นาตาลีโกรธมาก อยากกรี๊ดแต่กรี๊ดไม่ออกไม่อยากดึงภาพลักษณ์นางมารออกมาใช้ให้เสี่ยงมีคนนอกบังเอิญมาเห็น
เลขาสาวยิ้มไม่เต็มปากคล้ายจะร้องให้มากกว่าเมื่อเจ้านายมาดโหดยืนหน้าดุอยู่ตรงหน้า พ่อแก้วแม่แก้ว วันนี่บอสไปกินรังแตนที่ไหนมา “คือ… คุณภพคะ รสพยายามห้ามแล้วนะคะ บอกไปแล้วว่าคุณภพไม่ว่าง แต่คุณลีเธอไม่ยอมฟังเลย”
“เอกสารของเฟื่องลดา” แฟ้มหนาวาง ปัง! ลงกลางโต๊ะจนเลขาสะดุ้งตกใจทว่าเขาไม่แคร์ เปิดประเด็นด่าต่อ
“คุณเป็นเลขาแต่จัดการเรื่องเจ้านายไม่ได้แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน พิจารณาตัวเอง แล้วทำโทษตัวเองก่อนที่ผมจะโมโหไล่คุณออก!”
“ค่ะๆ รสจะทำโทษตัวเองจะพิจารณาตัวเอง จะทำทุกอย่างเลยค่ะ คุณภพอย่าไล่รสออกเลยนะคะ”
จะร้องไห้แล้ว รสรินยกมือขึ้นไหว้เจ้านาย
เขามีอาการฮึดฮัดขัดใจจะเอาเรื่องต่อแต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงเปลี่ยนใจเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปยังห้องประชุม
หญิงวัยกลางคนยืนริมหน้าต่างมองวิวกรุงเทพมหานคร รสรินเลขานุการของลูกชายแอบโทรศัพท์มาส่งข่าวว่ารณภพติดอารมณ์เสียจากการพบนาตาลี ไปฟาดงวงฟาดงาใส่พนักงานในห้องประชุม ใครพูดอะไรขัดใจก็ตะคอกเสียงดัง ไม่มีใครกล้าเสนอไอเดียอะไรกับเขาเลยสักอย่าง รสรินต้องถือวิสาสะขอเลื่อนการประชุมออกไป คุณนายแอบมองสาวรุ่นลูกที่ทุกคนกล่าวถึง ถอนหายใจเล็กน้อย พยายามจะไม่ใส่ใจเรื่องเมื่อหลายเดือนก่อนที่สาวคนนี้กลั่นแกล้งหลานชาย
เด็กตัวแค่นั้นถึงจะเล่นซนยังไงก็ไม่ควรไปหยิกไปจับแรงจนแกร้องไห้ ในตอนแรกนาตาลีไม่ยอมรับหรอกแต่บังเอิญในบ้านมีกล้องวงจรปิดในห้องนั่งเล่น เจ้าหล่อนจึงยอมสารภาพว่าไม่ได้ตั้งใจจะจับหลานท่านแรง เพราะสาเหตุนี้เองรณภพถึงปฏิบัติต่อนาตาลีไม่ใช่ในฐานะเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทสนมกันเหมือนสมัยก่อน คุณแขไขนอกจากจะทำงานเก่งแล้วก็ยังมองโลกมองคนออก ท่านรู้ว่านาตาลีคิดยังไงกับลูกชาย และรู้ว่านาตาลีไม่พอใจที่อยู่ๆ รณภพก็มีลูก
“ขอโทษที่ให้รอนะจ๊ะ พอดีลูกน้องโทรมาปรึกษาเรื่องงาน”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า นานกว่านี้ลีก็รอได้”
สาวเจ้าของร้านเพชรยิ้มประจบประแจงลูกค้ารายใหญ่ที่หายหน้าหายตาไปนานไม่ค่อยได้มาอุดหนุนตนเอง ส่วนหนึ่งก็เพราะเรื่องที่ตนเองไปแกล้งหลานชายของท่าน ดีนะที่ท่านให้โอกาสไม่อย่างนั้นทางร้านก็คงจะเสียลูกค้าชั้นดีไปอีกคน ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงมากในสภาวะเศรษฐกิจไม่สู้ดีขายของยากกว่าเมื่อก่อนแบบนี้
“คุณป้ามาเลือกแหวนกับสร้อยต่อนะคะ สวยๆ ทั้งนั้นเลย ร้านของลีเพิ่งผลิตออกมาใหม่ยังไม่วางขายหน้าร้านลีก็รีบหยิบมาให้คุณป้าดูเป็นคนแรก ของทุกชิ้นราคาไม่แรงมากลีเลือกพวกชิ้นเล็กๆ เพชรเม็ดไม่ใหญ่มากเหมาะสำหรับใส่ในชีวิตประจำวันได้ทุกลุค”
แม่ค้าคนสวยพูดจาฉอเลาะอ่อนหวานชมปากอ่อนปากเปราะว่าท่านใส่วงไหนก็สวย หยิบสร้อยเส้นไหนทาบคอก็ออร่าจับไปหมดแม้ทุกเส้นจะราคาปานกลาง ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ท่านมักจะซื้อเพชรเส้นใหญ่ๆ แต่ก็ชมพอให้ขายออกไปก่อน
“แหวนวงนี้ก็สวยนะคะ ดีไซน์ใหม่สาวๆ ชอบเลือกไปเป็นแหวนหมั้นกัน เพชรเม็ดยอดห้าสิบตังมีเม็ดเล็กเป็นบ่าข้างสองฝั่งด้วยนะคะ สวย น่ารัก เหมาะกับการใส่ไปกินข้าว ดูหนัง หรือจะใส่นั่งเล่นนอนเล่นในบ้านก็ดูหรูดูไฮโซค่ะคุณป้า”
“ขอบใจนะจ๊ะที่ช่วยแนะนำ แต่ป้าไม่ได้ซื้อให้ตัวเองใส่หรอกป้าเลือกซื้อไปให้เฟื่องเขา”
“เฟื่องลดาโชคดีจังเลยนะคะที่คุณป้าเอ็นดู”
กัดฟันชมแม้เมื่อกี้จะเผลอเงียบไปพักหนึ่งเพราะคาดไม่ถึง นาตาลีหมดอารมณ์จะยุขายของเปลี่ยนใจเป็นภาวนาขอให้สร้อยกับแหวนไม่ถูกใจคุณนายเลยสักชิ้นจะได้ไม่ต้องซื้อไปให้นังกาฝาก
“เฟื่องเขาเป็นคนน่ารัก อยู่บ้านหลังเดียวกันมาตั้งห้าหกเดือนแล้วป้ายังไม่เคยซื้ออะไรให้เขาเลย เอาเป็นว่าป้าเลือกแหวนวงนี้กับสร้อยเส้นนี้นะจ๊ะ ช่วยทำไซส์แหวนตามในกระดาษแผ่นนี้นะถ้าเสร็จวันไหนก็โทรมาบอกป้าจะให้คนเข้าไปเอา ส่วนนี่เป็นเช็คจ้ะป้าจ่ายเต็ม รวมกับค่าทำความสะอาดเครื่องเพชรชุดนั้นด้วย”
“ขอบพระคุณนะคะที่อุดหนุนเพชรจากทางร้านของลี ไว้ทำไซส์เสร็จลีจะโทรมาแจ้งอีกครั้ง”
“จ้ะ ป้ามีธุระกับหนูแค่นี้แหละเดินทางกลับบ้านดีๆ นะ ป้าจะขอเคลียร์งานต่อ”
“เชิญตามสบายค่ะคุณป้า เพียว! มาเก็บเพชรใส่กระเป๋าช่วยฉัน”
กับหญิงวัยกลางคนพูดจาไพเราะเพราะพริ้งแต่ทีกับผู้ช่วยของตัวเองเสียงกลับห้วนและแข็งกระด้าง สาวสวยเก็บแบบไม่อยากทำเสร็จแล้วก็บอกลาคุณแขไขอีกครั้ง
“คุณป้าอย่าโหมงานหนักมากนะคะลีเป็นห่วงสุขภาพ ขอตัวกลับเลยนะคะ สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีจ้ะ” ท่านวางมือจากงานมารับไหว้ ส่งยิ้มน้อยๆ บนมุมปากมาให้ นาตาลีส่งยิ้มกลับไปให้หวานที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะหิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงเดินนำหน้าผู้ช่วยออกไปจากห้องทำงานของภรรยาเจ้าของบริษัท สั่งผู้ช่วยให้ปิดประตูเร็วๆ ทำหน้าตางอหงิกใส่ประตู หมั่นไส้พวกคนรวยชอบอวดว่าเงินเยอะถึงขั้นซื้อเพชรแจกพวกกาฝากไม่สะเทือนเงินในสมุดบัญชี
“ใจดีเหลือเกินนะถึงซื้อเพชรแจกนังปลิงดูดเลือดคนนั้น ระวังเถอะมันจะเกาะไม่ปล่อย!”
“พี่ลี อย่าทำหน้าตาแบบนั้นสิคะ เรารีบไปเถอะเดี๋ยวมีใครบังเอิญมาเห็นเข้า”
“แกไม่ต้องมาสะเออะสอนฉันนังเพียว ฉันรู้ตัวว่าฉันเป็นใครและกำลังทำอะไร เสร่อ!” นาตาลีถลึงตาใส่น้องผู้ช่วยรีบสงบสติอารมณ์แล้วเดินไปรอลิฟต์ บังเอิญมองเห็นผู้ช่วยเลขานุการของรณภพเองก็ยืนรอเช่นกันจึงเข้าไปทักทาย
“อ๋อ หนูกำลังเอาเอกสารลงไปให้คุณเฟื่องน่ะค่ะ คุณลีมีอะไรจะใช้หนูหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีอะไรจะใช้หรอกจ้ะ แค่บังเอิญว่าฉันจะไปหาเฟื่องเหมือนกัน ฝากไหม จะได้ไปทำงานอย่างอื่น”
“จริงเหรอคะ งั้นหนูฝากด้วยนะคะเป็นเอกสารสำคัญของคุณแขไขต้องส่งให้ถึงมือคุณเฟื่องให้ได้ หนูพิมพ์งานค้างไว้อยากรีบทำให้เสร็จก่อนเลิกงาน” เด็กฝึกงานคนนั้นเอ่ยด้วยรอยยิ้มสดใสราวกับมองเห็นโลกนี้เป็นสีขาวบริสุทธิ์ไม่มีสีดำหรือเทาปนเปื้อน