EP.3 มรดกพิสดาร
“เอาละครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมจะเปิดอ่านพินัยกรรมของคุณบานเนอร์แล้วนะครับ” เอ็ดการ์ดกระแอมเบาๆ ก่อนจะหยิบซองสีน้ำตาลออกมาจากกระเป๋าหนังสีดำ
“ครับ” สามหนุ่มขานรับพร้อมกัน
เอ็ดการ์ดหยิบจดหมายออกมาแล้วอ่านออกเสียงเพื่อให้ทุกคนได้ยินโดยทั่วกัน
‘ถึงลูกๆ ของฉัน
ในที่สุดความตายก็มาถึงฉันจนได้ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าชีวิตหลังความตายของฉันต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่ฉันรู้ว่าชีวิตของพวกแกมันขาดอะไรไปบางอย่าง มันไม่สมบูรณ์พอที่จะทำให้ฉันนอนตายตาหลับได้ ที่ฉันบอกว่าไม่สมบูรณ์ นั่นก็เพราะว่าฉันเป็นคนทำให้มันขาด ฉันเอาแต่ทำงานโดยลืมใส่ใจพวกแก ฉันรู้ตัวว่าฉันไม่ใช่พ่อที่ดีนัก แต่ฉันก็อยากมอบสิ่งดีๆ ที่ฉันได้คิดทบทวนมาเป็นอย่างดีให้พวกแกทั้งสามคน
ฉันมีภารกิจให้พวกแกทั้งสามคนทำ เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ระหว่างฉันกับพวกแก เพราะหากใครทำไม่สำเร็จ นั่นหมายความว่าคนคนนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ออกจากกองมรดกทันที และจะไม่ได้อะไรจากฉันแม้แต่เซ็นต์เดียว’
เมื่อเอ็ดการ์ดอ่านมาถึงตรงนี้ สามหนุ่มก็ถึงกับนิ่งอึ้ง ตอนต้นของจดหมายเกือบจะทำให้พวกเขาซาบซึ้งใจอยู่แล้วเชียว แต่พอทนายอ่านมาถึงประโยคล่าสุด ทั้งสามก็ถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความงุนงง
“เดี๋ยวครับ นี่มันหมายความว่ายังไง คุณพ่อต้องการอะไรกันแน่ครับคุณเอ็ดการ์ด” คุนไซต์เอ่ยถามขึ้นทันที นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นใช่ไหม ทำไมบิดาของเขาจึงคิดพินัยกรรมแปลกๆ ออกมา
“นั่นสิครับ นี่ผมงงไปหมดแล้ว” ทริบเฟนเอ่ยขึ้น ก่อนจะดูเวลาที่ข้อมือ เพราะเขามีนัดผ่าตัดเคสสำคัญช่วงสองทุ่ม
ในขณะที่ฮิดเดนไนต์ไม่ได้โวยวายอะไร แต่กลับขมวดคิ้วมุ่นแล้วจ้องไปยังช่อทับทิมอย่างจับผิด เขาเดาว่าผู้หญิงคนนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับพินัยกรรมประหลาดของบิดาอย่างไม่ต้องสงสัย
“อ่านต่อเถอะครับคุณเอ็ดการ์ด ผมอยากรู้ว่าคุณพ่อจะเล่นอะไรกันแน่”
ฮิดเดนไนต์เหยียดตัวเอนพิงพนักโซฟาด้วยท่วงท่าผ่อนคลาย ต่างจากพี่ชายอีกสองคนที่นั่งตัวตรงสีหน้าตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“ผมขออนุญาตอ่านต่อนะครับ”
เอ็ดการ์ดกระแอมเบาๆ อีกครั้ง ก่อนจะเริ่มอ่านพินัยกรรมบรรทัดต่อไปจากที่อ่านค้างไว้
‘คุนไซต์...แกเป็นลูกชายคนโตที่มีความสามารถ แกทำงานเก่งจนฉันไว้วางใจมอบตำแหน่งประธานบริษัทให้แก ดังนั้นฉันขอให้แกพักงานจากตำแหน่งประธานบริษัททริสตันเป็นเวลาหกเดือน เพื่อเดินทางไปที่เกาะร้อยรัก แกต้องกว้านซื้อที่ดินครึ่งเกาะมาเป็นของทริสตันให้ได้ หากแกทำไม่ได้ นั่นหมายความว่าแกจะถูกตัดชื่อออกจากกองมรดกรวมทั้งตำแหน่งประธานบริษัท และฉันจะยกบริษัททริสตันให้กับบริษัทมิราเคิลทันที’
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร คุณพ่อต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ คุณพ่อก็รู้ว่าทริสตันเป็นศัตรูกับมิราเคิลมาสามชั่วอายุคนแล้ว”
คุนไซต์รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาเสียดื้อๆ เขาพอรู้มาบ้างว่าเกาะร้อยรักมีขนาดเล็กมาก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย และที่ดินกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของเกาะเป็นของเอื้องมณี มารดาของเขานั่นเอง นั่นแสดงว่าบิดาต้องการให้เขาไปขอซื้อที่ดินของมารดา บิดาคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงต้องทำให้เรื่องราวมันวุ่นวายด้วย
“เรื่องนี้ผมไม่ทราบครับ เป็นความประสงค์ของคุณบานเนอร์ ผมมีหน้าที่เพียงทำตามความต้องการของท่านเท่านั้น” เอ็ดการ์ดพูดราวกับไม่ตกใจเนื้อความในพินัยกรรมแม้แต่น้อย นั่นเป็นเพราะว่าขณะที่บานเนอร์ทำพินัยกรรมเขาได้นั่งอยู่ด้วย และรับรู้ว่าบานเนอร์ต้องการอะไรจากพินัยกรรมฉบับนี้ ซึ่งเขาเห็นด้วยอย่างยิ่ง
“แต่ก็ดีเหมือนกัน ผมเองก็อยากพบคุณแม่ เผื่อว่าจะชวนท่านกลับมาอยู่กับเราที่นี่ ปีนี้ท่านคงอายุห้าสิบแปดปีแล้ว อายุมากแบบนั้นให้อยู่คนเดียวคงไม่ดีแน่”
เขาเริ่มมองเห็นข้อดีของภารกิจที่บิดามอบหมายให้ในครั้งนี้ อันที่จริงเขาไม่อยากได้เงินทองของบิดาเลยแม้แต่เซ็นต์เดียว นั่นเพราะเขาเองได้เปิดบริษัทเดินเรือโดยร่วมหุ้นกับเพื่อนสนิทที่ฝรั่งเศส บริษัทของเขากำลังไปได้สวย และในปีหน้าจะขยายสาขาไปยังออสเตรเลีย
แต่ที่เขาไม่ยอมปล่อยมือจากบริษัททริสตัน เนื่องจากบริษัทนี้เป็นมากกว่ากิจการของครอบครัว มันคือจิตวิญญาณของตระกูล บรรพบุรุษหลายชั่วอายุคนที่ฝ่าฟันสร้างบริษัททริสตันขึ้นมา นับตั้งแต่ทริสตันยังเป็นเพียงแค่ร้านเครื่องประดับเล็กๆ ที่ผลิตเครื่องประดับให้แก่ขุนนางในอังกฤษและฝรั่งเศส ทริสตันเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงรุ่นบิดาของเขาที่ย้ายบริษัททริสตันมาที่อเมริกา จากนั้นทริสตันก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก จนบริษัทอัญมณีแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของตระกูลทริสตันไปเสียแล้ว
“หากเป็นเช่นนั้น...คุณเอื้องมณีคงดีใจมากครับ ผมขออนุญาตอ่านต่อนะครับ”
‘ส่วนแก...ทริบเฟน ฉันมีหน้าที่สำคัญจะมอบหมายให้แกช่วยจัดการ แกจำ ‘หยกทิพย์’ อดีตสาวใช้ในคฤหาสน์ของเราได้ไหม หยกทิพย์ตั้งท้องหนูพัดพารัดชา ตอนนี้เด็กคนนั้นอายุห้าขวบแล้ว ฉันอยากให้แกไปจัดการนำตัวหนูพัดพารัดชากลับมาดูแล ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม หากแกทำไม่สำเร็จภายในหกเดือน แกจะถูกตัดสิทธิ์ออกจากกองมรดกทันที’
“เชิญเลย ผมไม่เคยคิดอยากได้ทรัพย์สมบัติบ้าบอนี่อยู่แล้ว” นายแพทย์หนุ่มถึงกับโกรธจนฟิวส์ขาด บิดาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาเกลียดผู้หญิงแพศยาอย่างหยกทิพย์มากแค่ไหน ผู้หญิงที่ยอมพลีกายให้กับเขาเพียงเพื่อหวังจะใช้เขาเป็นสะพานเพื่อทอดไปหาบิดา ฮึ! นี่คงจงใจปล่อยให้มีลูกแล้วหนีไปสินะ คงหวังว่าเด็กคนนั้นจะมีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติมหาศาล
ผู้หญิงไร้ยางอาย เขาจะไม่มีวันให้เธอสมหวังเป็นอันขาด
“คุณทริบเฟนไม่ทำตามที่ระบุในพินัยกรรมก็ได้ครับ ผมจะได้ตัดชื่อคุณออกจากกองมรดก” ทนายเอ็ดการ์ดเอ่ยขึ้น
“เฮ้ย! ทริบเฟน นายคิดดีแล้วเหรอ”
คุนไซต์ท้วงน้องชายคนรอง ด้วยไม่อยากให้ใช้อารมณ์จนตัดสินใจพลาด ทุกคนรู้ดีว่าทริบเฟนมีความหลังฝังใจกับหยกทิพย์ รักแรกและรักครั้งเดียวของนายแพทย์หนุ่มที่วันๆ เอาแต่อ่านตำราจนไม่มีเวลามองผู้หญิงคนไหน เมื่อหยกทิพย์หักหลังทริบเฟนด้วยการคบหากับบิดา ทริบเฟนก็ออกจากบ้านนับแต่นั้น และไม่เคยพูดถึงผู้หญิงที่ชื่อหยกทิพย์อีกเลย