บทที่ 6

1593 คำ
5 สี่เดือนต่อมา "เจ๊พริก ฮึก ฮือๆ " "อ่าวเห้ยเป็นอะไรไอ้ฝัน ร้องไห้ทำไม" "เจ๊ฝันจะทำยังไงดี ฝันจะทำยังไงดี" "ใจเย็นค่อยๆ พูด เป็นอะไร แม่เอ็งไม่สบายอีกเหรอ" คนเป็นผู้ใหญ่กอดปลอบเธอทั้งที่ไม่รู้ว่าที่ร้องอยู่นี้เพราะเรื่องอะไร แต่ยัยทิมแม่ของเธอเพิ่งจะผ่าตัดและฟื้นตัวได้ดีแล้วนี่ มันจะเรื่องอะไรอีก "ไม่ใช่แม่ ฮึก แม่ฝันสบายดีแล้ว แต่ฝัน ฮึก ฝัน ท้อง" "ห๊ะ เห้ย! " สาวใหญ่ร้องลั่น พลางคิดว่าเด็กคนนี้มันเรียบร้อย และยังไม่ทำตัวเหลวไหล มีหนุ่มเข้ามาแวะเวียนแจกขนมจีบอยู่บ้างแต่ไม่เคยเห็นเคยคบใครเลย "คงเป็นเพราะตอนนี้ ฮือๆ ฮึก" เธอพูดออกมาพร้อมเสียงสะอื้น เป็นเพราะคืนนั้นเธอกับเขาไม่ได้ป้องกัน ถ้ามันแค่ครั้งเดียวอาจจะยังไม่เลวร้ายแต่คืนนั้นมันหลายครั้งมาก "ไม่ได้ป้องกันเหรอ โอ๊ย เจ๊จะบ้าตายแล้วฝัน ปกติร้านจะให้เด็กกินยาแต่ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงแกเลยเพราะทำงานครั้งเดียว แล้วเราก็มัวแต่วุ่นวายกันด้วย เจ๊จะทำยังไงดี" สาวรุ่นแม่รู้สึกผิดเอามากๆ ที่ทำให้เด็กคนหนึ่งพลั้งพลาดแบบนี้ "ฝันจะบอกแม่ยังไงดี" เธอพยายามหยุดร้องแล้วตั้งสติ แต่ความกังวลก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย ใจหนึ่งคิดอยากจะเอาเด็กออก แต่ในนี้มันคือเลือดครึ่งหนึ่งของเธอ จะทำแบบนั้นได้ยังไง เธอจะทำร้ายชีวิตหนึ่งได้ยังไง แค่ฆ่าสัตว์สักตัวยังไม่กล้าเลย "เจ๊ปวดหัว ถ้ายัยทิมรู้ว่าไปทำงานนั้นมาต้องแย่แน่" "..." คำพูดของเจ๊ทำให้พิมพ์ฝันรู้สึกอึดอัด เธอไม่อยากคิดถึงมันเลย ไม่อยากนึกถึงผู้ชายคนนั้นด้วย "เอาไงดี เอาออกมั้ยเดี๋ยวเจ๊พาไป" เจ๊พริกตาแวววาวเพราะคิดว่ามันคือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว "ฝะ ฝันทำไม่ได้" เธอก้มหน้าลง แล้วมองท้องตัวเองที่เริ่มป่องขึ้น แต่ไม่ได้เป็นที่สังเกตมากมายนัก "แล้วจะเก็บไว้เหรอ ชาวบ้านจะมองยังไง" เสียงแหลมรบเร้า จริงอย่างที่เธอว่าถ้าคนแถวนี้เห็นเธอท้องป่องขึ้นมาทั้งที่ไม่มีพ่อคงจะนินทากันเป็นปี "ฝันจะบอกแม่ แต่เจ๊อย่าให้แม่รู้ว่าฝันไปทำอะไรมา ให้แม่คิดว่าฝันท้องกับผู้ชายที่เคยคุยก็พอ ฝันจะพาแม่ย้ายไปอยู่ที่อื่น เพราะฝันคงทนกับปากชาวบ้านไม่ได้เหมือนกัน" เธอจับมือผู้หญิงอีกคนแน่น เจ๊พริกมองเธอน้ำตาคลอ เด็กคนนี้เข้มแข็งกว่าที่เธอคิด ถึงแม้จะพลาดกับเรื่องนี้แต่ก็ยังไม่สิ้นหวัง "อื้ม เจ๊จะช่วยแกเอง" "ขอบคุณนะเจ๊" เธอโผเข้ากอดผู้หญิงคนนั้นแล้วร้องไห้ออกมา เธอตัดสินใจแล้ว และมันต้องเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเอาเด็กออกแน่ๆ เธอไม่อยากฆ่าใคร หากเขามาอยู่กับเธอแล้วเขาก็คงอยากจะลืมตามาดูโลกเหมือนกับเรา ทุกชีวิตย่อมรักชีวิตของตัวเอง และสิ่งที่อยู่กับเธอตอนนี้คือส่วนหนึ่งของชีวิตเธอ พิมพ์ฝันกลั้นใจเดินเข้าไปหาแม่ของตัวเองในบ้านที่เป็นเหมือนคูหาติดกับเจ๊พริก เธอคิดหนักว่าหากบอกแล้วแม่จะแย่หรือเปล่า "แม่! " เธอต้องตกใจที่เห็นแม่ยืนมองเธอน้ำตาคลอ "..." "แม่ได้ยิน หรือเปล่า" เธอถามเสียงสั่น "เหนื่อยมั้ยลูก" สาววัยกลางคนนามว่าทับทิม กอดลูกตัวเองแน่น อาการของเธอดีขึ้นจนเกือบหายแล้ว "ฮึก ฮือ แม่ ฝันขอโทษ ฝันไม่มีทางออก" แม่ของเธอคงได้ยินสิ่งที่พูดกับเจ๊พริกหมดแล้ว เธอมองออกจากแววตาเศร้าๆ นั้น "แม่ต่างหากต้องขอโทษที่ทำให้แกต้องเหนื่อยแบบนี้" ผู้หญิงที่ใครๆ ต่างรู้ว่าเป็นคนจิตใจดีร้องไห้กอดปลอบลูกสาวสุดสวย "แม่รู้หมดแล้วเหรอ แม่โกรธฝันหรือเปล่า ฝะ ฝันท้อง ฝันไม่อยากเอาออก ฝันสงสารเด็ก" เธอร้องไห้ฟุมฟาย "แล้วเราจะเลี้ยงไหวเหรอลูก" ผู้เป็นแม่รู้สึกสับสน เธอไม่ใช่คนใจร้ายแต่เธอรู้ดีว่าถ้าเก็บเด็กไว้คนที่จะลำบากคือลูกของเธอเอง "ฝันทำได้ค่ะ ฝันต้องทำได้" เธอร้องไห้ฟุมฟาย โดยมีเจ๊พริกยืนร้องไห้เงียบมองดูสองแม่ลูก คนเป็นแม่รู้สึกโกรธตัวเอง เธอรู้ดีว่าลูกสาวตัวเองไม่ใช่คนเหลวไหล สิ่งที่เธอได้ยินวันนี้มัันทำให้คนเป็นแม่ต้องรู้สึกแย่ ถ้าเธอไม่ป่วยปางตายวันนั้นลูกสาวคงไม่ตัดสินใจทำแบบนี้ คงจะมีอนาคตที่สดใส "แม่ขอโทษนะฝัน" "ไม่ค่ะ แม่ไม่ผิดฝันผิดเองที่หาทางออกไม่ได้" "มันเหนื่อยนะฝันที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว" เธอเข้าใจความรู้สึกนั้นดี เพราะเธอก็ต้องลำบากคนเดียวมาตลอดเกือบยี่สิบปี ตั้งแต่สามีของเธอตายจากไป "แม่ยังเลี้ยงฝันมาได้เลย ฝันต้องทำได้อยู่แล้ว" เธอยิ้มปนน้ำตา ไม่รู้ทำไมถึงอยากเก็บลูกในท้องของเธอไว้ขนาดนี้ หลังจากวันนั้นพิมพ์ฝันก็พาแม่ของเธอย้ายไปอยู่แถวชานเมือง ขายคูหานี้แล้วซื้อคอนโดไว้ มันเป็นส่วนตัวสำหรับผู้หญิงท้องแล้วไม่มีสามีที่สุดแล้ว เธอสมัครงานอยู่ใกล้ๆ เกี่ยวกับสายงานที่เรียนมา แล้วยังต้องทำงานเสริมจากการเป็นตัวแทนขายเสื้อผ้าไปด้วย พิมพ์ฝันยอมรับว่าเธอรู้สึกเหนื่อย แต่มันไม่ได้ทำให้เธอท้อเลย เธอเชื่อว่าวันหนึ่งจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้ให้ได้ จนกระทั่ง... สี่ปีต่อมา พิมพ์ฝันใช้เวลาในการทำงานมาตลอดสี่ปี จากพนักงานบริษัทตำแหน่งต่ำต้อยได้ขึ้นมาเป็นเลขาผู้จัดการ งานเสริมที่ทำจากการเป็นตัวแทนขายเสื้อผ้าเธอก็ได้เปิดร้านเสื้อผ้าเล็กๆ ที่บ้าน จากคอนโดที่อยู่กันสามคน แม่ ตัวเอง และ...ลูกชาย ได้กลายมาเป็นบ้านหลังเล็กๆ ที่เธอพึ่งซื้อไปเมื่อเดือนก่อน ชีวิตของเธอเริ่มเหนื่อยน้อยกว่าตอนตั้งตัวแล้ว แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ แต่รู้สึกว่าโชคชะตาจะไม่อยากให้เธอมีความสุข วันนี้เป็นวันแรกที่เธอต้องเริ่มงานเลขาผู้จัดการ "ฝัน ชงกาแฟมาให้หน่อยสิ" เสียงเข้มของผู้ชายมาดเพล์บอย แต่อายุสี่สิบกว่าพูดเสียงหวานผ่านสายโทรศัพท์สำนักงานผ่านมายังคนหน้าห้อง "ค่ะ" เธอรีบทำตามคำสั่งเพราะมันเป็นนิสัยของเธอ เต็มที่กับการทำงานเสมอ ไม่นานพิมพ์ฝันก็ยกแก้วกาแฟหอมกรุ่นเดินเข้าไปในห้องผู้จัดการ วันนี้เป็นการทำงานวันแรกของตำแหน่งใหม่ ถึงแม้จะถูกสายตาคนขี้อิจฉาอยู่บ้างแต่ก็ต้องทน "วางตรงนี้นะคะ" เธอวางแก้วกาแฟพร้อมจานรองลง จากนั้นก็ก้มหัวให้เขาแล้วถอยออกมาเพื่อไปทำงานของเธอต่อ "เดี๋ยวสิ มานี่ก่อน"ชายวัยกลางคนลุกขึ้นแล้วยิ้มยียวน เขามองใบหน้าสวยงามและไล่ลงมาทุกส่วนจนถึงเรียวขาขาวเนียนที่โผล่พ้นกระโปรงลงมาแค่นิดหน่อยเท่านั้น "ค่ะ ผู้จัดการมีอะไรให้ฝันทำต่อสั่งได้เลยค่ะ" "เลขาของผมที่ผ่านมาไม่มีใครเทียบได้กับคุณเลย" เขาพูดเสียงหวานแล้วเดินเข้ามาใกล้ พิมพ์ฝันถอยหนีแต่เขาก็ยังย่างก้าวเข้ามาหาช้าๆ จนหลังเธอติดกับตู้เอกสาร "ขะ ขอบคุณค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวไปทำงาน" เธอเบี่ยงตัวหลบแต่กลับถูกตาแก่ตัณหาดึงเข้าไปกอด "หืม จะไปไหนล่ะ รู้มั้ยเป็นเลขาฉันยังไงก็ต้องสนองฉัน" "ปล่อยนะ! " เธอผลักเขาเต็มแรง แต่ก็สู้แรงไม่ได้ มือไม้ของเขาเริ่มปัดป่ายไปทั่ว เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน ปึก! "อั๊ก! นังตัวดี" พิมพ์ฝันยกเข่าขึ้นแทงตรงหว่างขาของผู้ชายหื่นกามคนนั้นแล้วรีบวิ่งออกมาจากห้องทันที สายตาของพนักงานมองท่าทางของเธออย่างตกใจ เธอทนทำงานทุกอย่างได้ ไม่ว่ามันจะเยอะจะหนักแค่ไหน แต่เธอจะมาเป็นนางบำเรอให้ใครไม่ได้แน่ เพราะครั้งหนึ่งในชีวิต เธอเคยพลาดมาแล้ว พิมพ์ฝันเดินตรงไปที่ห้องฝ่ายบุคคลอย่างรีบร้อน เธอเปิดประตูเข้าไปทั้งที่ไม่ได้เคาะ ตอนนี้เธอไม่สนอะไรทั้งนั้น ความกลัว ความโมโหมันกำลังสั่งการให้ลืมเรื่องมารยาทไปแล้ว "มีอะไรคุณเธอ" สาวหัวหน้าพนักงานฝ่ายบุคคลถามขึ้นด้วยสายตาไม่เป็นมิตรนัก "ขอใบลาออก ออกด่วนค่ะ" "เพื่อนเล่นหรือไง เธอต้องบอกล่วงหน้าหนึ่งเดือน กลับไปทำงานซะ! " เธอด่าเสียงแหลมแต่นั่นไม่ได้ทำให้พิมพ์ฝันกลัวเลยสักนิด เธอเดินไปตรงหน้าของพนักงานคนนั้น แล้วพูดขึ้นอย่างเด็ดขาด "ถ้าคุณไม่จัดการให้ฉัน ฉันจะฟ้องผู้จัดการของคุณว่าลวนลามฉัน" "..." "จัดการให้ฉันหน่อยค่ะ ฉันอยู่ไม่ได้จริงๆ "
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม