บทที่ 4 ใช้ความหล่อได้เปลือง

1567 คำ
"อันนาแกรู้จักรุ่นพี่คนนั้นด้วยเห็นยืนคุยกันตั้งนาน" พอวางก๋วยเตี๋ยวลงที่โต๊ะได้น้ำใสก็เปิดฉากถาม สงสัยมองอยู่นานแล้วแต่ไม่ยักจะเข้าไปช่วย "เปล่าไม่รู้จัก" ฉันตอบยัยน้ำใสไป "แกเคยดูเพจมหาลัยบ้างเปล่า นั่นกลุ่มรุ่นพี่คนดังแก๊งวิศวะหล่อขั้นเทพเลย โดยเฉพาะพี่ไนท์กี้คนที่แกคุยด้วยพี่ไนท์กี้เป็นคนที่ ใช้ความหล่อได้เปลือง มากอันอันดา ฉันโคตรอิจฉาแกได้ยืนคุยแบบใกล้ชิด แกไม่หลอมละลายบ้างเลยเหรอตอนนี้ยืนอยู่ด้วยกันเป็นฉันคงกรีดสลบเป็นลมต่อหน้า แกลองมองไปรอบๆสิมีแต่คนมองพวกพี่เขา หล่อเพอร์เฟคทั้งสี่คน" น้ำใสมันกำลัวพร่ำเพ้อถึงรุ่นพี่กลุ่มนั้น มันมองไปยังกลุ่มรุ่นที่ทั้งสี่คนที่ยังคงมองมาที่โต๊ะพวกฉันสายตามันหยาดเยิ้มบิดไปบิดมาเหมือนคนที่กำลังเขินอย่างหนัก "หล่อแล้วยังไงฉันก็ว่างั้นๆฉันไม่ชอบคนหล่อรวย ขี้เก็กและเจ้าชู้ เหมือนพวกพี่กลุ่มนั้นจะมีคุณสมบัติครบ" ฉันมองพวกพี่เขาด้วยสายตาว่างเปล่าไม่ได้ลุ่มหลงความหล่อของรุ่นพี่กลุ่มนั้นเหมือนสาวๆคนอื่น ฉันมองว่ามันไร้สาระสิ้นดีไม่อยากวิ่งตามให้เหนื่อย "ฉันเห็นด้วยกับอันดา โดยเฉพาะพี่คนนั้นหล่อแต่ปากเสียกวนฉันก็ไม่สนใจ" เมษามันคงจะหมายถึงรุ่นพี่อีกคนที่เดินคนที่มันเดินชนเมื่อหลายวันก่อน "พวกแกเนี่ยตาไม่ถึงของเป็นฉันยอมพลีกายถวายตัวให้เลย ดูเหมือนพวกพี่เขาจะสนใจแกสองคนนะอันดา เมษา ฉันเนี่ยแฟนคลับพวกพี่เขาทุกคนเลยนะ พวกแกอยากรู้จักพวกพี่เขาไหมเดี๋ยวบรรบยายให้ครบทุกคนเผื่อแกจะเปลี่ยนใจเข้ามาเป็นแฟนคลับพวกพี่เขากับฉันอีกคน พี่คนที่คุยกับแกอันดาพี่เขาชื่อพี่ไนท์กี้ หล่อฮอตขี้เล่นกวนนิดๆสเปคสาวๆทั้งมหาลัย ส่วนที่คนคุยกับแกยัยเมษาพี่เขาชื่อดีเดย์ กวน เข้ม หน้าตาติดเหวี่ยงแต่หล่อมาก พูดตรงจนหาทางอ้อมไม่เจอ หล่อละลาย ส่วนพี่อีกคนหล่อแบบคูลละมุนยิ้มโลกละลายพี่เขาชื่อพี่ธีร์ธาม ส่วนคนสุดท้ายหล่อแบบไอดอลเกาหลีพี่ติวเตอร์ พวกพี่เขาเรียนวิศวะปีสาม เป็นสี่หนุ่มหล่อที่ไม่ค่อยจะปรากฏตัวให้ใครเห็นง่ายๆ เราสามคนได้เจอวันนี้นับว่าเป็นบุญตาเลยนะ แกน่าจะดีใจ" ฉันรู้สึกหมั่นไส้ยัยน้ำใสพูดถึงผู้ชายหล่อมันทำหน้าเคลิ้มชวนฝันรู้เรื่องเขาไปหมดเหมือนพวกติ่งไอดอล "งั้นๆ/งั้นๆ" ฉันกับเมษาใจตรงกันพูดออกมาพร้อมกัน สายตาสามคู่ของเรามองไปยังกลุ่มพวกพี่เขาที่ยิ้มกวนๆมาให้โดยเฉพาะพี่ไนท์กี้ที่เรียกฉันเตี้ยฉันเจ็บใจคำนี้มาก "น้ำใสแกรีบๆกินเลยมัวสาธยายเรื่องผู้ชายยาวเหยียดก๋วยเตี๋ยวแกอืดหมดแล้ว รีบกินเดี๋ยวก็ขึ้นเรียนไม่ทันเบาๆเรื่องผู้ชายลงบ้าง" ฉันบ่นกระปอดกระแปดให้ฉันที่มันเอาแต่นั่งมองพี่เขาตาเยิ้ม มันสังเกตุบ้างไหมรอบตัวมันมีสายตาอำมหิตที่มองที่มาที่โต๊ะเรารู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยยังไงไม่รู้ "พวกแกมันเป็นความสุขของฉันนี่นา กินไปมองผู้หล่อๆไปมันเจริญตาเจริญอาหาร แกดูพวกนั้นสิเดินมั่นหน้าเข้าไปหาพวกพี่เขา" ตั้งแต่พวกพี่เขานั่งอยู่ที่โต๊ะมีสาวสวยมากหน้าหลายตาแวะเวียนเดินผ่าน และเดินเข้าไปคุยฉันเห็นอย่างนั้นยิ่งไม่ชอบพวกพี่กลุ่มนี้ฉันต้องเลี่ยงให้ไกลมันอันตรายเกินไป "น้องครับ น้องชื่ออะไรครับ พี่สนใจน้องพี่ขอช่องติดต่อได้ไหมครับ" พอกินข้าวเสร็จพวกฉันสามคนกำลังจะเดินไปเรียนมีพี่ผู้ชายใส่ชุดนักศึกษาหล่อหน้าตาดีมากเดินมายืนขวางหน้าฉันไว้ "ไม่สะดวกให้ต้องขอโทษด้วยนะคะ" ฉันปฏิเสธพี่เขาอย่างสุภาพเพราะไม่อยากมีปัญหา ฉันไม่ชอบคนหล่อและไม่อยากจะยุ่งด้วยเพราะฉันได้ยินกิตติศัพท์พวกที่หล่อรวยมาเยอะเรื่องไม่ดีทั้งนั้น พวกเราสามคนรีบเดินหนีออกมาเพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาใคร "แกเนี่ยเสน่ห์แรงน่าดูเลยอันดา ตัวเล็กน่ารักเหมือนตุ๊กตาสเปคหนุ่มๆเลยล่ะ" หลังจากที่พวกเรามองหาโต๊ะนั่งได้น้ำใสมันรีบแซวฉันเรื่องรุ่นพี่ที่เดินมาขอเบอร์ที่โรงอาหาร ถ้าฉันมองไม่ผิดเหมือนพี่ไนท์กี้จะมองตาเขม็งมาที่ฉันกับพี่คนนั้นด้วย ดูไม่น่าไว้ใจ "ทำอย่างกับแกเสน่ห์ไม่แรงงั้นแหละ สวยเซ็กซี่ขยี้ใจไม่เหมาะกับชื่อแกเลยน้ำใส" ฉันแซวน้ำใสมันกลับมันสวยสูงหุ่นดีหน้ามันสวยเฉี่ยวแต่มันกลับเป็นสาวหวานซะงั้น พวกเราเพิ่งรู้จักกันตอนที่เราทำกิจกรรมรับน้อง กลุ่มเราจะมีแค่สามคน คือฉัน เมษา และน้ำใส "นั่นสิหนุ่มๆเข้าหาแกเยอะฉันเห็นแกปฏิเสธทุกที" เมษาพูดเสริมขึ้นขณะที่รออาจารย์เข้าสอน "สงสัยมาตฐานฉันสูงไปหน่อยหรือเปล่าไม่รู้ อยากได้อย่างแก๊งวิศวะหล่อขั้นเทพ" มันหลับตาเคลิ้มอยู่ได้คนเดียว "แกเนี่ยเป็นเอามาก หลงใหลคลั่งใคล้พี่กลุ่มนั้นอะไรหนักหนาไม่เห็นจะมีดีอะไรนอกจากความหล่อ ยิ่งหล่อยิ่งเจ้าชู้แกอยากวิ่งไล่ตบกิ๊กหรือไง ฉันคนหนึ่งล่ะไม่ชอบเลยคนหล่อ" น้ำใสมันเอาแต่พูดถึงรุ่นพี่กลุ่มนั้นตั้งแต่ออกมาจากโรงอาหารไม่รู้มันเพ้ออะไรนักหนา ถึงหล่อมากแต่ละคนก็น่ากลัว "พวกพี่เขางานดีจริงๆหรือแกสองคนจะเถียง หล่อวัวตายควายล้ม สูงหุ่นดีเห็นแล้วใจละลายเหมือนขี้ผึ้งลนไฟ แค่มองไกลๆหัวใจยังเต้นผิดจังหวะเลยแก" น้ำใสท่าทางมันจะหลงรุ่นพี่กลุ่มนั้นหัวปักหัวปำฉันได้แต่ส่ายหน้าให้กับความเพ้อฝันของมัน "เลิกพูดถึงพวกพี่กลุ่มนั้นเถอะ ยิ่งพูดฉันยิ่งขนลุก เหมือนสัมพเวสียังไงไม่รู้" เมษาพูดซะเห็นภาพตามฉันเห็นด้วยกับคำพูดของมัน "ว๊าย! ยัยเมษาแกอย่ามาบู้บี้หลัวในฝันของฉันนะ" ฉันได้แต่แอบขำน้ำใสมันแยกเขี้ยวขู่ของน้ำใสที่ทำใส่ยัยเมษา "พอเลยแกสองคน อาจารย์เดินมาโน่นแล้ว" ดีที่อาจารย์เดินเข้ามาสอนระฆังช่วยแยกให้สองคนนั่นสงบปากสงบคำลง พวกเราสามคนจะนิสัยคล้ายๆกันคือพูดตรงจนไม่มีใครอยากจะเข้าใกล้เท่าไหร่ เลยได้คบกันแค่สามคน แต่ละคุยเก่งเฮฮาเราเลยสนิทกันได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้นนึกว่าเรียนด้วยกันมานาน "รับน้องเสร็จเราออกไปหาอะไรกินไหมแก" เมษามันเอ่ยชวนขึ้นหลังจากที่เราเรียนเสร็จกำลังจะไปลานกิจกรรมเพื่อรับน้องของคณะ "ช่วงนี้ไม่อยากไปไหนเลยเรียนเสร็จแล้วต้องมาทำกิจกรรมรับน้องเหนื่อยอยากกลับไปนอนมากกว่า เอาไว้รับน้องเสร็จเราค่อยไปดีไหม หรือว่าเป็นช่วงวันหยุดก็ได้" ฉันเสนอไอเดียทั้งเรียนทั้งรับน้องมันสูบพลังงานไปมากจนไม่อยากไปไหน "ก็ดีเพิ่งเข้าเรียนงานก็เยอะจนไม่เวลาหายใจเหนื่อยเป็นบ้า" เมษาบ่นอีกคนเรียนไม่ถึงอาทิตย์อาจารย์สั่งงานเยอะจนล้นมือไม่รู้เก็บกดมาจากไหน ไหนจะกิจกรรมรับน้องกลับถึงคอนโดแทบล้มพับ พวกเราเดินคุยกันระหว่างทางที่เดินไปที่ลานกิจกรรม และได้ยินเสียงดังเซ็งแซ่ตามมาทางด้านหลัง "เตี้ยกำลังจะไปรับน้องใช่ไหม ขาสั้นๆเดินช้าอย่างนี้มีหวังโดนทำโทษแน่ๆ" เสียงคุ้นหูและเรียกฉันยัยเตี้ยน่าจะเป็นคนเดียวที่ว่าฉันเมื่อตอนกลางวันที่โรงอาหาร เสียงเรียกมันดังตามหลังมาพร้อมกับเสียงกรี๊ด เสียงหวีดของผู้หญิง ฉันรู้สึกขัดใจกับคำเรียกฉันว่าเตี้ย ฉันหันหลังกลับไปเตรียมจะสวนกลับ "อันดาแกใจเย็นฉันว่าตอนนี้เรารีบไปดีกว่าเดี๋ยวสาย โดนทำโทษมันจะแย่" น้ำใสมันดึงแขนฉันไว้และลากแขนฉันเดินไปลานกิจกรรม ไม่รู้จะชอบมาโผล่ที่คณะฉันบ่อยๆทำไม คณะตัวเองมีทำไมไม่รู้จักไปเดิน หรือจะมาอ่อยสาวทำเท่ห์หว่านเสน่ห์ไปเรื่อย คงคิดว่าตัวเองหล่อตาย ฉันได้แต่ขบกรามแน่นด้วยความโมโห ถ้าไม่ติดว่ารีบไปรับน้องฉันจะสวนกลับให้หน้าหงาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม