ได้เห็น ปากร้องครางเรียกชื่อผู้หญิงที่กำลังขยับร่อนสะโพก โยกเอวอยู่ในจินตนาการ
“หนูชมพู่จ๋า… อ่า… มันเหลือเกิน ของหนูขมิบแรงเหลือเกิน… อูย… อูย… อูย… เต็มลำเต็มรูเลยจ้ะหนูจ๋า อ่า… นมใหญ่มาก น้ำนมหนูอร่อยเหลือเกิน บีบนมป้อนให้พ่อดูดนะ ซี้ดดด… ”
อีกหนึ่งเดือนต่อมา
ถึงวันที่รุจน์จะต้องเดินทางไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน หลังจากตัดสินใจสมัครงานกับกรมการจัดหางานและผ่านการทดสอบความสามารถในเชิงช่าง มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่นายจ้างต้องการ
“พ่อ… ผมฝากเมียฝากลูกด้วยนะ”
รุจน์กล่าวเสียงเครือ อุ้มลูกน้อยกอดไว้แนบอก อีกมือโอบไหล่ชมพู่ที่ดวงตามีน้ำตาเอ่อคลอ สีหน้าอาลัยอาวรณ์ รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก ที่จะต้องแยกกับสามี
“เอ็งไม่ต้องลูกห่วงเมียนะ… พ่อจะดูแลให้เอง ขอให้เอ็งเดินทางปลอดภัย”
แผนผู้เป็นบิดากล่าวกับรุจน์ แม้ว่าแผนจะเป็นเพียงพ่อเลี้ยง แต่ก็เลี้ยงดูรุจน์มาด้วยความรักไม่ต่างจากลูกในไส้
“ผมลานะครับ”
ถึงเวลาต้องจาก
รุจน์ล่ำลาทุกคนอีกครู่สั้นๆ ก่อนจะเดินไปยังรถตู้สีขาว จอดรออยู่ริมรั้วสังกะสีหน้าบ้าน วันนี้ต้องแวะรับคนงานในละแวกใกล้เคียงอีกหลายคนที่จะร่วมเดินทางไปพร้อมกัน เพื่อไปส่งที่สนามบินตามเวลานัดหมาย
หนึ่งเดือนต่อมา
ระหว่างที่อยู่บ้านของพ่อสามี นอกจากเลี้ยงลูกซึ่งยังเล็ก ชมพู่ก็ช่วยดูแลงานบ้านทุกอย่าง จากที่ป้ามะลิเคยเข้ามาเป็นธุระช่วยดูแลงานบ้านงานเรือน ตอนนี้จึงเปลี่ยนมาเป็นหน้าที่ของสะใภ้ ส่วนแผนจะรับผิดชอบดูแลงานในไร่อ้อยเป็นหลัก ตามประสาผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัว
ทุกๆ วันแผนจะออกไปดูแลงานในไร่อ้อยและสวนผักกับสวนกล้วยน้ำว้าหลายสิบไร่ และยังมีไร่ข้าวโพดทอดแนวยาวไปถึงชายเขาหลังบ้าน
ฐานะครอบครัวของแผนแม้ไม่ร่ำรวยเข้าขั้นเศรษฐี แต่ก็พอกินพอใช้ ไม่เคยเดือดร้อนขัดสนเรื่องเงินทอง
นอกจากรายได้จากไร่อ้อย ก็ยังมีบ่อเลี้ยงปลาที่อยู่ท้ายสวนลิ้นจี่ ทุกวันนี้ก็ทำรายได้พอเลี้ยงดูทุกคนในครอบครัวโดยไม่เดือดร้อน
แผนเคยบอกกับรุจน์ ว่าอยากให้อยู่ช่วยกันทำไร่อ้อยซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของครอบครัว จะได้ไม่ต้องไปทำงานไกลบ้าน
แต่รุจน์กลับปฏิเสธ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ถนัดงานเกษตร ไม่ชอบการทำไร่อ้อย เพราะว่ารุจน์เรียนจบมาจากวิทยาลัยเทคนิค สาขาช่างก่อสร้าง จึงตัดสินใจเข้าไปหางานทำในกรุงเทพฯ กระทั่งได้เจอกับชมพู่
ในเวลาต่อมา
ตอนเช้า ชมพู่ตื่นนอนตั้งแต่ดวงตะวันยังไม่ทันจะโผล่พ้นขอบฟ้า เสียงไก่ตัวผู้ยังขันคลอสลับกับเสียงร้องของนกกาเหว่า ดังแว่วมาจากราวป่า ติดกับไร่อ้อยทอดยาวไปถึงชายเขา
ขณะที่หล่อนกำลังก้มๆ เงยๆ ง่วนงุ่นอยู่กับการซักเสื้อผ้าของลูกชาย ค่อยๆ บิดผ้าพาดตากเอาไว้ที่ราวไม้ไผ่หลังบ้าน ตอนนั้นชมพู่หารู้ไม่ว่ามีสายตากระหายสวาทของใครคนหนึ่ง กำลังจับจ้องมองเรือนร่างเย้ายวนของหล่อนด้วยอารมณ์กระสัน
ในจังหวะเอี้ยวกายขยี้ผ้าอ้อมในกะละมังของชมพู่ ทำให้เต้านมอวบคัดของแม่ลูกกระเพื่อม เหวี่ยงไหวอยู่ภายใต้เสื้อคอกระเช้าบางๆ
คนที่แอบมองอยู่เงียบๆ ถึงกับเผลอร้องครางในใจ แอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอเสียงดังเอื๊อกครั้งแล้วครั้งเล่า มือข้างหนึ่งรูดชักท่อนเอ็นของตัวเองไปพลาง ขณะสายตาเล็งลอดรูรั่วของรั้วสังกะสีเข้ามายังบริเวณซักล้างหลังบ้านที่แม่ลูกอ่อนกำลังก้มๆ เงยๆ ซักผ้า
“ชมพู่... ทำอะไรอยู่จ๊ะ”
แผนชะโงกใบหน้าทักทายข้ามรั้วสังกะสีมายังแม่ลูกอ่อนสุดเซ็กซี่ กำลังก้มๆ เงยๆ ขยี้ผ้าจนนมสองเต้ากระเพื่อมส่าย สายตากระหายของพ่อผัวจอมหื่นจับจ้องมองทรวงอกอวบใหญ่ของสะใภ้แม่ลูกอ่อนไม่วางตา
“พ่อแผน… หิวข้าวหรือยังจ๊ะ รอสักครู่นะ เดี๋ยวหนูจะทำกับข้าวให้กิน”
ชมพู่เงยหน้าขึ้นมองพ่อสามี
“จ้ะ… ไม่ต้องรีบร้อน ซักผ้าให้เสร็จเสียก่อน พ่อรอได้”
ในเวลาต่อมา
“พ่อแผนจ๋า กับข้าวเสร็จแล้วนะจ๊ะพ่อแผน… มากินข้าวเถอะจ้ะ”
เสียงหวานของสะใภ้ ร้องเรียกพ่อสามีที่กำลังขุดดินอยู่หน้าบ้าน
“อีกสักเดี๋ยว… หิวก็กินก่อนเลยไม่ต้องรอพ่อ”
พ่อสามีตะโกนตอบ ประโยคที่ได้ยินทำให้สะใภ้ต้องเดินออกมาดูว่าแผนกำลังทำอะไร
“พ่อแผนทำอะไรอยู่จ๊ะ”
ชมพู่ร้องถามพลางชะโงกใบหน้าออกมามอง พลันสายตาของหล่อนปะทะเข้ากับเรือนกายกำยำล่ำสันไปด้วยมัดกล้าม
‘โอ้ว… เซ็กซี่เหลือเกิน’
ชมพู่อุทานในใจ สายตาจับจ้องแผงอกนูนแน่นไปด้วยมัดเนื้อแข็งแกร่ง แลเห็นเส้นขนสีดำแผ่กระจายคลุมลามออกมาถึงหัวนมสองข้าง ที่เห็นก็เพราะว่าพ่อผัวไม่ได้สวมเสื้อ ต่ำลงมาที่สะดือมีขนสีดำเลื้อยเป็นแนวยาวลงมาใต้ขอบกางเกงขาก๊วย
ชมพู่พยายามบอกตัวเอง ว่าอย่ามองตรงนั้น ทว่าสายลมเจ้ากรรมก็พัดกรรโชกเข้ามาอย่างได้จังหวะพอดี เหมือนรู้ใจหล่อน ทำให้กางเกงขาก๊วยบางๆ แนบเน้นต้นขากำยำของพ่อผัว
‘อู้ว... คุณพระช่วย’
ชมพู่เกือบอุทานออกมา เห็นสรีระสำคัญตรงนั้นเด่นนูนขึ้นมาเป็นรูปเป็นลำ
ความยาวใหญ่ของอวัยวะเพศ ทำเอาใบหน้าของหล่อนร้อนผ่าว เดาว่าพ่อผัวไม่ได้สวมกางเกงในอย่างแน่นอน
“พ่อแผนจ๋า… ตอนนี้อายุเท่าไรแล้วจ๊ะ”
ชมพู่รีบชักสายตาออกมาจากเจ้าสิ่งที่เผลอเพ่งมอง รีบถามเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองออกมาจากสิ่งเร้า ความยาวใหญ่ที่สังเกตได้ทำเอาหัวใจของแม่ลูกอ่อนเต้นระทึก
“ปีนี้ย่างสี่สิบห้าแล้วจ้ะ”
คนตัวใหญ่ตอบพลางกระแทกเสียมลงดินเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
“ว้าว… ไม่น่าเชื่อนะคะ... ”
หัวคิ้วของสะใภ้ชิดเข้าหากัน ยิ่งพินิจใบหน้าคมคร้ามใกล้ๆ ก็เห็นว่าพ่อสามีคนนี้ยิ่งมีเสน่ห์นัก
“ทำไม… พ่อดูแก่มากใช่ไหม”
แผนกล่าวทั้งเสียงหัวเราะ รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้พูดจาเย้าหยอกกับสะใภ้
“ตรงกันข้ามสิคะ เพราะว่าหนูกำลังจะบอกว่าพ่อแผนเหมือนคนอายุสามสิบต้นๆ ค่ะ”