ตอนที่ 1
ความ ‘อยาก’ ไม่เคยปรานีใคร
ประโยคนี้น่าจะอธิบายถึงนิยายเรื่องนี้
ได้อย่างตรงไปตรงมาที่สุด
พ่อผัว
เซ็กส์จัด (มาก)
กรุงเทพฯ พุทธศักราช 2562
ตอนเช้าตรู่ของวันหนึ่ง ที่บ้านไม้หลังหนึ่ง ตั้งอยู่ท่ามกลางไร่อ้อยในจังหวัดกาญจนบุรี
“เฮ้ย… นั่นมันไอ้รุจน์นี่หว่า… ”
‘แผน’ หรือชื่อจริงตามบัตรประชาชนว่า ‘ขุนแผน’ หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบห้าหันมากล่าวกับ ‘มะลิ’ สาวใหญ่ที่คบหาดูใจเป็นกิ๊กกันมาได้สักพัก เมื่อเหลือบไปเห็นร่างคุ้นตาของ ‘รุจน์’ ผู้เป็นลูกชาย ก้าวลงมาจากรถกระบะพร้อมด้วยผู้หญิงหน้าตาสะสวยสะดุดตา หล่อนอุ้มทารกตัวน้อยไว้แนบอ้อมอก
“พ่อครับ… ป้ามะลิครับ… นี่ ‘ชมพู่’ เมียผมครับ”
รุจน์แนะนำเมียสาวหน้าตาสวยพริ้งที่ตัดสินใจพากลับมาอยู่บ้านต่างจังหวัด หลังจากโรงงานทอผ้าย่านบางพลีต้องปิดตัวลงกะทันหันเพราะพิษของเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่อยู่ทุกวันนี้
“สวัสดีจ้ะ… ”
หญิงสาววัยยี่สิบกว่าๆ ยกมือไหว้พ่อของสามีที่เดินออกมาหน้าบ้าน หลังจากได้ยินเสียงรถกระบะคันวิ่งเข้ามาจอดใต้ร่มเงาไม้ใหญ่
“ป้าชื่อมะลิจ้ะ… แล้วนี่พ่อแผน… เป็นพ่อของรุจน์”
มะลิกล่าว แนะนำตัวเองและแผน สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างจ้ำม่ำของเด็กชายวัยหนึ่งขวบที่ชมพู่กำลังอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน
ป้ามะลิไม่ใช่แม่ของรุจน์ หล่อนเป็นแม่ม่ายที่อาศัยอยู่อีกหมู่บ้าน
สามีของมะลิเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน ความเปล่าเปลี่ยวอ้างว้างหลังตกพุ่มม่าย ทำให้หล่อนแอบคบหากับแผนอยู่ลับๆ
มะลิมักจะแวะเวียนมาดูแลแผน เข้ามาจัดแจงเรื่องอาหารการกินและความเป็นอยู่ของเขา
บางครั้งหล่อนก็แอบมานอนค้างคืนที่บ้านของแผนบ่อยๆ ท่ามกลางความสงสัยของผู้คนทั้งตำบล ว่าสองคนนี้น่าจะแอบมีสัมพันธ์สวาทลึกซึ้งถึงขั้นได้เสีย
“นี่ลูกเอ็งใช่ไหมไอ้รุจน์”
น้ำเสียงของแผนบอกความตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มีโอกาสเห็นหน้าของหลานชายซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของรุจน์
“ใช่ครับพ่อแผน… นี่เจ้าซูโม่ลูกชายของผมกับชมพู่ครับ”
รุจน์กล่าว แผนดีใจ ตรงเข้ามาอุ้มหลานชายด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะพากันเดินเข้าบ้านด้วยความดีใจที่ลูกชายตัดสินใจกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง ในบ้านหลังเดิมที่รุจน์เกิดและเติบโตมา
อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา
การกลับมาของลูกชายกับสะใภ้แม่ลูกอ่อน ได้ทำให้หลายๆ อย่างภายในบ้านไม้หลังใหญ่ที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางป่าอ้อยของแผนเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม
แผนไม่มีปัญหากับเสียงร้องของทารกซึ่งเป็นหลาน เสียงเด็กช่วยเติมชีวิตชีวาให้กับบ้านที่เคยเงียบเหงา แต่ ‘เสียง’ ที่ทำให้แผนรู้สึกทรมานในอารมณ์ ก็คือเสียงคนเอากัน… ดังลั่นออกมาจากห้องนอนของลูกชายกับสะใภ้ที่อยู่ห่างกันเพียงผนังกั้น
เสียงหัวร่อต่อกระซิก เสียงเย้าหยอกครวญครางออดออเซาะของสะใภ้ ทำให้แผนที่นอนอยู่ห้องข้างๆ เกิดอาการงุ่นง่าน เสียงร่วมรักของหนุ่มสาวกำลังซ้ำเติมอารมณ์เหว่ว้าของพ่อม่ายที่สะสมไว้นาน
แผนนอนกระสับกระส่ายอยู่พักใหญ่ๆ เมื่อเ****นจนทนไม่ไหว จึงต้องลุกขึ้นมาแอบมองผ่านรูรั่วข้างฝาผนัง
“พี่รุจน์ขา… เรามาทำเรื่องสนุกๆ กันดีกว่านะคะ วันนี้ชมพู่ขอเป็นฝ่ายจู่โจมพี่รุจน์นะคะ… โทษฐานที่ปล่อยให้เมียทนหิว… ปล่อยให้เมียเหงาอยู่นาน”
ชมพู่ร้องขออย่างไม่อาย
นานมากแล้วที่ไม่มีอะไรกัน บางครั้งในแต่ละคืนกว่าจะรอให้ลูกหลับ รุจน์ก็หลับไปเสียก่อน
คืนนี้จังหวะดี ลูกชายหลับแล้ว
ชมพู่ปลดเปลื้องชุดนอนเนื้อผ้าซาตินสีครีมพลิ้วบางออกจากลาดไหล่สล้าง ท่าทางของหล่อนในตอนนี้ดูเซ็กซี่เร่าร้อนเหลือเกิน
อึดใจสั้นๆ ต่อมา
เรือนร่างของแม่ลูกอ่อนเปล่าเปลือย อวดผิวขาวเปล่งปลั่ง ทรวดทรงอะร้าอร่ามอยู่ภายใต้แสงไฟที่สาดลงมาจากเพดานห้อง สองเต้าอวบคัดของสะใภ้ทำเอาท่อนเอ็นของพ่อผัวที่แอบมองอยู่อีกห้อง คัดแข็งขึ้นมาเป็นลำยาว
“พี่รุจน์จ๋า… ”
น้ำเสียงเ****นจัด ชมพู่เดินตรงเข้ามาสวมกอดสามีจากทางด้านหลัง แสดงกิริยาท่าทางโหยหาสัมผัสของบุรุษเพศอย่างเปิดเผย วันนี้ดูท่าทางหล่อนอยากเหลือเกิน
“เดี๋ยวสิจ๊ะชมพู่… ใจเย็นจ้ะ”
รุจน์ร้องห้าม ด้วยยังไม่ทันได้ตั้งตัว มือซุกซนของชมพู่ลูบล้วงลงมาสัมผัสน้องชายของรุจน์ซึ่งยังหลับใหลไม่พร้อมรบ ยังคงสงบเสงี่ยมอยู่ในกางเกงขาสั้น สภาพของมันในตอนนี้ยังอ่อนปวกเปียก นุ่มนิ่มเหมือนหนอนน้อยที่กำลังหลับสนิทอยู่ในพงหญ้าสีดำ
“ทำไมล่ะจ๊ะพี่รุจน์จ๋า… โธ่… ไม่อยากเอาเมียหรือจ๊ะ”
น้ำเสียงตัดพ้อ ใบหน้าเซ็กซี่แหงนขึ้นมองหน้าสามีด้วยแววตาผิดหวัง… เว้าวอน
“พี่… เอ่อ… อยากก็อยากแต่มันไม่ค่อยแข็งน่ะสิจ๊ะ”
รุจน์รู้สึกอายและเสียศักดิ์ศรี ที่จะบอกว่าไม่สู้ ความอยากก็มี แต่ปัญหาคือมันแข็งตัวช้า และบางครั้งก็ไม่แข็ง สอดใส่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“พู่ใช้ปากทำให้นะคะ”
ภรรยากระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือสามีอย่างเต็มที่ ทว่ารุจน์ยังตั้งตัวไม่ทัน เขาไม่พร้อม แต่ชมพู่ดูร้อนรนผิดสังเกต
สีหน้าและแววตาของชมพู่แสดงความต้องการออกมาอย่างเปิดเผยจนรุจน์ไม่อยากจะเชื่อ ว่าผู้หญิงที่ภายนอกดูเงียบๆ ค่อนไปในทางเรียบร้อยด้วยซ้ำ ทว่าบทจะเร่าร้อนก็แสดงอารมณ์ออกอย่างเปิดเผยจนน่าตกใจ นับวันชมพู่ยิ่งเหมือนผู้หญิงที่มีสองบุคลิกภาพในคนเดียวกัน “ใจเย็นๆ ก็ได้ชมพู่… ”
รุจน์ยอมรับอย่างไม่อาย ว่าตัวเองเป็นประเภทเครื่องติดช้าถึงช้ามาก และหลายครั้งก็ไม่ติด
“พู่โม้คให้นะคะ”
ภรรยาอยากช่วย ถ้านับเวลาหลังจากวันแรกที่อยู่ด้วยกันจนมาถึงวันนี้ รุจน์กับชมพู่อยู่กินกันมาเกือบสองปี นานพอที่รุจน์จะรู้นิสัยว่าชมพู่เป็นผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูงมาก
“นานแล้วนะคะที่เราไม่ได้เอากัน”
ชมพู่ตัดพ้อเสียงเศร้า กล่าวอย่างตรงไปตรงมา ทำให้สามีอย่างรุจน์ได้ฉุกคิดในสิ่งที่ได้ยิน
ซึ่งหล่อนก็พูดถูก รุจน์จึงไม่เถียงสักคำ สุดท้ายก็ยอมให้ภรรยารั้งข้อมือมานั่งลงบนโซฟาที่ตั้งอยู่กลางห้อง ใกล้กับเปลของลูกชาย