Jennie Talk
ฉันมองท่าทางแปลกๆของคนด้านหน้าด้วยความไม่ไว้ใจ ตอนแรกเขาก็ดูนิ่งเฉยแต่ตอนนี้เขาดูกระวนกระวายแปลกๆจนฉันรู้สึกไม่สบายใจ
"ฉันจะกลับบ้านเอง"
"ไม่ต้อง!"
เขาเอ่ยขึ้นมาก่อนจะสูดลมหายใจลึกคล้ายกับต้องการระงับอารมณ์อะไรบางอย่าง ฉันมองท่าทางของเขาด้วยความระแวงระเเวงและพยายามถอยออกห่างเขาทีละก้าว
แบล็คใช้มือดันกำแพงเอาไว้คล้ายกับคนเสียการทรงตัวพร้อมกับใช้มืออีกข้างกุมขมับและนิ่วหน้า ฉันมองท่าทางเหล่านั้นด้วยความไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้คิดจะถามไถ่หรือเข้าไปช่วยอะไร
"นายจะเอายังไง?"
สิ่งที่ฉันต้องการตอนนี้คือกลับบ้านหรือไม่ก็ได้กลับไปช่วยเปอร์ก็ยังดี ไม่ใช่มาติดอยู่กับคนแบบเขาที่นี่ แบบนี้ฉันไม่ได้ต้องการ
"ตอบมาสิ!"
ฉันเริ่มขึ้นเสียงด้วยความโมโหเพราะเขาเอาแต่สะบัดหัวไปมาไม่ยอมตอบคำถามของฉันสักทีจนฉันเองก็เริ่มจะหงุดหงิด
"นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย!"
ฉันชักจะหมดความอดทนจึงผลักไหล่เขาก่อนจะ มองใบหน้าที่แดงก่ำดูเหมือนไม่มีสติ แบล็คถอยห่างจากฉันแต่ก็ยังทำท่าลังเลคล้ายจะพุ่งเข้ามา
"ฉัน..."
เขาอึกอักก่อนจะช้อนสายตามองฉัน ดวงตาที่มักเรียบสนิทสั่นระริก เขากระพริบตาถี่และสะบัดหน้าอยู่หลายครั้ง
"ฉันกลับดีกว่า ขืนนายยังเป็นบ้าอยู่แบบนี้คงพูดกันไม่รู้เรื่อง"
ตอนเขาปกติฉันเองก็ไม่ค่อยอยากจะเสวนาด้วย ยิ่งมาทำตัวแบบนี้ก็ยิ่งไม่อยากยุ่งเข้าไปใหญ่ ฉันหันหลังจะเดินออกมาจากตรงนั้นแต่กลับถูกมือหนากระชากแขนไว้
"จะทำอะไร!"
ฉันตวาดถามด้วยความตกใจ ประตูบ้านถูกกระชากออกพร้อมกับร่างฉันที่ถูกเหวี่ยงลงบนโซฟา แบล็คย่างสุมเข้ามาอย่างรวดเร็วคล้ายเสือร้ายที่ต้องการตะครุบเหยื่อจนฉันอดที่จะตกใจไม่ได้
"ปล่อยฉันนะ!"
เพราะเกือบสิ้นสติมันทำให้ฉันต้องเหวี่ยงเท้าออกไปจนกระแทกเข้าที่ลำตัวเขา แบล็คล้มลงกับพื้นแต่ก็ยังลุกขึ้นมากดไหล่ฉันลงบนเตียง ร่างสูงที่น้ำหนักมากกว่าทำให้ฉันแทบขยับตัวไม่ได้
...หนักเป็นบ้า!
"ฉันไม่ไหว"
เขาว่างั้นพร้อมหายใจฟืดฟาดรดต้นคอ ฉันหันหน้าหนีด้วยความรังเกียจก่อนปิดตาลงแน่นเพราะรู้ดีว่าหนียังไงก็คงจะหนีไม่พ้น
...เขาเป็นผู้ชายส่วนฉันเป็นผู้หญิง
ยังไงซะผู้หญิงก็ต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่แล้ว
ใช่ว่าฉันอยากจะยอมรับสัมผัสนี้ แต่เพราะรู้ว่าหนียังไงก็คงจะไม่รอดจึงได้แต่นอนนิ่งเฉยให้มือหนาสัมผัสลูบไล้ไปทั่วทั้งตัว แบล็คไม่มีสติฉันรู้ ตอนนี้ฉันไม่รู้คืออะไรที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้
"ปล่อย"
เสียงฉันแผ่วเบามากแต่ใช่ว่าคนบนร่างจะไม่ได้ยิน เขาได้ยินแต่เขากลับไม่สนใจ เสื้อผ้าชิ้นแล้วชิ้นเล่าถูกถอดออกไปอย่างรวดเร็ว ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อมือหนาสัมผัสเข้าที่ส่วนนั้น
คนบนร่างครางเสียงต่ำในลำคอพร้อมกับใช้ริมฝีปากพรมจูบไปทั่วทั้งตัวฉันอย่างถือสิทธิ์ ฉันควรรังเกียจสัมผัสนี้แต่มันน่าแปลกตรงที่ฉันกลับตอบรับสัมผัสนี้
...ฉันรู้สึกดีพอๆกับที่รู้สึกแย่
ถึงฉันจะเกลียดแบล็คแต่ฉันก็ยอมรับว่าเขาเก่งเรื่องแบบนี้จริงๆ เขาสามารถทำให้คนที่เกลียดเขาอย่างฉันอ่อนระทวยอยู่ใต้ร่างได้นั่นมันก็ถือว่าไม่ธรรมดา
"ฉันขอโทษ"
เขากระซิบชิดใบหูพร้อมๆกับส่วนนั้นที่ถูกดันผ่านความคับแคบเข้ามา ฉันสูดลมหายใจลึกมือจิกลงบนไหล่หนาอย่างแรง
"เบาหน่อย"
ถึงตอนนี้ฉันก็ไม่สามารถผลักไสเขาออกไปได้แล้วจึงได้แต่ขอร้องเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง แบล็คขยับเข้ามาอย่างเนิบนาบในตอนแรกก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรงเมื่ออารมณ์พุ่งสูงขึ้น
ฉันกัดปากแน่นกั้นเสียงร้องเต็มที่ก่อนจะผวากอดคนบนร่างแน่นเมื่อความรู้สึกบางอย่างพุ่งกระแทกเข้าอย่างจัง เขาทิ้งตัวลงมาพร้อมสอดแขนใต้แผ่นหลังฉัน
"ขอโทษ"
เขาพูดขอโทษอีกครั้งก่อนจะรั้งฉันให้ลุกขึ้นนั่ง เสื้อผ้าที่กระจัดกระจายถูกหยิบขึ้นมาสวมใส่กลับดังเดิม ก่อนที่เราสองคนจะนั่งหันหลังให้กันและต่างคนต่างเงียบ
ฉันกำลังโมโหตัวเองที่ไม่ผลักไสและยอมให้เขาทำแบบนั้นอีกครั้ง ส่วนเขากำลังคิดอะไรอยู่ฉันเองก็ไม่รู้และก็ไม่ได้สนใจ
"เดี๋ยวพาไปส่งที่บ้าน"
เขาว่างั้นก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปที่ประตูทำให้ฉันต้องลุกขึ้นเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้ ท่าทางเขาตอนนี้กลับก่อนหน้านี้มันต่างกันลิบลับ
"เมื่อกี้นายเป็นอะไร?"
ถึงจะไม่อยากสนใจแต่ก็อดถามออกไปไม่ได้
"เธอนั่งมอเตอร์ไซค์ไปหรือเปล่า?"
...เขาเปลี่ยนเรื่อง
ให้ตายเหอะ!
ในเมื่อเขาไม่อยากตอบฉันก็จะไม่ถามอีก แบล็คส่งหมวกกันน็อคให้ฉันก็รับมาสวมแต่โดยดีเพราะอยากกลับบ้านจะตายอยู่แล้ว
แบล็คสตาร์ทรถก่อนที่ฉันจะขึ้นไปนั่งบนเบาะ เขาหันหลังกลับมาก่อนจะดึงแขนทั้งสองข้างของฉันให้โอบรัดรอบเอวไว้
"เธอคงไม่อยากตายก่อนวัยอันควร"
...ปากหมาจริงๆ
ต่อให้ต้องตายฉันก็ไม่ยอมตายกับนายหรอก!
ตลอดทางเราสองคนก็ไม่มีบทสนทนาต่อกัน ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเขาส่วนเขาเองก็คงจะไม่มีอะไรจะพูดกับฉันเช่นกันนั่นแหละ
มอเตอร์ไซค์คันใหญ่จอดลงที่หน้ารั้วบ้าน ไฟในบ้านยังคงเปิดอยู่พร้อมเงาพ่อกับแม่ที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ด้านใน เสียงหัวเราะดังแว่วออกมาทำให้ฉันอดที่จะอมยิ้มเล็กๆไม่ได้
...ฉันมีความสุขทุกครั้งที่เห็นพ่อกับแม่มีความสุข
"เข้าบ้านเถอะ"
ฉันถอดหมวกกันน็อคส่งคืนให้แบล็คก่อนจะเดินเข้าบ้านโดยไม่หันกลับไปมองเขาสักวินาทีเดียว แม้ว่าฉันจะขึ้นมาบนชั้นสองแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ถูกขับออกไปจึงเปิดผ้าม่านดูก็เห็นว่าเขายังคงจอดรถอยู่ที่เดิมพร้อมกับมองตรงขึ้นมาทางนี้
...เขาเห็นฉัน
เราสบตากัน
แต่ครั้งนี้ฉันไม่ได้หลบ
========
มีใครใช้โทรศัพท์นานๆแล้วเวียนหัวตาลายเหมือนไรท์บ้างไหมคะ 5555555