรายมาศหันมาถามหลานชาย เพราะเท่าที่หล่อนรู้ตรัยคุณอยากให้ทั้งสองช่วยงานที่บริษัท งานบริหารที่ชายหนุ่มปูทางไว้ให้สองสาวเรียบร้อยแล้ว
"หลานสาวของคุณน้าเนื้อหอมไม่เบา เพราะตั้งแต่ยังเรียนไม่จบเพื่อนของผมก็จองตัวอยากให้ไปช่วยงานที่บริษัทของเขา แต่ผมก็คงจะปล่อยไปไม่ได้ ลงทุนส่งไปเรียนถึงต่างประเทศ กลับมาก็ต้องใช้งานให้คุ้มค่าหน่อย"
ชายหนุ่มหัวเราะตบท้าย เขาหมายถึงนคินทร์ที่เคยเอ่ยปาก
อยากได้สองสาวไปช่วยงานเพราะเห็นว่าได้เรื่องภาษา หากแต่ว่าเขาได้ปูทางงานภายในเอนจิ้นไว้แล้ว เพราะทางนี้เองก็อยากได้คนช่วยงานเช่นเดียวกัน
"เค้กขอเป็นเลขาอาตุลย์เพื่อทดลองงาน แต่อาตุลย์ใจร้ายจะให้จับงานบริหารเลย"
"เรียนจบตั้ง UCLA ก็ต้องทำอะไรให้สมกับความรู้ที่เรียนมาอย่างยากลำบากหน่อยสิครับ อาไม่ต้องการเลขา แต่อยากได้คนช่วยงานบริหาร เข้าใจมั้ยฮึ!"
น้ำเสียงนั้นฟังดูจังจริง อีกทั้งแววตาดุๆ ก็ทำให้มทนาลัยก้มหน้างุด นึกน้อยใจที่เขาไม่พูดดีๆ กับตนเหมือนที่ใช้ภาษาดอกไม้กับมุกตาภานับตั้งแต่ก้าวเข้ามาเหยียบเรือนใหญ่ ดูเหมือนหล่อนจะทำอะไรก็ผิดไปหมด...ผิดแม้กระทั่งการเผยใจว่าคิดกับเขามากกว่าความเป็นอาหลาน นับตั้งแต่เผยใจไม่ซ่อนเร้นเขาก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
"กินเยอะๆ นะครีม วันนี้ใช้แรงไปไม่น้อยเลย"
ไม่พูดเปล่า ชายหนุ่มยังตักกุ้งตัวโตผัดพริกเกลือใส่จานให้อีกฝ่ายอย่างเอาใจ ทุกๆ การแสดงออกเรียกสายตาของมทนาลัยให้มองตามการกระทำนั้นด้วยความน้อยใจ...เขาไม่เอาใจกันเหมือนเคย คล้ายกับมีม่านบางๆ มาขวางกั้นสัมพันธ์ไม่ให้สนิทใจดังเดิม
"บอกแต่คนอื่น อาตุลย์ก็ทานเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวไม่มีแรงไว้ทำ..."
"อะแฮ่ม"
"ปั่นจักรยาน"
มทนาลัยหัวเราะตบท้ายคำพูดตัว พร้อมๆ กันนั้นก็ตักกุ้งใส่จานให้เขาบ้างเพื่อเอาใจ...ในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกับเรื่องเล่ามากมาย ไม่มีใครรู้เลยว่าภายในใจของตรัยคุณกำลังคิดอะไรกันแน่
'เค้กกับอาตุลย์ดูเหมือนไม่ค่อยลงรอยกัน ทำไมอาตุลย์ชอบทำเสียงดุๆ ใส่เค้กด้วยนะ'
ภายใต้รอยยิ้มที่ส่งไปให้ตรัยคุณ มุกตาภาเริ่มมีคำถามในใจจากที่รู้สึกแปลกๆ กับสีหน้าและท่าทีของคุณอา แววตาของเขาคล้ายคนมีความลับซ่อนหลบ หล่อนเริ่มคิดโทษตัวเองว่ามีส่วนผิด หรือทั้งสองงอนกันเรื่องที่ตนไปปั่นจักรยานโดยไม่ชวนน้อง หากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะเคลียร์กันให้เข้าใจ ปรับความเข้าใจกับมทนาลัยเสียใหม่ว่าไม่ได้ตั้งใจจะหนีไปกันแค่เพียงลำพังสองคน