3
“สวัสดีค่ะพี่กบ ขอโทษที่มาตรงเวลาเกินไปนะคะ” ฉันไม่ได้ประชดอะไรนะ พี่เขานัดเข้างาน 9โมง ฉันก็มาถึง 9โมงเป๊ะ! ไม่มีเผื่อเวลาอะไรทั้งนั้น ซึ่งมันไม่ควรเป็นแบบนี้เลย
“ทำไมมาช้าล่ะ เห็นว่าจะมาถึงก่อนเก้าโมงไม่ใช่เหรอ”
“เถียงกับพ่อค่ะ” พอได้คำตอบจากฉัน พี่กบก็ยิ้มอ่อนทันที หลายครั้งหลายคราที่มาสาย เหตุผลเดียวที่ฉันมีคือเถียงกับพ่อ เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร
“อะ ๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวโยรอรับคำสั่งจากพี่คนนี้นะ เขาจะคอยบอกว่าให้โยเอาขนมไปให้ลูกค้าที่ตรงไหน แล้วก็คอยช่วยหยิบจับทำในร้านให้เรียบร้อย” ฉันหันไปมองพี่ผู้หญิงที่เป็นพนักงานประจำของร้านเบเกอรีแห่งนี้ ฉันยกมือไหว้พี่เขาด้วยความอ่อนน้อม ซึ่งพี่เขาก็ดูอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มให้ฉันตลอด
งานวันนี้ของฉันคือรอเอาออเดอร์ไปส่งให้ลูกค้าภายในอาคารผู้โดยสารซึ่งจะมองหาลูกค้าได้ไม่ยากเพราะลูกค้าจะระบุว่าให้ไปส่งตรงบริเวณไหน ชั้นไหน และช่วยงานภายในร้าน
มาทำที่นี่ได้ค่าแรง 400 ค่าเดินทาง 100 และกินฟรี 1มื้อ ก็ถือว่าดีทีเดียว ฉันอยากจะภาวนาให้พนักงานประจำของเขาหยุดอีกจัง ฉันจะได้มาแทนอีก
เวลาล่วงเลยมาถึง 18.00น. ได้เวลาที่ฉันจะต้องเลิกงานแล้ว ฉันอยู่ช่วยต่ออีกนิดจนในร้านเรียบร้อยดี แต่มีออเดอร์หนึ่งเด้งเข้ามาในไลน์ของร้าน
“โยเกิร์ตพี่ฝากส่งให้ลูกค้าที่ประตู 7 หน่อยได้ไหม” พี่เขาอ่านออเดอร์แล้วหันมาถามด้วยความเกรงใจ
“ได้เลยค่ะพี่ เดี๋ยวโยช่วยจัดนะคะ” ฉันช่วยจัดเบเกอรีที่ลูกค้าสั่งใส่ถุง และหยิบน้ำผลไม้แบบกล่อง ใส่ลงไปเป็นของแถมตามที่ร้านแจ้งไว้ในระบบ ก่อนจะนำโพสต์อิตมาเขียนข้อความใส่ลงไปด้วย
เดินมาถึงหน้าประตู7 ฉันเอาสมาร์ตโฟนออกมาต่อสายหาลูกค้าตามที่พี่เขาเขียนให้ในกระดาษ สักครู่หนึ่งปลายสายก็รับ
“สวัสดีค่าจากร้านRAPAนะคะ ตอนนี้อยู่หน้าประตู7 แล้วค่ะ คุณลูกค้าอยู่ตรงไหนคะ”
“(ผมอยู่ตรงหน้าจอดูเที่ยวบินครับ)”
ฉันหันไปมองตรงบริเวณหน้าจอที่ว่านั่น เห็นชายร่างสูงหุ่นกำยำกำลังถือโทรศัพท์แนบกับใบหูอยู่ หัวใจของฉันเต้นแรงด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่ากำลังจะนำเบเกอรีในมือไปส่งให้กับใคร
“พี่เอ็กซ์เหรอคะ”
“(ใช่ค่ะ นี่ใครเอ่ย)” น้ำเสียงของเขากะล่อนขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินฉันเรียกชื่อเขาราวกับคนรู้จักกัน
“กำลังเดินไปนะคะ สวัสดีค่ะ” ฉันกดวางสายในขณะที่เขาส่งเสียงรั้งไว้ไม่ให้วางอีกทั้งยังคงสอดส่ายสายตาไปรอบ ๆ บริเวณ
ฉันสาวเท้าเก้าไปยืนตรงหน้าเขา ก้มหน้าก้มตาส่งถุงเบเกอรีให้
“น้องโยเกิร์ตแน่นอน พี่จำกลิ่นหอม ๆ จากตัวน้องได้”
ได้ยินแบบนั้นฉันจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นจนในที่สุดเราก็สามารถสบประสานสายตากันได้
“ของพี่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” ฉันบอกกับลูกค้าและหมุนตัวหันหลังให้ ไม่อยากอยู่ใกล้เขานาน
แต่สุดท้ายก็ต้องอยู่กับเขาต่อ เพราะคนตัวสูงมายืนขวางทางฉันไว้ เขากางแขนทั้งสองข้างออกจากลำตัว เมื่อฉันขยับไปทางซ้ายเขาก็ไปทางซ้าย ฉันย้ายมากทางขวาเขาก็ตามมา และพอฉันย่อตัวลงจะมุดออกจากวงแขน เขาก็ย่อตัวตาม
คนอื่นมองเราทั้งสองด้วยความสงสัย ว่าทำไมถึงลงไปนั่งยองกันอย่างนั้น ฉันเองก็สงสัยว่าจะหาเรื่องให้ตัวเองเมื่อยทำไม
“น้องโย…พี่เอ็กซ์คิดถึงน้องโยจังเลยค่ะ ไม่ได้เจอหน้าตั้งหนึ่งอาทิตย์แน่ะ” เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่บีบให้ดูอ่อนหวาน น้ำเสียงแบบนี้ของเขาทำให้ฉันขนลุกขนพองสยดสยองอย่างไรไม่รู้ มันดูกะล่อน เจ้าเล่ห์ ไม่เห็นน่าฟังตรงไหน
“ค่ะ โยขอตัวนะคะ” ฉันหยัดกายขึ้นยืนเต็มความสูง และจะเดินผ่านเขาออกไป ทว่าเขาก็ยังคงกั้นทางฉันไว้ไม่ให้เดินออกไปตามที่ใจฉันต้องการ
“ที่โทรมานี่เบอร์น้องโยใช่ไหม พี่ขอเมมไว้นะครับ”
ฉันมองหน้าจอสมาร์ตโฟนที่พี่เอ็กซ์โชว์ขึ้นมา เบอร์ที่เขากดค้างไว้อยู่นั้นก็คือเบอร์ฉันเอง หากไม่ใช่ว่าเป็นเวลาเลิกงานของฉันพอดี ฉันจะเอาโทรศัพท์ร้านมาใช้ในการโทรหาลูกค้า แต่นี่ฉันขี้เกียจเดินกลับไป กะว่าถ้าส่งออเดอร์เสร็จแล้วก็จะกลับบ้านเลย
“ไม่ใช่ค่ะ เบอร์ร้านค่ะ”
“เด็กโกหก เป็นเด็กไม่น่ารักนะคะ” เขาพูดอย่างกับฉันเป็นเด็กไม่กี่ขวบงั้นแหละ
นอกจากเขาจะบีบเสียงเป็นเสียงสองเสียงสามแล้ว เขายังแกว่งนิ้วชี้ไปมาเป็นการปรามว่าอย่าทำอีก ฉันถอนหายใจแล้วเกาท้ายทอยแรง ๆ หากฉันขอจากเขาได้หนึ่งอย่าง ฉันจะขอให้เขาเลิกทำท่ากระแดะ ๆ แบบนี้สักที มันตลก!
“วันนี้พี่จะเดินทางไปเมกา ไปหาพ่ออออพี่น่ะครับ ไปหลายเดือนเลย พี่ต้องคิดถึงน้องโยมากแน่ ๆ” ก็ไม่รู้ว่าเขาจะลากเสียงตรงคำว่าพ่อทำไม แต่เอาเถอะ ตลอดหลายวันที่ผ่านมาฉันได้เจอกับเขาทุกวันที่ลานเบียร์ ที่คนในโซเชียลชอบพูดว่า ‘เขาหล่อ แต่เขาแปลก’ ฉันเข้าใจคำนี้ถ่องแท้เมื่อได้เจอพี่เอ็กซ์
อีเวนต์ลานเบียร์มี 10วัน ฉันเจอเขาตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย ฉันเชื่อแล้วว่าเขาสายเปย์ ภายใน 10วันนั้นฉันหาค่าเทอมได้จากทิปที่เขาให้ ในแต่ละวันเขาให้ฉันหลายพัน จนฉันรู้สึกเกรงใจที่เขาให้ขนาดนี้และไม่อยากไปโวยวายใส่เขามากที่เขาพยายามตื๊อขอซื้อตัวฉันอยู่ทุกวี่ทุกวัน และที่น่าแปลกคือเขาไม่เคยแต๊ะอั๋งไม่เคยเนียนหลอกแตะเนื้อต้องตัวเลยแม้แต่ปลายเล็บ มีครั้งหนึ่งที่เขาเผลอจับข้อมือนั่นเขาตกใจที่ตัวเองหยิบแบงก์ผิด แต่หลังจากนั้นไม่มีอีกเลย
“เดินทางปลอดภัยนะคะพี่” ฉันแสยะยิ้มให้เขา ไม่รู้จะต้องพูดหรือทำหน้าอย่างไร ฉันอยากไปให้พ้น ๆ จากเขาสักที ขี้เกียจมายืนปั้นหน้าอยู่ตรงนี้แล้ว
“น่ารักจังเลยครับน้องโย น้องอวยพรพี่ด้วยอะ ดีใจที่สู๊ดดดดเลยค้าบ” พอไม่พูดคะขาก็ค่อยรู้สึกน่าฟังขึ้นมานิด ๆ แต่ถ้าเลิกใช้น้ำเสียงที่ติดกระแดะด้วยได้จะดีมากเลย อ้อ! เลิกบิดตัวทำเหมือนเขินอายด้วยเถอะ ถือว่าขอ…