“พ่อจะส่งลูกไปอยู่กับญาติของเราที่ภูเก็ตทันทีที่ลูกเพลงพร้อม” นี่คือคำพูดของบิดาที่ตอบคำถามของหล่อนออกมา
“ภูเก็ตหรือครับ ดีเลยผมก็มีรีสอร์ทอยู่ที่นั่นให้เพลงไปทำงานกับผมก็ได้ และผมขอรับรองด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าจะปกป้องเพลงด้วยชีวิตครับ จะไม่ให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายเพลงได้ แม้แต่อัลแบร์โต้ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น”
พิทยาระบายยิ้มออกมา
“อย่างนั้นก็ดีน่ะสิ ลุงจะได้วางใจที่มีพร้อมคอยดูแลยายเพลง”
“คุณพ่อขาอย่ารบกวนคุณพร้อมเลยค่ะ เพลงไปอยู่กับคุณน้าเกตุได้”
เพลงพิณตั้งท่าจะปฏิเสธเพราะรู้สึกเกรงอกเกรงใจที่ต้องให้พร้อมฉัตรมาพลอยลำบากไปด้วย
“ไม่ลำบากหรอกครับ ผมเต็มใจ... เต็มใจอย่างยิ่งทีเดียว” พร้อมฉัตรรีบย้ำหนักแน่น
“นั่นสิ ลูกไปอยู่กับคุณพร้อมนั่นแหละพ่อจะได้หมดห่วง รอให้คุณอัลเดินทางกลับไปบราซิลเสียก่อนแล้วเพลงค่อยกลับมาอยู่กับพ่อเหมือนเดิมนะลูก”
ผู้เป็นบิดาพูดอย่างห่วงใย และเมื่อยังเห็นความลังเลในสายตาของบุตรสาวเขาจึงต้องพูดสำทับออกไปอีก
“เรื่องราวที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุสุดวิสัย แต่คนอย่างอัลแบร์โต้เป็นผู้ชายอันตราย เขาเจ้าคิดเจ้าแค้น ดังนั้นเพลงจึงไม่ควรจะเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนั้นในตอนนี้ เชื่อพ่อนะเพลงไปภูเก็ตกับคุณพร้อมเถอะ”
คำพูดของบิดาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยทำให้เพลงพิณไม่สามารถจะปฏิเสธใดๆ ได้อีก ดังนั้นหญิงสาวจึงจำต้องตอบตกลงออกไป
“เพลงจะทำตามที่คุณพ่อต้องการค่ะ แต่ว่าคุณพ่อขา เพลงอยากไปกราบศพของวิคกี้ เพลงอยากขอโทษวิคกี้ ให้เพลงได้มีโอกาสร่ำลากับวิคกี้สักครั้งหนึ่งนะคะ คุณพ่อ นะคะ”
เพลงพิณยกมือไหว้บิดาเพื่อขอความเห็นใจ น้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่หญิงสาวเฝ้าบอกว่ามันเป็นความผิดของตนเองแต่เพียงผู้เดียว
“ก็ได้ แต่ต้องรอให้อาการของลูกหายเป็นปกติเสียก่อนนะพ่อถึงจะยอมให้ไป ตอนนี้ลูกเพลงเตรียมตัวย้ายโรงพยาบาลไปอีกที่หนึ่งก่อนเถอะ”
นายพิทยารับปากอย่างไม่เต็มใจนักเพราะรู้ดีว่าอัลแบร์โต้มีหูตายิ่งกว่าสับปะรด หากเขาพบเห็นเพลงพิณเมื่อไหร่ละก็ ลูกสาวของเขาต้องถูกทำร้ายอย่างแน่นอน
“ย้ายโรงพยาบาลหรือคะ ทำไมถึง...”
ยังถามไม่ทันจบประโยคบิดาก็พูดแทรกขึ้นเสียก่อน
“เพื่อความปลอดภัยของลูกเพลงไงละ เตรียมตัวนะ ไม่เกินสิบนาทีพยาบาลจะมาถอดสายน้ำเกลือให้กับลูก”
และอีกสิบนาทีต่อมาหล่อนก็ถูกย้ายมาขึ้นรถของโรงพยาบาลเพื่อมุ่งหน้าไปอีกโรงพยาบาลหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปอีกหลายสิบกิโลตามความต้องการของบิดา แต่ถึงแม้จะย้ายโรงพยาบาลไปแห่งไหนตำบลใด ความผิด ความละอายใจก็ยังคงฝังแน่นอยู่ในอกไม่เสื่อมคลาย รอวันที่จะชดใช้ให้กับผู้สูญเสียอย่างสาสม
14 มีนาคม 2010
แผ่นหินอ่อนสีขาวสลักชื่อของเพื่อนรักปรากฏอยู่ตรงหน้า ร่างอรชรทรุดฮวบลงกองกับพื้นดินตรงหน้าด้วยความโศกเศร้าอาลัย ก่อนจะวางช่อดอกกุหลาบสีขาวสะอาดซึ่งเป็นดอกไม้ที่วิคตอเรียชอบที่สุดลงบนแท่นหิน น้ำตาแห่งความเสียใจทะลักออกมาอาบแก้ม
“วิคกี้ เพลงมาแล้ว... เพลงมากราบขอขมาวิคกี้แล้ว”
เสียงสะอื้นไห้ที่ดังแทรกออกมาทำให้คำพูดของสาวน้อยหลุดลอยไปชั่วขณะ มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้งขณะจ้องมองป้ายชื่อของเพื่อนรักนิ่ง
“เพลงไม่ได้ตั้งใจ... เพลงไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เพลงขอโทษ เพลงขอโทษนะวิคกี้ อภัยให้เพลงด้วย”
สายลมวูบใหญ่พัดผ่านไปราวกับว่าคนที่ถูกกล่าวถึงได้รับรู้ แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถหยุดความเศร้าเสียใจของเพลงพิณได้ เพราะสาวน้อยยังคงร่ำไห้ปานจะขาดใจ
“เพลงไม่เคยคิดร้ายแล้วกับวิคกี้เลย เพลงจริงใจกับวิคกี้เสมอ ถึงแม้ว่าเพลงจะ... จะรู้สึกดีๆ กับคนรักของวิคกี้ก็ตาม แต่เพลงก็ไม่เคยคิดที่จะแย่งเขามาเป็นของตัวเองเลย วิคกี้เชื่อเพลงนะ วิคกี้ต้องเชื่อเพลงนะ”
หญิงสาวสะอื้นไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ซบหน้าลงกับแท่นหิน สะอึกสะอื้นคร่ำครวญราวกับกำลังถูกเชือดเฉือนดวงใจออกไปทั้งดวง ผ่านไปเนิ่นนานหลายนาทีกว่าที่เพลงพิณจะเงยหน้าขึ้นมาสู้กับความจริงได้อีกครั้ง
“เพลงยินดี... ยินดีจะชดใช้ทุกอย่าง ยินดีจะทำทุกอย่างเพื่อชดเชยกับสิ่งที่เกิดขึ้น”
“แน่ใจนะว่าชดใช้ได้ทุกอย่าง”
เสียงกร้าวกระด้างที่เย็นยะเยือกยิ่งกว่าน้ำแข็งจากขั้วโลกทำให้เพลงพิณหยุดสะอื้น ร่างอรชรค่อยๆ ลุกขึ้นและหันมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงคำรามดุดันด้วยสภาพน้ำตานองหน้า
“คุณอัล...”
สาวน้อยรู้สึกเย็นเยียบไปทั่วทั้งไขสันหลังเมื่อเห็นคนรักของวิคตอเรียยืนทะมึนอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทางคุกคาม อัลแบร์โต้ยังคงความหล่อเหลาและความอันตรายเอาไว้ภายในตัวตนได้อย่างดีเยี่ยม สายลมแรงที่พัดผ่านมาทำให้เส้นผมสีน้ำตาลเข้มของเขายุ่งเหยิง แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถลดทอนความน่ามองของผู้ชายคนนี้ลงได้เลยแม้แต่น้อย
“นึกว่าฉันกลับบราซิลไปแล้วสินะ” เขาแสยะยิ้มที่มุมปาก
“นั่นมันก็แค่แผนการที่ฉันจะใช้เป็นเหยื่อล่อผู้หญิงสารเลวแบบเธอออกมาก็เท่านั้นแหละ”