Chapter 2
รักต้องรุก (1)
บนทางดินที่ขนาบข้างด้วยสวนมังคุด ตรัยคุณเดินไปตามทางที่พาไปสู่เรือนใหญ่เพื่อทานมื้อเย็นร่วมกับคนอื่นๆ ในบ้าน ความมืดเริ่มโรยตัวมาห่มคลุมหลังดวงตะวันเคลื่อนคล้อยลอยต่ำลาลับเหลี่ยมเขา...เสียงฝีเท้าที่คล้ายกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามมาทำให้ชายหนุ่มหยุดเดินแล้วหันไปมอง ลอบถอนใจเมื่อคนนั้นไม่ใช่ใคร...มทนาลัยหลานสาวจอมยั่วให้เขาเสียคน
เหมือนหล่อนจะลืมไปแล้วว่าเขาขู่อะไรไว้ จึงปราดเข้าหาแล้วสวมกอดเอาไว้จนแน่น ใบหน้าแนบไว้กับแผ่นหลังกว้าง น้ำเสียงตัดพ้อรำพึงรำพันแฝงอารมณ์แง่งอน
"ทำไมเมื่อเช้าอาตุลย์ไม่ปลุกเค้กคะ ทำไมต้องหนีไปปั่นจักรยานกับครีมสองคนด้วย"
"ไม่ได้หนีแต่ไม่อยากรบกวน แล้วก็ไม่ได้นัดกันกับครีมด้วย มันก็แค่...เรื่องบังเอิญน่ะ"
ชายหนุ่มรีบแก้ตัว ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน ทำไมจึงกลัวมทนาลัยจะเข้าใจผิดว่าเขาแอบนัดกับมุกตาภาโดยไม่บอกใครการที่มีหลานฝาแฝดใครไม่เจอกับตัวก็คงไม่รู้ว่าวางตัวลำบากมากแค่ไหน หากใส่ใจหรือแสดงความรักกับคนใดคนหนึ่งมากไป ก็อาจทำให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจตามมา
ความหนุ่มหยุ่นที่บดเบียดอยู่กับแผ่นหลังกว้างทำให้เขาขนลุกซู่ไปทั้งร่างหวามหวิวอยู่ในท้องน้อย หล่อนช่างขยันหาเรื่องให้เขาตบะแตกวันละหลายหน...ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยจริงๆ ชายหนุ่มท่องซ้ำๆ เอาไว้ในใจ
"ปล่อยอาก่อนเค้ก เดี๋ยวใครพรวดพราดมาเห็นเข้ามันจะไม่ดีนะ ทำอะไรระวังตัวบ้าง"
"เห็นก็ดีสิคะ เราสองคนจะได้ถูกจับแต่งงานกันเสียเลย"
"ใครเขาอยากแต่งด้วยฮึ! เด็กขี้มโน"
เสียงเข้มพร้อมสายตาดุๆ ที่ส่งมาให้ทำให้มทนาลัยยิ่งไม่ยอมแพ้ หล่อนรักเขาไปแล้วจนไม่อาจถอนตัวถอนใจ ต้องเอาชนะใจผู้ชายช่างเลือกเช่นเขาให้ได้ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเล่นด้วยกล
"คอยดูนะคะ เค้กจะทำให้อาตุลย์ตบะแตกให้ได้ในสักวัน แล้วเค้กก็จะปล่อยให้ท้อง ถ้าอาตุลย์ทำเค้กท้องก็ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน หุ หุ แค่เมื่อคืนก็ยัง..."
"เค้ก! หยุด ไม่ต้องพูดแล้ว"
"เค้กจะท้องกับอาตุลย์ให้ได้ ระวังตัวเอาไว้นะคะ เค้กจะจับอาตุลย์ปล้ำแล้วก็บอกคุณย่าใหญ่กับคุณยายทวดว่าอาตุลย์ได้เค้กเป็นเมีย ผู้ใหญ่จะได้จับเราสองคนแต่งงานกัน"
หล่อนยอมคลายอ้อมกอดออกแล้วส่งยิ้มหน้าเป็นมาให้ ไม่ได้กลัวในท่าทีดุๆ นั่นเลยสักนิด จนคนมองถึงกับอ่อนใจ
"ยายเด็กหน้าไม่อาย ฝันไปเถอะว่าจะมีอีกครั้ง"
เขาเข่นเสียงรอดไรฟันคุยกับตัวเองแล้วทำเป็นเดินหนี การที่หล่อนยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ตามมา ทำให้ร่างสูงอดที่จะหมุนกลับไปหาไม่ได้
"เดี๋ยวงูก็ออกมากัดหรอก รีบเดินตามมาสิครับเด็กดื้อ"
นั่นคือความห่วงใยที่แยกออกจากความขุ่นเคืองเรื่องที่หล่อนทำ สิ่งเหล่านี้แทรกซึมเข้าไปในหัวใจของมทนาลัยทีละเล็กทีละน้อยมานานวัน ความพันผูกถักทอเป็นสายใยแห่งรักที่ซึมลึก และหล่อนไม่อาจเก็บกักมันเอาไว้ได้อีกต่อไป วันนี้จึงเผยใจให้เขารู้อย่างตรงไปตรงมา
"อายุป่านนี้แล้วยังไม่รีบหาเมียมานอนกอด แล้วจะมีลูกทันใช้เรอะ ตาเฒ่า"
หล่อนอุบอิบอยู่คนเดียวแล้วหัวเราะคิกคักไล่หลังคนที่เดินนำหน้าไปไม่ไกล ก่อนจะสาวเท้าตามไปแล้วเร่งจนเดินตีคู่ไปกับเขา...ท่ามกลางใจของตรัยคุณที่จู่ๆ ก็เต้นแรงขึ้นมาเมื่อนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนอีกครั้งจนได้ เขากลัวเหลือเกิน กลัวมทนาลัยจะเผยความลับนี้ไปถึงหูคุณยายและมารดาของเขาในสักวัน และนั่น...เขาคงถูกจับแต่งกับหล่อนขึ้นมาจริงๆ
'อย่านะโว้ยไอ้ตุลย์ จงหยุดความคิดชั่วๆ เดี๋ยวนี้ นั่นหลานนะมึง'
เขาไม่ได้อยากคว้าหลานตัวเองทำเมีย...ชายหนุ่มตะโกนซ้ำๆ อยู่ในใจ ขณะเดินเคียงคู่กันไปที่เรือนใหญ่เพื่อทานมื้อเย็น
+++++
บนเรือนใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่กลางสวนร่มครึ้ม ตรัยคุณกับมทนาลัยเป็นสองคนสุดท้ายที่มาถึง ตรงโต๊ะอาหารนั้นทุกคนในบ้านพร้อมหน้าพร้อมตารวมทั้งมุกตาภา...ทรายมาศซึ่งเป็นคุณน้าของตรัยคุณและมีศักดิ์เป็นคุณย่าเล็กของสองฝาแฝดหันมายิ้มให้ผู้มาทีหลัง ก่อนจะกุลีกุจอตักข้าวเอาไว้รอคนสองคนที่กำลังเดินปั้นหน้า
ยิ้มตรงเข้ามาร่วมวง
"เชิญเลยจ้ะ ทุกคนกำลังบ่นหาอยู่พอดีว่าทำไมตุลย์กับเค้กยังไม่มา"
ตรัยคุณยิ้มแทนคำพูด เหลือบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ คุณยายของตนแล้วเผื่อแผ่ยิ้มไปให้หล่อน นึกไปถึงเรื่องที่เจ้าหล่อนบ่นอุบเมื่อตอนเย็น
"เป็นยังไงบ้างครีม ปวดขาล่ะสิท่า"
"คงปั่นไม่ได้อีกหลายวันแน่ๆ ค่ะ เผลอๆ ปวดไปจนถึงวันกลับกรุงเทพฯแน่เลย"
มุกตาภาหัวเราะพลางบีบเคล้นไปตามน่องที่ปวดหนึบจากการปั่นจักรยานทางไกลไปกับตรัยคุณสองคน และเรื่องนี้ทำให้มทนาลัยถึงกับออกอาการแง่งอนที่หล่อนไม่ยอมชวนไปด้วยกัน หากแต่เป็นการตัดพ้อเพราะความน้อยใจมากกว่าการทะเลาะกันเพราะความหึงหวงในตัวฝ่ายชาย